“ดีอีเอส” ลั่นรวมหลักฐานฟ้องศาล สั่งปิด “เฟซบุ๊ก” ภายในเดือนนี้!! ปม “รับเงินโฆษณาจากเพจปลอมหลอกคนไทย” กูรู IT บอก “แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” ชี้ ทำแบบนี้มิจฉาชีพจะหมดไปจริงๆ หรือ?
รวมหลักฐาน สั่งศาล “ปิดเฟซบุ๊ก”!!
จะต้องบอกล่า “เฟซบุ๊ก”หรือไม่? เมื่อ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)กำลังดำเนิดการรวบรวมหลักฐาน เพื่อฟ้องศาลให้ปิดกั้นโซเชียลฯ ดังภายในสิ้นเดือนนี้
ชัยวุฒิ กล่าวในงานแถลงข่าวเรื่อง “การหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนผ่านโฆษณาทางเฟซบุ๊ก” ว่า เฟซบุ๊ก“รับเงินโฆษณาจากเพจปลอม”ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการสมคบกับผู้กระทำผิด จากการรับเงินโฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้ ซึ่งจะขออำนาจศาลปิดภายใน 1 เดือน
“ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก มีการรับเงินจากเพจเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าบริษัท แต่กลับไม่มีการตรวจสอบ และสกรีน ว่าเป็นเพจที่หลอกลวงหรือไม่แต่กลับปล่อยให้เพจเหล่านี้มาหลอกลวงคนไทยจำนวนมาก”
{ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม}
การรับเงินโฆษณาจากเพจหลอกลวงต่างๆ แล้วก็ยิงแอดโฆษณาออกไป ทำให้คนจำนวนมากเห็นเพจเหล่านั้น แล้วก็โดนหลอก เท่ากับเฟซบุ๊กเป็นผู้สนับสนุนการหลอกลวงประชาชน
ทั้งยังบอกอีกว่า จากข้อมูลของตำรวจไซเบอร์ พบเรื่องหลอกลงทุนกว่า 70% เกิดจากเฟซบุ๊กหลอกขายของออนไลน์ กว่า 90%เกิดจากขายของบนเฟซบุ๊ก “เท่ากับวันนี้ปัญหาใหญ่ที่คนถูกฉ้อโกงมาจากเฟซบุ๊ก”
แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่ใน “ดุลยพินิจของศาล” ว่าจะสั่งให้เฟซบุ๊กปิดบริการในไทยหรือไม่ และนี่คือถ้อยคำวิเคราะห์จาก เต้นท์-ฐิติรัตน์ กิณเรศ ผู้ดูแลเพจiMoD เพจข่าวสารในวงการ IT ว่ามีโอกาสขนาดไหนที่จะถูกปิด
“ถ้าทาง ดีอีเอสจะฟ้องศาลเพื่อสั่งปิด เฟซบุ๊กผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าเรื่องของการหลอกลวงออนไลน์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ อย่าง มันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเฟซบุ๊กอย่างเดียว”
{เต้นท์-ฐิติรัตน์ กิณเรศ}
เต้นท์ ยกตัวอย่าง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งก็จ่ายเงินค่าบริการให้กับค่ายมือถือ และตรงนี้ก็ถือเป็นรายได้เข้าบริษัท ถ้าจะฟ้องปิดบริการเฟซบุ๊กพวกค่ายมือถือเองก็ต้องโดนเหมือนกันหรือเปล่า
“ถ้าเทียบกับเฟซบุ๊กผมว่ามันไม่ต่างกันเลย ถึงตัวแม้เฟซบุ๊กจะเงินจากการยิงแอดโฆษณาเนอะ มันเหมือนกัน ถ้าเขาจะฟ้องให้ปิดให้บริการในไทย ค่ายมือถือก็จะโดนเหมือนกัน”
เฟซบุ๊กไม่มีระบบตรวจสอบเลยหรือ? ผู้ดูแลเพจ iMoD ให้ความเห็นว่า ในระบบเชิงลึกไม่ทราบ แต่ขั้นตอนก่อนเปิดเพจ หรือยิงแอดโฆษณา จะต้องมีการยื่นยันตัวตนหลายอย่าง ทั้งข้อมูลส่วนตัว ธนาคาร บัตรเครดิตที่ใช้
“ผมว่าทางเฟซบุ๊กเอง เขาก็มีระบบที่ใช้ตรวจสอบประมาณนึง แต่อย่างที่บอกนะครับ มิจฉาชีพ ถ้าเขาจะโกงเขาก็ต้องพยายามหาวิธีโกงจนได้ ถ้ามองเหมือนเรื่องบัญชีม้า อันนี้ไม่ได้ต่างกันเลย”
“จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน” ก็ปิดมันให้หมดไปเลย!?
ชัยวุฒิ รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ บอกว่า “แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอสจะรวบรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิดแต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น” แล้วการสั่งปิดเฟซบุ๊กไปเลย จะทำให้จบสิ้นได้จริงไหม เกี่ยวกับเรื่องนี้ กูรูประจำiMoDรายเดิมมองว่า...
“แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” ต่อให้ ดีอีเอส ผลักดันให้ เฟซบุ๊ก ปิดบริการในไทย เชื่อว่า พวกมิจฉาชีพก็จะย้ายไปแพลตฟอร์มอื่น อาจจะไปอยู่ในTikTokหรือIG “มิจฉาชีพก็ต้องเอาตัวรอดเหมือนกัน”
“เหมือนแมวไล่จับหนู มันก็จริงนะครับและก็เป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่ได้เป็นแค่เฟซบุ๊กหรอกครับ ที่อื่นก็จะเป็นเหมือนกัน”
สมมติถ้าเฟซบุ๊กถูกปิดจริงๆ เต้นท์iMoDบอกว่าจะเกิดผลกระทบหลายอย่าง และให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า “มันไม่ใช่ 100% นะครับที่คนใช้เฟซบุ๊กจะเป็นมิจฉาชีพ”
“มันมีแค่ส่วนน้อยจริงๆ ที่อยู่ในนั้น คือถ้าเราเอาบัญชีผู้ใช้มาสัก 100 ราย มันจะมีไม่เกินสัก 10 บัญชีหรอกครับที่เป็นบัญชีปลอม เป็นบัญชีที่เอาไว้ใช้หลอกลวง”
และต้องอย่าลืมว่า เฟซบุ๊กเป็นสื่อกลางที่ผู้คนมาพบปะพูดคุยกัน อีกทั้งยังเป็นช่องทางทำมาหากินของ พ่อค้าแม่ค้า มีทั้งเพจทั่วไปหรือเพจของแบรนด์ต่างๆ ทั้งหมดได้รับผลกระทบแน่นอน
“เหมือนการไปปิดเพื่อป้องกันจากกลุ่มคนส่วนน้อย แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ ก็ถูกปิดไปด้วย ผมเลยคิดว่าได้รับผลกระทบแน่นอน”
การดำเนินของ “ดีอีเอส” เราสามารถบอกได้ไหมว่าเป็น“ข้ออ้าง” ในการพยายามควบคุมสื่อ ? กูรูด้าน ITให้ข้อสังเกตว่า เฟซบุ๊กเป็นพื้นสาธารณะและมีการกระจายข่าวสารที่ไว้มาก แล้วคนไทยก็อยู่ในนั้นเยอะ
“ผมตั้งข้อสังเกตอย่างนี้แล้วกัน ส่วนหนึ่งโอเคมันสามารถป้องกันมิจฉาชีพได้ แต่มันก็จะได้ประโยชน์ทางอ้อม อย่างเช่น เพจที่มีการเรียกร้องอะไรบ้างอย่าง ก็จะถูกปิดไปด้วย มันอาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อม อันคือที่ผมตั้งข้อสังเกตเองนะครับ”
สกู๊ป : ทีมข่าวMGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **