xs
xsm
sm
md
lg

จากเด็กขี้โรค สู่เทรนเนอร์นักปั้นหุ่นซุป'ตาร์ตัวแม่ “ครูแอน” ฮอตจนมีลูกศิษย์ทุกมุมโลก [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เธอคือผู้อยู่เบื้องหลัง“หุ่นปังของคนดัง” มากมาย โดยเฉพาะ“ตัวแม่ของวงการ” ที่น่าสนใจคือกว่าจะเป็นเทรนเนอร์หุ่นเป๊ะ ที่มีลูกศิษย์อยู่ทั่วทุกมุมโลกได้ขนาดนี้ “ครูแอน” มีแรงผลักจากการเป็นเด็กขี้โรคมาก่อน



ผู้อยู่เบื้องหลังหุ่นปังเหล่าซุป'ตาร์

“ตอนนี้ก็จะดูแลพี่อั้ม-พัชราภา,พี่เชอรี่-เข็มอัปสร,พี่เมย์ พิชญ์นาฏ, พี่วุ้นเส้น-วิริฒิพา, อยู่แล้ว โห…หลากหลายท่านมาก เพราะว่าเราเทรนนิ่งออนไลน์ เราก็มีไปเจอกันบ้าง เพราะว่าเรารู้จักกันอยู่แล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่พี่ๆ ก็จะอยู่ในออนไลน์เหมือนกับนักเรียนของเรา

ก็ดีใจที่คนสวยๆ ซุป'ตาร์อย่างนั้น ไว้วางใจให้เราได้ดูแลรูปร่างของเขา ซึ่งรูปร่างเขาก็ดีมาก แล้วยังให้เรามาดูแลอีกที ก็คือสวยขึ้นไปอีก

“แอน-มนัสนันท์ นาคลดา” หรือ “ครูแอน” เทรนเนอร์ออนไลน์สุดแซ่บ วัย 32ปี ผู้อยู่เบื้องหลังหุ่นปังๆ ของเหล่าบรรดาเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ค่อนวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็น อั้ม-พัชราภา, เมย์-พิชญ์นาฏ, เอมมี่-มรกต, น้ำตาล-ชลิตา, ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์, วุ้นเส้น-วิริฒิพา, ปันปัน-สุทัตตา และคนอื่นๆ อีกมากมาย

เธอเริ่มจากเด็กขี้โรค เพราะเป็นภูมิแพ้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลบ่อยๆ จนต้องปฏิวัติตัวเองด้วยการเข้ายิม จนสุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ

และการชอบแชร์ทริกในการออกกำลังกายในโลกโซเชียลฯ ที่ทำเอาคนทำตามได้ง่ายๆ จนทำให้เธอ มีนักเรียนอยู่ทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว และด้วยหุ่นที่เป๊ะทุกมุม แถมยังมีท่าโพสที่จัดจ้านทุกช็อต จึงทำให้ครูแอน เป็นขวัญใจของสาวๆ ที่อยากมีหุ่นสวยแบบเธอ


เทรนเนอร์หุ่นปังคนนี้ เธอยังบอกอีกว่า เธอนั้นน่าจะเป็นเทรนเนอร์คนแรกๆ ของ ซุป'ตาร์ตัวแม่ อย่าง “อั้ม-พัชราภา” อีกด้วย
“น่าจะเป็นเทรนเนอร์คนแรกของพี่อั้มเลยค่ะพี่อั้ม ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือทำงาน เขาก็แบบว่า professional มาก ไม่อู้เลย ทั้งที่พี่เขาไม่ได้ออกกำลังกายมาก่อน เรียกได้ว่า ตั้งใจดูทุกท่าของเราเวลาที่เราทำให้ดู แล้วก็ทำตาม สวย ถูกต้อง เป๊ะมากเลย

งานดูแลซุป'ตาร์ไม่หนักเลย เพราะเรียกได้ว่าพี่ๆ เป็นคนมีวินัยมากๆ อยู่แล้ว อย่างที่แอนบอกตลอดเลยนะคะว่า วินัย และความต่อเนื่องไม่เคยทำให้เราผิดหวังจริงๆ เขาเป็นคนมีวินัยกันมาก เป๊ะกันมาก คืออะไรที่เราให้การบ้านไป เขาส่งกลับมา โอ้โห…เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นวินัยดีมาก เชื่อฟังเรียกว่าไม่ดื้อเลยค่ะสักคนเดียว

พี่ๆ ซุป'ตาร์ทุกคน ก็จะดูเป้าหมายของแต่ละคน ว่าต้องการอะไร แล้วเราก็จะเสิร์ฟในสิ่งที่ควรจะเป็นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอยู่แล้วค่ะ ทั้งการทานอาหาร ถ้าพี่ท่านนี้ไม่ชอบทานคลีน ก็ไม่ต้องคลีน ไม่จำเป็นจะต้องทานคลีนขนาดนั้น

อย่างนักเรียนบางคนไม่มีเวลา ทำงานตอนกลางคืน ต้องเข้าเวรตอนกลางคืน หรือทำงานตอนกลางคืน จะบอกว่าห้ามทานอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือหลังฟ้ามืดนะ เดี๋ยวอ้วน จะมีเยอะมากในโซเชียลมีเดียอะไรอย่างนี้ค่ะ

ซึ่งมันทำไมจะกินไม่ได้ ก็ได้ตลอด ก็คืออย่างที่บอกเลยว่า ทุกโปรแกรมในการทานอาหาร หรือว่าการออกกำลังกาย แอนเทรนคนต่อคนเท่านั้น ทำให้เราตรงจุดกับเป้าหมายที่เขาค่ะ”

[อั้ม-พัชราภา]
[เชอรี่-เข็มอัปสร]


[วุ้นเส้น-วิริฒิพา]



[เอมมี่-มรกต]


[เมย์ พิชญ์นาฏ]

นอกจากวิธีการเทรนของเธอ ที่แนะนำเรื่องการออกกำลังกายแล้ว ยังแนะนำเรื่องอาหารการกินที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล โดยที่ทุกคนต้องส่งการบ้านและจริงจัง ซึ่งลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จ

“ผู้หญิงทุกคนที่เป็นนักเรียนทุกคนที่ให้แอนดูแล แอนก็ภูมิใจ และดีใจมากๆ ที่เขาให้เราดูแลรูปร่างสุขภาพเขา สำหรับพี่ๆ ดาราที่เข้ามาติดต่อ แอนก็สอนออกกำลังกายผู้หญิงทุกคนอยู่แล้ว แล้วก็สอนเหมือนกันหมด พี่ๆ ดาราเราสอนแบบไหน เราก็สอนนักเรียนเราแบบนั้น

นักเรียนแอนนี่เรียกได้ว่ามีทั่วโลกเลย เวลาไปต่างประเทศเจอนักเรียนเข้ามาทักตลอด ก็เลยรู้สึกว่าดีใจมากเลย ที่ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ

อย่างพี่ๆ ดาราที่เป็นซุป'ตาร์ ก็ยังดูแลหุ่นอยู่ ทั้งที่เขาก็สวยมากๆ อยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าแบบอืม…เราห้ามหยุดสวย ต้องดูแลตัวเองต่อไปค่ะ”

แรงบันดาลใจจากเด็กขี้โรค

สำหรับแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เทรนเนอร์สาวหุ่นเป๊ะคนนี้ หันมาออกกำลังกาย เธอเล่าว่า เริ่มจากเด็กขี้โรค เพราะเป็นภูมิแพ้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลบ่อยๆ เธอจึงปฏิวัติตัวเองด้วยการเข้ายิม เล่นทั้งเวทคาร์ดิโอ เข้าคลาสเต้น จ้างเทรนเนอร์ชาวต่างชาติสอนส่วนตัว แล้วสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ไม่ต้องทรมานกับโรคภูมิแพ้

“จริงๆ แล้วก็เริ่มจากดูแลตัวเองก่อนมากกว่าค่ะ ก็คือเริ่มจากเราสุขภาพไม่ค่อยดีเหมือนคนอื่นๆ ก็เริ่มจากอยากสุขภาพดี อยากทำงานได้ดีมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงาน ในการดูแลตัวเอง ก็เลยเริ่มที่จะดูแลตัวเองในการออกกำลังกาย

ก็เป็นภูมิแพ้ค่ะ แพ้อาหาร แพ้ฝุ่น แพ้ขาแมลง แพ้ไปหมดทุกอย่างเลย ก็เลยรู้สึกว่ามันทรมานมากเลย แล้วเข้าโรงพยาบาลบ่อยจังเลย เป็นเด็กขี้โรคเลยประมาณนั้นค่ะ เลยทำให้แบบหันมาดูแลตัวเองในการทานอาหาร และก็การออกกำลังกายแบบจริงๆ จังๆ เลยค่ะ

เพราะว่าไม่อยากทานยาไปตลอดชีวิตด้วย ตามที่คุณหมอแนะนำ ก็เลยเริ่มออกกำลังกาย ตั้งแต่10 กว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่โซเชียลมีเดียยังไม่ได้มีสอนอะไรในยูทูบขนาดนี้

ก็เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่ง่ายๆ ก่อนเลย ก็เป็นแบบอะไรที่เราชอบ เต้น แล้วก็ไปJogging เสร็จแล้วก็เริ่มเห็นผล ว่าเราแบบก็ดูสุขภาพดีขึ้น ไม่ค่อยต้องไปหาหมอแล้ว ก็เลยเริ่มเข้าฟิตเนสจริงจัง จ้างเทรนเนอร์”


เธอเล่าให้ฟังอีกว่า ย้อนกลับไปสมัยช่วงมัธยมปลาย ตอนนั้นเธอเป็นโรคภูมิแพ้กำเริบหนักมาก หนักจนเธอคิดว่าจะตายแล้ว ตอนนั้นเธอแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนกับวัยรุ่นทั่วไป เพราะต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ

“ความรู้สึกตอนนั้นที่ป่วยหนักๆ ก็เหมือนจะตายเลย เหมือนจะตายจริงๆ คือเหมือนแบบว่า มันรักษาไม่หายสักที ไปอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนแล้ว เราก็รู้สึกกลับไปที่โรงเรียน หรือที่มหา’ลัยก็แบบเพื่อนเรียนไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ แล้วเราต้องไปเรียนกับรุ่นน้อง เราก็เลยรู้สึกว่าอันนี้ทำให้ชีวิตเราหายไปเลย เราไม่มีชีวิตเหมือนคนอื่น ทำไมเราต้องมาอยู่ในโรงพยาบาล นอนมองแต่น้ำเกลือเมื่อไหร่จะหมด มีหมอ มีพยาบาลเป็นเพื่อน

ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลบ่อยกว่าอยู่บ้านอีกครั้ง ที่สุดเลย หลักๆ เลยก็จะเป็นผื่นค่ะ ทำให้เราไม่อยากใส่เสื้อผ้า คือมันกระทบไปหมดทุกอย่างเลยค่ะ แล้วก็ไม่สบายตัว

จริงๆ เราเรียกว่าแพ้ฝุ่น แล้วก็พวกขาแมลงเยอะๆ ก็คือจะหายใจไม่ออก หายใจไม่สะดวก จนเป็นปอดบวม จนแบบว่าต้องพ่นยาบ่อยๆ ก็เลยต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเท่านั้น

ประมาณช่วงมัธยมปลายตอนนั้น ก็คือเริ่มหนักแล้ว มันเริ่มไม่ใช่แล้ว เราก็เริ่มไม่มีเพื่อนแล้ว ก็เลยรู้สึกเหงา รู้สึกว่าอยากอยู่ในสังคมเหมือนเดิม กับเพื่อนๆ อยากมีชีวิต อยากเที่ยวเล่นกับคนอื่น อยากวิ่งเล่นได้กับคนอื่นอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยเริ่มที่จะไม่ได้แล้ว บอกหมอว่าแบบพอแล้ว ไม่กินยาแล้ว ต้องทำไง หมอก็บอกว่า ต้องออกกำลังกาย”


หลังจากนั้น ช่วงอายุประมาณ19 ปี ก็หันมาออกกำลังกายแบบจริงจัง ในตอนนั้น เริ่มออกกำลังกายมาได้15วัน ก็เริ่มรู้สึกเห็นผลแล้วว่า การออกกำลังกายช่วยได้จริงๆเพราะเธอไม่มีอาการแพ้ และไม่มีผื่นขึ้น

“เริ่มดูแลตัวเองจริงๆ ตั้งแต่มหาวิทยาลัยเลยค่ะ น่าจะประมาณอายุ 19 ปี ประมาณนี้เลยค่ะ จนถึงตอนนี้เลย ก็ดูแลมา 10 กว่าปีได้แล้ว ก็ดูแลต่อเนื่อง เพราะว่ามันมีสุขภาพที่ดี แต่ว่าเรื่องรูปร่าง มันตามมา พอเราส่องกระจกแล้วเราเห็นรูปร่างที่ดี มีคนมาติดตามเรา แล้วให้เราแชร์ประสบการณ์ ก็เลยเริ่มแชร์ เข้าสู่การเป็นการเทรนเนอร์เรียกว่าอย่างนั้นเลยค่ะ

จริงๆ รู้สึกได้เลยตั้งแต่15 วันแรก ใช่ค่ะรู้สึกเลยว่า ไม่เหมือนเดิมแล้ว แล้วก็รู้สึกดีในการออกกำลังกายไปเลยค่ะ ก็เรียกว่า ไม่แพ้เหมือนเดิม เริ่มจากแค่ไม่มีผื่นขึ้น ก็ดีใจแล้ว แล้วพอเห็นผลก็เลยเริ่มจริงจังเลย ต่อเนื่องมาตลอด ไม่เคยหยุดเลยค่ะ

ก็เคยคิดอยู่ว่าต้องกินยาไปตลอดเลยใช่ไหม งั้นซื้อมาเป็นแกลลอนเลยแล้วกัน เคยคิดไปแบบนี้เลยค่ะ แต่ตอนนี้คือหาย 100 เปอร์เซ็นต์เลย มานานมาก”


ไม่เคยคิด ว่าจะทำอาชีพเทรนเนอร์ได้

จุดเปลี่ยนจากเด็กขี้โรคในวันนั้น สู่การเป็นเทรนเนอร์ในวันนี้ เธอยอมรับว่า ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำอาชีพเทรนเนอร์ได้
แต่พอหลังจากที่เริ่มแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง และท่าออกกำลังง่ายๆ ให้บรรดาคนในโซเชียลฯ ได้ดู ก็เริ่มมีหลายคนติดต่อเข้ามา อยากให้ช่วยเป็นเทรนเนอร์ดูแลรูปร่าง และสุขภาพให้เยอะมาก

“ตอนนั้นไม่ได้คิดจะเป็นเทรนเนอร์เลย คิดแต่ว่าอยากสุขภาพดีไว้ก่อนเลย ไม่อยากไปหาหมอ ไม่อยากทานยาแล้ว โอเคเราก็ไปเข้าฟิตเนส จ้างเทรนเนอร์ จากที่เราเล่นเองเรื่อยๆ อาจถูกวิธีบ้าง ไม่ถูกวิธีบ้าง ก็เลือกไปเรียน ศึกษาเป็นคอร์สต่างๆ จากอเมริกา ไปเรียนแบบจริงจัง เรื่องของ nutrition เรื่องการออกกำลังกาย แล้วก็มีเทรนเนอร์คอยประกบในการออกกำลังกายเพื่อความปลอดภัย ความถูกต้อง

แล้วทีนี้ พอทุกคนเห็นในโซเชียลฯ ทุกคนก็จะบอกว่า สอนหน่อยได้ไหม อยากหุ่นแบบนี้ อยากมีรูปร่างดี สุขภาพดี เราก็เลยโอเค เริ่มจากให้ก่อนในตอนแรก ก็คือถ่ายท่าออกกำลังกายง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรไปเรื่อยๆ ลงทั้งอินสตาแกรม แล้วก็เฟซบุ๊ก

เราเริ่มจากให้ทุกคน มีอะไรก็แชร์บอก ทุกคนก็ลองทำ จากที่เราได้เรียนมา แล้วก็ประสบการณ์ที่ดูแลตัวเองด้วย แชร์ให้ทุกคน แล้วทุกคนก็บอกว่าให้เปิดสอนเลย เราก็เริ่มเปิดสอน เทรนด์นิ่งออนไลน์ Annex Active

มีคนติดต่อเยอะมากๆ เราก็ดีใจมาก คนติดตามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเยอะมาก ผู้หญิงเขาก็อยากดูแลตัวเอง อยากแบบมีสุขภาพที่ดี อยากมีรูปร่างที่ดีอะไรอย่างนี้ค่ะ”


นอกจากประสบการณ์ 10 กว่าปีที่ดูแลตัวเองมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ครูแอนยังบอกอีกว่า ต้องอัพเดตความรู้ และไปศึกษาเรียนรู้จากที่อื่นๆ ตลอดเวลา เพราะเธอบอกว่าในโลกนี้ มีอะไรให้สนุกๆ ทำอีกเยอะ และเธอยังบอกอีกว่าการดูแลตัวเองไม่ยากเลย แค่บาลานซ์ให้เข้ากับไล์ฟสไตล์ของแต่ละคนเท่านั้น

“ก็ต้องเรียนตลอด ก็คือจะเป็น certified ของอเมริกา คือมันจะต้องอัพเดตความรู้ตลอด ซึ่งมันก็จะมีหมดอายุด้วย เหมือนเราอัพเดตความรู้เรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นท่าออกกำลังกายในส่วนต่างๆ มันมีหลากหลายรูปแบบมากในการออกกำลังกาย

รวมถึงเราก็ลองเล่นด้วยตัวเองเรียกว่าทุกรูปแบบแล้ว โยคะ,พิลาทีส,บอดี้เวท, เวทเทรนนิ่ง เรียนหมดเลย รวมถึงเรียนในเรื่องของเวทล็อค การทานอาหารของคนลดน้ำหนัก ไดเอทในรูปแบบต่างๆ

เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ดูแลตัวเองมา แล้วก็เริ่มเรียน ก็คือเรียนอัพเดตความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา เพราะเรารู้สึกว่ามันมีอะไรสนุกๆ อีกเยอะเลย แล้วก็มีอะไรใหม่ๆ ที่จะมาอัพเดตให้คนในโซเชียลฯ รู้ว่า จริงๆ การดูแลตัวเองไม่ยากเลย แค่บาลานซ์ให้เข้ากับไล์ฟสไตล์ของแต่ละคนเท่านั้น”


อย่างที่เธอบอกว่า เธอให้ความสำคัญมาก กับการบาลานซ์ชีวิต ให้เข้ากับไล์ฟสไตล์ของแต่ละคน เพราะชีวิตคนเรามีเป้าหมายในการออกกำลังกายไม่เหมือนกัน อย่าไปบังคับตัวเองมาก ต้องมีการยืดหยุ่นบ้าง

“ด้วยประสบการณ์ด้วย เราไม่ได้เรียนอย่างเดียว เราใช้ชีวิตด้วย เราก็รู้ว่าผู้หญิงด้วยกันต้องการอะไรด้วย บางทีเขาก็ไม่ได้อยากได้เป๊ะขนาดนั้น ในเรื่องของอาหารก็ไม่ได้อยากจะเป๊ะ แบบไปฟิตมาก อาจจะยืดหยุ่นยังไง บาลานซ์ยังไงให้พอดีกับแต่ละคน
อย่างโปรแกรมการออกกำลังกาย มันก็มีทั้งแบบนักเรียนที่เข้ามาลดน้ำหนัก นักเรียนที่เข้ามาเพิ่มกล้าม เพิ่มน้ำหนัก หรือว่าเป็นผู้ป่วย เป็นโรคต่างๆ เราก็เรียนเพิ่มเติมให้ตรงเป้าหมาย

อย่างที่บอกว่า Annex Active เทรนนิ่งออนไลน์ที่แอนเปิดสอน แอนสอนแบบ one on oneเลย เพราะแต่ละคนเป้าหมายคนละแบบ บางคนอยากลดน้ำหนัก บางคนอยากเพิ่มน้ำหนัก บางคนอยากแบบว่าเพิ่มกล้ามเนื้อ บางคนเก่งมากอยู่แล้ว เป็นนักกีฬามาเลย ต้องการเรื่อง performance ก็เลยต้องเป็นแค่ one on oneเท่านั้นค่ะ”


“ครูแอน” ช่วยลูกศิษย์ฟิตพิชิตโรค

จากเด็กขี้โรคในนั้น เธอสามารถพาตัวเองสู่การเป็นอาชีพเทรนเนอร์ แถมยังนำประสบการณ์ในการออกกำลังกายของตัวเอง มาช่วยนักเรียนของเธอพิชิตโรคต่างๆ ได้หายไปอย่างปลิดทิ้งอีกด้วยเรียกได้ว่านอกจากจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนชีวิตคนอื่นได้อีกด้วย

“นักเรียนแอน มีตั้งแต่อายุ11ปี จนถึง 65 ปีเลย หลากหลายอายุมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง100เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ ที่แอนดูแลอยู่ ก็จะมีป่วย ล่าสุดก็อย่างเช่น คอเลสเตอรอล ไขมันในเลือด เบาหวาน อะไรอย่างนี้ค่ะ พอเขาไปตรวจสุขภาพดูก็คือลดลง มีการเปลี่ยนแปลง แบบเขาก็รู้สึกแบบโอ๊ยเขาไม่ป่วยแล้ว ก็ดีใจเวลาเจอแอนข้างนอก ก็กอดแอนร้องไห้เลยคือเราเปลี่ยนชีวิตเขา

ตอนนั้นเราก็คือจะร้องไห้ตามเลย เพราะดีใจมาก ที่แบบทำให้เขาสุขภาพดีขึ้น ใช้ชีวิตกับลูกหลาน ใช้ชีวิตกับครอบครัวได้เต็มที่แล้ว ฟีลมันเหมือนตอนเราที่กลับมาดีขึ้น แล้วได้มาใช้ชีวิตในสิ่งที่เราอยากทำได้เต็มที่ ได้มีชีวิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ”


สำหรับใครที่สนใจเทรนนิ่งออนไลน์กับครูแอน เธอก็บอกว่า จะมองเป้าหมายของนักเรียนเป็นสำคัญว่าต้องการอะไร จากนั้นจะจัดตาราง และทีมเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด

“เวลาเทรนกับแอนนะคะ เริ่มแรกให้เขาบอกเป้าหมายมาเลยว่า เขาอยากจะลดน้ำหนัก อยากจะเพิ่มน้ำหนัก หรือว่ามีอาการบาดเจ็บตรงไหนไหม แอนกับทีมก็จะจัดตารางออกกำลังกาย ตารางอาหารให้เข้ากับเป้าหมายของแต่ละคนค่ะ

บางคนเขาบาดเจ็บอยู่ อาจจะมีนักกายภาพ ในการดูแลควบคู่กันไปด้วย อะไรอย่างนี้ค่ะในทีมแอนก็มีนักโภชนาการ นักจิตวิทยา แล้วก็วิทยาศาสตร์การกีฬาครบเลยค่ะ”

แชร์ทริก ตื่นตี 5 ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ

สำหรับใครที่อยากหุ่นสวยๆ แบบนี้ ก็เตรียมปากกา สมุดมาจดได้เลย เพราะเทรนเนอร์สาวสวยคนนี้ เธอยังช่วยแชร์ทริกปั้นหุ่นแซ่บๆ ให้อีกว่า ในวันๆ นึง เธอมักจะเขียนแพลนชีวิตไว้ตั้งแต่ก่อนนอนเลยด้วยซ้ำ

“จดได้เลยค่ะ คือเรียกว่าแอนดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มก่อนนอนเลยดีกว่า ก่อนนอนแอนก็เตรียมว่า พรุ่งนี้แอนจะไปไหน ไปทำอะไรใน1 อาทิตย์ การแพลนอะไรอย่างนี้มันก็มีประโยชน์มาก มันอาจจะทำให้เราไม่หลุด เวลาเราหิวมากๆ ประชุมเสร็จดึก เพราะว่าแอนทำงานค่อนข้างเยอะ แอนก็เลยต้องแพลนอาหาร แพลนร้านอาหารที่เราจะไปแถวๆ นั้นก็ได้ค่ะง่ายๆ

อย่างถ้าก่อนนอน แอนก็จะเตรียมอาหารเช้าไว้เลย จะเป็น overnight oats หลังจากนั้น แอนก็จะเอาน้ำมาตั้งหัวเตียงเลย เพราะว่าพอเราตื่นมา เราขาดน้ำไปตั้ง 7-8 ชั่วโมงเลย

แอนก็จะไปนั่งสมาธิ แล้วต่อด้วยจดไดอารี่ พูดกับตัวเอง คุยกับตัวเอง ว่าวันนี้ เราทำอะไรไปแล้วบ้าง เรารู้สึกยังไง เราอยากขอบคุณตัวเองอะไรบ้าง เราปรับปรุงตัวเองอะไรไปแล้วบ้างในอนาคต ก็เป็นการเขียนไดอารี่

ต่อด้วย ขึ้นลู่วิ่งเลยค่ะ ก็คือเดินลู่ก่อนเลย บน treadmillแต่ละวันก็จะสลับไปแล้วแต่ ก็ออกกำลังกาย30 นาทีถึง1 ชั่วโมง แล้วแต่เราว่าจะวางโปรแกรมในสัปดาห์นั้น เดือนนั้น แล้วก็ทานอาหารเช้า

แอนเป็นคนเริ่มต้นชีวิตเร็วมาก คือตี 5 แอนตื่นอัตโนมัติเลย จริงๆ ก็ไม่ได้ใช้นาฬิกาปลุกเลย เรียกว่าใช้แสงแดดในการปลุกตัวเอง ก็คือเปิดม่านรอเลยค่ะ ใช้วิธีนั้นเลย ไม่เคยใช้นาฬิกาปลุก มันอัตโนมัติเองเลย ก็เริ่มต้นชีวิตเร็ว เราก็เลยมีเวลาดูแลตัวเอง ก็ออกกำลังกายเสร็จ ก็ทานอาหารเช้า แล้วก็เริ่มทำงานได้ค่ะ”


เห็นหุ่นสวยๆ เอวบางเฉียบและซิกแพคแน่นขนาดนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าเทรนเนอร์สาวสวยคนนี้ กินหมูกระทะบ้างหรือเปล่า ซึ่งเธอก็ตอบชัดๆ เลยว่า ชอบกินมาก เป็นคนที่กินทุกอย่าง เพราะเป็นคนที่มีความสุขมากกับการกิน

“คนถามเยอะมาก ว่ากินหมูกระทะหรือเปล่า กินฉ่ำ แอนกินทุกอย่างเลย แต่ทุกคนรู้อยู่แล้วแหละว่าของทอด ของมัน ของหวาน แอนก็จะไม่ค่อยชอบทาน ไม่ได้รู้สึกว่าอดทานเหมือนคนอื่นเลย แต่ว่าเราไม่ได้ชอบทานอยู่แล้วด้วย

แต่เราก็ enjoy eating มาก เวลาไปเที่ยว หรือว่าเวลาแพลนร้านอาหารไหน ดูเมนูก่อนเลยว่าวันนี้จะกินอะไรดี วันนี้จะสั่งอะไรดี เวลาไปต่างประเทศ ก็จะจองร้านอาหารก่อนจองตั๋วเครื่องบินอีกค่ะ ชอบมากค่ะ”

อยากหุ่นดี ต้องมีวินัย

นอกจากนี้ เธอยังฝากเป็นกำลังใจ ให้กับคนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายไว้อีกว่า วินัยนั้นสำคัญมากๆ ถ้าอยากหุ่นดี สุขภาพดี ก็ต้องมีวินัย

“จริงๆ อย่างที่บอกเลยว่า อยากให้เราใช้ชีวิตให้เต็มที่ คือสมมติว่าวันนี้แอนมีเงินให้ 24 ล้านบาท แต่ต้องใช้ในวันนี้ให้หมดเท่านั้น ไม่งั้นมันจะหายไป จะใช้ให้แบบคุ้มค่าสุดๆ ไปเลยใช่ไหมคะจนหมด

เหมือนกัน เรามีเวลา 24 ชั่วโมง เท่ากัน แต่ทำไมเราไม่ใช้ให้มันมีค่า คุ้มค่าเหมือนกัน ก็เลยอยากให้ทุกคนลองแบ่งเวลาสักนิดนึง สัก 10 นาทีก็ได้ วันนึงออกกำลังกายสัก 10 นาที พรุ่งนี้เพิ่มอีก 1 นาที ออกทุกวันเลย 7 วัน เพิ่มวันละ 1 นาที ไปเรื่อยๆ เพิ่มความต่อเนื่อง

แล้วก็ฝึกการสร้างวินัยกับตัวเองไปเรื่อยๆ แอนเชื่อว่า 20 วันลองดู แล้ววันที่ 21 ทุกอย่างจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว ลองดูค่ะ กับความต่อเนื่อง ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังแน่นอนค่ะ”

เทรนเนอร์หุ่นปังคนนี้ เธอเชื่อว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย ถ้าพยายามออกกำลังกายบ่อยๆ หมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีแน่นอน

“จริงๆ แอนว่า เวลาเราทำอะไรที่ ซ้ำๆ ต่อเนื่อง แอนว่าผลมันไม่เคยทำให้เราผิดหวังแน่นอน ผลลัพธ์มันออกมาให้เราเห็นตลอดอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่เราทำมาตลอด”

การหุ่นดี หรือสุขภาพดี ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคนอื่นเสมอไป แต่จะให้ดีที่สุดคือ พยายามบาลานซ์ชีวิตการออกกำลังกาย ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากที่สุด

อย่างที่แอนบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องสั่งอาหารคลีน แอนว่าพยายามดูแลตัวเองให้เข้ากับสิ่งที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ของเรา เราไม่ชอบทานอาหารเช้า แอนก็ไม่เคยบังคับให้ทานอาหารเช้า ก็คือเอาที่เราทำอยู่แล้ว มาปรับเปลี่ยนนิดหน่อยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ให้มันดีขึ้น เลือกวัตถุดิบให้เป็น อะไรให้เป็น แค่นั้นก็พอค่ะ”


นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่า ออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากเลย บางทีแค่ขยับตัวบ่อยๆ หรือหากิจกรรมอะไรที่สนุกๆ ทำ บางทีคนเหล่านั้น อาจจะสุขภาพดีมากกว่าคนที่ไปเข้าฟิตเนสก็ได้

“จริงๆ เราก็เหมือนแค่ขยับตัวมากๆ ก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว อย่างเราอยู่ในออฟฟิศ เราพยายามลุกขึ้นเดินบ่อยๆ หรืออะไรที่แบบไม่ได้นั่งนานๆ activity หน่อยอะไรอย่างนี้ค่ะ หรือว่าไปทำกิจกรรม ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน หรือว่าไปเดินนิดนึง แอนว่ามันก็ดีกว่า คนที่เข้ายิมแบบ1 วันต่ออาทิตย์ ฉันเข้ายิม อยู่ในยิมตั้ง 4 ชั่วโมงนะ

แต่อีกคนนึงที่แบบว่า activity มาก เดินไปนู่นไปนี่ เดินลงไปซื้อของเอง เดินไปออฟฟิศ แอนว่าอันนั้นน่าจะแบบว่าหุ่น หรือรูปร่าง สุขภาพน่าจะดีกว่าคนที่อยู่ในยิมนานๆ แค่15 วันอะไรอย่างนี้ ด้วยซ้ำค่ะ”

แฟชั่นนิสต้า แซ่บตัวแม่

นอกจากเป็นเทรนเนอร์ เธอยังเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นนิสต้า ที่แต่งตัวแต่ละครั้ง ทำเอาโซเซียลฯ ไฟลุกแบบไม่มีแผ่วเลยทีเดียว โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ที่มักจะปล่อยลุคที่เรียกได้ว่าเผ็ด เข็ดฟันแบบสุดๆ

ซึ่งเทรนเนอร์หุ่นแซ่บคนนี้ เธอก็บอกว่า เป็นคนที่ชอบการแต่งตัวมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งพอมีรูปร่างที่ดีมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้อยากแต่งตัวมากขึ้นไปอีก

“เรียกได้ว่าชอบแต่งตัว ชอบสนุกกับการถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป อะไรอย่างนี้ค่ะ พอเรามีรูปร่างที่ดี แล้วก็มีผิวพรรณที่สวย เราก็อยากแต่งตัวมากขึ้น ก็สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้นค่ะ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศมีที่สวยๆ ก็เลยอยากแต่งตัวสวยๆ ไปถ่ายรูปอะไรอย่างนี้ค่ะ

คือเรื่องใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ถือเป็นไลฟ์สไตล์เราเลยนะ ที่แบบชอบมาก แอนว่าผู้หญิงหลายคนก็น่าจะเป็นแบบนั้น พอเรามีผิวพรรณ หรือว่ารูปร่างที่ดี ก็อยากใส่อะไรสวยๆ งามๆ ใส่อะไรที่เราชอบ สนุกกับการแต่งตัวมากๆ ค่ะ

(ฟีดแบ็กจากโซเชียลฯ)จริงๆ เขาก็แบบแซ่บมากแม่ อะไรอย่างนี้ค่ะ ก็คือมีหลากหลายคอมเมนต์ มีอยาก cf ชุดเราต่อ มีขอพิกัดชุดอะไรอย่างนี้ค่ะ มีเยอะมากค่ะ ถามว่าซื้อที่ไหน”




สุดท้ายนี้ เทรนเนอร์สาวหุ่นสุดปัง เธอยังฝากไว้อีกว่า นอกจากอาชีพเทรนเนอร์ที่ทำอยู่ตอนนี้ อนาคตเธอกำลังจะทำธุรกิจจากสิ่งที่เธอรักนั่นคือ อุปกรณ์ออกกำลังกาย อาหารเสริม เสื้อผ้า สกินแคร์ เตรียมปักหมุดรอได้เลย

“ตอนนี้หลักๆ จริงๆ แอนก็คือ นำเข้าอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว แล้วก็อาชีพเทรนเนอร์เนี่ยตอนแรกเหมือนเหมือนเสริม แต่ดูแล้วจะเป็นหลักมากกว่า เพราะว่าเราชอบด้วย เราชอบที่จะดูแลตัวเอง ดูแลคนอื่นด้วยค่ะ

แล้วก็ตอนนี้ก็สปอยล์เลยค่ะจะมีทั้งอาหารเสริม อุปกรณ์ออกกำลังกาย แล้วก็เสื้อผ้านะคะ เตรียมรอได้เลยค่ะ แล้วก็ยังมีสกินแคร์ด้วยค่ะ

ทุกอย่างเรียกได้ว่าลองมาหลายปีมากค่ะ จนพี่ๆ แต่ละคนบอกว่าเมื่อไหร่จะออก เมื่อไหร่จะออก เรารู้สึกว่าต้องดีที่สุดจริงๆ คือเราใช้เองด้วย แล้วเราทานเอง ทำเอง ใส่เอง ก็เลยอยากให้ดีที่สุดจริงๆ กว่าจะออกก็นานมาก 4-5 ปีแล้ว

ที่เราคิดสูตร ทำอะไรกันมาค่ะ เรียกได้ว่าอีกไม่นานแล้วค่ะ ใกล้แล้วใกล้แล้ว ปีหน้าค่ะ มีอะไรสนุกๆ แน่นอน”





ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)





@livestyle.official ...จากเป็น "ภูมิแพ้" แพ้อาหาร แพ้ฝุ่น แพ้ขาแมลง แพ้ทุกอย่าง จนทุกวันนี้ "ชนะ" หมดทุกอย่างแล้ว!! @ann.manas... #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #longervideos #tiktokวีดีโอยาว #มากกว่า60วิ #แอนมนัสนันท์ #annexactive #เทรนเนอร์ดารา #เทรนเนอร์ #เทรนเนอร์ส่วนตัว #เทรนเนอร์ออนไลน์ #ออกกำลังกาย #ฟิตเนส #ฟิตเนสที่บ้าน ♬ original sound - LIVE Style


สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : อินสตาแกรม @ann.manas, @annex.active, แฟนเพจ “ANNEX ACTIVE”
ขอบคุณสถานที่ : Jaroenthong MuayThai Khaosan (ถ.พระอาทิตย์)




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น