xs
xsm
sm
md
lg

“นักจัดระเบียบบ้าน” ชวนเคลียร์ขยะในใจ เยียวยาซึมเศร้า-สะสมของ คิวฮอตเกินครึ่งปี!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจผู้ก่อตั้ง “แมวบิน” ทีมนักจัดระเบียบบ้านด้วยศาสตร์และศิลป์ ใส่ระบบบ้านรกให้เข้าที่ มากกว่าจัดบ้านคือเยียวยา “ผู้ป่วยซึมเศร้า-โรคสะสมของ” คิวฮอตจนต้องจองล่วงหน้าครึ่งปี!!



“แมวบิน” ไม่ใช่แม่บ้าน แต่เป็นนักจัดระเบียบบ้าน

“งานบ้านเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นคำที่ทุกคนได้ยินก็รู้ เป็นคำง่าย เป็นคำสั้น แล้วก็จับต้องได้ อาชีพนี้นอกจากจัดบ้านแล้ว ยังจัดระเบียบใจ เรียบเรียงสมาธิ เรียบเรียงสติของเราในแต่ละวัน

มันคือการ Mental health มันยังสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยซึมเศร้า ผู้ป่วยจิตเวช หรือคนที่กำลังเครียด โดยที่เราจะเริ่มฮีลใจตัวเอง เราจะเริ่มทำอย่างไรให้รู้สึกต้องแอคทีฟ ต้องขยัน

ความคิดหนูนะคะ สิ่งที่ง่ายที่สุดที่เราจะเริ่มอะไรซักอย่าง หลังจากที่เจออะไรวุ่นวายมา เจอของรกหรือเจอชีวิตที่มันแย่ การจัดบ้านหรือการทำความสะอาดบ้าน คืออันดับแรกที่มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก มันเป็นเรื่องใกล้ตัว และช่วยได้จริง”

“อิม - อิมยาดา เรือนภู่” สาวสวยวัย 35 ปี กล่าวกับทีมข่าว MGR Live



เห็นเพียงแค่นี้อาจจะยังเดาไม่ได้ ว่าเธอคือใคร และทำอาชีพอะไร เฉลยก็คือ เธอคือ “แมวอิม” ผู้ก่อตั้ง “แมวบิน นักจัดระเบียบบ้านมืออาชีพ” งานที่ต้อง รื้อ-โละ-ย้าย-ทิ้ง สิ่งของภายในบ้านรกๆ ให้กลับมาเป็นระเบียบสวยงามอีกครั้ง

แม้จะฟังดูง่าย แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเปลี่ยนสถานที่หนึ่งให้เป็นระเบียบสบายตา และยังต้องสร้างสบายใจให้แก่ลูกค้าผู้ว่าจ้างไปพร้อมๆ กัน

ย้อนกลับไปถึงเส้นทางชีวิตก่อนที่จะมีวันนี้ อิมเล่าว่ามีความรักในการทำงานบ้านมาตั้งแต่จำความได้ ที่บ้านอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ใน จ.กำแพงเพชร โดยมี คุณตา คุณยาย และคุณแม่ เป็นผู้ปลูกฝังสกิลนี้ให้กับเธอ

“ที่บ้านมีเด็กผู้หญิงเยอะ 3-4 คน ทุกคนจะต้องมีหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือแบ่งปันภาระของแต่ละคน กลับมาจากโรงเรียนต้องทำอะไร ก่อนไปโรงเรียนต้องทำอะไร ทุกอย่างเลยค่ะที่เป็นงานบ้าน ซักผ้า ล้างจาน หุงข้าว ถูบ้าน ทำกับข้าว ยังมีเลี้ยงสัตว์ด้วย ไปเก็บผักบุ้งมาให้หมูกิน ทำงานสวน ดายหญ้า ปลูกผัก ทำหนักมาก จนมันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว


[ แมวอิม ในวัย 13 ปี ]
เลิกเรียนต้องรีบวิ่งกลับมาที่บ้าน ทำอะไรก่อน อะไรที่รอได้ อะไรที่ทำได้ระหว่างรอ อย่างหุงข้าวมันใช้เวลานาน รอเดือด เราก็ไปทำอย่างอื่น ไปล้างจาน มันเป็นการวางแผน เราต้องดิ้นรนที่จะไม่เจอไม้เรียว โดนตีจริงๆ เพราะยายเป็นคนค่อนข้างดุ เจอทุกคน แต่ว่าใครจะเรียนรู้เอามาพัฒนาตนเองหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องความอดทน คิดบวก ไฟท์กับมัน

เป็นแบบนี้ประจำทุกวัน มันให้เรารู้สึกว่า เออ… เรากลายเป็นชอบงานบ้าน คือมันเริ่มมาจากการถูกบังคับนี่แหละค่ะ โดยที่เราต้องหาวิธีสู้กับมัน ทำชาเลนจ์กับตัวเอง สนุกกับมัน คิดบวก

ตอนเด็กๆ เรายังไม่รู้จักคำว่าคิดบวกหรอก ยังไม่รู้จักคำว่าชาเลนจ์ แต่ตัวอิมเองชอบวางแผน ทำอย่างไรให้มันเสร็จเร็ว เพื่อเราจะได้เอาเวลาที่เหลือไปเล่น ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราชาเลนจ์กับตัวเองมาเรื่อยๆ สกิลเราก็สูงขึ้นเรื่อยๆ”

ก่อนหน้าที่จะมาเป็น แมวอิม อย่างในตอนนี้ เธอมีความคลุกคลีกับเรื่องที่อยู่อาศัย มาตั้งแต่งานของครอบครัว เมื่อเข้าสู่รั้วมหา’ลัยและวัยทำงาน ก็ยังวนเวียนในแวดวงนี้ กระทั่งมารู้จักกับการจัดระเบียบบ้าน ที่ดูจะตอบโจทย์และตรงใจที่สุด

“เราคลุกคลีกับเรื่องบ้านๆ ตั้งแต่เด็กยันโต คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ก็จะหิ้วอิมไปตามไซต์งานต่างๆ อิมจบจากมหาวิทยาลัยรังสิต สาขาการโรงแรม เรียนจบมาก็ทำงานโรงแรม Interior ตกแต่งภายใน เมเนเจอร์ นิติบุคคล งานหมู่บ้าน งานเอกสาร งานที่มันอยู่กับบ้าน



แรงบันดาลใจ มีช่วงที่ทำงานประจำ มองว่าอายุตัวเองจะ 35 แล้ว หาวิถีทางดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน อยากที่จะทำเงิน อยากที่จะหลุดพ้นจากหนี้สิน เราก็มานั่งนึกเหมือนคนทั่วไปว่าจะทำอาชีพอะไรที่มันขุดศักยภาพตัวเองออกมา ขุดความเป็นตัวเราออกมา ทำแล้วมันต้องมีความสุขด้วย ทำแล้วมันต้องเป็นตัวเราด้วย ทำแล้วมันต้องยั่งยืนด้วย

คิดวิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา ตกตะกอนว่า ฉันเก่งงานบ้าน เราทำมาทั้งชีวิต เราทำแล้วมีความสุข แล้วจะทำยังไงทำเงินกับมัน ตอนแรกจะไปเปิดบริษัทแม่บ้าน แต่ก็มาคิดอีกค่ะว่าไม่ชอบขัดห้องน้ำ ไม่ชอบเช็ดกระจก แต่ฉันชอบทำให้มันสวย ฉันไม่ทำแม่บ้านแล้ว อยากเป็นนักจัดระเบียบบ้าน

ซึ่งคำว่านักจัดระเบียบบ้าน ก็ได้มาจาก คุณคนโด มาริเอะ (Kondo Marie ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบภายในบ้านและนักเขียนชาวญี่ปุ่น) อ๋อ… โอเค มันเรียกว่านักจัดระเบียบบ้านนี่เอง ไม่ได้เรียกว่าแม่บ้าน

(ที่มาของชื่อ) เพื่อนก็แซวๆ ค่ะว่ามีเต่าบินนู่นนี่นั่น รู้จักมั้ย เราเป็นทาสแมว แล้วคำว่าบินเราชอบ เพราะว่างานของเรามันอยากทำให้คนอื่นเขารู้สึกติดปีก เบา บินได้ด้วยความรวดเร็ว เราก็เลยโอเค แมวบิน พอเราได้จุดของเรา ก็เริ่มเลยค่ะ”

แมวคิวทอง ต้องจองอย่างน้อยครึ่งปี!!

อิมเล่าต่อว่า ปัจจุบัน แมวบิน ทีมงานทั้งหมด 5 คน ซึ่งก็รวมตัวกันได้ 1 ปีพอดิบพอดี และแม้พวกเธอจะไม่ใช่คนกลุ่มแรก ที่เข้ามาเจาะตลาดอาชีพนักจัดระเบียบบ้านในไทย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทีมแมวบิน ทำให้อาชีพนี้ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้าง ซึ่งในขณะนี้แฟนเพจ "แมวบิน นักจัดระเบียบบ้าน" ก็มีผู้ติดตามกว่า 81,000 คนด้วยกัน

และใครสนใจจะใช้บริการคงต้องรีบหน่อย เพราะล่าสุด แมวตัวนี้ ฮอตจนต้องจองตัวล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งปี!!

“จากวันนั้นถึงวันนี้ครบรอบ 1 ปีค่ะพอดี แต่ก่อนที่เราจะมาจัดระเบียบบ้าน เราเห็นสภาวะที่ทุกคนติดเชื้อโควิด แล้วอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่สะอาด เอื้ออำนวยต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย มันทำให้เรารู้สึกว่าอาชีพนี้น่าจะช่วยใครได้ด้วย

ก่อนหน้านี้มีในประเทศไทย นอกจากแมวบินแล้วก็มีผู้ให้บริการท่านอื่นอีกนะคะ หนูน่าจะโชคดีที่มีลูกค้าสนับสนุน มี FC สนับสนุนช่วยแชร์ มีสื่อช่วยสนับสนุนมาสัมภาษณ์ มาเผยแพร่ว่าแมวบินอยู่ตรงนี้ เรามาปลุกกระแสนี้ขึ้นให้มันชัดอีกครั้งนึง ว่าจัดบ้านคืออะไร จัดบ้านทำยังไง มีวิธีอะไรบ้าง

ของแมวบินเป็น inspire มาจากตัวเอง เรามีหลักสูตรของเรา เรามีหลักการจัดของเรา เรามี know how ของเราเอง ซึ่งมาจากประสบการณ์ในวัยเยาว์ ซึ่งตัวเราก็เจอทั้งคุณยายที่เป็นนักสะสมของ คุณแม่ก็เป็นคนที่ชอบทำความสะอาดบ้าน แล้วอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ตัวเองก็รับหน้าที่ที่จะต้องทำให้มันสวย


[ ทีมงานสุดแกร่งของ "แมวบิน" ]
ปัจจุบันเรามีทีมงานทั้งหมด 5 คนรวมหนูด้วย เราอยากที่จะขยายทีมเหมือนกัน แต่มันเป็นเรื่องของคุณภาพที่ควบคุมยาก ทั้งเรื่องทักษะ การคิดวิเคราะห์ จิตวิทยา เพราะฉะนั้นมันจะใช้เวลาในการที่จะขยายทีมแม่นๆ ขยายทีมที่รักษาคุณภาพ แล้วก็เข้าใจในทิศทางเดียวกัน มันไม่ใช่งานแม่บ้านทั่วไปที่ ถูก็ถูไป เก็บก็เก็บไป ทิ้งก็ทิ้งไป แต่มันเป็นจิตวิทยาประกอบควบคู่

ตอนนี้คิวมันจะยาวนิดนึง ต่ำๆ น่าจะ 6 เดือนค่ะ เพราะมีทีมเดียว เดือนนึงเราจำกัดเคสว่าเราจะรับเท่าไหร่ เพราะเราต้องมีเวลาในการพักผ่อน ลูกค้าที่รอคิวได้ส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤต แต่วางแผนว่าอยากทำ”

ถามถึงกระบวนการการทำงานของนักจัดระเบียบบ้านทีมนี้ ทุกเคสที่ติดต่อเข้ามาจะต้องถูกวิเคราะห์อย่างละเอียด ผ่าน แมวอิม และ แมววา (วา - ปริยาภา ริ้วทอง) เพื่อนซี้ร่วมทีม


[ "แมวอิม" และ "แมววา" ]
“ก่อนอื่นลูกค้าจะต้องถ่ายรูปห้อง สถานที่ที่จะให้จัด ให้เราดู ถ่ายส่งมาในเพจของเรา แล้วเราก็เริ่มวิเคราะห์ว่า คือหนูจะเป็นคนวิเคราะห์เคสเองทุกเคส ร่วมกับคุณวา วิเคราะห์ บ้านอยู่ที่ไหน อยู่กันกี่คน มีสัตว์เลี้ยงมั้ย ประกอบอาชีพอะไร อยากให้บ้านหลังนี้เป็นอะไร ห้องนี้อยากให้มีหน้าตาแบบไหน จะทำกับห้องนี้เป็นห้องอะไร

พอเราเห็นว่าโอเค ปริมาณของเท่านี้ มีปัญหาทางด้านนี้ โจทย์อยากให้เป็นแบบนี้ เราก็ประเมินราคา แล้วก็วิเคราะห์ว่าใช้เวลากี่วันจบ แล้วก็ทำการจองคิว และในระหว่างนี้อาจจะไปทิ้งขยะรอเรา อะไรที่คิดว่าตัดใจได้ก็เคลียร์มันออกไป

เพราะถ้าเราเข้าไปแล้ว อาจจะไม่มีโอกาสตัดใจ หรือจะต้องตัดใจเฉียบพลัน เพราะว่าเราทำงานด้วยหลักจิตวิทยาและความเร็วผสม เราจะไม่สามารถที่จะเอา ไม่เอา เอา ไม่เอา ได้ทุกชิ้น นี่คือหลักการ

พอหลังจากที่เราเข้าไปแล้ว การคุยกับลูกค้าเบื้องต้น คร่าวๆ พอเรารู้แล้วว่าบุคคลนี้ ลูกค้าคนนี้มีลักษณะเป็นแบบไหน จิตใจแบบไหน มีความต้องการอย่างไร ประกอบอาชีพอะไร เราก็จะเริ่มเลยค่ะ อะไรที่ต้องระวัง จุดไหนที่ต้องทำเป็นพิเศษ อะไรที่ห้ามทิ้ง อะไรที่ต้องทิ้งและทิ้งเลย วิเคราะห์เสร็จแล้วก็เริ่มลงมือปฏิบัติ”

ไม่เพียงแค่จัดระเบียบบ้านให้เรียบร้อยเท่านั้น แต่แมวบินยังรับงานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเคลียร์พื้นที่ จัดบ้านบุคคล/องค์กร ดูแลบ้านผู้ป่วย และอื่นๆ อีกมากมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามเป็นหลัก



“แมวบินมีการให้บริการหลากหลายรูปแบบนะคะ ไม่ว่าจะเป็นขนย้ายจากจุดนึงไปยังอีกจุดนึง หรือการโละของ เคลียร์ของ ทำให้พื้นที่โล่ง มีการ unpack เอาของมาแล้ว เขาย้ายมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกจัดระเบียบ การจัดบ้านบุคคลทั่วไป การใส่ระบบบ้าน ทำให้หาของเจอ ลดจำนวนสิ่งของ นี่คือทั่วไป

เคสพิเศษจะมีผู้ป่วยซึมเศร้า ผู้ป่วยจิตเวช ไบโพลาร์ โรคเครียด โรคสะสมของ Hoarding Disorder รวมไปถึงการจัดระเบียบองค์กร ออฟฟิศ สำนักงาน เป็นวิทยากร ทำให้คนตระหนักถึงบ้านรก หาวิธีแก้ไข อันนี้คือบริการของแมวบินค่ะ

เราจะช่วยให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์มันดูดีขึ้น หันไปทางนี้ดีมั้ย ตรงนี้รับลมนะ ตรงนี้มีแสงนะ ตรงนี้มันสวยนะ เราก็มีการช่วยในด้านนี้ด้วย จัดด้วยศาสตร์และศิลป์ จัดออกมามันควรที่จะสวยงาม มันควรที่จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ตรงนี้เป็นหลักสำคัญเหมือนกัน

แต่ถ้าลูกค้าแจ้งว่าตรงนี้เป็นฮวงจุ้ย ห้ามจับ ห้ามแตะต้อง เราก็จะไม่ยุ่ง ทำในเมนหลักๆ มากกว่า ก็คือเน้นเอาขยะออก เอาของเน่า ของเสีย สิ่งของอัปมงคล ของที่แตกร้าว

(งานที่ไม่รับ) น่าจะเป็นจัดอะไหล่ มีลูกค้าอยากให้จัดร้านอาหาร จัดอะไหล่รถยนต์ จัดชามคลังใหญ่ๆ ที่ดีเทลเล็กๆ เราจะไม่สามารถจัดได้ เพราะว่ามันไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เรากำลังจะทำ เราถนัดไปเรื่องบ้าน เรื่อง health ทางใจมากกว่าในเชิงพาณิชย์ เชิงธุรกิจ เราสามารถช่วยได้แค่ออฟฟิศ องค์กร”

สำหรับการประเมินราคาและระยะเวลาการทำงาน ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณสิ่งของและขนาดของพื้นที่ ซึ่งค่าบริการของทีมแมวบินนั้น เริ่มต้นจะอยู่ที่ 10,000 บาท และไม่เพียงแค่กรุงเทพมหานครเท่านั้น จะเป็นเหนือ ใต้ ออก หรือตก แมวตัวนี้ก็พร้อมบินไปจัดให้ทุกหนแห่ง



“การประเมินราคาขึ้นอยู่กับปริมาณสิ่งของ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว บางทีเขาอยู่คอนโด 22 - 26 ตารางเมตร แต่ปริมาณสิ่งของมันท่วมหัว หรืออีกบ้านนึง บ้านหลังใหญ่ บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน แต่สิ่งของเขามีน้อยกว่าก็มี เคยเจอมาแล้ว

เราจะประเมินราคาด้วยปริมาณสิ่งของ บวกกับขนาดพื้นที่ และความยากง่ายของบุคคล เช่น เป็นโรคสะสมของ เป็นโรคหวงของ ทิ้งยาก เมื่อทิ้งยากปุ๊บ เราจะต้องฝึกใช้วิชา งัดวิชาในการกลืนของ ในการเก็บของ ในการคัดของแต่ละชิ้นออกมา ทุกชิ้นมันก็ยากที่จะเอาให้มันลง เอาให้มันสวย เอาให้มันหาเจอ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก

การกลืนของมันเป็นศัพท์ของเรา กลืนให้มันเนียน ให้มันหายไปจากห้องนี้ แต่อยู่ในนี้ กลืนยังไงให้มันอยู่ตรงไหน ดูไม่รกเลย แต่ปริมาณเท่าเดิม อันนี้คือเรื่องยาก ราคาก็จะสูงขึ้น แล้วก็มาคำนวณวัน เราในฐานะผู้ให้บริการ จำเป็นที่จะต้องมีกำหนดการแล้วเสร็จให้ชัดเจนว่า 1 วัน 2 วัน 3 วัน เพื่อให้ลูกค้าเขาได้วางแผนกับชีวิตในอนาคตด้วย ว่าระหว่างนี้เขาจะทำอะไรกับห้องนี้ แล้วมันเป็นการที่ทำให้เขารู้สึกว่า โอเค… อีก 2 วันชีวิตฉันจะเปลี่ยน

หนูเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 บาทถึงจะออกเคสได้ เพราะว่าเราเดินทางไปทั่วทุกจังหวัด อยู่ที่ไหนเราไปหมด เข้างานตรงเวลา งานของเรามันไม่ใช่การจัดบ้านธรรมดา คุณคิดดูสิบ้านหลังนี้อยู่มาแล้วกี่สิบปี ให้หนูเข้าไปสังคายนาให้ด้วยการรื้อออกทั้งหลัง มันคือการ renovate บ้านนะคะ ไม่ใช่แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดบ้าน สังคายนาบ้านยกหลัง

ของที่ทิ้งเราทิ้งให้ ขยะที่ทิ้งเราทิ้งให้ ของที่บริจาคเราบริจาคให้เราเป็นคนตัดสินใจว่าเราอยู่ตรงนี้ ที่บริจาคที่ไหนใกล้ที่สุด แล้วสิ่งของประเภทนี้ใครควรจะได้รับ ไปบริจาคที่ไหนดี อย่างล่าสุดได้รับบริจาคชุดชั้นในมือ 1 ยังไม่ได้ใช้เป็นร้อยๆ ตัว อันนี้เราก็รู้แล้วเราจะไปบริจาคให้สถานกำพร้า บ้านเด็กหญิง ผู้ต้องขัง แบบนี้ค่ะ”

“ป่วยใจ” ให้การจัดบ้านช่วยเยียวยา

สำหรับลูกค้าของแมวบินนั้น ต้องบอกว่ามีทุกเพศ ทุกวัย ทุกความต้องการ ตลอดจนลูกค้าที่มีอาการป่วยทางใจ ที่ต้องระมัดระวังในการปฏิบัติงานเป็นพิเศษ และแม้บ้านไม่รก แต่ก็สามารถทำให้น่าอยู่มากขึ้นได้

“ลูกค้าของเรามีหลากหลายประเภทมาก ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ป่วย หรือคนชรา ผู้ที่บาดเจ็บทางร่างกาย บางทีผ่าตัดมา ปวดหลังอยู่ ลุกไม่ได้ เดินไม่ได้ หรือคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรแล้วมีสภาวะโรคซึมเศร้า

มีบ้านที่เรียบร้อยอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องจัดอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาขาดน่าจะเป็นระบบ มันไม่รกแต่มันขาดระบบ มันไม่รกก็จริงแต่มันหาของไม่เจอ อันนี้เขาเรียกว่าไปเพื่อเซ็ตระบบ ไปแบบไม่ทิ้ง ไป change ไป move ไปบอกว่ามันจะต้องอยู่ตรงนี้เพื่อคุณจะได้จำได้ เพื่อคุณจะได้หาเจอ



มี 3 อย่างที่จะต้องดูแลนิดนึงคือผู้ป่วยซึมเศร้า โรคสะสมของ แล้วก็ผู้สูงอายุ ถ้าเราไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เราจะวางแผนความรวดเร็วไม่ถูก การทิ้งที่ไม่มีเหตุผล หรือการทิ้งที่ทำให้เขารู้สึกเศร้ายิ่งกว่าเดิม หรือการเลือกเก็บของที่ทำให้เขาเศร้ายิ่งกว่าเดิม ก็มีนะคะ

การคำนวณพื้นที่ใช้สอย ความว่างเปล่าของจิตใจ ความที่มันเยอะในหัวสมอง เราจะต้องคำนวณว่า ปริมาณขนาดไหน เขาจะแบ่งรับแบ่งสู้ ทิ้งขนาดไหนที่จะให้เขารู้สึกว่าโอเค ไม่ได้เวิ้งว้าง ไม่ได้เหงา ไม่ได้เลือนหายไปจนโหวงเหวงขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้เก็บถึงขนาดว่าแน่น อันนี้คือเรื่องสำคัญ

แล้วสิ่งที่เราต้องระมัดระวังในส่วนของผู้ป่วยซึมเศร้า น่าจะเป็นเรื่องสารเคมี ของมีคม อุปกรณ์ต่างๆ ที่มันสามารถทำให้เกิดความรู้สึกอาจจะทำร้ายตัวเองได้นะคะ การดึงให้เขาอยู่กับเรา ยังมีเราอยู่ เรามาตรงนี้เราไม่ได้แค่ทำความสะอาดห้องให้คุณ แต่เรามาเป็นเพื่อนคุณ คุยได้ เล่าให้ฟัง เกิดอะไรขึ้น อยากให้มันเป็นยังไง เหมือนเพื่อนคนนึง”



ทั้งนี้ เธอยังได้ยกตัวอย่างเคสยาก คือเคสของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า อิมย้ำว่า เป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้แจ้งทีมงานให้ทราบ เพื่อที่จะได้วางแผนการทำงานได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

“เคสที่ยากน่าจะเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เคยเจอเคสที่เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแต่ไม่ได้แจ้งเรา สภาพห้องก็คือปกติ ไม่ได้รกอะไร เราก็ทำตามสเตป เพียงแค่ครึ่งวันเขาก็ขอยุติ เพราะเขารู้สึกดิ่ง รู้สึกเครียด ขอให้เราออกจากพื้นที่ เขาบอกมาตอนหลังว่า ขออนุญาต พอแค่นี้ก่อนได้มั้ยคะ เดี๋ยวที่เหลือจัดการเองเพราะจริงๆ แล้วเป็นโรคซึมเศร้า แล้วเราก็ไม่จบงานในวันนั้น

เมื่อลูกค้าสั่งแบบนั้น เราก็ต้องยุติ เพราะเราไม่ใช่หมอ แล้วเราก็ไม่ได้รู้จักเขามาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นความต้องการเขาแบบไหน ณ เวลานั้น เราก็ต้องให้เกียรติ เขาอาจจะต้องการเวลาเป็นส่วนตัวของเขา เราจะไม่คะยั้นคะยอที่จะเข้าไป

ถ้าลูกค้าป่วยด้วยโรคอะไร เป็นอะไรอยู่ อยากให้แจ้งเรา เราจะได้วิเคราะห์และวางแผนการทำงานได้ถูก เพราะถ้าคุณไม่แจ้ง มันก็อาจจะไม่เสร็จเหมือนอย่างเคสนี้ และผลก็ไม่บรรลุล่วง สิ่งที่เรารอคิว วางแผนที่จะเจอกันมามันก็น่าเสียดาย”

และลูกค้าอีกประเภท ที่ต้องให้บริการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นกัน นั่นก็คือ ผู้ป่วยโรคสะสมของ ที่ต้องทำงานด้วยความใจเย็น แต่ก็ต้องรวดเร็วไปพร้อมๆ กัน


[ ของจากบ้านลูกค้า นำไปบริจาคต่อ ]
“รองลงมาน่าจะเป็นเคสผู้ป่วยโรคสะสมของ ทิ้งยาก เราอยากทิ้งใจจะขาด ด้วยความที่เราเห็นใจเขา แล้วก็อยากจะช่วยเขา แต่ทิ้งอย่างไรให้เขายอม เป็นเรื่องที่ยากมาก จำเป็นที่จะต้องจับออกมาคัดทุกชิ้น 100% ผ่านตาเขา คือมีแสนชิ้นก็ต้องให้เขาเห็นแสนชิ้น มีล้านชิ้นก็จำเป็นต้องให้เห็นล้านชิ้น

มีเทคนิคความเร็วควบคู่กับความใจเย็น มันก็ยากและใช้เวลา ในลักษณะว่า เราให้เวลาคุณเลือกของแค่ 1 วิ แค่ 2 วิ ทำให้อารมณ์เขาสวิงไปมา อย่างเช่น ให้เขาเก็บๆๆ เราก็จะดึงอารมณ์ให้เขาไม่อยู่กับความแบบ… เก็บได้เหรอ ในขณะที่เขากำลังทิ้งๆๆ ใจเริ่มเสีย เราก็จะชะลอการทิ้งออกไป แบ่งรับแบ่งสู้ให้อารมณ์เขาสวิงตลอด ไม่ให้อารมณ์ไหลไปทางใดทางหนึ่ง

เวลาปฏิบัติการมันจะยาก คนที่จะไปคุยต้องมี 2 ฝั่ง อิมกับคุณวา คุณวาก็จะออกแนวน่ารัก ใจเย็น อยู่เป็นเพื่อนเขา อยู่ฝั่งเขา ส่วนอิมคล้ายๆ กับพยาบาล ดุนิดนึง เร่งความเร็วนิดนึง ไม่งอแงนะ เอาจริงนะ ก็ช่วยกันเพื่อให้มันจบ ส่วนมากถ้าเกิดว่ามันเป็นสิ่งที่ควรจะไปจริงๆ เราก็จะเลือกใช้คำว่า ทำบุญ บริจาคให้กับผู้ที่ยากไว้หรือคนที่เขาเอาไปใช้ประโยชน์

(ยกตัวอย่างวิธีพูด) ‘คุณแม่ อันนี้ทิ้งเถอะค่ะ มันเก่าแล้ว คุณแม่ไม่ได้ใช้แน่นอน ฝุ่นมันเยอะขนาดนี้ เอาไปบริจาคเถอะค่ะ วัดสวนแก้ว มูลนิธินี้เขาได้ไปแล้วเขาจะเอาไปขายเป็นทุนการศึกษาเด็ก มีเยอะแล้วหนูเห็นข้างบนมีอีก 3 ตะกร้าเลยหนูเก็บไว้ให้แล้ว ไม่ต้องห่วงค่ะ’ ก็จะเป็นประมาณนี้”

ยกขยะออกจากบ้าน ยกภูเขาออกจากอก

ในการทำงานของแมวบินนั้น แน่นอนว่านอกจากลูกค้าจะได้บ้านที่เป็นระเบียบกลับมาแล้ว อีกผลพลอยได้ที่ตามมา คือเรื่องของจิตใจที่โล่ง เบา ราวกับสำนวนที่ว่า “ยกภูเขาออกจากอก"

“หนึ่งเลยนะ หนูจะพูดให้ทุกคนเห็นภาพนะว่า มันมีความสุขแบบไหน คล้ายๆ กับคุณไปโรงแรมหรือเที่ยวต่างจังหวัด คุณเปิดประตูเข้าไปแล้วคุณว้าว สวยจัง มันเป็นโมเมนต์ของความสุข เหมือนกัน เวลาเราไปจัดบ้านให้คุณจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่มันรกกลายเป็นโล่ง คุณก็จะรู้สึกว้าว แล้วก็มีความสุขขึ้นทันทีทันใด หนูก็ดีใจแล้วนะคะที่ทำให้ใครสักคนมีความสุข

แล้วมันก็มีความสุขได้ในระยะยาว ถ้าเขาเอาสิ่งที่หนูทำให้ไปปรับใช้ ไปเรียนรู้ ไปจัดต่อ แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ความสุขของตัวผู้จ้างเอง ถ้าเขาอยู่กับญาติ อยู่กับแฟน อยู่กับสามี อยู่กับแม่ ทุกคนก็จะมีความสุขไปด้วย

สอง ผลพลอยได้ชัดเจนคือ mindset เปลี่ยนได้หรือเปลี่ยนไม่ได้ อันนี้หนูไม่การันตี ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เขาคิดต่อยอดได้อย่างไร แต่มันก็จะช่วยให้เขาสะดุดคิดว่า แบบนี้ดีแฮะ วางตรงนี้นี่เองทำไมคิดไม่ได้ หรือว่าเราซื้อให้มันน้อยลงดีมั้ย เราวางแผนการซื้อดีมั้ย บ้านโล่งๆ เหมือนวันที่เราอยู่วันแรกมันดีมากเลย



เรารู้สึกว่า คนที่ได้รับการจัดบ้านแล้วเอาไปสานต่อ เอาไปต่อยอด ในอนาคตจะช่วยให้เขาประหยัดเงิน เขาก็จะเลือกแล้วว่า จะซื้อ จะเอาไปวางที่ไหน เขาก็จะเริ่มวางแผนชีวิตแล้วว่า บ้านเรียบร้อยแล้ว ทำอะไรต่อดี บางคนกิจกรรมบางอย่างไม่เคยได้ทำในบ้าน ก็ได้ทำในบ้าน ได้ mindset ได้ความสุข ได้เรียนรู้”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในการออกเคสแต่ละครั้ง อาจจะต้องเจอกับเรื่องที่เกินความคาดหมาย ทั้งสถานที่ที่ต้องเข้าไปแก้ไข รวมถึงตัวผู้จ้างเอง ซึ่งสิ่งที่ตามมาอาจจะเป็นในรูปแบบความเครียด ความเหนื่อยล้า ทำให้ ทีมแมวบิน ต้องสร้างเกราะป้องกันใจตนเอง ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง

“ถ้าคุณเลือกที่จะเป็นนักจัดระเบียบบ้าน แล้วไปทำโดยเห็นว่ามันเป็นงานที่น่าสนใจ มันทำเงินได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้มีใจรักงานบ้านจริงๆ คุณก็อาจจะเจอความเครียด เพราะว่ามันกดดันคุณ ทั้งเวลา ทั้งสิ่งที่ลูกค้าเขาคาดหวัง มันจะทำให้คุณเหนื่อยล้าได้ แต่ถ้าคุณมีใจรักในงานบ้านอยู่แล้ว การทำงานตรงหน้ามันจะเหนื่อยน้อยลง แต่มันจะทำให้เรายืนได้ไกล ยืนได้ยาวค่ะ


การทำให้ตัวเองพร้อมยังไงเป็นเรื่องที่ยากนะคะ เพจหนูถึงพยายามพูดกับทุกคนว่า งานบ้านเป็นเรื่องสนุก อย่าเครียดเป็นเด็ดขาด enjoy กับมัน เฮฮาปาร์ตี้ ถ้าเมื่อไหร่ที่ you เครียด you จะ thinking negative กับงานบ้านทันที คุณไม่มีวันประสบความสำเร็จทางด้านนี้



พอเรามี mindset แบบนั้น เรา enjoy กับงานนั้น ในทุกวันๆ วันมันก็จะกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นที่จะไปเจออะไร คุณลองคิดดูว่า อยู่ดีๆ คุณเดินไปเข้าบ้านคนอื่นที่คุณไม่รู้จัก มันน่าตื่นเต้นมั้ย (ยิ้ม) น่าตื่นเต้นนะ เหมือนคุณกำลังมาบ้านแมวบิน บ้านหลังไหน เปิดประตูเข้ามาแล้วก็ว้าวๆๆ เขาซื้ออันนี้ เขาใช้อย่างนี้ มันเป็นเรื่องที่สนุกนะ เราก็คิดอย่างนั้นทุกวัน

มันเป็น nature ของเราด้วย จริงๆ แล้วเป็นคนที่สนุกเฮฮาด้วย มันก็เลยฮีลใจไปทุกวันๆ แล้วเราก็โชคดีมากที่เราเจอทีมที่มีจริตเหมือนกัน เราเจอทีมที่แกร่ง เท่ ดุดัน เอาจริง สะอาด เรียบร้อย แล้วก็ enjoy กับงาน มันก็เลยทำให้แมวบินมาได้ถึงทุกวันนี้ จริงๆ ต้องขอบคุณทีมด้วยนะคะ เป็นทีมที่น่ารัก คืออิมโชคดีมากที่ได้พวกเขามาอยู่ในทีม”

ที่สำคัญ ก่อนที่จะทำการเนรมิตบ้านลูกค้าให้เหมือนใหม่ จุดเริ่มต้นที่ดี ก็ต้องเริ่มที่บ้านของตนเองต้องเรียบร้อยก่อน
“อาชีพนี้มันเริ่มจากตัวเราเอง ที่เป็นคนโรคจิตชนิดนึง perfectionist ที่อยากให้มันสวยตลอดเวลา มันเป็น personal ของเราด้วย งานมันก็เลยออกมาบ้าระห่ำแบบนี้ค่ะ



ก่อนที่หนูจะไปทำบ้านคนอื่น บ้านหนูมันจะต้องเรียบก่อน ตัวเราต้อง healthy ก่อน ต้องแข็งแรงก่อนถึงจะไปช่วยคนอื่นได้ ไม่ว่าจะอาชีพไหน หรือแม้แต่คุณกำลังขึ้นเครื่องอยู่ เครื่องมันกำลังจะตกหลุมอากาศหรือเกิดเหตุอะไร คุณก็ต้องเอาออกซิเจนใส่ให้ตัวคุณเองก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น

เหมือนกันค่ะ ถ้าเบื้องหลังของหนูมันรก ถ้าเบื้องหลังของหนูมันเละเทะ หนูคิดว่าเบื้องหน้าไม่ประสบความสำเร็จค่ะ หนูเชื่อว่าเบื้องหลังของเรามันต้องคลีนก่อน ต้องเรียบ ต้องเนียน ต้องเกลี้ยงเกลา เราต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนถึงจะไปช่วยคนอื่นได้ ถึงจะไปทำให้เขาได้แบบหมดจด

แล้วอีกอย่างนึง การที่ทุกวันเราต้องไปเจอของรกๆ กลับมาเจอของตัวเองรกอีก หนูว่าหนูน่าจะเหนื่อยทั้งชีวิตค่ะ เพราะฉะนั้น บ้านของหนูเองมันจะต้องเรียบร้อย”

ตอบแทนสังคม “จัดบ้านให้ผู้พิการฟรี - โตไปไม่รก”

ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี กับอาชีพ “นักจัดระเบียบบ้าน” นอกจากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบ้านของลูกค้าแล้ว ในส่วนของผู้ให้บริการเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ในแง่ของมุมมองการใช้ชีวิต ที่ตกผลึกจากงานที่ทำ

“ไลฟ์สไตล์ วิธีการคิด วิธีการซื้อของยังเหมือนเดิม เพราะว่าเราเป็นคนไม่ได้ต้องการอะไรมากมายขนาดนั้น แล้วเราไม่ได้เป็นโรคสะสมของ บ้านเราก็ยังเรียบร้อยเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเราเจอผู้คนหลากหลายมากขึ้น

แต่มันก็ทำให้หนูเอียนเหมือนกันนะ ทำให้หนูเลี่ยนกับการไปเดินห้าง การไปช้อปปิ้ง บางทีเจออะไรเยอะๆ แล้วไม่อยากได้เลย เครื่องสำอางสวยๆ แพงๆ 2,000-3,000 หนูเห็นมาเยอะแล้ว ทิ้งมาเยอะแล้ว ไม่อยากได้ ไม่มี ชีวิตมันก็อยู่ได้

หนูรับรู้ มันก็เตือนสติหนูทุกวันนะ ฉันจะไม่เป็นแบบนี้ แก่ตัวมาฉันจะไม่เป็นแบบนี้เด็ดขาด ก็พยายามบอกลูกบอกหลานว่า อย่าเป็นแบบนี้นะ”


[ โครงการ "โตไปไม่รก" ]
นอกจากนี้ แมวบินยังมีโครงการเพื่อสังคม คือ “จัดบ้านให้ผู้พิการฟรี” และ “โตไปไม่รก” คือการเดินทางไปสอนการจัดบ้านให้แก่เด็กๆ พื้นที่ห่างไกล ด้วยความเชื่อที่ว่า เด็กที่ถูกปลูกฝังให้รู้จักหน้าที่ จะส่งผลดีต่อพวกเขาในอนาคต

“ทำฟรีก็คือมีเคสผู้พิการ แต่ตอนนี้เรายังไม่ค่อยได้รับการติดต่อจากผู้พิการเท่าไหร่ หนูไม่แน่ใจว่าทำไม หรือบางคนของเขาน้อย หนูว่าผู้พิการของน้อย จากเท่าที่หนูสัมผัส

บางครั้งก็ไปเป็นวิทยากรสอนเด็กๆ ที่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร หรือต่างจังหวัด “โตไปไม่รก” เป็นโครงการของแมวบินเอง หนูเชื่อว่าเด็กๆ ควรได้รับ หรือมีหน้าที่ หรือรู้จักการทำงานบ้านตั้งแต่เด็กๆ มันจะส่งผลดีให้เขาในอนาคต ได้ทำบ้าง ไม่ได้ทำบ้าง ได้ผ่านหูผ่านตาบ้างก็ยังดี เลยทำโครงการนี้ขึ้นมา


[ โครงการ "โตไปไม่รก" ]
เวลาเราไปสอน เราใช้หลักสูตรการจัดบ้านของแมวบินสอนเลย ให้เขาเห็นเลยว่าแมวบินทำงานยังไง และมีวิธีการทำยังไงให้ทุกคนไม่งง และให้ทุกคนมีหน้าที่ ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายสามารถทำด้วยกันได้หมด เหมือนไป inspire ให้เด็กๆ ว่า มันยังมีอาชีพนี้อยู่นะ การจัดบ้านเป็นเรื่องที่ดีนะ จัดระเบียบกระเป๋าหนังสือ เราจะทำฟรี

บางครั้งถ้าเกิดว่าต้องใช้ปัจจัย ใช้ budget ในการที่จะต้อง renovate หรือเคลียร์ อาจจะต้องมีการ FC ช่วยเหลือ ช่วยกันบริจาค หรือว่ามีทุนจากผู้ใหญ่ใจดีไปช่วยก็มี”



สุดท้าย นักจัดระเบียบบ้านมือฉมัง ได้ฝากเคล็ดไม่ลับ ถึงคนที่จัดบ้านด้วยตนเอง สามารถเริ่มได้ง่ายๆ แค่มี 2 มือ ถุงดำ และใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เพียงเท่านี้การมีบ้านใหม่แต่หลังเดิมก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“อยากจะเริ่มจัดบ้านด้วยตนเอง หลักการง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไปซื้อถุงดำมาก่อน ถุงดำมันจะช่วยให้คุณสบายขึ้น ช่วยให้คุณโล่ง มันเป็นถุงวิเศษที่จะทำให้ความรกมันหายไป เอาไปทิ้งเลยค่ะ เจอขยะก็ทิ้งก่อนเลย อะไรที่ไม่แน่ใจเอาเก็บไว้ก่อน ทิ้งไป บริจาคไป ทำบุญทำทานไป

แล้วก็จัดเอาที่เราชอบ จัดแบบที่เราสะดวกใช้ คีย์เวิร์ดในการจัดบ้านครั้งนี้ มันน่าจะเริ่มจากทำอย่างไรให้มันเบา ทำอย่างไรให้เราไม่แบก แล้วค่อยมาพูดถึงเรื่องความสวย ความงามทีหลัง คุณไปจัดบ้านแค่นี้ก่อน เบาได้ วางได้ โล่งแล้ว ค่อยมาคุยกับหนูอีกทีว่า ทำยังไงให้มันสวยค่ะ”


มอง “บ้านรก” ให้เป็นเรื่องปกติ

“คนชอบถามนะว่าจัดบ้านกับแมวบินแล้วกลับมารกอีกมั้ย หนูอยากจะพูดแบบนี้ คนเราบ้านรกเป็นเรื่องปกติ จัดแล้วมันสามารถกลับมารกได้อีก เพราะว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้อยู่กับบ้านตลอดเวลา บางคนเขามีหน้าที่ที่สำคัญกว่า อย่างเช่น ดูแลบุพการี ดูแลลูก หรือเรียนต่อ หรือเป็นคนที่หาเงินได้เก่งมาก เพราะฉะนั้นงานบ้านเป็นเรื่องที่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาดูแล

เพียงแต่ว่าเขารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เมื่อทำเองไม่ได้ ฉันมีศักยภาพในการแก้ปัญหาในการจ่าย เขาก็เลือกนักจัดระเบียบบ้านเข้ามาจัด เหมือนที่เขาเลือกแม่บ้านมาถูพื้นให้ มาเช็ดกระจกซ้ำ ล้างห้องน้ำซ้ำ เป็นเรื่องปกติค่ะ

(มีลูกค้าใช้บริการซ้ำไหม) มีค่ะ มีลูกค้าที่สวยและรวยมาก ทำเงินได้เป็นเดือนละล้าน เขาก็แค่เอาใช้เงิน เราก็ไป นี่คืองานของเราก็แค่นั้น ปกติ ไม่ได้ อะไร เพิ่งจัดไปทำไมมันรกอีก แมวบินไม่เคยคิดแบบนี้ เราอ๋อ โอเค ปกติ ได้เลย

เหมือนในข่าว ผู้หญิงสวยมาเช่าคอนโด เช่าหอ แล้วสภาพห้องเละเทะสกปรกแล้วก็หนีออกไป มันเป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของมนุษย์ ถ้าหนูมอง หนูก็ปกติ เพียงแต่ว่าคุณจะเจอแจ็กพ็อต ในอาชีพที่คุณเปิดหอให้เช่าหรือเปล่าก็แค่นั้นเอง มันมีอยู่แล้ว ให้เรากลับมาในเรื่องของธรรมชาติปกติของมนุษย์ก่อน

