จากความชอบ กลายเป็นอาชีพ เปิดใจ “น้องก้านตอง” เจ้าของฉายา “นางรำเงินล้าน” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในต่างประเทศ จนกลายเป็นไวรัล ใน TikTok เธอเป็นเพียงเด็กอายุ 17 ปี ที่ฝึกรำมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนได้รับโอกาสพารำไทย ไปโกอินเตอร์ พร้อมลบคำสบประมาท “อาชีพเต้นกินรำกิน” ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้
ที่มาของฉายา “นางรำเงินล้าน”
“นางรำเงินล้านค่ะ ที่คนรู้จักหนูนะคะจากฉายานี้ แต่ถ้าชื่อปกติ ก็ก้านตองค่ะ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ว้าวสำหรับหนูมากๆ ค่ะ วันนั้นที่ไปดู TikTok ยอดล้านกว่าวิว ก็เกินฝันหนูแล้ว
ไม่คิดว่าคนจะดูหนูเยอะขนาดนั้น ไม่คิดว่าคนจะชื่นชอบในการแสดงของหนูมากขนาดนั้น เพราะว่าหนูเคยโดนดูถูกว่าทำไม่ได้หรอก ก็ได้พิสูจน์ให้ตัวเองให้คนเหล่านั้นเห็นก็ภูมิใจกับตัวเองมากๆ ค่ะ”
“ก้านตอง-มานิตา เคหาวิตร”สาวน้อยวัย 17 ปี กับเจ้าของฉายา “นางรำเงินล้าน” ที่โด่งดังมาจากคลิปไวรัลในTikTok ที่เธอนั้น ได้มีโอกาส ไปโชว์ลีลาการร่ายรำแบบนาฏศิลป์ไทย ต่อหน้ากษัตริย์ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นสุดยอดศิลปวัฒนธรรม ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย
สาวน้อยมากความสามารถ วัย 17 ปี คนนี้ เธอกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุกูลนารี จ.กาฬสินธุ์ เธอช่วยเล่าถึงฉายา ที่มาที่ไปของตัวตนของเธอให้ฟังว่า
“ที่มาที่ไปของนางรำเงินล้าน ก็หนูมีโอกาสได้ไปรำในวัดไทยของประเทศมาเลเซียค่ะ วันนั้นได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ จากผู้คนที่นั่น แล้วก็วันที่ทำพิธี มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศมาเลเซียเลยค่ะ วันนั้นหลังจากที่หนูทำการแสดงจบ ก็ได้รับคำตอบรับ คำชื่นชม แล้วก็ความสนใจเป็นอย่างดีค่ะในวันนั้น
แล้วก็ได้เปิดรับเงินบริจาคค่ะ เปิดรับบริจาคยอดวันนั้นเกือบ 50 ล้านบาทค่ะ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่านางรำเงินล้านค่ะ คือนายห้างต่อ ค่ายหน้าลาวเรคคอร์ด เป็นคนประสานงานกับท่าน ดร.ประกาย ณ สงขลา ก็คือประธานสภาวัฒนธรรมไทย-อาเซียนค่ะ
คือปกติหนูรับงานรำบวงสรวงพิธีต่างๆ ในทั่วอีสานอยู่แล้วค่ะ ก็เลยเห็นผลงานของหนู เห็นศักยภาพความสามารถของหนู สามารถที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยที่จะไปเผยแพร่ ศิลปะวัฒนธรรมของเราได้ค่ะ ก็เลยมีโอกาสได้คุยกัน แล้วก็ประสานงานกันค่ะ
ก็เลยเป็นที่มาของฉายานางรำเงินล้านค่ะ แล้วหลังจากนั้น ท่านกษัตริย์ของประเทศมาเลเซียค่ะ ก็อยากมาชมหนูรำตัวเป็นๆ ที่รำให้ท่านดูต่อหน้าค่ะ ท่านได้มีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศไทยค่ะ เพื่อที่จะมาดูหนูรำ แล้วก็มามอบตำแหน่งทูตวัฒนธรรมไทย-อาเซียนให้กับหนูในวันนั้นค่ะ
แล้วก็อีกที่มาของฉายาค่ะ ก็มาจากยอดวิวของ TikTok ด้วยค่ะที่นายห้างค่ายหน้าลาวเรคคอร์ด ได้โพสต์ลงคลิปที่หนูรำ ที่ยอดตอนนี้น่าจะ 5 ล้านกว่าค่ะ”
เธอย้ำอีกว่า ที่มาของฉายามาจากยอดเงินบริจาค ที่เธอได้ไปรำในงานในครั้งนั้น ส่วนค่าตัวของเธอจริงๆ นั้นก็ยังไม่ถึงหลักล้าน ก็ยังอยู่หลักหมื่น
“ก็เหมือนอย่างที่หนูบอกค่ะ ที่มาของฉายาก็คือเงินบริจาคที่ได้จากการไปรำจากประเทศมาเลเซียค่ะ แต่ว่าค่าตัวก็ไม่ถึงล้านค่ะ แต่ก็หลัก 5 อยู่ค่ะ
หนูรำได้ทุกแนว ทุกเพลงเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรำพื้น บ้านรำไทย โขนอะไรอย่างนี้ค่ะ เต้นจินตลีลาก็รับค่ะ ขอแค่บรีฟมา ทำให้ได้หมดค่ะ”
พารำไทย เตรียมโกอินเตอร์อีกครั้ง
แม้เธอจะเคยไปรำมาแค่ประเทศเดียว แต่ครั้งนั้น ก็ทำให้นางรำไทย มีชื่อเสียง จนเป็นทีรู้จักไปในหลายประเทศ และความฮอตของเธอก็ไม่หยุดแค่นี้ ในปีหน้า ก็มีการจองตัว ให้ไปรำที่ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศลาวแล้วด้วย
“เพิ่งไปมา 1 ประเทศค่ะ ส่วนมากจะอยู่ที่ประเทศไทยก่อนค่อยออกข้างนอกค่ะ ส่วนแพลนของปีหน้า ก็จะมีที่ประเทศอินโดนีเซีย แล้วก็ประเทศลาวค่ะ แล้วก็มีรำต่อหน้าพระเทพฯ ค่ะ ในไทยของเรา
มีแพลนค่ะ ผู้ใหญ่เขากำลังคุยกันอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นช่วงต้นปี หรือว่าช่วงกลางปี หรือปลายปีค่ะ แต่ว่าได้เริ่มเตรียมตัวแล้วค่ะ”
นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นนางรำไทยคนนึง เธอก็บอกอีกว่า อยากไปเผยแพร่วัฒนธรรมของไทย ผ่านการร่ายรำ ให้กับประเทศจีนดูสักครั้ง เพราะจากประสบกาณ์ในการแสดงมา เธอรู้สึกว่า นักท่องเที่ยวจีน ให้ความสนใจมากๆ
“ที่หนูอยากไปเผยแพร่วัฒนธรรมของไทยก็คือ จีนค่ะ เขาน่าจะชอบทางนี้ เพราะว่าจากประสบการณ์ที่หนูออกงาน นักท่องเที่ยวชาวจีน ให้ความสนใจกับการแสดงของประเทศไทยมากๆ ค่ะ ก็เลยอยากจะเอาการแสดงของประเทศเรา แล้วก็ผลักดัน Soft Power ของประเทศไทยด้วยค่ะ ให้ต่างประเทศมาเที่ยวประเทศของเราเยอะๆ แล้วก็ได้รับชมวัฒนธรรมอันสวยงามของเรา”
ชอบรำมาตั้งแต่อนุบาล
สำหรับเส้นทางอาชีพนางรำของเธอนั้น เธอเล่าว่า เป็นความชอบมาตั้งแต่เด็ก เธอเริ่มฝึกรำมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ฝึกฝนตัวเองมาเรื่อยๆ จนสามารถรับงานแสดงได้ในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น
“ความชอบตั้งแต่เด็ก ก็เรียนนาฏศิลป์เป็นชุมนุมของโรงเรียน เป็น 2 คาบสุดท้าย ของวิชาเรียน หนูก็เรียนนาฏศิลป์ตั้งแต่อนุบาลค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่า หนูเป็นคนภูไท แล้วก็เห็นวัฒนธรรมการแสดงทางนั้นเยอะ ก็เลยเกิดความชื่นชอบค่ะ ช่วงป.3 ก็จะไปเป็นกลุ่มกับทางโรงเรียนค่ะ เริ่มมารับเดี่ยวๆ ก็ช่วงมัธยมต้นค่ะ”
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ที่เธอชื่นชอบการร่ายรำมาตั้งแต่เด็กนั้น พื้นฐานครอบครัว อาจจะมาทางนี้อยู่แล้ว แต่เธอก็บอกว่าไม่เลย เพราะอาชีพนางรำ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เน้นความสามารถเฉพาะตัว และต้องฝึกฝน
“คุณพ่อคุณแม่ จะไม่มีความสามารถด้านนี้เลยค่ะ แต่คุณพ่อเคยเป็นมือโปงลางของโรงเรียนค่ะ ทุกเลิกเรียน จะไปฝึกซ้อมวันละ 1 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าวันไหนมีงาน ก็จะวันละ 3 ชั่วโมง แล้วก็กลับมาซ้อมเองที่บ้านอีกค่ะ ไม่มีเรียนเสริมค่ะ มีแต่คุณครูนาฏศิลป์ในโรงเรียนสอนเราคนเดียวโดยตรงค่ะ”
โดยในการออกงานแต่ละครั้ง เธอก็เป็นคนเตรียมชุดเอง และดีไซน์เสื้อผ้า หน้าผมเองทั้งหมด โดยเธอเรียนการแต่งหน้าด้วยตัวเองจากยูทูบ และจะมีช่างแต่งหน้าเฉพาะงานที่ใหญ่ๆ เท่านั้น
“เป็นคนจัดชุดเองทุกอย่าง เสื้อผ้าหน้าผม ดีไซน์แต่งหน้า แล้วก็ดีไซน์ท่ารำค่ะ คิดเองหมดค่ะ แต่งหน้าเองค่ะ ก็เกิดจากการฝึกด้วยค่ะ ก็ยอมขี้เหร่ก่อนช่วงแรกค่ะ ก็มีฝึกจากยูทูบค่ะ แล้วก็คุณครูให้คำแนะนำค่ะในส่วนที่หนูยังไม่เข้าใจหรือทำไม่เป็นค่ะ
แต่ถ้างานเด่นๆ หรือว่างานที่ใหญ่ๆ จริงๆ จะเป็นช่างแต่งหน้า แต่ถ้าเป็นงานไหน ที่พอจะช่วยตัวเองได้ ก็ทำเองค่ะ”
จากความชอบ จนกลายมาเป็นอาชีพ เธอเล่าว่า เธอได้รับโอกาสในอาชีพนางรำอยู่มากมาย และยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากเช่นกัน
“ก้านตองได้มีโอกาสรำในหลายๆ งานค่ะ ที่ดังที่สุดก็น่าจะเป็นรำที่ประเทศมาเลเซียนี่แหละค่ะ แล้วก็แข่งของนักเรียนค่ะ หัตถกรรมโรงเรียน ก็ได้ชนะเลิศระดับชาติ ประเภทนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ค่ะ เป็นวงค่ะ แล้วก็นอกนั้นก็จะเป็นงานแยกย่อย รำพิธีบวงสรวงต่างๆ รำบวงสรวงภาพยนตร์ รำหน้าไฟ อุปสมบทอะไรอย่างนี้ค่ะ
แล้วก็นอกจากรางวัลทูตวัฒนธรรมไทย-อาเซียน ก็ยุวทูตการท่องเที่ยวค่ะ แล้วก็เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติค่ะ เป็น 1 ใน 16 คน ของทั่วประเทศค่ะ เป็นการเห มือนทำ Portfolio เหมือนเข้ามาหา’ลัยเลยค่ะ แล้วก็คัดจากผลงานที่เด่นๆ ค่ะ แล้วก็ความสม่ำเสมอของการไปทำกิจกรรมด้วยค่ะ”
หนูเริ่มประกวดตั้งแต่ ป.5 ค่ะ นางงาม นางแบบ เดินแบบเสื้อผ้าก็รับ ถ่ายแบบก็รับค่ะ ก็รางวัลที่ได้รับ ก็มี young grand Roi-Et บนเวที miss grand Roi-Et 2022 ค่ะ ชนะเลิศราตีผ้าไหมสายใยแห่งรักค่ะ ชนะเลิศหนูน้อยสาเกตนครค่ะ ที่เด่นๆ นะคะ
นอกจากอาชีพนางรำ ที่ชื่นชอบ และตั้งใจทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว สาวน้อยคนนี้ เธอยังอยากเข้าวงการบันเทิงอีกด้วย โดยมี “พี่อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นไอดอล
“ที่หนูจำได้ ตอนที่หนูนั่งดูทีวีกับคุณยายค่ะ ก็เห็นพี่อั้ม-พัชราภาในทีวี เขาแสดงละคร ก็คิดว่า เออหนูอยากเข้าไปอยู่อย่างนั้น อยากมีชื่อเสียงเหมือนพี่เขา อยากมีคนรู้จัก ก็เลยเริ่มคิดว่าจะเอายังไง
มีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิงค่ะ ก็เลยคิดว่า เออ รำเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสามารถเป็นบันไดก้าวหนึ่ง ให้หนูไปสู่วงการบันเทิงได้ ก็ประกวดด้วย เดินแบบด้วย ก็เก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ ค่ะ จนช่วงต้นปีที่ผ่านมา หนูได้มีโอกาสได้เล่น MV ของ พี่ไผ่-พงศธร เพลงแฮงใจวันอ้ายล้ม แล้วก็มีละครช่อง 3 ค่ะ เรื่อง ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่งค่ะ ที่เป็นนางรำ เป็นเพื่อนของน้องพระเอกค่ะ เพิ่งปิดกล้องไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ”
เคยเสียน้ำตา เพราะคำดูถูก
สาวน้อยคนเก่ง เจ้าของฉายา นางรำเงินล้าน เธอยังบอกอีกว่า ในระหว่างที่เธอเดินตามฝัน มุ่งมั่นลงมือทำในสิ่งที่เธอชอบมาตั้งแต่เด็ก เธอก็เจอคำคำดูถูก และคำสบประมาทสารพัด
“ช่วงที่หนูเริ่มจะฝึก ช่วงประถมตอนต้น ช่วงที่หนูเริ่มอยากเข้ารำแบบจริงจังค่ะ ช่วงป.1 ค่ะที่จำได้ หนูเดินไปกับเพื่อน 2 คนค่ะ หนูเดินไปสมัครชมรมนาฏศิลป์เนี่ยแหละค่ะที่หนูบอก แล้วก็มีรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนค่ะ เขาพูดบอกว่า จะทำได้หรอตัวแค่นี้น่ะ สวยก็ไม่สวย เพราะว่าตอนนั้นหนูดำด้วยค่ะ จมูกแบนๆ ค่ะ ก็โดนดูถูกทั้งทางรูปร่างหน้าตา แล้วก็ความสามารถ ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้เห็นว่าหนูทำอะไรได้บ้างในตอนนั้นค่ะ
ก็เสียใจนะคะที่มีคนมาว่าแบบนั้น เพราะพ่อกับแม่ยังไม่เคยว่าให้หนูแบบนั้นเลย ก็เสียใจ แต่ว่าเก็บความเสียใจมาพัฒนาตัวเองดีกว่าค่ะ”
แม้จะเสียใจกับคำพูดของคนเหล่านั้น แต่หลังจากนั้น เธอก็เก็บคำดูถูกเหล่านั้น เก็บมาพัฒนาตัวเอง พยายามฝึกฝนอย่างหนักกว่าคนอื่น จนสามารถลบคำสบประมาท จากคนที่เคยดูถูกเธอไว้ได้สำเร็จ
“ฝึกหนัก ในช่วงที่พวกพี่ๆ เขานั่งพัก หนูจะไปขอให้คุณครูสอนให้หนูเพิ่ม ในสิ่งที่หนูยังไม่เป็นค่ะ จากนั้นก็ได้เป็นนางไหของโรงเรียนด้วยค่ะ
ฝึกเยอะๆ อาจจะเสียน้ำตาบ้าง ก็อาจจะเก่งค่ะ แต่ของหนูมันมีความชอบอยู่แล้วมันก็เลยไม่หนักเท่าไหร่ค่ะ คิดว่านะคะ แต่ละวันก็จะมีทำเบื้องต้นค่ะ ดัดไม้ดัดมือ ดัดตัว แล้วก็ฝึกซ้อมเพลงในแต่ละเพลงค่ะ ทุกๆ วันก่อนที่จะต่อท่ารำ หรือว่าซ้อมเพลงอื่นๆ ค่ะ
จนตอนนี้หนูคิดว่า ลบคำสบประมาทได้ เพราะว่าสิ่งที่หนูทำมาทั้งหมด ทุกคนจากคนที่ไม่ชอบ ก็หันมาชอบหนูด้วย บางคนค่ะ ก็ถือว่าหนูก็ประสบความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ในคำพูดของคนที่เคยดูถูกหนูไว้ค่ะ”
นอกจากนี้ เธอยังฝากถึงคนที่กำลังมุ่งมั่นเดินตามความฝันของตัวเอง ที่อาจจะเคยโดนดูถูก เหมือนกับเธอว่า ทุกคนมีสิทธิ์พูด แต่เราก็ไม่ควรไปเก็บมาคิดให้บั่นทอนจิตใจตัวเอง แต่เก็บเอาคำดูถูกเหล่านั้น มาพัฒนาตัวเอง น่าจะดีกว่า
“ก็คำพูดคนค่ะ เขามีสิทธิ์พูด เราก็มีสิทธิ์รับฟัง แต่ไม่ควรเก็บไปคิดให้บั่นทอนจิตใจตัวเองค่ะ คิดว่าถ้าเรารับฟัง แล้วเอามาปรับพัฒนาตัวเอง ก็อาจจะเป็นแรงผลักดัน แรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ว่าเราต้องทำให้ได้นะ ในสิ่งที่เราอยากเป็น อย่าท้อค่ะ”
อาชีพเต้นกินรำกิน ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้
และเมื่อถามเธอว่า คิดอย่างไรกับคำว่า“อาชีพเต้นกินรำกิน”เพราะในอดีต หลายครอบครัวถึงขั้น ไม่อยากให้ลูกหลานมุ่งมาสายเส้นทางนี้ เพราะหลายคนอาจจะมองว่า เป็นอาชีพที่ไม่มีความมั่นคง หรือด้วยเหตุผลอะไรต่างๆ นานา แต่พอมายุคนี้ อาชีพนี้ ก็อาจจะเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น และมีหลายต่อหลายคน ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้แล้วก็มี
ส่วนเธอเองก็มองว่า ทุกคนมีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกัน และอาชีพนางรำที่เธอทำอยู่ตอนนี้ เธอก็บอกว่า สามารถหาเงิน เลี้ยงดูครอบครัวได้เหมือนกัน
“หนูรู้สึกว่า เราไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ค่ะ ก็สิ่งที่ทำได้ก็คือพิสูจน์ตัวเอง แล้วก็ทำให้เค้าเห็นดีกว่า ดีกว่าไปเถียงไอ้พูดอย่างนั้นอย่างนี้ให้เค้ามาเชื่อว่ามันจะทำได้จริงหรอ
แต่คำว่าเต้นกินรำกิน ก็คนพูดบ่อยค่ะ แต่หนูคิดว่า มันก็ดีกว่าไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเต้นกินรำกินค่ะก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแสดงที่หาเงินได้ดี สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เลยค่ะ
จะขอคุณพ่อกับแม่ตอนที่ออกงานค่ะ ที่แบบมันค่าใช้จ่ายเยอะๆ นอกนั้นหนูก็ใช้เงินตัวเองค่ะ ค่าเทอม ทุกอย่างจ่ายเองค่ะ ไปโรงเรียนก็เงินตัวเอง พ่อแม่ซัพพอร์ตทุกอย่างค่ะ ทุกด้าน ซัพพอร์ตหนูดีมากๆ ตั้งแต่ที่รู้ว่าหนูชอบอะไร อยากทำอะไรค่ะ
เพื่อนกลุ่มหนู ยังลังเลว่าจะเป็นหมอ หรือว่าเป็นครูดีค่ะ ยังคิดกับตัวเองอยู่เลยค่ะว่าจะเลือกทางไหน ทั้งๆ ที่จะจบ ม.6 แล้วค่ะ
ก็ถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่น หนูเป็นคนเดียวค่ะ ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็รู้สึกโชคดีค่ะ รู้ว่าตัวเองชอบอะไรอยากทำอะไรค่ะ”
เคยอยากหยุดเส้นทางนี้ เพราะ “เหนื่อย”
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะอายุแค่ไหน ก็มีเหนื่อย และท้อกันบ้าง ซึ่งสาวน้อยวัย 17 ปีคนนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่พอเดินตามความชอบ ความฝันตัวเองมาสักพัก พอยังไม่ถึงจุดมุ่งหมายที่ตัวเองตั้งไว้ ก็รู้สึกว่าเหนื่อย หมดไฟ และไม่อยากทำแล้ว เพราะเธอเองก็ต้องแบ่งเวลาทั้งทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย
“ทั้งเรียนทั้งทำงานด้วย ก็ส่วนมากงานที่หนูจะไปก็จะตรงกับเสาร์-อาทิตย์ ถ้าวันไหนที่ตรงกับวันธรรมดา หรือว่าวันไหนที่ต้องไปโรงเรียนค่ะหนูก็จะทำใบขอเวลาเรียนกับทางโรงเรียนค่ะ ขอกับคุณครูรายวิชานั้นๆ ว่าหนูจะไปงานนี้ๆ ก็ทำใบขอ แล้วก็ทางโรงเรียนให้การสนับสนุนหนูเป็นอย่างดีค่ะ
ถามว่าเหนื่อยไหม ก็เหนื่อยค่ะ ที่ต้องมาเรียนทีหลังเพื่อน ดึกๆ ก็ยังไม่ได้นอนอย่างนี้ค่ะ แล้วก็ต้องทำงานที่ค้างส่งให้ทันเพื่อน เพื่อจะรักษาเกรด ไม่ให้เกรดตกค่ะ
ก็ของหนู 3.60 ค่ะ ก็ถือว่าไม่ได้แย่มาก เราก็ไม่ได้ดีมาก เทอมนึงเรียนอยู่ 5 เดือน หนูลาโรงเรียนไปแล้ว 3 เดือน ก็อาจจะเวลาเรียนน้อย แต่ก็พยายามให้ทันเพื่อนๆ ค่ะ
ถามว่ากดดันตัวเองไหม ก็มีบ้างค่ะ กลัวแบบว่า จะปล่อยตัวเองไหม ว่าจะออกนอกกรอบ หรือว่าจะทิ้งความฝันตัวเองไหมค่ะ เพราะคำว่าเหนื่อย ก็มีบ้างค่ะ ในช่วงที่หนูหมดไฟมากๆ กับตัวเองค่ะ”
เธอเล่าถึงช่วงที่ตอนที่กำลังหมดไฟให้ฟังว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด แล้วไม่ค่อยมีงาน บวกกับเศรษฐกิจทางที่ไม่ค่อยดีด้วย ทำให้เธอเองก็ต้องคิดหนัก
“ก็ช่วงนั้นมันเป็นช่วงโควิดด้วยค่ะ งานไม่มีด้วย เศรษฐกิจทางบ้านด้วย ก็เลยคิดว่าเออออกมาช่วยคุณแม่ดีไหมเพราะคุณแม่ก็ทำงานหนัก คุณพ่อก็ทำงานหนัก ออกมาช่วยขายของดีไหม หรือว่าจะไปต่อทางนี้ดี เพราะว่าถ้าไปต่อทางนี้ก็ค่าใช้จ่ายมันเยอะด้วยค่ะ ทั้งค่าเดินทาง เสื้อผ้าหน้าผม ค่ากินค่าอยู่ด้วยค่ะ
คือคุณพ่อเปิดเต็นท์รถค่ะ ซึ่งเต็นท์รถทำอยู่คนเดียวค่ะ ไม่มีคนช่วย แล้วคุณแม่ขายของออนไลน์ค่ะ ธุรกิจส่วนตัว แล้วก็เปิดร้านขายน้ำหน้าเต็นท์รถด้วยค่ะ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
..."ไม่คิดว่าคนจะชื่นชอบในการแสดงของหนูมากขนาดนั้น เพราะหนูเคยโดนดูถูกว่าทำไม่ได้หรอก ได้พิสูจน์ให้ตัวเองให้คนเหล่านั้นเห็น ก็ภูมิใจกับตัวเองมากๆ ค่ะ"...
>>> https://t.co/zrjL6fmADw
.#ดาวtiktok #นางรำ #นางรำเงินล้าน #นางรำเงินล้าน #ทูตวัฒนธรรมไทยอาเซียน #เศรษฐีหน้าลาวเร็คคอร์ด pic.twitter.com/wo93x6ecmO— livestyle.official (@livestyletweet) January 6, 2024
@livestyle.official ...นางรำวัย 17 ชื่อเสียงโด่งดังถึงต่างแดน ทำยอดบริจาคพุ่งถึง 50 ล้าน!! @kantong__m ... #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #longervideos #tiktokวีดีโอยาว #มากกว่า60วิ #ดาวtiktok #tiktoker #นางรำ #นางรำเงินล้าน #ทูตวัฒนธรรมไทยอาเซียน #เศรษฐีหน้าลาวเร็คคอร์ด ♬ original sound - LIVE Style
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Kantong Manita”, อินสตาแกรม “@kantong__m”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **