เปิดใจ “ไอริน” สาวสวยมือจูง “โก้เมืองเพชร” ควายเผือกซุป’ตาร์ ผู้จุดกระแสให้ควายไทยดังไกลต่างแดน กับเอกลักษณ์ จูงควายในชุดขี่ม้า เนี้ยบเป๊ะตั้งแต่หัวจดเท้า เผยได้ “พ่อเลี้ยงเจ” มาช่วยผลักดันวงการควาย เหมือนฝันที่เป็นจริง
2 ซุป'ตาร์ซอฟต์พาวเวอร์ = พี่โก้+น้องไอริน
เทศกาลสงกรานต์ของบ้านเราที่ผ่านมาในปีนี้ เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการ สมการรอคอยของชาวไทยและนักท่องเที่ยวนับล้านจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมา เพราะไม่เพียงจะได้สาดน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำแล้ว ยังมีสาวสวยระดับโลกจากหลากหลายวงการ ตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ไม่ว่าจะเป็น “เชย์นิส ปาลาซิโอส” Miss Universe 2023, “แอนโทเนีย โพซิ้ว” Miss Universe Thailand 2023 และรองชนะเลิศอันดับ 1 Miss Universe 2023, “มินนี่-ณิชา ยนตรรักษ์” หรือ “มินนี่ (G)I-DLE” ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย, “ดีเจโซดา” ดีเจสาวชาวเกาหลีสุดแซ่บที่รู้จักไปทั่วโลก รวมถึงคนดังท่านอื่นๆ อีกมากมาย
และยังมีอีก 1 คนที่ถูกชาวโซเชียลฯ จับตา นั่นก็คือ สาวสวยผู้จูง “โก้เมืองเพชร” ซุป’ตาร์ควายเผือก Soft Power ควายไทย ที่มีค่าตัวถึง 18 ล้านบาท มาร่วมเฟรมกับดีเจโซดา แถมยังเป็นผู้จูงควายเผือกตัวดังลุยถนนข้าวสาร เล่นน้ำสงกรานต์กับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานอีกด้วย
ก่อนที่จะทราบในภายหลังว่าเธอคนนี้คือ “ไอริน - พัชรินทร์ ยิ้มแย้ม” เจ้าของ “ไอริน ฟาร์มควายงาม” ใน จ.กาฬสินธุ์ ที่นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนดังในวงการควายบ้านเรา เป็นเหมือนไอคอนคนพรีเซนต์เจ้าเขางาม ให้ยิ่งไวรัลมากขึ้น
มือจูงคนสวย เล่าถึงความประทับใจ ในการมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลสุดยิ่งใหญ่นี้ ร่วมกับควายระดับซุป’ตาร์ว่า รู้สึกดีใจที่ชาวต่างชาติได้เห็นความสวยงามของควายไทย และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ยกระดับวงการควายบ้านเราขึ้นไปอีกขึ้น
[ "ไอริน" คอยดูแล "พี่โก้" เสริมทัพ "ดีเจโซดา ]
“ในฐานะของไอรินที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ในเรื่องของยกระดับควายขึ้นไปในระดับโลก คือสงกรานต์ที่ผ่านมา ดีใจมากที่ได้เป็นหนึ่งในนั้นของ ‘โก้พระนคร’ ให้ทั่วประเทศได้เห็นว่า นี่คือควายไทยอีก 1 ตัว ที่สามารถมายืนให้คนเห็นได้เยอะๆ กลางเมืองนี่แหละค่ะ
feedback ในการจูงโก้ ได้การตอบรับที่ดีมาก มีคนมาชมว่าดีจังเลยได้เป็นมือจูงพี่โก้ แล้วก็มีจูงให้ดีเจโซดาขึ้นด้วยค่ะ ตรงนี้ก็ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพี่โก้ พี่เจ (พ่อเลี้ยงเจ เจ้าของ “โก้เมืองเพชร”) แล้วก็ทีมงานทั้งหมดที่เขารวมกันค่ะ
คนทั่วโลกก็จะได้เห็นควายเผือกไทยมันสวย สำหรับคนที่มีควายเผือกอยู่แล้ว อยากให้เลี้ยงดีๆ เลยค่ะ มูลค่ามันจะเพิ่มมาก พี่โก้ก็เป็นควายเผือก มีความขาวในตัว แล้วก็ใหญ่ ต่างชาติเขายังไม่ค่อยเห็นควายเผือกของไทย”
ไอริน เล่าถึงประสบการณ์การร่วมงานกับควายเผือกที่ฮอตที่สุดเวลานี้ว่า “โก้เมืองเพชร” ออกงานมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังเป็นควายที่ผ่านการฝึกมาแล้วอย่างดี จึงทำให้งานนี้ผ่านไปได้แบบชิลๆ
“ครั้งแรกที่เจอกัน พี่โก้จะมีนิสัยที่น่ารัก ไม่ใช่ควายที่ดื้อนะคะ เพราะเขาได้ถูกฝึกมาแล้ว เขาออกงานบ่อย เขาเดินสนามบ่อย แล้วก็โชว์ตัวบ่อยค่ะ เพียงแต่ว่าเราไม่ค่อยได้จับเขา
เราเจอเขาครั้งแรกก็จะขอเขาก่อน แรกๆ จับปั๊บเขาจะสู้เรา ไอรินก็จะมีเทคนิคในการจับ จับสะพาย เวลานั้นเขาก็จะสู้แรงไอรินนิดนึง เขาจะเทสต์แรงไอรินอยู่ 30 นาที เทสต์แรงก็จะแบบเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ถ้าเราข้อมือไม่แข็ง เราก็จะเอาไม่อยู่
แต่ไอรินก็จะมีเทคนิคการคุยกับเขาก่อน เราก็สู้เขาไม่ได้หรอก อันดับแรกเราต้องเรียกชื่อเขาก่อน ‘พี่โก้ครับ เดี๋ยววันนี้เรามีออกงานนะ คนเยอะ เสียงดัง แต่เราอยู่ด้วยกันนะ’
พอออกไปเจอคนเยอะๆ หัวใจก็จะเต้นเร็วผิดปกติ ก็จะค่อยๆ ลูบบอก ‘ไม่เป็นไร อยู่ด้วยกัน เรามาโชว์งาน เราทำงานนะ หนูไม่ดื้อนะ โก้ไม่ดื้อนะ’ ไอรินจะใช้คำพูดแบบบ้านๆ น่ารักๆ เพราะว่าเขาฟังเรารู้เรื่องค่ะ
[ จูง “โก้เมืองเพชร” เล่นสงกรานต์ ]
เมื่อไหร่สะพายอยู่กับมือเรา เราเป็นผู้นำ ไม่ใช่ควายนำเรา เราจะจูงเขาเดินไป ข้างหน้ามันเป็นหนาม เราถอย เขาก็ถอยนะคะ แต่ถ้าอยู่กับมือเรา เราผ่านไปด้วยกันได้เลย เขาจะไม่กลัว
การที่เป็นคนจูง คนจูงต้องไม่กลัว ไม่ว่าอะไรที่อยู่ข้างหน้า ต้องควบคุมเขาให้ได้ เพราะเขาไว้ใจคนที่จับเขาอยู่ ณ ตอนนั้น ถ้าคนจับกลัว ควายก็กลัว อันนี้สำหรับควายที่ฝึกมาแล้วนะคะ”
ทางด้านของ “พ่อเลี้ยงเจ” แห่ง “วนาสุวรรณฟาร์ม” เจ้าของควายเผือกมูลค่า 18 ล้าน บอกเล่าถึงเหตุผลในการเลือกไอรินมาเป็นผู้จูงควายว่า เธอคนนี้เป็นคนแรกๆ ที่ปลุกกระแสควายงามบ้านเราให้เป็นที่รู้จักวงกว้าง ก็ว่าได้
“ไอรินเนี่ยครับ จริงๆ แล้วคือต้นแบบของคนที่ทำ Soft Power ควายไทยให้ไปสู่ระดับสากลเลยนะครับ เพราะว่าเมื่อประมาณปีกว่าๆ ตอนที่ผมเริ่มมาดูวงการควาย ผมก็เห็นพวก Facebook หรือว่า TikTok มันขึ้นมา ผู้หญิงตัวเล็กๆ ใส่ชุดขี่ม้าสวยๆ แล้วก็จูงควายในสถานที่สวยๆ และควายก็สวยมากนะครับ ผมก็ โอ้โห…นี่มันอย่างนี้เลยเหรอ
ปรากฏว่าผ่านไปสักพัก ก็มีเพจเมืองนอกเอาคลิปตรงนั้นไปออกนะครับ น่าจะเป็นเพจ 'UNILAD' ถ้าจำไม่ผิด คนดูตอนนั้นน่าจะหลัก 10 ล้านวิว ทั่วโลกครับ ผมก็เห็นเลยว่า โอ้โห นี่ถ้าควายไทยได้ไปอยู่กลางดงฝรั่ง ผมว่า work แน่เลย น้องไอรินนี่แหละครับ ก็คือแรงบันดาลใจในการทำ Soft Power ของผมนะครับ
หลังจากผมได้พี่โก้มา ผมก็คิดเลยว่า ผมจะต้องเอาควายไทยไปเป็น Soft Power ให้ได้ ให้คนทั่วโลกรู้จักให้ได้ ผมก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนั้นเราเอาน้องไอรินมาจูงดีกว่า เพราะน้องไอรินก็เป็นคนดังของวงการควายอยู่แล้ว ควายตัวไหนน้องไอรินจูงในสนาม คลิปวิวดีหมดนะครับ นั่นแหละครับคือที่มาของน้องไอริน
feedback ดีครับ ผมลงใน TikTok นี่ขนาดผมลงสักประมาณ 3-4 วันหลังสงกรานต์ ยอดตอนนี้ก็เกือบ 5 แสนแล้ว เฉพาะ TikTok ผมนะครับ แล้วคิดดูสิครับว่า TikTok ของคนทั่วโลก ของนักท่องเที่ยวเรือนหมื่นคน ทั้งถนนข้าวสาร ทั้งที่ King Power นานาชาติเนี่ย จะออกไปขนาดไหนครับ
ก็คิดไม่ผิดครับ เอาน้องไอรินมาจูงเดินที่ถนนข้าวสาร คนก็ถ่ายรูปกันเป็นร้อยเลยครับ ผมก็บอกน้องไอรินใส่ชุดขี่ม้ามาเลยนะ เธอคือซูเปอร์สตาร์ของวงการควายอีกคนนึงครับ”
วางบังเหียนม้า มาจับสะพายควาย
ความคล่องแคล่วในการจูงควายของไอริน จะว่ามาจากการเป็นเจ้าของฟาร์มควายก็ส่วนหนึ่ง แต่ความจริงทักษะนี้ เธอได้มาจากการที่เคยขี่ม้า ก่อนที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับสัตว์ใหญ่ อย่างควาย
“ปกติจะเป็นคนที่ชอบกีฬาขี่ม้าอยู่แล้ว ก็เลยชอบในเรื่องของสัตว์ใหญ่ ขี่ม้าได้ประมาณ 5-6 ปีค่ะ เริ่มต้นตั้งแต่อายุประมาณ 17 ค่ะ แล้วเรามีช่วงนึงไม่สบายก็เลยไม่ได้กลับขี่ ตอนนี้เราเลี้ยงควายก็ไม่ได้กลับขี่ค่ะ ได้เลี้ยงควาย ก็ใช้ชุดเดิมที่เรามีอยู่ ที่เราใช้ขี่ม้าอยู่แล้ว เอามาใส่ในการจูงควายและถ่ายรูปโปรโมตควายไทยค่ะ
ไอรินเริ่มได้ปีนี้ 3 ปีเต็มจะเข้าปีที่ 4 ค่ะ ช่วงนึงเป็นช่วงโควิด เราไม่มีอะไรทำ บังเอิญไปที่สนามประกวดที่แรกของจังหวัดมหาสารคาม ก็เลยได้มีโอกาสไปเห็น เป็นเต็นท์เยอะๆ บวกกับคนที่เลี้ยงควายอยู่แล้วพาไป
[ อดีตสาวผู้มีใจรักในกีฬาขี่ม้า ]
เราเห็นชาวบ้านเอาควายเข้าประกวด แล้วควายมีแต่ตัวใหญ่ๆ ตัวดี ตัวสวยมาก ยืนข้างสนามบอก โอ้…เราอยากเลี้ยงนะ แต่ว่าถ้าเราเลี้ยง เราอยากจะฝึกให้เขาได้เชื่อฟัง แล้วก็อยู่ในคำสั่งเราได้ ประมาณนี้ค่ะเป็นที่มา
ไอรินใช้เวลาควายตัวแรกไม่นาน ก็หลังจากมาไม่เกิน 10 วันก็ไปซื้อพ่อพันธุ์เลย เริ่มต้นจากพ่อพันธุ์เลย ก็คือซื้อ บัวขาว มาก่อนค่ะ เป็นพ่อพันธุ์ที่อายุเยอะแต่ว่าชอบในความควายไทย เขาเป็นควายงาม ควายไทยวงเขาที่อุ้มบาตรใหญ่มาก
ไปดูก็อุ้ย…ชอบมากเลย ทั้งๆ เขาดุมาก แต่วันที่เราไปซื้อมันไม่ดุ มันให้เราจับ ให้เรากอดค่ะ (ยิ้ม) แล้วก็ตัดสินใจซื้อวันนั้นเลย ในราคาน่าจะ 350,000 ที่เขาเปิดให้เป็นพ่อพันธุ์เลย วงการควาย ณ ในตอนนั้นยังไม่บูมค่ะ แต่ว่าก็มีคนซื้อ-ขายกันตลอด วงในที่เราไม่ได้รู้ เขาก็ซื้อกันอยู่แล้ว เขาก็ยังซื้อ-ขายกันในราคาหลักล้าน หลักแสนค่ะ โดยประมาณ”
แม้ม้าและควาย จะเป็นสัตว์ 4 เท้าขนาดใหญ่ ที่คนทั่วไปอาจจะคิดว่าการดูแลคงไม่ต่างกันมากนัก แต่เมื่อเธอต้องมาใกล้ชิด ก็ทำให้รับรู้ถึงความแตกต่าง ทั้งการปฏิบัติตัวและการออกคำสั่งกับพวกมัน
“ตอนที่เราขี่ม้า การสัมผัสของสัตว์ใหญ่ ไอรินได้มีการฝึกกับม้า ก็คือที่ค่ายเขาจะมีการสอนวิธีการจูง วิธีการบอกในการอยู่กับสัตว์ใหญ่ เขาก็รับรู้ สัตว์ใหญ่เราสามารถสื่อสารได้ บอกได้ ถึงแม้ว่ามันจะยากค่ะ
ยากต่างกัน ม้าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องของคำศัพท์ของคนเท่าไหร่ อาจจะมีเทคนิคในการใช้เฉพาะตัว แต่ส่วนของควายเราสามารถใช้คำพูดได้เลย เพราะว่าเขาเป็นสัตว์ที่คู่บ้านคู่เมืองเรา เราสามารถคุยเป็นภาษาคนคุยกับเขาตั้งแต่เด็กได้เลย สามารถสั่งได้ สัตว์ใหญ่เราฝึกได้ เขาจะจำ
ลักษณะควายกับม้าจะไม่เหมือนกัน ม้ามันตัวไม่ได้ใหญ่ ไม่ได้มีเขา แต่ว่าน้องควายเขา ลักษณะการจับ กับการจับจังหวะ มีเบา มีแรง มันจะมีเทคนิคการจับจากแต่ละฟาร์มไม่เหมือนกัน
ส่วนไอรินก็จะมีเทคนิคการจับของไอริน เพราะว่าเขาตัวใหญ่ จริงๆ ถ้าเขาสู้เรา เราสู้เขาไม่ได้หรอกค่ะ แต่เราใจเย็นแล้วค่อยๆ บอก ก็จับเหมือนม้าแหละค่ะ จับเอียงซ้าย เอียงขวา บังคับการเดิน แต่ต้องฝึกเขาก่อน
ควายเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก ถ้าย้อนไปในยุคของพ่อแม่เขาก็ยังใช้ควายไถนาอยู่ เขาฉลาดนะคะ สั่งเขาไถนาได้ กลับบ้านถูกนะ เพราะฉะนั้น ควายไม่ได้โง่ค่ะ”
และสำหรับเคล็ดไม่ลับที่ใครก็ทำได้ ในการจูงและสื่อสารกับสัตว์ นั่นก็คือ ความใจเย็น หมั่นฝึกฝน และรู้จังหวะ
“การสื่อสารกับควาย เอาไอรินเป็นหลักนะคะ คือไอรินเองจะค่อนข้างจะใจเย็น ถ้าจะเอาควายออกไปข้างนอก ต้องมีการฝึกกันก่อน ฝึกคำสั่งให้เข้าใจในการที่จะต้องเดินค่ะ จะต้องฝึกกันทุกวัน เรื่องการเดิน ต้องเดินให้สวย ต้องเดินให้เป๊ะ เทคนิคอันนี้แต่ละฟาร์มเขาจะมีของเขาอยู่แล้ว
เรามองว่าควายไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้อยู่แต่บ้าน ไม่ได้อยู่แต่ฟาร์ม สามารถออกไปดูโลกข้างนอกได้ ด้วยความเชื่อง แล้วก็ความน่ารักของเขาถูกฝึกมาด้วยค่ะ ซึ่งพ่อพันธุ์อื่นๆ ก็ถูกฝึกมาสามารถที่จะไปงานข้างนอกได้ โชว์ตัวได้
ถ้าจูงลงสนามหรือว่าการจูงควายเดินเฉยๆ อาจจะต้องรู้ก่อน เท้าเขาระวังจะเหยียบเท้าเรา มันจะมีจังหวะ การจับ การบังคับ คนจูงต้องใจเย็น แล้วก็ต้องเอาควายให้อยู่ ต้องรู้ในตอนนั้นว่าควายมีอารมณ์แบบไหน เราควรต้องทำยังไง ถ้าเราใจร้อนกับเขา เขาก็จะดื้อกับเรา
เพราะฉะนั้น คนจูงใหม่ อาจจะต้องเรียนรู้ในเรื่องของใจเย็น แล้วก็ระวังเรื่องขา ขามันจะมีจังหวะการก้าวออกอยู่ค่ะ บางคนกะไม่ถูก น้องก็จะเหยียบเท้าค่ะ เขาก้าว 1 ก้าว เราก็ถอย 1 ก้าว มันจะไม่มีทางโดนเหยียบเลยค่ะ
มีเทคนิคจากที่เราไปฝึกขี่ม้าจากครูที่เขาบอกมาด้วยค่ะ จังหวะการเดิน ซึ่งม้ามันก็ไม่ได้ขาใหญ่ขนาดนี้ ควายมันขาใหญ่ ลงน้ำหนักเท้าที ขาเราก็จะแตกเลยนะคะ แล้วก็จะมีจังหวะการถอยออก เพราะว่าช่วงที่เรายืน เขาไม่เห็นเท้าเรานะคะ เขาจะมองเห็นแค่ด้าน กระจายออกไปด้านข้าง เราต้องระวังของเราเองค่ะ ตรงนี้ไอรินก็ระวังเท้าอย่างเดียว”
ไม่ง่าย “มือจูงควายอันดับต้นๆ ของประเทศ”
สำหรับที่มาที่ทำให้ไอรินได้กลายเป็น Icon แห่งวงการควายบ้านเราอย่างในตอนนี้ มาจากการที่เธอมีไอเดียอยากนำเสนอความงามของควายไทย จึงพาตัวเองตระเวนถ่ายภาพคู่กับควายพ่อพันธุ์ชั้นเยี่ยม
เพื่อถ่ายทอดความงดงามสมบูรณ์แบบของควายไทย และยังเป็นอีกทางเลือกให้เกษตรกรผู้เลี้ยงควาย ได้เห็นภาพประกอบการตัดสินใจ เพื่อเลือกควายมาผสมกับควายที่มีอีกด้วย
[ "จ้าวปีใหม่" หนึ่งในควายชื่อดัง ผ่านมือเธอมาแล้ว ]
“เริ่มต้นจากไอรินมีความคิดว่า เราอยากให้ต่างชาติได้เห็นควายไทย ปกติจะมีวัวนำเข้า ม้านำเข้าจากประเทศอื่น แต่ควายมันเป็นของไทยเรา เรามองว่าถ้าพัฒนาแล้วได้ควายที่เป็นมาตรฐานเหมือนวัวนำเข้า มันจะเป็นสิ่งที่ดีและสวยงามมาก
ไอรินมีแนวคิดถ่ายพ่อพันธุ์ของภาคอีสานของแต่ละฟาร์ม เดี๋ยวจะขอเข้าไปถ่ายรูป นำเสนอควายตัวเมีย-ตัวผู้ที่เป็นสายพันธุ์ชัดเจน พ่อพันธุ์แต่ละตัวมีลักษณะแบบไหน ขนาด ความสูง ความสวยงามวงเขา แต่ละตัวมันจะไม่เหมือนกัน
ให้เห็นว่าไทยพัฒนาไปสู่ควายไซส์นี้แล้วนะ มันใหญ่ บางทีจะน้องๆ ของช้างแล้ว เรามีช้างแต่เราก็ยังมีควายที่ดีอีก ก็อยากให้เขาได้เห็นควายไทยที่มันเป็นตัวใหญ่ๆ ไม่ใช่ตัวเล็กๆ นี่คือเป็นที่มาที่ไปของการไปถ่ายแล้วโพสต์ลงโซเชียลฯ
แล้วคนได้เห็นเยอะว่าตัวนี้จะผสม คนนี้ไปถ่ายพอดีเลย เขาได้เห็นตัวจริงๆ ของพ่อพันธุ์ของแต่ละฟาร์ม ส่วนไอรินก็ได้เข้าไปดูตัวจริง เพื่อจะเอามาพัฒนาในฟาร์มเราด้วยค่ะ นี่คือที่มาของการไปดูควายให้ที่ฟาร์มแต่ละฟาร์ม
[ ตัวแทนพรีเซนต์ "โชคมงคล" ควายงามแชมป์ 22 สนาม ]
ตอนที่ไอรินขี่ม้า มันเป็นกีฬาที่เราชื่นชอบกับเพื่อนๆ ที่ไปขี่อยู่แล้วค่ะ ตรงนั้นมีคนตามเราส่วนนึง แต่พอเรามาจับควาย คนมาเยอะกว่า ควายไทยมันก็จะมีหลายสายเหมือนวัวค่ะ มีพ่อไหน แม่ไหน จะมีสายของเขาค่ะ มันไม่ใช่ควายทั่วไปอย่างควายทุ่งนาทั่วไป เขาอาจจะเลี้ยงควายเนื้อ อันนี้มันจะเป็นควายสวยงามของเมืองไทยเลย”
ขึ้นชื่อว่าสัตว์ใหญ่ แม้จะได้รับการฝึกจนเชื่อฟังคำสั่งได้ แต่ก็มีนิสัยที่แตกต่างกันไปอยู่ดี การระมัดระวังตัวในการเข้าใกล้คือสิ่งสำคัญที่ต้องพึงระวังไว้เสมอ
“พ่อพันธุ์ของแต่ละฟาร์มเขามีฝึกมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ความต่าง ความฉลาดของแต่ละตัวจะไม่เหมือนกันค่ะ แต่ละฟาร์มรู้ใจควายตัวเองว่าจะต้องควบคุมยังไง สมมติว่าเราจะมาจับพ่อพันธุ์ของฟาร์มอื่น อย่างไอรินไปถ่ายรูปพ่อพันธุ์เพื่อที่จะโปรโมต ก็จะถามก่อนว่า ‘พี่คะ พ่อพันธุ์มีนิสัยแบบไหน น้องต้องระวังอะไร น้องไม่ชอบอะไร’ อย่างนี้ค่ะ
บางตัวเข้าเขาไม่ได้ บางตัวเข้าหน้าไม่ได้ บางตัวเข้าด้านนี้ไม่ได้ ต้องเข้าด้านหน้า เวลาเราจะไปจูงควายคนอื่นต้องถามหมดเลย แต่ไอรินก็จะมีความระมัดระวังของตัวเอง เพราะว่าน้องมีเขา แล้วน้องแรงเยอะ เขาชนเราได้โดยที่เขาไม่รู้จักเรา
[ "น้องเฮงเฮง" ควายแคระเงินล้านก็ไม่พ้นมือไอริน ]
สมมติว่าลงสนามไปปุ๊บ เจอพ่อพันธุ์เยอะ ถ้าไอรินกลัว เขาก็กลัว กลัวเราเอาไม่อยู่ หัวใจเขาจะรับรู้ได้ค่ะ ตุ๊บๆ ตรงนี้ หัวใจจะเต้นแบบแรงผิดปกติค่ะ ไอรินอยู่ที่ฟาร์มฝึกควายอยู่แล้ว คือจะสัมผัสได้ในควายที่ตัวเองเลี้ยง ว่าตอนกลัวเป็นยังไง ความรู้สึกเขากลัวเนี่ยเป็นยังไง ต้องบอกเขายังไง
พ่อพันธุ์มันจะมีอายุน้อย อายุมาก ส่วนใหญ่พ่อพันธุ์ถ้าตัวไหนอายุเยอะ อายุน้อยจะกลัวค่ะ เขาจะรู้ว่าตัวนี้อายุเยอะกว่า เขาเรียกว่าเคารพรุ่นพี่ ถ้าพ่อพันธุ์เจอตัวผู้เยอะ มันจะมีการเป็นเพศชายสูง ก็คือมีความเป็นจ่าฝูง