มนุษย์มีหลากหลายประเภท มีคนสวย มีคนไม่สวย มีคนรวย มีคนจน มีคนสะอาด มีคนสกปรก มีคนดี มีคนเลว มันปะปนกันอยู่ เพียงแต่ว่าคุณจะเจอเขาหรือเปล่า แล้วเขาเป็นแบบนั้นมันก็ไม่ผิด ก็ชีวิตเขา เขาอยากอยู่แบบนั้น เขามีความสุขแบบนั้น มันเป็นวิธีการรักษาของเขา

ถ้าถามหนูว่าหนูเคยบ้านรกมั้ย หนูเคยบ้านรกแบบสุดสวิงริงโก้มาก่อน เพราะว่าถ้าหนูไม่เคยบ้านรกมาก่อนหนูจะไม่เข้าใจว่า feeling ของลูกค้าเป็นยังไง ไม่ใช่เพราะว่าหนูต้องการที่จะทดสอบว่าการบ้านรกเป็นยังไงนะคะ แต่เราก็ต้องรู้จักวิธีขี้เกียจ ต้องรู้จักการผ่อนปรน การปล่อย การทิ้ง การเละเทะเหลวเป๋วในชีวิตบ้าง มันก็คือประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่ง

เพียงแต่ว่าโชคดีที่ว่า หนูรู้วิธีการจะ control มันยังไง ถ้ามันรกแบบนี้แล้วฉันจะจัดการยังไง มันจะจบวันไหน อีกไม่กี่วันต่อมา พอหนูมีสติก็เรียบร้อย เพราะทุกครั้งที่หนูเครียด หนูก็จะทำงานบ้าน ทุกครั้งที่เราอยากมีความสุข อยากโล่งเราก็ทำงานบ้าน มันจะอยู่รกกับหนูได้ไม่นาน บางคนเขาไม่รู้ไง ถ้าบ้านรกแล้วจะจัดการมันยังไง แล้วก็เผลอเรอ แล้วก็ให้โอกาสตัวเองได้ขี้เกียจ ได้สบายไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมันก็จะไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง



“อย่าไปให้ชีวิตกับสิ่งของ”

“บางคนไม่เคยมีประสบการณ์การจัดบ้านหรือทำให้บ้านโล่งมาก่อนเลยก็ได้ พอเจอครั้งนี้เขาบอก มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก การทิ้งแบบฉับพลัน มันเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายนะคะ การทิ้งโดยที่คุณไม่ได้ให้ชีวิตกับเขา

หนูเคยบอกกับทุกคนว่า อย่าไปให้ชีวิตกับสิ่งของ สิ่งของบางอย่างเท่านั้นที่มีชีวิต ขอให้คุณวิเคราะห์ให้ดี บ้านมีชีวิต หนูเชื่อแบบนั้น รถโอเคมีชีวิต เรือ พาหนะอาจจะมีชีวิต เหมือนที่ทุกคนพูดกันมีแม่ย่านาง สิ่งของแทนใจบางอย่างอาจจะมีชีวิต

แต่บางอย่างไม่ได้มีชีวิต มันคือวัตถุที่นักการตลาดเขาผลิตแล้วมาขายให้กับเรา แล้วบอกเราว่ามันจะช่วยให้ชีวิตคุณมันดีขึ้นหรืออำนวยความสะดวกให้ชีวิตคุณ แต่จริงๆ แล้ว อาจจะทำให้คุณยุ่งยากมากก็ได้ หนูเคยเจอนะ ซื้อของหลายอย่างมาก ซึ่งมันไม่ได้อำนวยความสะดวกให้ชีวิตเราเลย บางครั้งเราไม่มีมันแล้วมันง่ายมาก

พอคุณให้ชีวิตมันก็เกิดหายนะ คุณก็จะทิ้งมันไม่ได้ เพราะคิดว่าสงสารเขา แล้วเขาจะไปอยู่ยังไง แล้วเขาจะไปอยู่ในถุงดำ หายใจไม่ออก แล้วเขาจะต้องโดน recycle เขาอยู่กับฉันมาตั้งเป็น 10 ปี นี่แหละค่ะปัญหา นี่คือจุดที่จะทำให้คุณทิ้งยาก

สิ่งของที่ทุกคนควรทิ้ง และหนูอยากจะย้ำว่าทิ้งได้ อยู่ไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น นั่นคือ ถุงพลาสติกต่างๆ กล่องอาหารเดลิเวอรี่ ของหมดอายุทุกประเภท อาหารค้างคืน นี่คือสิ่งที่หนูไปเจอมาเยอะที่สุดแล้ว

บางครั้งเราคิดว่าเราจะได้ใช้มัน ถุงพลาสติก แต่จริงๆ คุณใช้มันไม่ทันหรอกค่ะ แล้วคุณก็ไม่ได้ใช้มัน พลาสติกมันจะทำให้ space คุณน้อยลง คุณอาจจะคิดว่ามันก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่วันนึงมันจะกินพื้นที่ในใจและกินพื้นที่ในบ้านคุณไปเรื่อยๆ

ของที่มันหมดอายุที่คุณคิดว่ายังใช้ได้อยู่ หนูมองไม่เห็นประโยชน์กับอาหารที่มันหมดอายุไปแล้ว แต่ทุกคนพูดว่ามันยังใช้ได้ หนูเชื่อว่ากินของสดดีที่สุดแล้ว ปลอดโรคด้วย

อีกอย่างหนึ่งคือเสื้อผ้า เป็นเรื่องที่เกิดได้กับทุกคน แล้วก็ทุกเคสของลูกค้าหนูเลย เสื้อผ้าเยอะ มุมนึงโอเค ยินดีด้วยนะที่เขาไม่ขลาดแคลน แต่อีกมุมนึงหนูก็สงสาร พื้นที่ในใจเราที่เหลือ เอาไปทำกับอะไรนอกจากมานั่งพับผ้า นั่งเก็บ นั่งสะสม”










@livestyle.official ...เพราะแรงบันดาลใจจากวัยเด็ก ผลักให้เธอหยิบสิ่งที่ถนัดอย่าง “งานบ้าน” มาทำเงิน จนทุกวันนี้คิวฮอตล่วงหน้าเกินครึ่งปี!!... #LIVEStyle ##LIVEStyleofficial #แมวบิน #นักจัดระเบียบบ้าน #จัดบ้าน #แม่บ้าน #งานบ้าน #สุขภาพ ♬ original sound - LIVE Style


สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป : จิตริน เตื่อยโยชน์
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : แฟนเพจ “แมวบิน นักจัดระเบียบบ้าน”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น