xs
xsm
sm
md
lg

เจาะเทรนด์ใหม่คนรักสัตว์ “ไก่ซิลกี้” ไวรัลจนธุรกิจบูม!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดแรงบันดาลใจจากความชอบตั้งแต่เด็ก สู่ธุรกิจนำเข้าไก่สวยงามจากต่างประเทศ สร้างธุรกิจแบบครบวงจร เลี้ยง เพาะขยายพันธุ์ ทำตลาดส่งออกต่างประเทศ สร้างรายได้ดี พร้อมศึกษาแนวคิด เทรนด์คนนิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนรู้ใจ



จากความชอบตั้งแต่เด็ก สู่ธุรกิจครบวงจร

“ไก่ซิลกี้ด้วยบุคลิกเขาเหมือนตุ๊กตา ตัวกลมๆ น่ารัก หัวฟูๆ มีขนเหมือนหมา เหมือนแมว เพราะฉะนั้น เขาจะเป็นขวัญใจของเด็กๆ ขวัญใจของสาวๆ หรือแม้กระทั่งคนสูงอายุ

ใครเห็นซิลกี้ชอบหมดเลย เพราะว่าเขาไม่ได้มองซิลกี้เป็นไก่นะ เขามองซิลกี้เหมือนตุ๊กตาตัวนึงอะไรประมาณนี้ ซิลกี้ก็เลยเป็นไก่ที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดเวลา จนปัจจุบันนี้ครับ”

“นิ้ง-ศักดา บรรพจุลจินดา” เจ้าของฟาร์มไก่พันธุ์สวยงามต่างประเทศ “Chicken Town” ที่ตั้งอยู่ ต.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ซึ่งไก่ที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่ไก่ทั่วๆ ไปที่เราจะเห็นบ่อยๆ ตามท้องตลาดๆ ที่เอาไว้กินเท่านั้น แต่ไก่สายพันธุ์ที่ว่านี้ คนนิยมซื้อมาเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง เหมือนกับน้องหมา น้องแมวเลย

ฟาร์มแห่งนี้ ตอนนี้เลี้ยงไก่สายต่างประเทศเกือบ 20 ชนิด ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆในฟาร์มไก่ มีอาหารเครื่องดื่มและกาแฟบริการ และคนที่มาเที่ยวจะได้เล่นกับไก่ ถ่ายรูปกับไก่หลายสายพันธุ์แปลกๆ หลายชนิด เช่น ไก่พันธุ์ซิลกี้ ไก่พันธุ์โปแลนด์ ไก่ยักษ์บราห์มา

และฟาร์มแห่งนี้ ยังถูกห้างสรรพสินค้าชื่อดังต่างๆ ในกรุงเทพฯ ให้นำไก่ไปจัดแสดงโชว์และบรรยายให้ความรู้เป็นประจำทุกเดือน เรียกได้ว่า เป็นฟาร์มไก่ที่ถูกเชิญออกงานมากที่สุดในเมืองไทยเลยก็ว่าได้


วันนี้จะพาไปทุกคนไปทำความรู้จักกับแนวคิดของเจ้าของฟาร์ม พร้อมแรงบันดาลใจในครั้งนี้ของเขา ที่เริ่มจากความชอบเลี้ยงไก่ สู่การทำธุรกิจ แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยง เพาะพันธุ์ ทำตลาดส่ง-ขายไปยังต่างประเทศ จนทำให้ไก่สายพันธุ์ต่างประเทศที่เลี้ยงในประเทศไทย สร้างรายได้เป็นอย่างดี

พี่นิ้งเล่าว่า จากอดีตพนักงานฝ่ายการตลาด ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโครงการพิเศษ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ สังกัดสำนักงานใหญ่ ที่ทำหน้าที่ดูแลกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของเดอะมอลล์ทุกสาขา ที่มาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะความชอบล้วนๆ

“จุดเริ่มต้นของการมาเลี้ยงไก่ ก็คงมาจากสมัยเด็กๆ ครับ คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์มาก แล้วก็มีสัตว์ชนิดนึงที่เลี้ยงไม่เคยขาดเลยก็คือไก่ เพราะว่าเป็นคนถูกโฉลกกับไก่ โดยส่วนตัวเป็นคนเกิดปีไก่ด้วยครับ เราเลี้ยงไก่มาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโตครับ

ผมเริ่มเลี้ยงตั้งแต่อยู่ช่วงประถมเลยครับ ช่วงนั้นน่าจะอยู่ ป.4-ป.5-ป.6 ประมาณนั้น ตอนนั้นถ้าเจอตลาดเลี้ยงสัตว์เมื่อไหร่ หรือเจอตลาดนัดที่เขาขายพวกลูกเจี๊ยบย้อมสี จะขอตังค์คุณแม่ไปซื้อทันที สมัยนั้นน่าจะเริ่มต้นตัวละ2 บาท จุดเริ่มต้นก็เป็นลูกไก่ย้อมสี แล้วก็พยายามสรรหาไก่มาเลี้ยงตลอดเวลา เริ่มจากลูกเจี๊ยบย้อมสี แล้วก็พัฒนาเป็นไก่แจ้ พัฒนาเป็นไก่ชน

พอถึงจุดๆ นึงที่เราโต ทำงาน มีรายได้ประจำแล้ว พอมีฐานะขึ้นมานิดนึง เราก็เลยอยากจะลองศึกษาสายพันธุ์ไก่จากทั่วโลกดู เราไปลองศึกษาดู ไปเสิร์ชอินเทอร์เน็ต เจอไก่ลักษณะแปลกๆ มากมายเลย

[ไก่สายซิลกี้ ไก่สายพันธุ์ต่างประเทศที่นิยมเลี้ยงที่สุด]




แล้วตัวแรกที่ถูกชะตาก็คือ ไก่ซิลกี้ ที่เป็นไก่ประจำชาติของสหรัฐอเมริกา เป็นไก่ที่มีลักษะแปลกๆ ตัวกลมเหมือนลูกบอล แล้วก็มีขนฟูๆ ฟ่องๆ ลักษณะขนไม่เหมือนไก่ทั่วๆ ไป เหมือนหมา เหมือนแมว เหมือนตุ๊กตา เราก็เลยถูกใจเจ้าไก่ตัวนี้ แล้วลองศึกษาหาช่องทางนำเข้ามาเพาะเลี้ยงในเมืองไทยดูครับ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงไก่ ที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศครับ

ตอนนั้นเรามีรายได้จากการทำงานอย่างอื่น นอกจากทำงานประจำแล้ว เรายังมีธุรกิจเพาะหมา เราทำฟาร์มหมาเล็กๆ แต่ว่าเป็นลักษณะรายได้เสริมนะ ไม่ได้จริงจัง แต่ว่าเรื่องของไก่ มันเป็นความชอบส่วนตัว เราก็เลยศึกษาข้อมูลดูจากต่างประเทศ เสร็จแล้วก็ลองหาShipping ให้เขาติดต่อเข้ามาให้ คือปี พ.ศ. 2558 ไก่ซิลกี้ชุดแรกเข้ามาในเมืองไทย


จากโพสต์เล่นๆ จนเกิดกระแสไก่ซิลกี้ฟีเวอร์

จุดเริ่มต้นของธุรกิจจริงๆ พี่นิ้งเล่าให้ฟังว่า เริ่มจากความชอบ และคิดว่าแค่นำเข้ามาเลี้ยงเล่นๆ เพราะชอบเลี้ยงไก่อยู่แล้ว ไม่เคยคิดในมุมธุรกิจเลย แต่พอโพสต์รูปไก่ซิลกี้ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวๆ ดันเกิดกระแสฮือฮา คนคอมเมนต์ในเฟซกันสนั่นหวั่นไหว จนเริ่มปิ๊งไอเดีย นำเข้าเพื่อมาขาย

“วันนั้น เมื่อ 8 ปีที่แล้วนะครับ คนรู้จักซิลกี้ผมว่าไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยนะ บางคนอาจจะเคยเห็น แต่ว่าเห็นในอินเทอร์เน็ต ผมเองก่อนที่ผมจะสั่งผมก็เห็นในอินเทอร์เน็ต ผมค่อยตัดสินใจสั่ง เพราะฉะนั้น พอเราเอาตัวจริงๆ ตัวเป็นๆ มาถ่ายรูป มาถ่ายคลิปในเฟซบุ๊ก สมัยนั้นผมใช้สื่ออนไลน์อย่างเดียวคือเฟซบุ๊ก ยังไม่มีเพจของฟาร์มด้วย

พอเราสั่งเข้ามา มันดันไปเกิดกระแส คือเราไปโพสต์ในโลกโซเชียลฯ ในเฟซบุ๊ก มันดันเกิดกระแส คนดันถามว่านี่คือตัวอะไร ได้มายังไง แล้วก็เราเลี้ยงอยู่เนี่ย เราเลี้ยงเยอะไหม เรามีผลผลิตหรือยัง แล้วคำถามสุดท้ายที่ทุกๆ คนถามผมมาในคอมเมนต์จากในเฟซบุ๊กเนี่ยก็คือ มีลูกไก่ไหม อยากจะได้ อยากจะเลี้ยงบ้างอะไรประมาณนี้ครับ

เวลาเราโพสต์ไก่โชว์ในเฟซบุ๊ก มันจะมีคำถามว่าอยากได้ อยากซื้อ อย่างนี้ตลอดเลย เราก็เลยเกิดไอเดียว่า เราเห็นเขาในอินเทอร์เน็ตเรายังชอบ แล้วเราโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อนๆ หรือคนอื่นที่เขาเห็น เขาก็ชอบกันหมดเลย


กระแสที่ฮือฮาคือคอมเมนต์ที่สนั่นหวั่นไหวที่ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วมันเกิดการแชร์ แชร์กันไปแชร์กันมาเหมือนคลิปไวรัลในปัจจุบันนี้พอมันเกิดกระแส Chicken Fever ขึ้นมา เราก็เลยขยันโพสต์รูปไก่เยอะขึ้น เพื่อเช็คเรตติ้ง

ผมก็เลยเกิดไอเดียว่า จากที่เคยคิดจะเลี้ยงเล่นๆ ก็เลยลองทำแบบจริงจัง เริ่มจาก3 ตัวแรกที่เอาเข้ามาเป็นตัวต้นแบบในการเลี้ยง แล้วหลังจากนั้น เราก็สั่งเพิ่มเข้ามาอีกน่าจะประมาณ 3 ชุด ก็คือ 9 ตัว เพื่อให้มีผลผลิตเพียงพอ ให้กับความต้องการของลูกค้าในประเทศครับ”


ลองผิดลองถูก จากกูเกิล

สำหรับวิธีหรือเทคนิคในการเลี้ยง พี่นิ้งเล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกไม่ง่ายเลย แต่ด้วยความชอบเลี้ยงไก่มาตั้งแต่เด็กๆ ก็เริ่มจากการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็ลองผิดลองถูก อาศัยการสั่งสมประสบการณ์เรื่อยมา จนเริ่มเชี่ยวชาญ

“การศึกษาการเลี้ยงไก่ ในอดีตตั้งแต่สมัยเล็กๆ เราก็อาศัยประสบการณ์ในการเลี้ยง วิธีการดูไก่เจริญเติบโต พัฒนาการของเขา แล้วก็ศึกษาแม้กระทั่งว่า พฤติกรรมแบบไหนที่จะบ่งบอกว่าเขาเจ็บป่วย ซึ่งตรงนี้เราศึกษามาจากการเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโตนะครับ

แต่ว่าพอมาเป็นผู้เพาะพันธุ์ไก่เพื่อการขายเป็นอาชีพ มันต้องศึกษาวิธีเยอะขึ้น ขั้นต้นก็ศึกษาวิธีจากอินเทอร์เน็ต ในลักษณะเชิงลึก หรือแม้แต่กระทั่งที่เราสั่งไก่จากต่างประเทศ จากอเมริกา เราก็จะขอข้อมูลหลายๆ ส่วนจากเขา ซึ่งเขาก็จะบอกในส่วนที่เขาบอกได้ ซึ่งในส่วนที่เขาบอกได้ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับเราพอสมควร

ในส่วนที่เป็นเทคนิคพิเศษของเขา เขาก็ไม่บอกเรา ซึ่งก็ไม่เป็นไร เราก็ศึกษาจากเขา ตามที่เขายินดีจะบอก ข้อมูลวิธีการผสมพันธุ์ การเร่งผลผลิตให้ได้เยอะ หรือแม้แต่กระทั่งการทำสีแปลกๆ ส่วนใหญ่จะได้ข้อมูลจากทาง leader หรือฟาร์มจากต่างประเทศครับผม”

ฟาร์ม “Chicken Town” ตั้งอยู่ ต.ลาดยาว จ.นครสวรรค์




แน่นอนว่าการนำเข้าครั้งแรกของพี่นิ้ง ก็เรียกได้ว่าเจอทุกอุปสรรคมากมาย เพราะไก่นำเข้าจากเมืองหนาว พอมาอยู่ที่ประเทศไทยที่อากาศร้อนๆ ทำให้ไก่ปรับสภาพไม่ได้ ทำให้หลายตัวต้องตายด้วยตั้งใจที่จะนำเข้ามาเพื่อส่งให้ลูกค้าในประเทศ ก็ต้องจบลง แต่แน่นอนว่าพี่นิ้งไม่ยอมแพ้ หาช่องทางอื่นๆ จนได้ นั่นก็คือ การนำเข้าไข่เชื่อ เข้ามาเพาะพันธุ์ในประเทศเอง

“บอกตรงๆ นะครับ ที่นำเข้ามา 3 ชุดด้วยความที่เขาเป็นไก่ต่างประเทศมาจากเมืองหนาว เพราะฉะนั้น การเข้ามาในเมืองไทย การผสมพันธุ์ช่วงแรกๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเขามาจากเมืองหนาว แล้วมาเจอความร้อนในเมืองไทย ทำให้ร่างกายเขาชะงัก ไม่มีพฤติกรรมเรื่องการผสม หรือไม่มีพฤติกรรมเรื่องตัวเมียอยากจะออกไข่เลย มันก็เลยทำให้ ที่เราแบบรับปากลูกค้าไว้ มันเลยเกิดช่วงสะดุดของเราเหมือนกัน

เราบอกตรงๆ เลยว่า ไม่ได้เลี้ยงง่ายๆ แล้วก็มีบางส่วน มีบางตัวทนการปรับสภาพไม่ไหว ทนความร้อนบ้านเราไม่ไหว ก็มีเสียชีวิตไปบ้าง ใน 9 ตัว หลังจากที่ปรับสภาพได้ มีชีวิตอยู่รอดจริงๆ เพียงแค่ 4 ตัวเท่านั้นครับ

เพราะฉะนั้นแผนที่สองของผมก็คือ คุยกับฟาร์มที่อเมริกา ขอให้เขาส่งเป็นไข่เชื้อ หมายถึงว่า ไข่ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างตัวผู้ตัวเมีย นำมาเพาะฟักในประเทศไทยเอง เพราะว่าเราไม่สามารถสั่งให้เขาส่งลูกไก่มาได้ เพราะลูกไก่ค่อนข้างเปราะบาง ถ้าเดินทางไกลข้ามทวีปมา โอกาสตายในการเดินทางสูงมาก เราก็เลยให้เขาส่งเป็นไข่เชื้อมา แล้วก็ใส่กล่องอุณหภูมิที่มีความเย็น เพื่อไข่ที่จะรักษาเชื้ออยู่ แล้วก็จะนำมาเพาะฟักในเมืองไทย”






ทางเลือกใหม่ คนนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง

เจ้าของ ผู้ชื่นชอบไก่เป็นชีวิตจิตใจ เล่าถึงความต้องการของตลาดให้ฟังว่าทุกวันนี้คนนิยมเลี้ยงไก่เป็นสัตว์เลี้ยง เหมือนกับน้องหมาน้องแมวแล้ว ถือเป็นสัตว์เลี้ยงอีกทางเลือก ที่หลายคนกำลังมองหา

“ตอนนี้ปัจจุบันไก่สวยงามถูกนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนหมา เหมือนแมว มีจำนวนคนเลี้ยงเยอะขึ้นมากนะครับ มีฟาร์มที่เกิดขึ้น เป็นฟาร์มที่เลี้ยงในเชิงธุรกิจเยอะมาก และมีในกลุ่มคนทั่วๆ ไปที่เขาเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวอยู่แล้ว มาเพิ่มแนว เราบอกคงไม่ใช่การเปลี่ยนแนว เพิ่มแนว เป็นการเอาไก่เข้าไปเลี้ยงเพิ่มคู่กับหมากับแมวเนี่ย บอกตรงๆ คือเยอะมาก

แล้วออเดอร์ความต้องการ จากกลุ่มคนชอบไก่สวยงามไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ ปริมณฑล มีความต้องการทั่วประเทศเลยครับ เหนือสุด ยันใต้สุดเลยครับ เริ่มสรรหาไก่สายพันธุ์เหล่านี้ไปเลี้ยง เพียงแต่ว่า ใครชอบสายพันธุ์ไหน ใครชอบบุคลิกแบบไหน ก็ว่ากันไป

ถ้าพูดถึงไก่ ทุกคนตีความก็คืออาหารไปหมด เพียงแต่ว่าเมื่อ8 ปีที่แล้ว ที่ผมเริ่มนำเข้าไก่จากต่างประเทศมา คนไม่เคยเห็นไก่แบบนี้มาก่อน ปล่อยเดินสนามหญ้าได้ เอามาอวดกัน เอาอวดโลกโซเชียลฯ ให้มันเกิดคำว่าว้าวได้ ประมาณนั้น มันก็เลยเกิดกระแส Fever ขึ้นมา



[ไก่สายพันธุ์โปแลนด์]
ไก่ซิลกี้ด้วยบุคลิกเขาเหมือนตุ๊กตา ตัวกลมๆ น่ารัก หัวฟูๆ มีขนเหมือนหมา เหมือนแมว เพราะฉะนั้น เขาจะเป็นขวัญใจของเด็กๆ ขวัญใจของสาวๆ หรือแม้กระทั่งคนสูงอายุ

ใครเห็นซิลกี้ชอบหมดเลย เพราะว่าเขาไม่ได้มองซิลกี้เป็นไก่นะ เขามองซิลกี้เหมือนตุ๊กตาตัวนึงอะไรประมาณนี้ ซิลกี้ก็เลยเป็นไก่ที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดเวลา จนปัจจุบันนี้ครับ

ส่วนไก่พันธุ์อื่นที่ผสมนำเข้ามาเพิ่ม เขาก็จะมีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ไก่โปแลนด์ ก็จะตัวยาวๆ เหมือนไก่ทั่วๆ ไปจุดเด่นก็คือ เขาจะมีตรงผมเหมือนไก่ใส่หมวกประมาณนี้ ซึ่งลักษณะแบบนี้ ก็จะเหมาะสมสำหรับคนที่ เป็นคนที่ชอบไก่เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แค่อยากจะหาสายพันธุ์เพิ่ม เพื่อประกอบการเลี้ยงให้สนุกขึ้น

ส่วนอีกสายพันธุ์นึง ตัวนี้เป็นไก่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงอีกด้วยนะครับ เพราะว่าด้วยความที่เขาเป็นตัวใหญ่ ไก่พันธู์นี้เราเรียกว่า ไก่ยักษ์บราห์มา เป็นไก่ที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก แต่ว่าใหญ่แต่น่ารัก ไก่แต่ดูดี มีเสน่ห์ ตัวใหญ่น่าเหมือนเหยี่ยว แล้วก็มีขนขาเยอะๆ ตัวอ้วนปุกปุย มันก็เลยเป็นไก่ที่เกิดกระแสความต้องการ แล้วก็ได้รับความนิยม เป็นอันดับต่อๆ มารองจากซิลกี้เลยครับ”

[ไก่ยักษ์บราห์มา]


สร้างรายได้ครึ่งแสน พร้อมส่งขายต่างประเทศ

นอกจากลูกค้าในประเทศแล้ว ฟาร์มแห่งนี้ ยังได้รับความสนใจจากอีกหลายๆ ประเทศอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศแถบตะวันออกกลาง ก็ยังสนใจสั่งเลี้ยงด้วย

“ส่งต่างประเทศ ทางเราอาจจะยังส่งไปไม่ได้ไกลมากนะครับ ต่างประเทศที่เราส่งได้ง่ายๆ ก็คือประเทศในอาเซียนที่มีพรมแดนติดกับเรา เช่น ลาว เราก็ส่งไปที่ อุบลราชธานีบ้าง หนองคายบ้าง ที่ด่านชายแดน แล้วลูกค้าชาวต่างชาติเขาก็รอรับที่ด่าน หรือไม่เขาก็จะให้บริษัทขนส่ง หรือชิปปิ้งของประเทศเขารอรับ

มาเลซียเราก็ส่งไปที่เบตง พม่าเราก็ส่งไปที่แม่สอด อะไรประมาณนี้ครับ นี่คือวิธีการขายให้กับต่างชาติที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านแบบง่ายๆ ส่วนวิธีที่ลึกกว่านั้น เราส่งไปที่จังหวัดนั้นๆ ของประเทศเลย

ถ้าเราส่งให้เพื่อนบ้านโดยที่ด่านชายแดน เราจะขายราคาเดียวกับคนไทย แล้วค่าขนส่งเราก็คิดราคาเดียวกับคนไทย ซึ่งตรงนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขาแฮปปี้มาก เราไม่ได้บวกราคาเขาเพิ่ม แต่ถ้าให้เรา Service ข้ามชายแดนไปเลย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะคูณสอง ซึ่งตรงนี้ก็มีบางคนที่ยอมสู้ แล้วก็มีบางคนที่ไม่ยอมสู้

ส่วนถ้าเป็นประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้มีพรมแดนติดกับเราเลย ผมจะใช้วิธีการขายด้วยการส่งไปเป็นไข่เชื้อนะครับ เหมือนกับที่เราสั่งจากอเมริกาเนี่ยแหละ คนที่ประเทศอินเดีย ประเทศจีน หรือทางตะวันออกกลาง สั่งไข่เชื้อไก่สายพันธุ์ต่างๆ จากทางฟาร์มผม แล้วก็เพื่อนๆ ที่ทำฟาร์มไก่ด้วยกันเนี่ย ค่อนข้างเยอะ เพราะค่าใช้จ่ายมันไม่แพง แล้วก็การขนส่งสะดวก สามารถเอาไปต่อยอดได้ง่าย โอกาสสูญเสียน้อย ไข่เชื้อไปถึงที่โน่นแล้วขอให้ไม่แตกไม่ร้ายอย่างเดียว เดี๋ยวฟักเป็นตัวเอง”


ส่วนเรื่องรายได้ เจ้าของฟาร์มก็บอกให้ฟังอีกว่า ช่วงนี้ก็มีไม่ต่ำกว่า5 หมื่นบาท ซึ่งมีคนติดต่อเข้ามาสอบถามซื้อทุกวัน
“คร่าวๆ นะครับ เราจำหน่ายลูกไก่ แต่ละสายพันธุ์ราคาไม่เท่ากัน มันเริ่มต้นที่ 200 บาท จนถึงบางชนิดตัวละ1 พันบาท เราผลิตได้เดือนละ 150 ตัวขึ้นไป เพราะฉะนั้นเราจะมีรายได้เฉพาะจากลูกไก่ เดือนละ 2 หมื่น จนถึงเดือนละประมาณ 5 หมื่นบาท

ส่วนไก่วัยรุ่น หรือไก่โต อันนี้นานๆ เราจะจำหน่ายทีไม่ได้บ่อย เพราะว่าเราผลิตให้เขาโตไม่ทัน เราจะมีรายได้จากการขายไก่วัยรุ่นกับไก่โตอยู่ที่เฉลี่ยเดือนละประมาณ 2 หมื่นบาท ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ส่วนไข่เชื้อนี่เราขายเยอะสุด ทั้งที่ฟาร์มเราเลี้ยงเป็ดด้วย ไข่เชื้อไก่กับเป็ดเนี่ย เราขายได้ประมาณก็ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น เฉลี่ยรายได้ของที่ฟาร์ม ก็ 5 หมื่นขึ้นไปทุกๆ เดือนครับ”

ไม่เพียงเท่านี้ ช่วงที่พีคๆ รายได้ของฟาร์มนี้ ในช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัลโควิด-19 เคยได้มากถึงเกือบแสนเลยทีเดียว

“ต้องขอย้อนกลับไปที่ก่อนโควิดเลย ตอนนั้นฟาร์มในเมืองไทยยังไม่ได้มีจำนวนเยอะมาก ตอนนั้นยอดแต่ละเดือนของฟาร์มไม่แสนก็เกือบแสน เฉพาะขายในประเทศนะ ไม่นับต่างชาตินะ เพราะต่างชาติจะเป็นประมาณนานๆ เข้ามาทีนึง ถ้าขายในประเทศไม่แสนก็เกือบแสนตลอด”



เพิ่มมูลค่าไก่ ด้วยเทรนด์การประกวด



“วิธีทำการตลาด วิธีโฆษณาของฟาร์มนะครับ หลักๆ เลยเราจะใช้เพจ หรือว่าเราใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นตัวโฆษณาผลผลิตของฟาร์ม แล้วก็อีกวิธีนึงก็คือ ปัจจุบันศูนย์การค้าใหญ่ๆ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ห้างสรรพสินค้าดังๆ ชอบจัดงานเกี่ยวกับมหกรรมสัตว์เลี้ยงบ่อยมาก


ซึ่งงานประเภทนี้ทุกห้างเขาจะเชิญผมไปออกแสดงโชว์ด้วย ซึ่งมันก็เป็นวิธีที่ดีมาก คือเราเอาไก่ไปแสดงโชว์ จัด display สวยๆ ให้คนที่เดินเที่ยวในห้างได้เห็น แล้วมันก็เกิดความต้องการขึ้นมา เหมือนการออกอีเวนต์ เหมือนการออก road show ทั่วๆ ไปนี่แหละ 


เราเอาไก่ไปจัดแสดงโชว์ ให้ความรู้วันละหนึ่งครั้ง บรรยายบนเวที เราได้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เป็นแบบพวกนักช้อปปิ้ง หรือว่ากลุ่มครอบครัวที่เขาชอบเดินห้างสรรพสินค้าครับ เราได้กลุ่มแบบนั้นเยอะเลย นี่คือการทำการตลาดแบบ road show หรือการออกอีเวนต์


ส่วนวิธีที่สามก็คือการจัดการประกวด จริงๆ แล้วมันไม่เชิงว่าเป็นการตลาด เรียกว่าเป็นการต่อยอดของการเพาะพันธุ์ไก่มากกว่า คือพอมีฟาร์มไก่หลายๆ ฟาร์มมากขึ้น การทำการประกวด มันเป็นการวัดมาตรฐาน หรือว่า เป็นการยกระดับของแต่ละฟาร์มเลย ว่าไก่ของแต่ละฟาร์มว่ามันอยู่ในเกรดไหน ถ้ามันมีมูลค่าทางการตลาด เขาจะขายได้มากขึ้นแค่ไหนถ้าไก่ตัวไหนได้รับรางวัลขึ้นมา ฟาร์มของเขามันก็จะอัพชั้น อัพเกรดขึ้นมาอีกระดับนึง จากที่เคยขายลูกไก่ได้ตัวละ 3-4 ร้อย สามารถขายลูกไก่ได้ตัวละ1 พัน”







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)





@livestyle.official ...คนแรกๆ ที่ริเริ่มนำเข้า "เจ้าไก่ขนฟู" เข้ามา จนปั้นให้เป็นกระแสจากความชอบ... #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #longervideos #tiktokวีดีโอยาว #มากกว่า60วิ #chickentown #ฟาร์ม #สัตว์เลี้ยง #สัตว์เลี้ยงtiktok #คนรักสัตว์ #ไก่ซิลกี้ #ธุรกิจ #SME #ไก่สวยงาม #ไก่สายพันธุ์ต่างประเทศ #ไก่นำเข้า #ฟาร์มไก่ #เลี้ยงไก่ #เกษตรกร ♬ original sound - LIVE Style


สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : แฟนเพจ “Chicken Town Cafe & Farm”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น