ความกลัวมันไม่ใช่กลัวแค่พ่อพันธุ์นะคะ สิ่งของก็กลัว เครื่องเสียง เสียงดังก็กลัว แต่ก็ต้องฝึก ฝึกให้อยู่กับเสียงดังให้ได้ เพราะเวลาไปเจอสถานการณ์ที่เป็นเสียงดังรอบๆ ตัว เขาจะเฉยๆ เขาจะนิ่งๆ ค่ะ”
แม้ “โก้เมืองเพชร” จะเป็นควายเผือกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักกว่า 1.5 ตัน พ่วงความสูง 175 ซม. แต่มือจูงสาวคนนี้ก็บอกว่า โก้จูงไม่ยาก ด้วยเพราะควายตัวนี้ได้รับการฝึกมาอย่างดี และคุ้นชินกับการพบปะประชาชน
“พี่โก้ก็เคยได้จูงกันอยู่ก่อนหน้าที่จะย้ายค่ายนะคะ จูงไปถ่ายรูปไปอะไร ก็รู้นิสัยกันนิดหน่อย มาจูงกันวันสงกรานต์ก็ปรับกันค่อนข้างจะเยอะอยู่ค่ะ ต้องใจเย็นๆ ต้องค่อยๆ บอก ต้องค่อยๆ ดูเขา เขาทำได้ค่ะ เขาฟังเรารู้เรื่องค่ะ เขาจะชอบคนพูดเพราะ จับเบาๆ จับแรงก็จะดื้อ เราก็จะบอกตลอดเวลาจูง บอกให้เขาใจเย็น เขาก็จะใจเย็น
พี่โก้เขาจูงง่าย ที่ได้จับพี่โก้เมื่อวันที่ไปเดินที่งานที่ข้าวสาร โก้เข้าได้หมดเลยนะ เข้าหน้าก็ได้ เข้าหลังก็ได้ เขาเชื่องเพราะถูกฝึกมาอย่างดี ด้วยความที่เขาออกงานบ่อยด้วย มันก็เลยง่ายค่ะ
โก้ตอนช่วงที่จูงที่สงกรานต์ที่ผ่านมา เขามีความเป็นพ่อพันธุ์ค่อนข้างสูง ด้วยอายุ อาจจะต้องการนำ ถ้าเดินกับตัวผู้ต้องมีระยะห่าง ต้องไม่เห็นท้ายตัวผู้ตัวนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่เห็นโดยที่เขาอายุเยอะกว่า เขาขู่น้อง น้องก็จะกลัวค่ะ”
ไอริน ยังฝากคำขอบคุณไปถึงสมาชิกโลกโซเชียลฯ ที่มอบฉายา “มือจูงควายระดับประเทศ” ให้
“ที่เขาให้ฉายาว่ามือจูงระดับประเทศ จริงๆ ด้วยลักษณะการจูง มีการใจเย็นในการจูงควาย แล้วเขาน่าจะมองในความแปลก ดีใจในฉายานี้ค่ะ แล้วก็จะให้เป็นตัวอย่างน้องๆ ที่จะขึ้นมาจูงเหมือนเรา
จริงๆ คนจูงควายสวยเยอะมากค่ะ แต่ละฟาร์มจะมีมือจูงส่งเข้าสนาม ลักษณะอาจจะไม่ได้เหมือนกัน ฟาร์มเขามีมือจูงดีๆ ของเขาเลยค่ะ จะมีเทคนิคแต่ละคนจะไม่เท่ากัน
เอกลักษณ์ให้คนจำได้ในการจูงควายก็คือ ไอรินจะชอบใช้ใส่ชุดขี่ม้า แล้วก็เป็นเสื้อกีฬา รองเท้าก็จะเป็นรองเท้าบูทขึ้นมา จะให้คนจำได้ว่านี่คือไอรินนะ แค่เดินลงมาคนก็จะรู้จัก การแต่งตัว ลักษณะท่าทาง การจับ คนเลยจำได้”
[ สวยเนี้ยบใน "ชุดขี่ม้า" เอกลักษณ์จูงควายสไตล์ "ไอริน ]
นอกจากนี้ เธอยังบอกเล่าถึงเหตุผลในการแต่งตัวแบบจัดเต็มเมื่อต้องจูงควายว่า อยากให้จุดนี้เป็นการยกวงการควายไทย เพราะควายแต่ละตัวราคาไม่ธรรมดา ซึ่งบ้านเราในตอนนี้ก็มีการประกวดการแต่งกายของผู้จูงด้วย
“เรื่องของการแต่งกายเข้าสู่สนาม ไอรินได้เห็นเวลาเขาลงสนามวัวนะคะ คนจูงวัวเขาจะแต่งเหมือนกันหมดเลย เสื้อเป็นทีม บางคนก็ใส่เป็นแบบชุดเรียบร้อยค่ะ เราจะเห็นว่าคนที่จูงวัวต่างประเทศจะใส่เต็มยศเลยค่ะ ใส่สวยงามลงสนามได้เลย
ทีนี้ไอรินก็มีแนวคิดว่า ถ้าเราแต่งให้สวยเลยเพื่อลงสนาม ปีนึงมันจะมีงานแค่ไม่กี่ครั้ง อยากจะเป็นตัวอย่างแต่งเต็มยศลงสนาม เพื่อให้คนได้เห็นว่าเราจูงควายเราไม่ใช่ราคาถูกๆ เมื่อไหร่เรามีการเข้าสนามเราต้องสวยไว้ก่อนเลย เพื่อความสวยงามและความเรียบร้อย ให้มันดูเนี้ยบไปหมด มันดูสวยกว่า ให้เป็นการยกระดับควายไทยค่ะ
ตอนนี้มีรางวัลการแต่งกายผู้จูงค่ะ หลายๆ คนก็ได้รับรางวัลไปค่ะ คนจูงลงสนามค่อนข้างที่จะแต่งสวยเยอะหลายคนเลยค่ะตอนนี้ เนี้ยบค่ะ รองเท้าผ้าใบ กางเกงยีน เสื้อเรียบร้อยทับใน มีเข็มขัด มีอะไรอย่างนี้ เป็นแบบสวยงามค่ะ องค์ประกอบด้วย ถ้าได้ตรงนี้ก็ผ่านค่ะ เขาก็ให้รางวัล”
ฝันที่เป็นจริง ควายไทยสู่ Soft Power
ตลอดเวลาเกือบ 4 ปีที่เข้ามาคลุกคลีในวงการควาย เจ้าของไอรินฟาร์ม ได้มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแวดวงนี้ โดยเฉพาะการมีคนรุ่นใหม่หันมาสนใจมากขึ้น ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นทิศทางที่ดีต่อไป
“ตอนนี้เปลี่ยนแปลงเยอะมาก วัยรุ่นมาเลี้ยงควายเยอะ สามารถเป็นรายได้ด้วย บางคนที่มีความตั้งใจเข้ามาที่อยากเลี้ยงสวยๆ อยากมีติดคอกไว้เอาไว้เดินเล่น อยากเลี้ยงลงประกวดเลย ก็จะมีฟาร์มของพี่ๆ ที่ไหนมีสวย เราก็พาไปค่ะ
ราคาควายมันเป็นราคาพึงพอใจแต่ละคนที่จะซื้อ อย่างเช่นไอรินจะเปิดในราคา 1 ล้านก็เปิดได้ อยู่ที่ว่าผู้ซื้อจะต่อเราไหม แต่เขาไม่ได้ขายไปกินหรือไปฆ่านะคะ เขาเอาไปเลี้ยงแบบสวยงาม เพื่อให้เขาไปต่อยอดได้
ตอนนี้ถ้าเป็นควายใหญ่ ควายใหญ่ราคาไม่ลง เพราะมันเป็นการพัฒนาไปใหญ่แล้ว ก็จะซื้อ-ขายกันหลักล้าน อย่างน้อยๆ ก็มี 3 ล้านขึ้น ตามเกรดของไซส์ แล้วก็แม่บล็อก พ่อพันธุ์ ในการจ่ายลูก ถ้าพ่อแม่เล็กแต่ตัวเขาใหญ่มาก มูลค่าจะอยู่ในตัวเขาด้วย จะดูตัวเขาเป็นหลักค่ะ”
ไม่เพียงแค่ความพยายามในผลักดันวงการควายบ้านเรา เจ้าของฟาร์มวัย 36 ปี ก็ยังมีการพัฒนาควายในการดูแล ด้วยหวังให้เป็นฟาร์มต้นแบบแก่คนคนรุ่นใหม่อีกด้วย
“ตอนนี้ก็มีการพัฒนาในฟาร์มของตัวเองนะคะ แล้วก็จะมีควายดำ ตอนนี้ทางฟาร์มของไอริน กำลังจะพัฒนาเป็นควายใหญ่ แล้วเดี๋ยวค่อยหางามมาใส่ เขาเรียกว่าใหญ่บวกงามค่ะ คือจะมีควายดำและควายเผือก ควายเผือกก็ต้องใหญ่ ต้องพัฒนาไปทางที่ใหญ่ มันถึงจะเข้าสู่ Soft Power ที่เราจะไปสู่ตลาดของต่างประเทศ
ไอรินมีความตั้งใจว่าจะเป็นฟาร์มต้นแบบ ให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเลี้ยงควายค่ะ อยากจะให้คนรุ่นใหม่ ถ้าอยากจะเลี้ยงควายก็ต้องเป็นแนวทางเลี้ยงที่ถูกต้อง แล้วก็เป็นควายสายพันธุ์ที่ชัดเจน พัฒนาในแนวนี้เราจะได้ควายงามและใหญ่
จะเป็นฟาร์มต้นแบบให้คนรุ่นใหม่เข้ามาศึกษา เราจะมีแม่บล็อกลักษณะแบบไหน แล้วก็แม่พันธุ์ที่จ่ายลูกจ่ายแบบไหน สวยแบบไหน ไม่ใช่ว่าใหญ่แต่ตัว แต่ลูกออกมาอาจจะไม่ได้สวย มันหมายถึงพันธุกรรมที่ใหญ่แล้วต้องบวกแม่ที่ดีด้วย มันจะออกมาได้สวยแล้วก็ใหญ่ด้วย คล้ายๆ ว่าเป็นจินตนาการของไอรินฟาร์มเอง”
จากความฝันอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่อยากให้สัตว์เขางามคู่บ้านคู่เมือง ได้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ในวันนี้ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว เพราะมีผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน เข้ามาช่วยสานต่อให้เดินได้อย่างถูกทาง
“ไอรินมองว่าควายไทยเราใหญ่มากๆ เลยนะคะ แนวการพัฒนาของแต่ละฟาร์มคือค่อนข้างจะเข้มข้นมาก เราได้เห็นของเมืองนอกแล้ว วัว ม้าใหญ่ๆ ที่เขานำเข้ามาตัวละหลายๆ ล้าน แต่ควายบ้านเรามันสวยมาก ซึ่งไม่มีใครได้โปรโมตออกไปว่านี่ของไทยนะ ประเทศไทยมีควายงาม มีควายยักษ์ เราก็เลยมีความตั้งใจว่าอยากให้คนทั่วโลกได้เห็นบ้านเรา
ตอนนั้นก็มีความตั้งใจอยู่ว่า วันนึงเราจะมีคนอย่างพี่เจเข้ามา ว่าจะดันให้ควายไทยสู่ประเทศอื่นๆ เรามีความเชื่อแบบนั้น แต่ไม่รู้ว่าใครจะเข้ามาในวงการควาย มันอาจจะใช้เวลา แต่ไม่รู้ว่าคือใคร
เราก็ได้แค่ถ่ายรูปโชว์ควายไปเรื่อยๆ จูงควายเข้าสนาม จูงพ่อพันธุ์โชว์ แล้วก็ไปถ่ายแต่ละฟาร์มที่มีควายดี ควายใหญ่ ควายสวย ได้แค่โพสต์ทำการตลาดลง Facebook ลง TikTok ที่เป็นช่องทางออนไลน์ ไอรินลงหมดเลย เพื่อจะให้คนประเทศอื่นได้เห็นควายไทย
ตอนนี้รู้สึกดีใจที่มี พี่เจ(พ่อเลี้ยงเจ วนาสุวรรณฟาร์ม) เข้ามาซัพพอร์ต ในเรื่อง Soft Power ของการเอาควายไทยไปให้คนทั่วโลกได้เห็น ถ้าเป็นแค่ไอริน ถ้าเป็นแค่ฟาร์มอื่นๆ อาจจะไม่มี Power พอ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหน ซึ่งได้พี่เจเข้ามามันก็เลยรู้สึกว่า นี่แหละที่เรารอมานาน ก็ดีใจที่มีพี่เจเข้ามาตรงนี้ ถือว่าความฝันเป็นจริงค่ะ”
แม่ทัพอย่าง พ่อเลี้ยงเจ ก็ได้ทิ้งท้ายถึงความคืบหน้าในภารกิจสำคัญ ผลักดัน “ควายไทย” ให้เป็น Soft Power ระดับชาติ ก็ถือว่าเดินมาถูกทาง แถมยังประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะควายเผือกมูลค่ามหาศาลอย่าง “โก้เมืองเพชร” ได้กลายเป็นขวัญใจของคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก เป็นที่เรียบร้อย
“Soft Power เรื่องควาย ก็อย่างที่เห็นครับตอนนี้ มีคนไทยคนไหนไม่รู้จัก 'พี่โก้เมืองเพชร' ไหม มีคนไทยคนไทยไม่เห็นภาพของควายยักษ์หลายๆ ตัว ควายแคระ แล้วก็น้องไอรินเนี่ย เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงสงกรานต์ไหม ไม่มีครับ
เห็นพี่โก้ไปหานายกฯ ที่ทำเนียบไหม มีคนไหนไม่เห็น 'ฮ็อทด็อก (ควายแคระ)' กับ 'มิสยูนิเวิร์ส' ไหมครับ ไม่มีใครไม่เห็นถูกไหมครับ แล้วก็รายการทีวีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 'เจาะใจ, เรื่องจริง Unlimited' หรือว่าช่อง Spring News ช่อง อสมท.(MCOT) ก็มาถ่าย แล้วก็ยังจะมีมาถ่ายไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น ไปที่ไหนไม่มีใครไม่รู้จักควายไทยแล้วครับ รู้จักทุกคนเรียบร้อยแล้วครับ นี่ก็คือ Soft Power ที่โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศไทย ได้รับการยอมรับทั้งในสังคมไทย แล้วก็ทั่วโลกเรียบร้อยครับ”
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ และ ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : Facebook “Phatsalin Yimyeam (ไอริน)”, "ไอริน ฟาร์ม ควายงาม", “วนาสุวรรณฟาร์ม”, TikTok @jayvanasuwan, @irinfram_ และ Instagram @irin_farm
ขอบคุณสถานที่ : วนาสุวรรณฟาร์ม จ.ปทุมธานี
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **