xs
xsm
sm
md
lg

เปิดอาณาจักร “คุณป้าบาร์บี้” คอลเล็กชั่นตุ๊กตาหายากกว่า 10,000 ตัว!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีวันนี้เพราะบาร์บี้บันดาลใจ... “สุนัน วิเศษกิจ” นักสะสมตุ๊กตาบาร์บี้ ตลอด 45 ปี ครอบครองบาร์บี้จากทั่วโลกกว่า 10,000 ตัว อลังการจนประเมินค่าไม่ได้ “พอถึงเวลาที่เราได้มา มันก็เป็นอะไรที่สุดยอดในชีวิตแล้ว”




จากแค่มอง จนได้ครอบครองนับหมื่นตัว

“เราก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ชอบอะไรที่สวยๆ งามๆ เหมือนกับเราไม่สามารถทำได้ ก็ใช้ตุ๊กตาเป็นสื่อแทนว่าเราใส่ชุดนี้นะ อย่างบาร์บี้ที่เป็นใส่ชุดแต่ละประเทศ มันก็เหมือนกับว่าเราใส่ชุดนี้ แล้วได้ไปเที่ยวประเทศนี้ เพราะหลังกล่องตุ๊กตาเขาจะมีรายละเอียดว่าประเทศนี้ มีวัฒนธรรมอย่างนี้ มีพื้นที่อย่างนี้ ให้รายละเอียดหมด เหมือนกับเราได้ไปเที่ยว ให้ความรู้ด้วย

เป็นของรักของหวง (หัวเราะ) แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจที่จะให้มีกำลัง หรือว่ามีความสุขที่จะได้อยู่กับเขาต่อไปนานๆ (มุมมอง) เปลี่ยนไปก็คือมีความสุขมากขึ้น เพราะว่าเราได้มาครอบครองจริงๆ ไม่ใช่ได้แต่มอง เพราะเมื่อก่อนก็คือได้แต่มอง สักวันนึงนะ แต่พอถึงเวลาที่เราได้มา มันก็เป็นอะไรที่สุดยอดในชีวิตแล้ว ความฝันเป็นจริงแล้ว”

“สุนัน วิเศษกิจ” หรือ “คุณป้าตุ๊กตา” วัย 72 ปี กล่าวด้วยรอยยิ้ม



ปัจจุบัน นอกจากเธอจะเป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลนานาชาติย่านเอกมัยแล้ว อีกบทบาทที่ทำให้ชื่อของคุณป้าท่านนี้เป็นที่รู้จักคือการเป็น “นักสะสมตุ๊กตา” โดยเฉพาะ “บาร์บี้ (Barbie)” ตุ๊กตาสาวสวยชื่อดัง ขวัญใจเด็กผู้หญิงทั่วโลก ที่มีอยู่ในครอบครองนับหมื่นตัว!!

คุณป้านักสะสม เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ตนเองก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปที่ชื่นชอบการเล่นตุ๊กตา ด้วยความสวยและแตกต่างของบาร์บี้ ก็ทำให้เธอตกหลุมรักตุ๊กตานี้อย่างหมดหัวใจ

แต่ด้วยราคาของเล่นที่สูงเกินกำลังตัวเองในยุคนั้น เด็กสาวที่ชื่อสุนัน ทำได้เพียงแค่มอง...

“ที่มาที่ไปก็คือเริ่มจากตัวเองตอนเกิดมา คุณพ่อบอกว่าหน้าตาเหมือนตุ๊กตา ก็เลยตั้งชื่อให้ว่า ตุ๊กตา ความที่เราเป็นผู้หญิงก็เลยชอบเล่นตุ๊กตา สมัยนั้นพ่อพาไปงานวัด พ่อก็จะซื้อตุ๊กตานุ่งกระโปรงด้วยกระดาษย่น ที่เขาแขวนขายตัวละ 2 บาท 5 บาท พอไปโรงเรียนก็วาดตุ๊กตากระดาษที่ตัดชุดใส่เสื้อผ้า ก็เล่นมาตลอด

จนขึ้นมัธยมมาเจอบาร์บี้ที่ตลาดปีนัง มีความรู้สึกว่า อืม… มันไม่เหมือนตุ๊กตาทั่วไปที่เราเคยเจอ วัสดุที่เขาทำผิว มันดีและมีน้ำหนัก น่าจับต้อง น่าเล่น ก็ได้แต่ดู เพราะสมัยนั้นเราไม่มีตังค์เหลือพอที่จะซื้อ แต่ถ้ามีเวลาได้ไปก็ไปดูตลอด

น่าจะประมาณปี 2515 (บาร์บี้) ตัวละร้อยกว่าบาท ร้อยนึงสมัยนั้นก็คือเยอะมาก คิดดูก๋วยเตี๋ยวชามนึง 5 บาท ได้ไปโรงเรียนแค่วันละ 2 บาทเองนะ ค่ารถเมล์รู้สึกจะ 50 สตางค์ ทองบาทนึง 400 บาท



พอเริ่มทำงาน แล้วเซ็นทรัล ห้างอมร ห้างไดมารู เขาก็มีเข้ามาขาย ซื้อบ้างแต่ก็ซื้อตอนที่เขา Sale ซื้อตัวที่เด็กเล่นถูกๆ ตัวนึง 200-300”

ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกับบาร์บี้ ตุ๊กตานี้ก็อยู่ในใจมาตลอดไม่เคยไปไหน กระทั่งเธอได้เดินทางไปต่างประเทศและเจอเข้ากับบาร์บี้ที่สวยงามแปลกตากว่าที่เคยเห็นมา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักสะสม มาจนถึงทุกวันนี้

“แต่พอปี 2521 แต่งงาน คุณสามีพาไป Honeymoon ที่ฮ่องกง เขาก็พาไปเที่ยวที่นู่นที่นี่ จนไปร้านขายของเล่นเด็ก Toys ‘R’ Us พอเข้าไปเดินไปเจอบาร์บี้สวยแบบบ้านเราไม่มี เป็นตัวที่แต่งตัวสวยๆ แพงๆ ที่อยู่ในตู้ตัวแรก ชุดสีชมพูสด คือตัวแรกที่ซื้อมาจากฮ่องกง แล้วก็ยังมีตัวอื่นที่เป็นเด็กเล่นก็ซื้อมา

สมัยนั้นเมืองไทยมีแต่ใส่เสื้อธรรมดา นุ่งกางเกงขาสั้น-ขายาว หรือว่าใส่ชุดว่ายน้ำแค่นั้นเอง ไม่มีที่ชุดสวยๆ พอเจอตัวแรกก็คิดแล้วว่า อ๋อ… บ้านเราไม่มีแต่ที่เมืองนอกมี แล้วข้างหลังกล่องเขาจะมีเว็บไซต์ว่าบริษัทนี้ติดต่อยังไง เราก็พยายามเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ต แต่สมัยนั้นก็ยังไม่เก่ง ก็ได้แบบงูๆ ปลาๆ ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง

พอเราออกจากที่ทำงานเก่า ตอนนั้นเป็นครูอนุบาลธรรมดาโรงเรียนไทย แต่พอได้มาซื้อกิจการโรงเรียนนานาชาติแล้วก็เปิดทำของตัวเอง เหมือนกับรายได้เราก็เยอะขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้นก็บินไปสิงคโปร์



เพราะเพื่อนบอกว่าที่สิงคโปร์คือแหล่งใหญ่ มี Dealer (ตัวแทนจำหน่าย) จากบริษัทแม่ส่งเข้ามา แล้วในห้าง Takashimaya ที่สิงคโปร์ก็เป็นร้านใหญ่มาก ที่เอาบาร์บี้ตัวสวยๆ เข้ามาเยอะ ก็ไปได้จากตรงนั้นมาเยอะเหมือนกัน

ตั้งแต่นั้นมา พอแต่งงานก็เหมือนกับมี Support ก็เลยซื้อมาเรื่อยๆ คุณสามีก็ไม่ได้ห้าม เขาก็ตามใจเรา เพราะเห็นว่าอะไรที่เราชอบ อะไรที่เรารัก เขาก็ชอบเขาก็รักด้วย เขาก็สนับสนุนมาตลอด บ้านหลังนี้เขาก็สร้างให้”

ถามถึงมูลค่าของตุ๊กตาบาร์บี้ที่มีอยู่ในครอบครอง เธอนิ่งคิดก่อนจะตอบว่า ไม่สามารถประเมินได้ เพราะส่วนใหญ่ราคาที่ได้มากับราคาในปัจจุบัน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ถ้าเป็นบาร์บี้ทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ก็ประมาณ 10,000 ตัวได้ค่ะ (ถ้าให้ประเมินมูลค่าทั้งหมด) เอ่อ… ยากค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าบางตัวราคามาห้างฯกับราคาที่เขาขายกันคนละเรื่อง เขาออกมาตลอด ออกมาเรื่อยๆ พยายามตามบริษัทแม่

เมื่อก่อนอาจจะมีเวลาเยอะเพราะว่าลูกไปโรงเรียน เราก็ทำงาน แล้วโรงเรียนก็ไม่ได้ยุ่งเหมือนสมัยนี้ แต่ตอนนี้คือยุ่งมาก มีหลานเข้ามาอีก แล้วหลานก็ติดยาย ต้องไปรับไปส่ง เวลาที่เราจะมาดูแลพวกนี้ก็หนักหนาสาหัสเหมือนกัน บางทีเหนื่อยก็ไม่ได้ตามก็มี”

บ้านตุ๊กตาประเมินค่าไม่ได้

ทันทีที่ได้ก้าวย่างเข้ามาภายในบ้านตุ๊กตา 2 ชั้นหลังนี้ ทีมข่าวก็ถึงกับตกตะลึงในความอลังการ เพราะนอกจากบาร์บี้กว่าหมื่นตัวแล้ว ยังมีตุ๊กตาอีกหลากหลายชนิดอวดโฉมกันอยู่ในตู้กระจก บ้างก็เรียงรายเต็มแนวกำแพง นี่ยังไม่นับรวมกับที่ยังไม่ได้เอาออกมาจัดเรียงอีก เรียกได้ว่าที่นี่คืออาณาจักรตุ๊กตาย่อมๆ ก็ว่าได้

“จริงๆ ชอบตุ๊กตาที่หน้าตามันสะสวย อย่าง ชัคกี้ (Chucky) อย่างนั้นไม่ซื้อ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นตุ๊กตาไม่ว่าจะเป็น มิกกี้ เมาส์ (Mickey Mouse) หรือว่า แคร์แบร์ (Care Bears) ที่หน้าตาน่ารักๆ ก็จะซื้อตลอด ก็คือเก็บมาพร้อมๆ กัน

แต่ว่าบาร์บี้จะมาอันดับหนึ่ง บาร์บี้ (Barbie) แอนิเมเตอร์ (Disney Animators' Dolls) แล้วก็ พูลลิป (Pullip) ที่ซื้อเพราะว่าเสื้อผ้าเขาทำดีสวย แล้วก็ราคาไม่สูง แต่พอมาหลังๆ นี้คนเล่นเยอะ ราคาหน้ามืด ไม่ได้ซื้อเพราะมันโอเวอร์เกินไป


[ ตุ๊กตาบลายธ์ (Blythe) ที่มีจนเป็นกำแพง ]
แต่อย่าง บลายธ์ (Blythe) ไม่ได้สะสมเลยตั้งแต่แรก แต่ที่มีเพราะว่ามีคนเขาเทขาย แล้วมีน้องเขาบอกว่าพี่สุนันชอบเก็บตุ๊กตา ผมให้เขาขายให้พี่ดีกว่า ถ้าขายให้พี่ พี่เก็บอย่างเดียว ไม่ขายต่อคนอื่น

เขาก็เลยให้คนนั้นมาขายให้เรา เราก็เลยได้ในราคาถูก เราก็บอก โอเค… ไหนๆ เราก็เล่นตุ๊กตาแล้วมีไว้บ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ปรากฏว่าไม่ได้มีบ้าง มีเป็นกำแพงเลย (หัวเราะ)”

ในส่วนของตุ๊กตาบาร์บี้นั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะส่วนใหญ่ขึ้นชื่อว่าเป็น Rare Item ที่ทั้งมีจำนวนน้อย หายาก แถมยังเป็นรุ่น Limited edition

“อย่างที่เป็น Silkstone (วัสดุที่ใช้ทำผิวบาร์บี้ที่ตกแตกได้) หลายตัวก็โอ้โห... กว่าจะได้ ตามแล้ว ตามอีก ไม่รู้จะได้ไหม ก็ลำบาก


[ 3 สาวสุด Limited ]
อย่าง 3 ตัวนี้เป็น Collection เดียวกันแต่ว่าออกมาคนละปี ตัวแรก คือตัวที่ผมเหมือนเขา แล้วก็ตัวที่สองสีส้ม แล้วก็ตัวสุดท้ายคือตัวนี้ ชุดสีขาวดำ Valentino ซื้อมา 2,000 กว่าบาท แต่ตอนนี้ 150,000 แพงเพราะ 1.คนออกแบบ 2.มีจำนวนน้อย 3. เขาออกแบบมาเพื่อหาเงินช่วยเหลือเด็กที่ลำบากยากจนทั่วโลก แล้วหลังจากนั้นที่เขาออกมาอีกก็ตามไม่ทัน

อย่าง Guo Pei (บาร์บี้ในชุดคลุมสีทองปักลาย) คิดว่าไม่ได้แล้ว เพราะว่าที่บริษัทบอกว่าเป็นเมมเบอร์ถึงจะเข้าไปได้ คือไม่ได้เข้าไปดูมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน เพราะว่าตั้งแต่โควิดมาโรงเรียนยุ่ง เรื่องมันเยอะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่สบายๆ คิดว่าคงไม่ได้แล้ว เพราะว่าถ้าเป็นเมมเบอร์ไม่ใช่เราคนเดียว เมมเบอร์เขาก็มีเยอะ

แต่ลูกสาวบอกว่า ไม่เป็นไรแม่ ลองจองเข้าไปดูก่อน ถ้าได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็ช่างมันนะ ก็บอกโอเคๆ ไม่ได้ก็ไม่ได้ก็เข้าไปจอง ปรากฏว่าทัน เขาส่งมาให้วันที่เปิดบ้านใหม่พอดี โชคดีมากตัวนี้ได้มา (ไม่เกี่ยงราคา?) เท่าไหร่ก็เอาค่ะ แต่ถ้าออกมาแล้วเราไม่ได้ แล้วเขามาปั่นราคาเกินไป ก็ไม่เอา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่ายังไงก็ต้องได้ ไม่ถึงขนาดนั้น”


[ บาร์บี้จาก Collection Guo Pei ]
และกว่าที่จะได้บาร์บี้รุ่นหายากมาสักตัว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณป้าตุ๊กตาก็ต้องแย่งชิงให้ได้มา ไปพร้อมๆ กับแฟนบาร์บี้ทั่วโลก

“เมื่อก่อนไปเที่ยวต่างประเทศก็จะถามพนักงานข้างล่าง Information ว่าชั้นไหนเขามีของเล่นเด็กขาย ก็จะตรงดิ่งขึ้นไปเลย แล้วก็ไปดูว่ามีตัวไหนที่เรายังไม่มีจะซื้อกลับมา

บางตัวประเทศนี้เข้า แต่ประเทศนี้ไม่เข้า อย่างประเทศไทยไม่เข้าเลย เคยถามบริษัทที่เขานำเข้าว่าเพราะอะไร เขาบอกว่าบริษัทแม่เขาไม่ให้ ก็เลยเอามาไม่ได้ ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นอยู่ บางตัวเขาก็ให้ บางตัวเขาก็ไม่ให้ มันก็แปลก แต่กับสิงคโปร์มีทุกตัว สิงคโปร์คนเก็บสะสมบาร์บี้มีเยอะมาก

มีบางตัวที่เขาให้เข้าไปจอง สมมติว่าเที่ยงคืนจะออกตัวนี้นะ ทุกคนก็จ้อง แต่ว่าไม่ได้ออกมาหมื่นๆ แสนๆ มีแค่ 500 ตัว มีแค่ 250 ตัว สมัยนั้นเรายังแบบว่าอายุน้อยอยู่ ความที่แบบนอนดึกได้ ว่องไวอะไรอย่างนี้”


[ บาร์บี้เนื้อ Silkstone ]
นอกจากนี้ คุณป้าตุ๊กตา ยังได้นำของสะสมสุดรักไปจัดแสดงตามโอกาสต่างๆ เพื่อให้แฟนบาร์บี้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

“เมื่อตอนครบรอบ 60 ปีบาร์บี้ ที่ EmQuartier เขามีงานใหญ่ อันนั้นก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอันนึงเหมือนกัน ที่ได้เอาไปโชว์ มีน้องรุ่นๆ หลายคนเข้ามาทักทายกับเราว่า ‘คุณป้าเป็นเจ้าของใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะที่เอามาโชว์ให้พวกเราดู เพราะว่าสวยๆ แบบนี้หนูไม่เคยเห็น’ คือดูใน Facebook ในอะไร แต่ว่าของจริงไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปัน เราก็รู้สึกก็คิดถูกเหมือนกันที่เอามาแชร์ให้เด็กๆ รุ่นใหม่ดู

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีห้างฯโทร.มาว่าเขาจะจัดงานใหญ่ จะขออนุญาตเอาตุ๊กตาไปโชว์ 15 วัน เขาจะมารับตุ๊กตาไปทำเอง เสร็จแล้วจะเก็บส่ง เราก็บอกเขาขอความกรุณาเถอะ เราไปช่วยจัดโชว์ให้ได้ ที่เอาไปโชว์ไม่เคยได้เงิน แต่ขอเราเป็นคนทำเอง เพราะเรารู้ว่าเขาใส่รองเท้าแบบไหน ดอกไม้ของคนนี้ หรือว่า accessories ของคนนี้จะต้องอะไร ซึ่งคนที่ไม่ได้เล่นจะไม่รู้

ถ้าอย่าง EmQuartier เขาเอาไปโชว์ คือเรา 2 คนเท่านั้น (คุณป้าและลูกสาว) ที่จะเป็นคนจับเข้าตู้ แล้วก็จับออกจากตู้ เพราะเคยมีที่ห้างห้างหนึ่งเอาไปจัดโดยที่เราไม่ได้ไป ไข่ทองคำของตัวชุดสีน้ำเงินหาย มันเป็นไข่ใบเล็กๆ

เขาก็บอกเขาเก็บมาครบ ถามว่าเราจะไปเอาจากใคร มันคือตุ๊กตา ใช่ แต่อย่างที่บอก หาไม่ได้แล้ว หรือหาได้คุณกล้าซื้อมาใช้ฉันไหมเวลานี้ 150,000 คุณยอมไหม เราก็อธิบายเขาฟัง เขาก็เลยบอกโอเคงั้นไม่เป็นไร”

ผูกพันเกินกว่า “ตุ๊กตา” กับ “เจ้าของ”

ความรักของคุณป้าตุ๊กตาที่มีต่อบาร์บี้ ยังถูกส่งต่อไปถึงลูกสาว จะเรียกได้ว่าเป็นคนที่เติบโตมาพร้อมๆ กับบาร์บี้ก็ว่าได้ ซึ่งปัจจุบันผู้เป็นลูกสาว ก็ได้เข้ามาช่วยคุณแม่ ในการตามเก็บบาร์บี้รุ่นที่ต้องการ รวมไปถึงดูแลตัวที่มีในกรุสมบัติอีกด้วย

“ถ้าเป็นพวก collectible จะไม่ได้เล่น อย่างพวกตัวสวยๆ ที่อยู่ในกล่องจะไม่ได้เล่น ก็คือแกะแล้วเข้าตู้เลย รักทุกตัว จับต้องถูกตัว เพียงแต่ว่าบางตัวเข้าตู้ไปแล้ว จบ บางทีมือเราไม่สะอาดมือ เรามีเหงื่อหรือมีสารเคมี เสื้อผ้าอาจจะเปลี่ยนสีได้

เล่นแล้วมีความสุขที่สุดตอนที่ได้ชุดใหม่มา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จับเขาหวีผม แต่งตัว ใส่รองเท้า พวกชุดว่ายน้ำก็จะมีหลายตัวก็จะถอดชุดว่ายน้ำออกแล้วก็ตัดชุดให้ใหม่ ตัดเอง ปักเอง เป็นคนชอบสีขาว ชอบชุดแต่งงาน ก็เลยจะมีชุดแต่งงานเยอะหน่อย ก็เป็นความสุขอันนึง เราไม่ใช่ช่างตัดเสื้อ เรียนมานิดหน่อยสมัยเด็กๆ แต่สามารถตัดเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาของเราใส่ได้



แต่ที่เล่นแล้วเกิดประโยชน์ ก็คือตอนเล่นกับลูกสมัยที่เขายังเด็กๆ จะมีบ้าน มีสระว่ายน้ำ มีโต๊ะทานข้าว มีตัวเล็กๆ ลูกก็จะเล่นเอาน้องไปอาบน้ำ เอาบาร์บี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปเที่ยว มีรถขับ มันก็เป็นการสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์กับลูก

ทำให้เราเองก็ได้ใกล้ชิดกับลูก ลูกก็ได้ใกล้ชิดกับเรา มันก็ดี ตอนนี้เราแก่แล้ว ความทรงจำอะไรต่างๆ บางทีชื่ออะไรนะตัวนี้ เขาจะจำได้ดีกว่า เขาก็เป็นคนช่วยจัด ตอนนี้เขาหวงยิ่งกว่าแม่หวงอีก (หัวเราะ)”

นอกจากจะเป็นของสะสมอันทรงคุณค่าแล้ว ตุ๊กตาบาร์บี้ ยังเป็นความสุข เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแรงผลักดัน ให้คุณป้าท่านนี้ต่อสู้กับทุกอุปสรรคที่เจออีกด้วย

“จริงๆ แล้วมันเป็นความสุขของเราอย่างนึง ที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักและชอบ โดยที่ว่ามันมีแรงบันดาลใจด้วย บางทีเราทำงานเหนื่อย มันท้อ ไม่อยากจะทำแล้ว อยากจะเลิกทำ



แต่พอกลับมาบ้านมาเจอ ได้เห็น ได้มาจับ มาลูบ มาคลำ ความรู้สึกถ้าเราหยุดทำงาน เราก็ไม่มีตังค์ที่จะมาซื้อพวกเขาต่อได้อีก ทำอะไรมันก็มีอุปสรรคทั้งนั้น ก็โอเคกัดฟัน อดทน ทำงานดีกว่า ทำต่อไป

แล้วก็ทำให้มีเพื่อนเยอะขึ้น เมื่อก่อนเราแทบจะไม่มีเพื่อนเลย แต่พอมาอยู่ในกลุ่มตุ๊กตา คนโน้นคนนี้เล่น เราไม่ได้แบ่งชั้นก็คือเล่นกับทุกคนได้หมด ก็เลยทำให้มีเพื่อน มีกลุ่มที่แชร์ประสบการณ์ ได้รู้จักคนเยอะขึ้น ได้รู้จักชีวิตเยอะขึ้น บางทีไปที่ร้าน เธอก็มาซื้อ คนนี้ก็มาซื้อ ก็จะคุยกันว่าพี่มีตัวนี้หรือยัง ตัวนี้ดีนะ ก็คือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เป็นเพื่อนกัน

บางคนทำเป็นอาชีพเลย ทำเสื้อผ้าบาร์บี้ขายทางออนไลน์ทาง eBay หลายคนได้อาชีพจากการที่เล่นบาร์บี้ด้วย มีบางคนที่ซื้อบาร์บี้มา พอราคาสูงเขาก็ปล่อยขายก็มี ทำรายได้ แต่สำหรับพี่มีความรู้สึกว่าของของเรายังไงก็ไม่ขายให้ใคร”

ถามต่อว่า ในอนาคตวางแผนจะเปิดบ้านให้คนที่ชื่นชอบตุ๊กตาเข้ามาเยี่ยมชมหรือไม่ นักสะสมวัย 72 ปีก็ให้คำตอบว่า ตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น



“ที่นี่กะว่าจะทำแล้วก็เปิดให้คนเข้าดู แต่ทีนี้คือเรื่องความที่เราทำงาน มีเวลาว่างก็คือวันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้น ลูกเขาก็ทำงานด้วยแล้ว เราก็ค่อยๆ ทยอยทำไปเรื่อยๆ ก็ไม่เสร็จสักที ยังมีอีก 3 ห้องที่ยังไม่ได้เอาของแกะออกมา เพราะฉะนั้นกะว่าจะให้เสร็จพร้อมจริงๆ มันจะเปิด แต่มันก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

หลายคนที่รู้จักกันก็บอกว่าเมื่อไหร่จะให้มาสักที ก็บอกใจเย็นๆ มาได้ตอนนี้ แต่บอกตรงๆ ว่ายังไม่พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าของยังมาได้ไม่หมด จริงๆ ไม่ได้ห่วงถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าดูแต่ตา มืออย่าต้องแค่นั้นเอง

วันก่อนก็มีนิสิตจากมหาสารคามมาขอถ่าย เราก็ให้เขาถ่าย ไม่ได้คิดเงิน ไม่ได้มีค่าอะไรเลย น้องอยากถ่าย น้องก็ถ่ายคือเราไม่ได้อยากจะดังนะคะ เพียงแต่ว่าอยากจะมาเที่ยว อยากจะดู อยากจะสัมภาษณ์ ได้ ไม่มีปัญหา แต่ไม่ใช่ตามใจเธอ ต้องตามใจเรา เพราะว่าเราทำงาน ถ้าจะมาวันธรรมดาเราก็ไม่สะดวก เราก็พูดกันตรงๆ ถ้าคุณรับได้ก็โอเค ไม่มีปัญหา

เรามีความสุขมากขึ้น อย่างที่คุณสามีเขาทำบ้านนี้ให้ เขาเห็นว่าเรามีความตั้งใจจริงที่อยากจะเก็บให้มันเป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็เผื่อแผ่ให้กับคนอื่นได้ดู มันก็เห็นความรักที่เขามีต่อเรา แล้วก็ทำให้เราอยากจะเผื่อแผ่ความรักนี้ต่อไปให้คนอื่น”

ชุบชีวิตใหม่ ให้ของเล่นเก่า

และแล้วก็มาถึงอีกส่วนสำคัญ นั่นก็คือ “การดูแลรักษาตุ๊กตา” ที่ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อยืดอายุให้คงความสวยงามได้ยาวนานยิ่งขึ้น

“อย่างที่บอก ถ้าเป็นพวก collectible ตัวสวยๆ ดีๆ จะไม่เล่นเลย มือจะล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แกะ แล้วก็เก็บเข้าตู้ไปเลย แต่ถ้าตัวที่เล่นเป็นตัวที่ไม่แพงมาก ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าง่ายๆ เขาเรียกว่า play line หรือว่าเป็นเบสิก พวกนี้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ไม่มีปัญหา อาจจะใช้ผ้าเปียกที่เราใช้เช็ดมือเช็ด

หรือถ้าเขามอมแมมมากๆ ก็จะใช้พวกโฟมล้างมือใส่กับฟองน้ำที่เราซื้อใน Daiso เช็ดทำความสะอาด แล้วก็ผมถ้ามันสกปรกมากเราก็สามารถสระได้ สระไม่ต้องไดร์ก็ได้ ผึ่งลมให้แห้งแล้วก็หวี อาจจะใส่ oil นิดหน่อยเพื่อให้ผมมันนิ่มสลวย

ถ้าเข้าตู้ไปแล้วแทบจะไม่ได้เอาออกมาทำความสะอาดเลยค่ะ ถ้าเอาออกมาทำความสะอาดคือเรื่องใหญ่ อย่างที่บอกว่าเก็บก็คือจะปิดบ้านให้หมด เวลาทำความสะอาดก็ใช้เครื่องดูดฝุ่น เอาผ้าลูบรอบๆ ถ้าปิดอย่างนี้ฝุ่นก็จะไม่ค่อยมีเท่าไหร่

แล้วก็ต้องปิดกันแสงเข้า ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เปิด เพราะว่าถ้าแสงเข้ามา เสื้อผ้าอาจจะโดนแสงแดด สีก็จะเปลี่ยน ถ้าร้อนมากๆ ก็เปิดแอร์ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ร้อนก็จะเปิดหน้าต่าง ลมก็จะระบาย ก็โอเค”

ขณะเดียวกัน แม้จะเก็บรักษาอย่างดีแล้ว แต่ด้วยระยะเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของบ้านเรา ก็ทำให้วัสดุของตุ๊กตาเสื่อมสภาพลงอย่างเลี่ยงไม่ได้



“อย่างตัวสีขาว นานมากตัวนี้มากกว่า 60 ปี เก็บอยู่ในกล่อง เพราะมันเป็นตัวเก่ายังไม่ได้แกะออกมา เหมือนกับอาจจะบ้านเราร้อนด้วย แล้วอยู่ในกล่องยิ่งอบ ตอนรื้อออกมาจากกล่องตามันก็เลยไหลเยิ้มเละเทะไปหมดทั้งหน้า แกะกล่องออกมาตกใจมาก บอกตายแล้ว เสียดายเพราะว่าตัวนี้ตัวเก่ามาก หาไม่ค่อยได้แล้วด้วยสมัยนี้

ก็เลยถามน้องที่เขาเพ้นท์หน้าตุ๊กตาว่าแก้ได้ไหม เขาก็บอกพี่ลองส่งมาดูนะครับ ผมจะพยายามดูให้ แต่อาจจะไม่เหมือนเดิมนะ เราก็บอกไม่เป็นไร เพียงแต่ว่าขอให้หน้ากลับมาดูดี ไม่เละก็แล้วกัน ปรากฏว่าสวยกว่าเดิม ถ้ารุ่นใหม่ๆ จะไม่เป็น อันนี้มัน 50-60 ปีมาแล้ว มันก็เสื่อมสภาพไปตามกาลและเวลา มีบางตัวที่ซื้อย้อนไป มันก็เลยจะอย่างนี้

นี่ยังเอาเสื้อผ้าเขามาใส่ไม่ครบมีรองเท้ามีหมวกด้วย พอดีตอนที่ส่งไปทำน้องเขาบอกไม่ต้องเอาของ accessories เขามาเดี๋ยวผมทำหาย พี่เก็บไว้ที่บ้าน เก็บไว้ที่บ้านเองก็ไม่รู้ว่าเก็บไว้ตรงไหน (หัวเราะ)”

นอกจากจะดูแลตุ๊กตาที่มีในครอบครองเป็นอย่างดีแล้ว หากไปบังเอิญเจอเข้ากับตุ๊กตาบาร์บี้มือสองสภาพเก่า คุณป้านักสะสมก็จะพาพวกเธอกลับบ้าน เพื่อนำมาแปลงโฉมให้กลับไปสวยงามดังเดิม

“ถ้าเดินไปเจอบาร์บี้ที่อยู่ตามตลาดนัด ที่เขาขายของมือสอง บาร์บี้แท้ๆ ข้างหลังเขาจะมีปั๊มตรงต้นคอ ตรงหลัง แล้วน้ำหนักตัวจะไม่เหมือนกับตุ๊กตาพลาสติกทั่วไป วัสดุที่ทำจะไม่เหมือนกัน ถ้าเราเล่นอยู่ประจำเราจะรู้ทันทีว่าตัวนี้ใช่ ตัวนี้ไม่ใช่


[ บาร์บี้เก่าที่ถูกแปลงโฉมจนสวยงาม ]
แม่ค้าขายเป็นตะกร้า หัวหูกระเซิงยุ่งเหยิงจะเหมามาหมด เอามาอาบน้ำ สระผม แต่งตัวให้เขาใหม่ มันมีความรู้สึกว่าน่าสงสาร ทำมาตลอดค่ะ เลยกลายเป็นว่าทำไมถึงมีเยอะ เพราะเหมามาตลอด

มีตัวที่อยู่ข้างล่างที่เป็นตัวโต เขาอยู่ที่จตุจักรร้านขายของเก่า ยืนอยู่ในมุมเลย ผมกระเซิงยุ่งเหยิง หน้าดำปี๋ ใส่ชุดขาวมอซอ เดินผ่านไปแล้ว กลับมารู้สึกบาร์บี้ใช่ไหมเนี่ย ก็เลยถามเจ้าของร้านว่า ขายไหม เขาก็ถามว่าพี่จะเอาไปทำอะไร

ก็เลยบอก เอาเถอะน่ะขายให้พี่เถอะ พี่ชอบบาร์บี้ ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาก็เลยบอกว่าผมไม่รู้จะขายเท่าไหร่ เพราะขาหลุดข้างนึง ก็เลยบอกไม่เป็นไรถ้าขายพี่ก็เอา เขาก็เลยบอกงั้นผมขายให้พี่ 800

ก็เอากลับมาอาบน้ำ สระผม ตัดเสื้อผ้าให้เขาใหม่ ซ่อมขา ขาเขาไม่ถึงขนาดว่าแตก เพียงแต่ว่ามันหลุดออกจากเบ้า ถ้ามันหลุดออกจากเบ้าก็คือมันไม่สามารถยืนได้ ก็เลยเอากาวทาให้มันสนิทก็สามารถยืนได้

เราเอามาเราก็ไม่ได้เอามาบิดแขนบิดขา เล่นหกคะเมนตีลังกา เพียงแต่ตัดชุด อาบน้ำ สระผม ก็ถ่ายรูปส่งไปให้ร้านดูว่าจำได้ไหม เขาก็บอกถ้าผมรู้ว่าทำได้ขนาดนี้ผมไม่ขายพี่หรอก ตัวนี้ถ้าผมเอามาทำแบบนี้แล้วขายได้เป็นพันเลย”



และในฐานะนักสะสมที่ดูแลของทุกชิ้นด้วยความรัก คุณป้าตุ๊กตาก็ได้ฝากถึงทุกคนที่มีของอะไรก็ตาม เมื่อเลิกเล่นหรือไม่ใช้แล้ว ก็สามารถส่งต่อเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้ ดีกว่าทิ้งขวางหรือทำลายให้หมดคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย

“ส่วนใหญ่ถ้าคนที่รักตุ๊กตาจริงๆ ที่เล่นอยู่ในกลุ่มด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็จะอาบน้ำ แต่งตัว สระผม แล้วก็แต่งชุดให้ใหม่ แต่ถ้าพูดถึงคนอื่นที่ไม่ได้รักตุ๊กตาจริงๆ แต่เล่นตามกระแส ถ้าเมื่อถึงเวลาตัวเองไม่อยากเล่นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งๆ ขว้างๆ

ถ้าคนรักตุ๊กตาหรือคนรักของที่เก็บสะสม ไม่เฉพาะตุ๊กตา อาจจะเป็นสะสมเสื้อผ้า สะสมกระเป๋า สะสมปากกา นาฬิกา อะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อเวลาคนสะสมแล้ว เล่นแล้ว หรือว่ามีแล้ว พอคุณไปเจอของใหม่ คุณจะเอาค้อนมาทุบ หรือเอาไฟเผา หรือฉีกเสื้อทิ้ง หรือเอามีดมากรีดกระเป๋าทิ้งไหม

ในเมื่อเราซื้อมาแล้วเป็นของเรา หรือเราเคยเป็นเจ้าของแล้ว มันก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องทำลาย อาจจะเอาไปบริจาคให้คนอื่น หรือว่าเก็บเอาไว้ในส่วนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำ ว่าเราเคยเล่นตุ๊กตาตัวนี้

เพราะทุกวันนี้ ตุ๊กตาบางตัวที่ลูกๆ เขาไม่เล่นพวกตุ๊กตาผ้า ตุ๊กตาหมี ไม่ว่าอะไรก็ตาม แม้กระทั่งหนังสือ เขาก็เอาไปบริจาคให้กับเด็กกำพร้าเด็ก ที่บ้านสงเคราะห์ต่างๆ เขาก็ทำกันอยู่ ไม่ใช้แล้ว ไม่ชอบแล้ว บริจาคต่อให้คนอื่นเป็นการแบ่งปัน ไม่จำเป็นต้องทำลาย”


5 บาร์บี้ที่สุดในใจ

Holiday Barbie



“นี่คือตัวแรกและเป็นตัวที่ประทับใจมากที่สุด ที่ไป Honeymoon แล้วก็เจอแล้วก็ซื้อมา ตัวนี้เขาเรียก Holiday Barbie ประทับใจแล้วก็รักมาก ชอบมากค่ะเพราะชมพู้ชมพู บาร์บี้จริงๆ บาร์บี้ต้องเป็นสีนี้ เห็นปุ๊บบอกเอาตัวนี้

รักบาร์บี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ชุดที่เห็นจะไม่เลิศหรูอลังการขนาดนี้ จะเป็นนุ่งกระโปรงธรรมดาๆ แต่พอไปเห็นบาร์บี้ที่มีสวยขนาดนี้ด้วย เพราะฉะนั้นต้องเอากลับมา ไม่มาคนเดียวค่ะเขาก็เลยเรียกเพื่อนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ค่ะ (ยิ้ม)”

Convention Doll



“คู่นี้จะเป็นงานตุ๊กตาที่มีขายเฉพาะในงาน Convention doll ที่อเมริกา ตุ๊กตาแบบนี้ที่ไหนก็ตามจะไม่มีขาย จะมีขายเฉพาะในงานเท่านั้น แล้วคนที่เข้างานเท่านั้นถึงจะมีสิทธิซื้อออกมาได้
แต่ที่พิเศษที่สุดก็คือได้ลายเซ็นของคนออกแบบชุดนี้มาด้วย ซึ่งมันหายากมากๆ มี 2 แบบแต่ลายเซ็นได้มาแค่กล่องเดียว มีคนเข้าไปในงานแล้วเขารู้ว่าเราชอบ เขาก็เลยซื้อแล้วก็มาขายต่อให้เรา
ให้ประเมินราคา คิดว่าคู่นี้ตอนนี้ราคาก็น่าจะสูง เพราะว่าไม่มีขายในท้องตลาด มันไม่มีขายที่ไหนแม้กระทั่งใน eBay ยังไม่มีเลย เพราะมันมีแค่ใน Convention ก็เลยไม่แน่ใจว่าราคาเท่าไหร่ แต่ตอนซื้อก็คือไม่กี่ตังค์”

Barbie Signature Queen Elizabeth II Platinum Jubilee Doll



“ที่ระลึกของควีนเอลิซาเบธ ตอนที่ตุ๊กตาตัวนี้ออกมาท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่พอหลังจากออกมาไม่แน่ใจว่ากี่เดือนท่านก็สิ้นพระชนม์ จากราคา 2000 กว่าบาท กลายเป็นหลายพัน แล้วก็หายากมาก ทุกคนก็ตามเก็บ จนเว็บจีนทำ copy ออกมาหลอกขาย

มีค่ามากขนลุกซู่เลย เฉียดฉิวมากเลยนะ ถ้าไม่ได้ที่วังเด็กเขาช่วยเก็บไว้ให้ก็คงไม่ได้ ทำได้เหมือนด้วยค่ะ ทำหน้าตาได้เหมือนมาก ชุด ผม ทุกอย่างเพอร์เฟก”

บาร์บี้มือสองที่ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง


“ลูกสาวคนนี้ที่ไปเอามาจากจตุจักร เอามาอาบน้ำ สระผม ขัดสีฉวีวรรณ ต่อขาให้ เป็นสีขาวมอมๆ มอๆ ยาวคลุมทั้งตัว ทิ้งไปแล้วค่ะเพราะว่าไม่สามารถซักให้สะอาดได้ ไม่แน่ใจว่าตัวเดิมของเขาเป็นราพันเซลหรือว่าเป็นตัวไหน เพราะว่าตอนมาก็คือไม่ใช่ชุดดั้งเดิม ตัวใหญ่แบบนี้ทำออกมาหลายเวอร์ชันเหมือนกัน

พอดีจะไปดูหนังที่เขาฉาย (Barbie the Movie) นางเอกเขาใส่ชุดแบบนี้เลยชอบ พอดีหาผ้าได้ ผ้าที่ตัดแล้วเหลือก็เลยตัดเผื่อให้เขา แล้วก็ได้รับสิทธิที่พิเศษเปลี่ยนมาหลายชุดแล้วค่ะ”

บาร์บี้ชุดเครื่องดนตรีไทย


“เซ็ตนี้เป็นชุดเครื่องดนตรีไทย อันนี้เป็นคอลเลกชันของน้องคนไทยที่เขาทำ จริงๆ เป็นของคนอื่นแต่ว่าเขาขายต่อมา เขาเลิกเก็บ เห็นว่าสวยสมบูรณ์แบบก็เลยซื้อต่อเขามา เจ้าของเดิมคงจ้างเขาทำ

ใช้บาร์บี้กับเคนทั้งหมด เครื่องดนตรีทุกชนิดเขาทำขึ้นมาใหม่หมด มีระนาดเอก ระนาดโท มีขิม มีจะเข้ มีปี่ มีขลุ่ย มีฉิ่งฉาบ มีกลอง มีครบทุกอย่าง ภูมิใจนะคะที่คนไทยสามารถทำได้ขนาดนี้”




ชมชุดภาพ ...





















ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)



สัมภาษณ์โดย : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ภาพ : กัมพล เสนสอน
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : เฟซบุ๊ก “Sunan Viseskit”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น