xs
xsm
sm
md
lg

คนที่แก่ขนาดนี้ รัก GOT7 ทั้งวงเลยนะ!! “เจ๊พร ณ กรุงโซล” ใช้ชีวิตติ่งชะลอวัย [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดความน่ารัก อากาเซ่รุ่นใหญ่วัย 67 ปี ที่ใช้ชีวิตติ่งช่วยชะลอความแก่ ไม่แคร์ด้วย ถ้าใครจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ฝึกร้อง ฝึกเต้น จนกลายเป็นขวัญใจแฟนคลับรุ่นหลาน พร้อมกับเรื่องราวใจฟู ที่ “แบมแบม” มากดถูกใจ



จุดเริ่มต้นอากาเซ่วัยทอง

“ชะลอความแก่ ไม่มีนะเรื่องจะมานั่งซึมเศร้าอะ มันวังเวงยังไง เหงาๆ ยังไง เปิดโทรทัศน์ดู เปิด GOT7 ฟัง แล้วมันก็จะเพลิน มีความสุข แล้วมันสุขจริงๆ บอกไม่ถูก ฟังแล้วมันก็เคลิ้ม (หัวเราะ) เปิดใจดู GOT7 สิ แล้วมันจะมีความสุขจริงๆ”

“เจ๊พร ณ กรุงโซล” หรือ “ป้าพร-รัตนา บำรุงราชภักดี” อากาเซ่รุ่นใหญ่ วัย 67 ปี ที่มีงานเย็บผ้าเป็นงานเสริม ใน จ.ราชบุรี แต่มีงานหลักเป็นอากาเซ่ หรือติ่งวง GOT7

ป้าสูงวัยหัวใจ GOT7เริ่มเข้าสู่วงการติ่งครั้งแรกเมื่อประมาณปีที่แล้ว ตามลูกสาวอย่าง “ดิว-ธิดารัตน์ บำรุงราชภักดี” โดยเริ่มชื่นชอบ และโดนไอดอลเกาหลีตกเข้าจังๆ เพราะจากการดูรายการเรียลลิตี้ต่างๆ

จนตอนนี้ชอบติ่งแบบจริงจัง ว่างไม่ได้เป็นต้องเปิดดู และเปิดเพลงเต้นตามศิลปินเกาหลีที่ชอบตลอดๆ และชื่นชอบขนาดที่ว่า ไปไหนมาไหน ต้องพกรูปบรรดาหนุ่มๆ ทั้ง 7 คน ใส่กระเป๋าติดไปด้วยทุกครั้ง

ด้วยความที่เป็นอากาเซ่วัยสูงวัย ที่มักจะพูดคุยด้วยเสียงหัวเราะ เฮฮา ตามสไตล์คนที่ชอบสนุกสนานอยู่แล้ว ทำให้ป้าพรกลายเป็นขวัญใจแฟนคลับรุ่นหลาน จนมีเพื่อนต่างวัยที่เป็นแฟนคลับแวะเวียนเข้ามาทำความรู้จัก ส่งของขวัญที่เป็น GOT7 มาให้อยู่เสมอๆ

และสำหรับใครที่ไม่รู้จักคำว่า “อากาเซ่” เป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มแฟนคลับของ GOT7 ใครที่เป็นแฟนคลับวงนี้ ก็จะถือว่าเป็นเด็กด้อมอากาเซ่นั่นเอง

และ GOT7 มีสมาชิกทั้งหมดด้วยกัน 7 คน ได้แก่ เจบี, มาร์ก, แจ็คสัน, จินยอง, ยองแจ, แบมแบม และ ยูคยอม


สำหรับจุดเริ่มต้นของการอากาเซ่ของป้าพร ซึ่งป้าพรเล่าด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่มีความสุขอยู่ตลอดๆ ระหว่างพูดคุยให้ฟังว่า

“จุดเริ่มต้นก็คือ ลูกเปิดซีรีส์เกาหลีให้ดู ก็ดูซีรีส์เกาหลีไปเรื่อยๆ ตอนหลังเขาก็มาเปิด GOT7 ให้ดู เป็นเรียลลิตี้ ป้าก็ดูเรื่อยๆ เอ๊า..ชอบอะ มันสนุก แล้วเขาก็น่ารักกันทุกคนเลย ป้าก็เลยชอบ ก็ติดตาม เริ่มตั้งแต่สิงหาคม ปีที่แล้ว

เขาดู GOT7 อยู่ เขาชอบพี่แจ็คสัน แล้วเขาก็เปิดให้แม่ดู แล้วแม่ก็ชอบไปด้วย เขาเป็นมาแล้วหลายปี เขาดูมาก่อนหลายปีแล้ว เขาดูตั้งแต่ตอนที่ GOT7 แยกย้ายเมมเบอร์กัน แล้วลูกก็มาเปิดดู แม่ก็เลยดูกับเขา แล้วแม่ก็เลยชอบ

ก็ดู พอเห็นเขาร้องเขาเต้น ชอบเลย เพราะว่าป้าเป็นคนชอบสนุกอยู่แล้ว ชอบร้อง ชอบเต้นรำอะไรแบบนี้ หล่อกันทุกคน แล้วเต้นมันก็ดูน่ารัก ป้าก็เลยชอบ

เมื่อก่อนฟังลูกทุ่ง พวกหมอลำอะไรอย่างเนี่ย เปิดแต่วิทยุ ลูกทุ่งเน็ตเวิร์ก เปิดทั้งวัน เย็บผ้าไป เปิดไป ฟังแต่วิทยุ ฟังลูกทุ่ง มาตอนหลังนี่เปิดทีวีเองเป็น ก็เปิดมันทั้งวันเหมือนกัน ไม่ฟังแล้ววิทยุ”

[GOT7 ศิลปินคนโปรด]
นอกจากความติ่ง ที่รักเป็นชีวิตจิตใจแล้ว ตอนนี้ป้าพรก็มีอีกหนึ่งอาชีพในวัยเกษียณ ก็คือ ช่างเย็บผ้า ที่เปิดร้าน ให้คนมาใช้บริการอยู่ในบ้านตัวเอง

อากาเซ่รุ่นใหญ่บอกอีกว่า ถึงจะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ยังทำงานอยู่ ไม่ได้ทิ้ง เพราะไม่อยากเป็นภาระของลูกๆ หลานๆ มากจนเกินไป และนอกจากงานจะไม่ทิ้งแล้ว ยังย้ำพร้อมเสียงหัวเราะอีกเช่นเคยว่า อาชีพติ่งก็ไม่ทิ้งเช่นกัน

“เป็นช่างเย็บผ้า เย็บอยู่บ้าน รับซ่อมผ้า รับแก้ผ้าทุกเพศทุกวัย รับหมด ใส่ซิป ใส่ยาง ตัดขากางเกง ปะกางเกง ที่ไหนขาดก็ปะ แล้วก็แก้ตัวเล็กให้เป็นตัวใหญ่ ตัวใหญ่ให้เป็นตัวเล็ก ทำทั้งวัน งานก็เยอะ

ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ความสุขอะไรที่หาใส่ตัวได้ ก็หาไป ทำไป ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมากมาย อยู่ให้สบายๆ จิตใจไม่ต้องไปหมกมุ่นเรื่องเครียดๆ เอาเรื่องสบายใจ ใครจะมีความทุกข์อะไร เราก็ปล่อยวาง เราอย่าไปจับเอาความทุกข์ของลูกคนนั้น ของลูกคนนี้ มาใส่ตัว เราไม่ต้องไปคิด

แต่ถามว่า ไม่ใช่ว่าไม่ห่วง ห่วง แต่เราห่วงเราก็ดูห่างๆ เป้าหมายของป้า ทำตัวให้มีความสุขไปวันๆ แค่นั้น ตื่นเช้าขึ้นมา มีลมหายใจ ก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก มีงานก็ทำ แต่ติ่งก็ไม่ทิ้งนะ (หัวเราะ) ติ่งก็ไม่ทิ้ง งานก็ทำ

ป้าชอบสนุก ไม่ค่อยเครียดกับใคร แต่ว่ายิ่งมาเจอวงนี้ ยิ่งสนุกไปใหญ่ไง ชีวิตมันก็บันเทิงใหญ่เลย (หัวเราะ) ไม่ว่าจะนั่งจะนอน ก็ดุ๊กดิ๊กเต้นบ้าง ฟังไปเต้นไป แอบเต้น ลูกก็แอบเปิดกล้องดูประจำ แม่เอาอีกแล้ว เต้นอีกแล้ว เรื่องของเรื่อง เป็นคนชอบสนุก แถวนี้เขารู้กันหมดแหละ”

[งานเย็บผ้าก็ไม่ทิ้ง งานติ่งก็ไม่พลาด]
โดนตกด้วยคาแรกเตอร์น่ารักเกินต้าน

สิ่งที่ทำให้หนุ่มๆ ทั้ง 7 คน ตกอากาเซ่วัยทองคนนี้ได้เป็นอย่างดี ป้าพรก็ตอบตรงๆ พร้อมคำเสียงหัวเราะที่รู้เลยว่ามีความสุขสุดๆ นั่นก็คือ ความหล่อ

นอกจากนี้ อากาเซ่สูงวัย ยังบอกอีกว่า ในบรรดาลูกๆ ทั้ง 7 คน ที่ชื่นชอบ ตัวเองนั้นเป็นเมนน้อง“ยูคยอม” มักเน่ หรือ น้องเล็กของวงนั่นเอง

“ก็ความหล่อไง (หัวเราะ) ความหล่อ ชอบคนหล่อ น่าอายเนอะ (หัวเราะ) เสียงก็เพราะ เต้นก็ดี เข้าตาไปหมดทุกอย่าง หลงรักเขา (หัวเราะ) ชอบ พูดได้คำเดียวว่าชอบ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ตอนนี้ชอบยุคยอมเป็นพิเศษ ความน่ารักของเขาก็คือไม่เหมือนใคร มันเหมือนเด็กๆ ดุ๊กดิ๊กๆ มันกะน่องกะแน่ง น่ารักดี ดูแล้วมันเพลิน ชอบพิเศษ

คนอื่นก็เหมือนกับว่า เขาก็เป็นผู้ใหญ่อะเนาะ เป็นพี่ๆ เป็นผู้นำ มันก็ดูเฉยๆ แต่ยุคยอมเขาจะโมเมนต์ของเขา ดุ๊กดิ๊กๆ ก็เลยชอบ”
นอกจากผลงานเพลงที่ชื่นชอบ อากาเซ่วัยทอง ยังช่วยบอกเล่าถึงคาแรกเตอร์ ความน่ารักของหนุ่มๆ วงนี้อีกว่า มีสไตล์ความน่ารักที่แตกต่างกันไป บางคนก็หล่อแบบน่ารัก แบบคนก็หล่อแบบขั้นเทพ และบางคนก็หล่อทะลุจอเลยทีเดียว

“เจบี ก็คือแบบหวานๆ หล่อแบบน่ารัก ตาเขาเหมือนคนเจ้าชู้ ดูแล้วมันน่ารักดี แล้วก็พี่มาร์ค เขาก็ดูแบบหล่อเท่ๆ แมนๆ อะไรอย่างนี้ ป้าก็ชอบแบบนั้น

แล้วจินยอง เขาก็หล่อแบบพระเอกซีรีส์ แล้วชเว ย็อง-แจ ก็หมวยๆ น่ารักๆ แบมแบมก็ยิ่ง โอ้โห ตอนนี้ยิ่งเท่ หล่อ เขาก็น่ารัก ยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ

ส่วนพี่แจ็ค เขาก็หล่อแบบขั้นเทพ หล่อแบบลูกเทพ หล่อมาก โฆษณาเนสกาแฟ โกลด์ เครมมา ป้าชอบ แล้วก็ยูคยอม ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่ ตอนนี้หล่อทะลุจอเลย หล่อมาก กล้องนี่เก็บความหล่อไม่หมดเลย หล่อจริงๆ มันพูดไม่ถูก หล่อมาก ชอบมาก หลงรักไปแล้ว”

[น่ารักเกินต้าน จนตกอากาเซ่สูงวัยให้หลงรัก]
เมื่อถามว่า ร้องเพลงและเต้นตามศิลปินที่ตัวเองชื่นอบได้ไหม ป้าพร ก็โชว์ร้อง พร้อมท่าเต้นเพลง “1 MINUTE” ของน้องยูคยอม เมนตัวเองมาให้ฟังมา 1 ท่อน

“มันร้องยาก ภาษาเกาหลี ร้องไม่ค่อยเป็น ก็ one one one one minute เนี่ยได้แค่เนี่ย (หัวเราะ) เต้นไม่ได้ one one one one minute ได้แค่นี้ ต้องเปิดเพลง ถึงจะมัน

ชอบทุกเพลงเลยนะ อย่าง “Hard Carry” เนี่ย มันเหนื่อย เต้นเหนื่อย แต่ก็ชอบ “Just right” ก็สวย น่ารัก แล้ว “NANANA” ก็เพราะ เต้นก็มัน มันทุกเพลง ไม่อยากจะพูด พูดแล้วหงุดหงิด จริงนะ เต้นไม่ได้หงุดหงิดด้วย โมโห นี่ออกจากใจจริงเลยนะ

ที่ไหนเขามีสอนเต้นบ้างอะ ป้าจะไปจริงๆ อยากไปจริงๆ ไม่ได้เดบิวต์ จะเต้นในบ้านเนี่ยแหละ เต้นมันคนเดียวเนี่ยแหละ อยากเต้นให้ได้เลย ทำไง เราก็บอกลูกนะ ว่าให้เปิดที่เขาเรียนเต้น เอาทีละสเต็ปๆ มาสอนแม่บ้าง แม่จะได้เต้นได้ แล้วดูกี่ทีๆ ก็โมโหอยู่อย่างนั้น เต้นไม่ได้สักที”

จากที่เริ่มเข้าวงการติ่งจากลูกสาว จนตอนนี้ป้าพร กลายเป็นติ่งแบบจริงจัง เพราะว่างไม่ได้ เป็นต้องเปิดดู และเปิดเพลงเต้นตามศิลปินเกาหลีที่ชอบอยู่ตลอดๆ จนบางทีรู้สึกว่า ตัวเองก็ดูคลั่งมากไป แต่ถึงยังไง อากาเซ่วัยทองผู้นี้ เธอก็บอกว่า มันคือความสุขในชีวิต

“ก็ดูทั้งวัน เปิดทั้งวัน 24 ชั่วโมง นอกจากหลับ เปิดดูทั้งวันแหละ พยายามให้เข้าหัว ก็ร้องไม่ได้สักที รู้ไหมว่าป้าโมโหตัวเองมากเลย เต้นก็เต้นไม่ถูก ดูเขาก็โอ้โห จะเป็นปีอยู่แล้ว เต้นไม่ได้สักที

พยายามทุกวัน อยากจะไปเรียนเต้น (หัวเราะ) ถ้าอายุน้อยลงไปอีกหน่อยนะ ป้าไปเรียนเต้นแล้ว แล้วก็จะไปเดบิวต์กับเขาเลย จริงๆ โมโหแล้ว

รู้สึกเราก็เป็นเอามากเหมือนกันนะ ก็เหมือนกับว่ามันเข้าในหัว ดูแล้วมันเข้าในหัว มันเอาออกไม่ได้ มันฝังหัวอยู่ อยากจะหยุด ก็หยุดไมได้ หลับตาก็เห็นอะไรอย่างนี้ จริงๆ บางทีนะ ดูมากๆ ดิวแม่ไม่อยากดูแล้ว อยู่แต่ในหัว มันเห็นไปหมด หลับตาเราก็เห็น

มันเหมือนคนคลั่งอะเนาะ ใช่ไหม เหมือนคนคลั่งไหม หลับตาเราก็เห็นภาพ เห็นท่าเต้น เห็นโน่น เห็นนี่ มันเหมือนกับเราถอดออกไม่ได้เลย บางทีต้องบอกให้เปิดซีรีส์ฝ่าบาทดู ชอบดูมาก ยุคโซชอน

ป้าเป็นคนที่ว่า ลูกดูอะไร ดูตามไง เขาเปิดดูอะไร อ้าวมันเข้าตา คราวนี้ก็เลยดูกันประจำเลย ลูกหลานจะดูอะไร เราก็ดู เราไม่ดู เราก็หลับ เราก็นอนไป เราไม่บ่นไง เขาอยากจะเปิดอะไรเราก็ดู แต่คราวนี้เขาเปิด GOT7 มาเนี่ย อ้าวเพลงก็ติดหู ภาพก็ติดตา ลูกหลานชวนดูเราก็ดูเรื่อยไป”

[ “ยูคยอม” เมนคนโปรด]
ใจฟู “แบมแบม” มากดถูกใจ

และสิ่งที่ทำให้อากาเซ่วัยทองผู้นี้ ดูจะใจฟูที่สุด นอกจากการได้ดูๆ ทั้ง 7 คนอันเป็นที่รักแล้ว นั่นก็คือเรื่องรางของตัวเอง ได้ไปถึงหู ของศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ

“น้องแบมเขาเห็นใน X เขาก็มากดถูกใจ แล้วม๊าจุ๋มแม่น้องแบม เขาก็มาคอมเมนต์ใน TikTok กดถูกใจใน TikTok ลูกเล่าให้ฟังก็ดีใจ ตื่นเต้น ม๊าจุ๋มมากดคอมเมนต์เลยนะ ป้าดีใจจริงๆ เห็นม๊าจุ๋มกดอะนะ ป้าดีใจว่าน้องแบมแบม เขาก็มากดถูกใจใน X ตื่นเต้นมากเลย เห็นกันหมดแล้วมั้งท่า เราก็พูดกับลูกอะเนอะ ดีใจมากเลย

ม๊าจุ๋ม เขามากดคอมเมนต์ว่า อย่าเพิ่งเบื่อเด็กๆ นะ แล้วเดี๋ยวเจอกัน พูดอย่างนี้ อาจจะไปเจอกันในคอนเสิร์ตก็ได้ ม๊าจุ๋มก็หลายคอมเมนต์อยู่ แล้วก็เยอะมาก น่ารักๆ เนี่ยเยอะมาก”

ป้าพรเล่าความฝันสูงสุด ในฐานะติ่งให้ฟังว่า อยากไปดูคอนเสิร์ตสักครั้งในชีวิต และก็หวังลึกๆ ว่าภายในปีนี้น่าจะได้ไปดูลูกๆ ทั้ง 7 คน ที่คอยเฝ้าดูจากในทีวีมาโดยตลอด และความฝันที่ว่านี้ อากาเซ่วัยทองของเราก็บอกอีกว่า น่าจะเป็นความสุขสุดยอดในชีวิตแล้วก็ได้

“อยากไป แต่ยังไม่ได้ไป แต่ในชีวิตนี้ต้องเอาให้ได้สักครั้ง ป้าหวังไว้แล้ว คิดไว้แล้ว มีแพลนไว้แล้วว่า ก่อนตาย ยังไงก็ต้องไปร่วมสนุกกับเขาสักครั้งนึง

มีแฟนคลับเขาส่งมาให้ ส่งบัตร ส่งตั๋ว แต่ไปไม่ได้ เพราะว่าลูกติดงาน แล้วพาเราไปไม่ได้ แล้วเราไปคนเดียวไม่ได้ไง ก็ยังเสียดายอยู่นั่นแหละ แต่เดี๋ยวต้องหาโอกาสไปสักครั้งนึงในชีวิต เราต้องได้ไปสักครั้ง ยังไงป้าก็ต้องดิ้นรนจะไปให้ได้สักครั้งนึง

อยากให้เขามาครบกันทั้ง 7 คนเลย แล้วป้าจะไปดู นี่คือความสุขสุดยอดแล้ว ถ้าเขามาครบนะ เป็นตายยังไง ต้องดิ้นรนไปให้ได้ เดินไม่ได้ ก็ต้องให้ลูกพาไปแหละ นั่งวีลแชร์ไปเลย ต้องไปให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต พลาดไม่ได้ ลูก 7 คน

ถ้าลูกมันไม่ติดงาน ไม่ติดอะไร เอาแม่ไปที วีลแชร์ก็ไป ไปกันสักที ตั้งเป้าไว้อย่างนั้น แต่ต้องมากันให้ครบ 7 คนนะ ไปแน่ เจอป้าแน่ เห็นว่าสิ้นปีนี้นะ ประมาณธันวาคม ที่ป้าดูไว้

ฝากบอกน้องแบมแบม ให้จัดให้ได้เลยนะ 7 คนนี้ ต้องมาให้ได้ แล้วป้าก็จะดิ้นรนมาให้ได้ แล้วก็จำหน้าป้าไว้ด้วยนะ เอกลักษณ์อย่างนี้ ฟันก็ไม่มี ป้าจะไปเต้นหน้าคอนเสิร์ตให้ดู จะเอาให้สุดเหวี่ยงไปเลย ฝากถึง GOT7 ด้วยนะ ให้มารวมกัน 7 คนเลย ป้าไปไม่ไหว ถึงจะไปวีลแชร์ ป้าก็ไป จะไปหวีดเลย”

[ความฝันสูงสุด อยากไปดูคอนเสิร์ตของลูกๆ ทั้ง 7 คนสักครั้งในชีวิต]
ไม่แคร์ใครจะมองว่าไร้สาระ

อากาเซ่รุ่นใหญ่ยังบอกอีกว่า ไม่แคร์เลยถ้าใครจะมองว่าแก่ แล้วยังมาชื่นชอบอะไรแบบนี้เหมือนเด็กๆ อยู่ พร้อมกับฝากบอกผู้ใหญ่อีกหลายท่านว่า อย่าไปขัดขวางลูกหลาน ที่ชื่นชอบศิลปินเกาหลี และอย่ามองว่ามันไร้สาระ เพราะนี่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต ให้กับอีกหลายคนได้สู้ต่อ

“ความคิดของป้า ป้าว่าป้ามีความสุข คนอื่นจะคิดยังไงป้าก็ไม่ได้แคร์หลอก เขาไม่ชอบ ก็จิตใจของเขา เราก็บังคับไม่ได้ แต่ป้าชอบของป้า ป้าก็จะทำของป้าอย่างนี้ ทุกคนที่ชอบ ก็ทำตัวเองไปเลย ไม่ต้องไปแคร์ ไม่ต้องไปสน เพราะป้าก็ไม่สนใจใครอยู่แล้ว ความสุขของป้า ป้าก็จะทำ

ป้ามีความสุข ป้าก็จะทำของป้าแบบนี้ตลอดไป เพราะป้าก็ไม่แคร์หลอก ใครไม่ชอบใครก็ไม่ต้องมาติดตามป้า ก็อยากจะบอกว่า ถ้าลูกหลานชอบ ก็ปล่อยไปเถอะ มันเป็นความสุข อย่าไปขัดขวาง เพื่อชีวิตเขาจะได้มีแรงบันดาลใจ ดีกว่าลูกที่ไปทำอะไรที่ไม่ดีๆ ไปติดยาเสพติด หรืออะไรอย่างนี้

เขาชอบแบบนี้ก็ปล่อยเขาไป ความสุขของเขา อย่าไปขัดขวาง ป้าคิดอย่างนี้อะนะ เพราะว่าป้ากับลูกกับเต้า ชอบ ป้าก็ไม่ว่า หลานก็ชอบ มีหลานอยู่คนนึงก็ชอบเกาหลี แล้วหลานชายยังไม่ชอบ ก็บอกมาเดี๋ยวแม่จะส่งไปเดบิวต์เลย ก็พูดแหย่หลานอะนะ หลานมันก็ขำ มันก็หัวเราะ อยากให้หลานเป็น อยากให้หลานเต้น อยากให้หลานฟังเพลงแบบนี้ เขาก็ไม่ค่อยชอบ เขาจะไปชอบนู่น คาราบาว ชอบแบบนั้น

และคำว่าติ่ง ก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย ก็โอเค ไม่ไร้สาระ มันก็ธรรมดา คำว่าติ่ง คือคำสรรพนามที่เขาใช้กันแบบเกาหลี”


นอกจากนี้ อากาเซ่วัยเก๋า ยังบอกอีกว่า การได้เป็นติ่ง คือการเติมพลังบวกในวัยนี้ของตัวเองได้มากๆ พร้อมกับมองว่า การติ่ง เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ใช้ชีวิต ให้มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว

“บวกมากด้วย วันไหนไม่ได้ฟังคิดถึง (หัวเราะ) ป้าคิดถึงมาก ฟังแล้วก็ยิ่งคิดถึงอยู่อย่างั้นแหละ ใครเป็นเหมือนป้าบ้างไม่รู้ พูดไปเดี๋ยวเขาหาว่าป้าบ้า มีแต่คนแซวอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่สนใจ เรามีความสุขของเรา

ป้าก็พูดไม่ค่อยจะถูกนะ พูดไม่ค่อยจะเป็น เพราะความสุขของป้า ป้ารู้ว่าป้าต้องทำยังไง แต่ความสุขของคนอื่น ป้าแนะนำไปแล้ว เขาจะทำตามหรือเปล่า เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ก็อยากจะทำเหมือนป้าอย่างนี้ ว่าเออเปิดเพลงฟัง ดูทีวี ดูเขาเต้น วง GOT7 อย่างนี้ แล้วมันจะมีความสุข แล้วมันก็จะสบายใจ สุขใจ ใจฟูเลย แล้วก็เปิดใจด้วย”

อากาเซ่ตัวยง เธอยังบอกอีกว่า รู้สึกเสียใจมาก ที่เกิดเร็วไปหน่อย และรู้จักกับวง GOT7 ช้าไปหน่อย พร้อมกับบอกอีกว่า จะใช้เวลาที่เหลือ รักให้เต็มที่ไปเลย

“ก็มีความรู้สึกว่าเสียใจนะ ว่าเกิดมาเร็วไปหน่อย รู้จักช้าไปนิดนึง เหลือเวลาน้อยแล้วเนี่ย ใจป้ายังคิดเลยว่าไอ้ห่าเอ้ย เราก็รัก GOT7 อายุเราจะอยู่ได้สักกี่ปีน้อ หมอดูก็ดูว่าสัก 70 ปี ป้าจะตายแล้ว อ้าวหลืออีก 3-4 ปีเอง ทำให้เต็มที่ไปเลย รักให้เต็มที่ไปเลย สุดใจหมดเลย ให้หมดเลย”


ติ่งช่วยชะลอความแก่

อากาเซ่วัยทอง ยังบอกอีกว่า การได้มาเป็นติ่งไอดอลเกาหลี ยังช่วยให้ชะลอความแก่อีกด้วย เพราะไม่ต้องเครียดอะไร บวกกับคุณป้าเอง ก็เป็นคนที่ชอบเฮฮาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีความเครียดอะไรในชีวิตมากเท่าไหร่นัก

“ชะลอความแก่ไป ไม่มีนะเรื่องจะมานั่งซึมเศร้าอะ มันวังเวงยังไง เหงาๆ ยังไง เปิดโทรทัศน์ดู เปิด GOT7 ฟัง แล้วมันก็จะเพลิน มีความสุข แล้วมันสุขจริงๆ บอกไม่ถูก ฟังแล้วมันก็เคลิ้ม (หัวเราะ) เปิดใจดู GOT7 สิ แล้วมันจะมีความสุขจริงๆ

ป้าไม่มีโรคประจำตัว มีแต่ความดัน แต่ว่าเคยไปดูหมอดูพระ ที่จังหวัดภาคใต้ ป้าถามเขาเอง ว่าอายุจะยืนไหม เขาก็นั่งนิ่ง แล้วก็บอก 70 ปี พอไหม เขาก็ว่าอย่างนี้ ป้าก็เลยหัวเราะ ก็ได้ 70 ปี ก็ได้ ก็แค่นั้นแหละ ป้าก็เลยจำคำนั้น ว่าเออเราควรจะอายุแค่ 70 ปี
แต่มีความสุขอย่างนี้ อายุคงอยู่ได้เยอะ คงจะได้เกิน 70 กว่า ก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะนะ พูดถึง แต่ก็มีบ้าง ลึกๆ อายุเราก็ไม่ได้เหลือเยอะแยะอะไร ก็ทำๆ ไปเถอะ จริงๆ มันก็มีความสุขจริงๆ

อายุเหลือไม่เยอะหรอก คนเรามันไม่แน่ไม่นอน ตายได้ง่าย ขนาดอายุน้อยๆ ยังตายก่อนเราเลย ก็คิดอย่างนี้ ก็เลยทำๆ ไปความสุข ลูกก็บอกแม่เดี๋ยวเราไปดูคอนเสิร์ตสักครั้งนึงเถอะ มีความสุข เออไปก็ไป แม่ก็อยากมีความสุขอย่างนั้นเหมือนกัน”

แม้ดูว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม แต่ป้าพร ก็ไม่หยุดที่จะปรับตัว ให้เข้ากับลูกๆ หลานๆ ที่บ้าน จึงพยายามเรียนรู้ศัพท์วัยรุ่นจากลูกๆ หลานๆ และช่องทางโซเชียลฯ อื่นๆ เพื่อเวลาลูกหลานคุยกัน จะได้รู้เรื่อง

“ไม่ใช่อะไร ไปไหนก็ไปกับลูก ไปแบบแฟมิลี่ ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ก็เจอโน่น เจอนี่ ก็คุยกัน ใช้ศัพท์ภาษาวัยรุ่นกับหลานบ้าง ลูกบ้าง ไอ้เราก็เป็นคนที่ชอบทันสมัย อยากจะทันสมัยก็ตามลูกหลานไป แล้วก็ชอบด้วย

หลานชอบดู อันไหนดีๆ เราก็ลืมตาดู เขาเรียกว่าศัพท์แสลง เราก็ตามวัยรุ่น บางคำเราไม่เข้าใจ เราก็ถาม คำนี้เขาแปลว่าอะไรลูก คำนี้เขาแปลว่าอะไรน้อง อะไรอย่างนี้ เราก็ถาม แล้วเราก็จำ”


ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่ป้าพรทำ นอกจากเรียนรู้คำศัพท์วัยรุ่น จากลูกๆ หลานๆ แล้ว ป้าพรยังพยายามจดเนื้อเพลง เพื่อนำมาฝึกร้อง ให้คล่องปาก ให้สมกับเป็นอากาเซ่ตัวจริงอีกด้วย

“แม่เขียนได้ ภาษาไทยก็เขียนได้ ภาษาอังกฤษก็เขียนได้ แต่ไม่รู้ รวมคำไม่เป็น อ่านไม่เป็นภาษาอังกฤษ ก็เลยดูในโทรทัศน์ จดเพลงไว้ เดี๋ยวให้ลูกจดภาษาไทย ว่าเพลงนี้มันชื่ออะไร ก็เลยนั่งลอก นั่งเขียนไปเรื่อยๆ

พอลูกมาถึง ถามแม่ทำอะไร ก็เขียนภาษาอังกฤษไง เขาถามเขียนทำไม เขียนเป็นเหรอ ไอ้คำว่าเขียนเป็นอะมันเขียนเป็น แต่แม่ไม่รู้หรอก ว่าคำอะไร แม่ก็เขียนๆ ไป ถามว่าเขียนทำไม ก็เขียนไว้ เดี๋ยวลูกก็เขียนภาษาไทยกำกับไว้สิ เพลงนี้เพลงอะไร เราก็เดาเอา เพลงนี้มันน่าจะ NANANA นะ อยากได้อันนี้ เราก็ชอบ เราก็เขียนไป นี่ยังลอกอยู่ เดี๋ยวลงภาษาไทยไว้

ก็ฝึกสมองด้วย บางทีก็ให้หลานเปิดโทรศัพท์ ก็เขียนภาษาเกาหลี ภาษาเกาหลี มันไม่คล้องจองกับปากเราหรอก มันพูดยาก มันร้องยาก แต่ก็จดไว้ ค่อยๆ ท่องไปเรื่อยๆ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง”

นอกจากนี้ ป้าพรยังฝากถึงหลายคน ที่ยกให้เป็นแรงบันดาลใจ ในการชีวิตที่มีความสุขแบบเรียบง่ายอีกว่า ความสุขหาได้ด้วยตัวเอง

“ก็ดี ป้าก็อยากจะบอกว่า ความสุขอะเนอะ ชีวิตคนเรามันหาซื้ออะไรไม่ได้แล้ว เราก็ทำความสุขของเรา เราไม่ต้องไปซื้อ ไปหาอะไร ความสุขเราหาด้วยตัวเราเอง เล็กๆ น้อยๆ ก็หาใส่ตัวมา อย่างฟังเพลง ดูหนัง ร้องเล่น เต้นรำไป ทำของเราไป เราอยากทำอะไร เราก็ทำไป มีความสุขอะไรเราก็ทำ เราชอบแบบไหน เราก็ทำไป นั่นคือความสุขความสุขของเรา”


กลายเป็นขวัญใจคนรุ่นหลาน

สำหรับคลิปที่ทำให้อากาเซ่สูงวัยผู้นี้ กลายเป็นที่รู้จักของบรรดาเหล่าอากาเซ่ จนกลายเป็นไวรัลไปทั่ว TikTok มาจากคลิปที่ลูกสาวบันเอิญถ่าย ที่ป้าพรกำลังนั่งดูคลิปร้องเพลงของพี่มาร์ค พร้อมกับอุทานคำว่า หล่อลั่นเปรี๊ยะ เรียกได้ว่าคลิปนั้น เป็นอีกจุดนึง ที่ทำให้บรรดาด้อมอากาเซ่ เข้ามาเอ็นดูคุณป้ากันยกใหญ่

“คลิปนั้นก็คือ ป้าก็นั่งเลาะผ้าอยู่ แล้วตอนนี้ก็เปิดโทรทัศน์ ก็ดูโทรทัศน์ ธรรมดาเนี่ยแหละ พอดีฝนตก สัญญาณไม่มี พอสัญญาณไม่มี ก็เลยใช้น้องดิวเปิด ให้แม่ดูหน่อยสิ เขาก็เลยเปิดเพลงที่พี่มาร์คร้อง ก็สนุก ป้าก็เห็นเขาหล่ออะนะ ป้าก็เลยบอก หล่อลั่นเปรี๊ยะ นักข่าวก็เลยเอาคลิปไปออก

หล่อลั่นเปรี๊ยะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เราคิดของเราเอง พูดไปเอง พูดไปเรื่อย คนไทยอะ พูดไปเรื่อยเปื่อย (หัวเราะ) อยากพูดอะไรก็พูดไปเรื่อยไป

แรกๆ ไม่รู้หรอก เดี๋ยวนี้บางคลิปก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง เขาก็แอบถ่าย บางคลิปก็รู้ บางคลิปก็ทำกัน แต่บางคลิปก็เผลอๆ นอนอยู่บ้าง บางทีเราร้องไป เต้นไป ดูไป เขาก็แอบถ่ายบ้าง หันไปเขาก็รีบเอาโทรศัพท์หนี แอบเรา

แล้วลูกสาวอ่านคอมเมนต์ให้ฟัง เขาบอกให้ป้าสุขภาพแข็งแรง ให้อยู่นานๆ จะได้อยู่กับด้อมไปนานๆ แล้วก็ว่าน่ารัก ดีจังเลย นอนยิ้ม บางทีนะ เขามาจากทำงาน อ้าวอ่านให้แม่ฟังหน่อย อ่านให้แม่ฟังหน่อย เขาก็อ่าน เราก็นอนยิ้ม ดีใจ ภูมิใจ น่ารักดี คอมเมนต์เยอะแยะ มีแต่น่ารักๆ

อยากฝากถึงอากาเซ่ ว่าขอบใจมากๆ เลยนะ ที่ป้าทำคลิปไป แล้วดูคลิปป้า แล้วก็ยิ้มกัน หัวเราะกัน แล้วป้าก็มีความสุข แล้วป้าก็ดีใจที่ว่า ทำให้อากาเซ่ที่ดูป้า ทำให้มีความสุข หัวเราะได้ ป้าก็ดีใจ ป้าก็มีความสุข แค่นี้แหละ”

ด้วยความที่เป็นอากาเซ่วัยทอง ทำให้ป้าพรกลายกลายเป็นขวัญใจแฟนคลับรุ่นหลานๆ มีเพื่อนต่างวัย ที่เป็นแฟนคลับเหมือนกัน คอยแวะเวียนเข้ามาทำความรู้จักในช่องทาง TikTok พร้อมส่งของขวัญ ที่เกี่ยวกับ GOT7 มาให้อยู่ตลอดๆ

“ป้าซื้อเองอยู่ 2 ชุดตอนแรก ซื้อเป็นรูปวง GOT7 2 ชุด นอกนั้นก็ไม่ได้ซื้อเลย แฟนคลับส่งมาให้ทั้งนั้นเลย เยอะแยะมากมาย
ส่งมาให้ทุกอย่างเลย ปฏิทิน อัลบั้ม อัลบั้มเนี่ยโอ้โหเขาเก็บอย่างดีเลย สวยงามมากมาย อัลบั้มรูปเยอะแยะ ตุ๊กตา แก้ว แล้วก็สแตนดี้เยอะแยะมากมาย แฟนคลับส่งมาให้เยอะแยะไปหมด

ป้าก็คิดว่า ความสุขของป้าอะนะ กำลังป้าซื้อได้ ป้าก็ซื้อ อยากได้อะไรป้าก็จะซื้อ อยากได้อะไร ป้าก็จะเอามาสะสม พูดกันง่ายๆ เอาตามกำลังของเราอะลูก คือความสุขของเรา เราก็ทำไป ซื้อได้เราก็ซื้อ มันไม่ได้เดือนร้อน ก็ซื้อ ก็ทำเท่าที่ว่าเราทำได้ ไม่เดือดร้อนครอบครัว แค่นั้นแหละ ทำไปเถอะ แฟนคลับทุกคนนะ รัก GOT7 ก็ช่วยกันซัพพอร์ต GOT7 หน่อยนะ

ป้าช่วยดูทั้งวันเลย เปิดปั่นวิวทั้งวัน เปิดไม่ได้หยุดเหมือนกัน ฟังวนอยู่อย่างนั้นแหละ ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นแหละ ฟังไม่เบื่อ”


นอกจากของสะสม ที่ตั้งใจซื้อเอง และแฟนคลับส่งมาให้แล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำเอาป้าพรใจฟูมากๆ ในการมาเป็นติ่งของวงนี้ก็คือ มิตรภาพดีๆ จากบรรดาเหล่าอากาเซ่

“ป้าก็ดีใจ แล้วที่ดีใจที่สุดเพราะอะไรรู้ไหม มารู้จัก GOT7 เนี่ย ป้าได้มิตรภาพจากอากาเซ่ดีมากเลย ทุกคนก็ส่งไอ้นั่นมาให้ป้า ส่งไอ้นี่มาให้ป้า แล้วก็อวยพรให้ป้าแข็งแรง ป้าก็ใจฟูเลยทีนี้ ชอบ ได้มิตรภาพดีๆ

รู้สึกดีใจมากเลยแหละ มันเหมือนเปิดโลกทัศน์ขึ้นมาอีกเลย ใจฟู ดีใจมากๆ จากที่ว่าเคยอยู่บ้านนอกอะเนอะ มันก็วงแคบๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอก ตอนนี้มารู้จักกับแฟนคลับอากาเซ่ เขาก็นู่นนี่ แล้วก็คอมเมนต์มา โอ้โห อ่านทีนี่ใจฟูมาก ชอบมาก

แล้วอากาเซ่ส่งอะไรมา ป้าก็ไม่มีอะไรจะส่งให้ ป้าก็เลยให้ลูกสาวทำกระจก ทำยาดม ส่งไปมั่งแล้วก็มี นี่กำลังจะส่งไปให้อีก หวีก็มี ส่งไปให้แฟนคลับ เป็นรูปพี่มาร์ค เจบี

มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอก คือจิตใจอะลูก มันมีค่าทางจิตใจ ก็ตอบแทนได้แค่นี้แหละ ป้าก็ไม่มีอะไรจะซัพพอร์ตเนาะ
รู้จักกับ GOT7 ก็ได้กำลังใจจากแฟนคลับมากมาย ป้าก็จะใช้ชีวิตให้มีความสุขกับ GOT7 คนที่แก่ขนาดนี้ รัก GOT7 ทั้งวงเลยนะบอกให้ จริง รักทั้งวง ไม่เปลี่ยนแปลงด้วย เขาชวนเข้าด้อมอื่น ไม่เอา เอาไม่ได้

เรื่องงานก็ไม่เคยทิ้ง แต่เรื่องติ่งต้องมาก่อน วันๆ ดูแต่ GOT7 ถ้าไม่ได้ดูวันไหน มันก็คิดถึง แต่ยิ่งดูก็แปลกนะ ยิ่งดูก็ยิ่งคิดถึง เหมือนกับว่าเราไปอยู่เกาหลีเลย มีความรู้สึกแบบนั้นเลย

ไม่เบื่อเลย แปลกนะ แปลกจริง ทั้งๆ ที่ฟังก็ไม่รู้เรื่องภาษาเขา แต่มันก็ติดหู ฟังแล้วมันก็ติดหู เพราะ โมโหตัวเองที่ไม่ได้เรียน”

กระชับความสัมพันธ์ให้ครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้น

ป้าสูงวัยหัวใจ GOT7บอกให้ฟังอีกว่า การเป็นติ่ง ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้นไปอีกมาก จากที่สนิทสนมกับลูกสาวอยู่แล้ว ยิ่งทำให้คุยกันถูกคอขึ้นไปอีก

“กับลูกสาวคนนี้ก็สนิทกันอยู่แล้ว เขาก็ดูแลแม่อย่างดีอยู่แล้ว แล้วพอมาชอบอย่างเดียวกัน คือใจมันตรงกัน ไปทางเดียวกัน เดินทางเดียวกัน มันก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปใหญ่

ป้ามีลูกทั้งหมด 3 คน ต่างกันมีครอบครัว ไปอยู่ข้างนอกกัน แต่ 2 คนนี้เขาอยู่กับป้า แต่ป้าจะสนิทกับน้องดิว คนสุดท้อง เขามีพี่สาวอีก 2 คน ต่างคนต่างไปทำงานกัน ลูกสาว 2 คนเขาขึ้นเวรตลอด

น้องดิวเขาทำงานไปเช้า-เย็นกลับ เขาก็เลยมีเวลาสนิทกับป้าเยอะ ดูแลป้าเยอะ เขาทำงานประจำที่โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช เป็นการเงิน อยู่ห้องการเงิน แล้วลูกสาวคนโตก็โรงพยาบาลสวนผึ้ง คนที่ 2 ก็โรงพยาบาลราชบุรี 2 คนนี้เขาจะขึ้นเวรตลอด

ไม่มีใครว่าอะไรเลย คนโตทีแรกก็ยังไม่ค่อยรับ พอรู้ว่าแม่เป็นอากาเซ่ เออเขาก็รับได้ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ดู เขาก็แชร์ให้เพื่อนๆ เขา ที่ในโรงพยาบาล พวกหมอ ก็แชร์กัน พาไปหาหมอทีนึง ที่โรงพยาบาลเขาก็แซวกัน เขาก็ดีใจ เขาก็คุยกับแม่ใหญ่ เขาก็แซวแม่ มีความสุขดี โอเคดี”

[ ลูกสาวแต่งคอสเพลย์เป็น “แบมแบม” ศิลปินคนโปรด]
นอกความความติ่งแล้ว อากาเซ่วัยทอง ยังส่งเสริมให้ลูกสาว แต่งตัวศิลปินในดวงใน เพื่อไปประกวด ด้วยการลงทุน ตัดเย็บด้วยตัวเองทุกอย่าง สุดท้านก็คว้ารางวัลอันดับ 2 มาฝากคุณแม่แม่ได้ชื่นใจอีกด้วย

“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ก็ที่ทำงานเขาประกวดกัน ว่าให้แต่งศิลปินในดวงใจ แม่ก็เลยว่าเออ เอาเป็นแบมสิ น่ารักดี แม่ก็ตัดเสื้อให้เขา ตัดกางเกงให้เขา ก็ทำที่คาดแดงดำ ว่ามันสวยดี มันเท่ดี ก็ทำให้เขา แล้วก็สั่งซื้อวิกสีแดงมา เขาก็ใส่ไปประกวดนั่นแหละ แล้วเขาก็ได้รางวัลที่ 2 เดินไปหาซื้อผ้ากัน มาตัดให้เขา ป้าตัดเสื้อเป็น ป้าก็เลยตัดให้เขาใส่ สวย ใส่ก็สวยน่ารัก (หัวเราะ) อวยลูก

ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี เรียนเย็บผ้ามา แล้วแต่งงานมีครอบครัว ก็ทำอาชีพอื่น ค้าขายบ้าง รับจ้างบ้าง ก็ทำเรื่อยไป จนเมื่อประมาณอายุ 40 กว่าปี ก็เลยมาทำผ้าเป็นหลักเป็นฐาน

พ่อน้องดิวเสียไป 30-40 ปีแล้ว เสียไปนานแล้ว ก็อยู่กับลูก เขารับราชการ เขาเป็นทหาร ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกตอนนั้น ก็เลี้ยงลูก แล้วมาตอนหลังเขาเสีย ก็เริ่มมาขายของบ้าง อะไรบ้าง แต่มีวิชาติดตัวอยู่แล้วเย็บผ้า แต่ไม่ได้ใช้ ก็ไปค้าขายบ้าง

มาตอนหลังลูกโตๆ กันแล้ว ไม่มีภาระอะไร ก็อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่เอาเว้ย เดี๋ยวต้องมาให้ลูกมาเป็นภาระเลี้ยงดูเรา เราก็เลยคิดเองอะนะ ว่าหารายได้แก้เครียดไปด้วย ทำเอง ใช้เอง ไม่ต้องเลี้ยงใคร เลี้ยงตัวเอง ก็เลยมานั่งเย็บผ้า

เขาก็ให้ ให้เราก็เก็บ เราทำ เราได้ของเรา เราก็ซื้อกินของเรา เราไม่ต้องรอเขา เราก็ใช้แบบสบายใจของเรา อยากซื้อกระเป๋า อยากซื้อรองเท้า อยากซื้ออะไร เราก็ไม่ต้องไปขอ คือเราเกรงใจลูกไง คือถามว่าเขาให้ไหม เขาก็ให้ ให้เราก็เก็บไว้ทำอย่างอื่นเรา”

สุดท้าย ป้าสูงวัยหัวใจ GOT7 ทิ้งท้ายพร้อมเสียงหัวเราะที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ฝากถึงคนที่อาจจะหาความสุขได้ยากในชีวิตไว้ว่า ลองรู้จักปล่อยวาง และหาความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว เช่น ฟังเพลง หรือการชื่นชอบศิลปินคนโปรด

“ความคิดของป้านะ คนรุ่นป้า ป้าอยากจะบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยวาง ทำใจให้ว่าง แล้วก็หาความสุขใส่ตัว มีเพลงฟังก็ฟังไป มีวิทยุก็เปิดไป อยากจะฟังเพลงอะไรก็ฟังไป อยากจะขอแนะนำ ให้ฟังGOT7 สนุก ดี ดีต่อใจเลยแหละ มีความสุขมากๆ เลยนะ เออทำไป

ป้าอยู่บ้านก็คนเดียว ก็มีลูก 7 คนไง อยู่เป็นเพื่อน งงละสิ 7 คนไง GOT7 ไง (หัวเราะ) มีพี่เจบี พี่มาร์ค มียองแจ มีจินยอง มีแบมแบม มียูคยอง 7 คนป้าจะไปเหงาอะไร ลูกมีตั้ง 7 คน ลูกทิพย์ไง ลูกทิพย์อยู่เป็นเพื่อน”











สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : เฟซบุ๊ก “ธิดารัตน์ บำรุงราชภักดี”, แฟนเพจ “GOT7”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น