“ค่าไฟแพงเหรอ แก้ด้วยโซลาร์เซลล์สิ” เทรนด์ใหม่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หลายคนถาม แล้วมันจะคุ้มเหรอ? กูรูด้านพลังงานคอนเฟิร์มว่า ถึงลงทุนสูง แต่ยังไงก็คุ้ม!!
ลงทุน “หลักแสน” แต่ประหยัดเดือนละ “หลายพัน”
หลายคนเห็นบิลแล้วน้ำตาแทนไหล เพราะค่าไฟช่วงนี้มันแพงเสียเหลือเกิน ทำให้เทรนด์เรื่องการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ หรือ “โซลาร์เซลล์”เพื่อมาช่วยลดค่าไฟในบ้านกลับมาเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้ง
และเมื่อเทรนด์การใช้พลังสะอาดหรือพลังทดแทนจากธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยม จึงเป็นที่มาของธุรกิจอย่าง “โซลาร์รูฟท็อป” (Solar Rooftop) คือการนำแผงโซลาร์เซลล์ มาติดตั้งบนหลังคาบ้าน หรือที่พักอาศัยต่างๆ เพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วเอามาใช้ภายในบ้าน
ทีมงานจึงได้ติดต่อ กฤต-พลกฤต กล่ำเครือ นายกสมาคมผู้ประกอบการและช่างพลังงานแสงอาทิตย์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดราก้อนเอ็นเนอร์จี เทคโนโลยีแอนด์ ออแกไนเซอร์ จำกัด เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์ว่า สรุปแล้วกระแสธุรกิจโซลาร์เซลล์ในบ้านเรา เป็นไปในทิศทางไหนกันแน่
“เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ที่รับพลังแสงอาทิตย์แล้วมาเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ในทั่วโลกเป็นที่นิยมและแพร่หลายกันมานานแล้ว และในไทยเองเรามีแสงที่ดี มีความเข้มข้นของแสงที่เหมาะกับผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์อยู่แล้ว มองว่าธุรกิจด้านโซลาร์รูฟท็อป เติบโตขึ้นในปีนี้ถึง 30% เพราะมีบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมสนใจติดตั้งกันมากขึ้น”
จากการหาข้อมูลของทีมงานพบว่า ต้นทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์เมื่อ 20 ปีก่อน การติดตั้งโซลาร์เซลล์กำลังผลิตไฟที่ 2 กิโลวัตต์ (kw) ต้องใช้เงินถึง 500,000 บาท
แต่ตอนนี้การติดตั้งโซลาร์เซลล์กำลังผลิตไฟที่ 5 กิโลวัตต์ ราคาประมาณ 110,000 – 130,000 บาท ซึ่งจะสามารถลดค่าไฟได้ประมาณ2,500-3,000 บาทต่อเดือน
ลองให้นายกสมาคมผู้ประกอบการฯ รายนี้วิเคราะห์ ถึงสาเหตุปัญหาค่าไฟที่แพงขึ้น ได้คำตอบว่าอาจจะด้วยหลายปัจจัย เช่น การใช้ไฟในช่วงอากาศร้อน ระบบโครงสร้างค่าไฟในบ้านเราที่โอกาสจะปรับขึ้นอีกเรื่อยๆ ผู้คนจึงเริ่มมองหาวิธีแก้ จนมาเจอเรื่อง “โซลาร์รูฟท็อป”
[พลกฤต กล่ำเครือ]
“ปัญหาบ้านเราที่ร้อนมากขนาดนี้ ถ้าบอกให้ประหยัดแอร์เถอะ อย่าเปิดเดี๋ยวค่าไฟแพงก็คงยาก เลยมีคนที่เริ่มติดโซลาร์เซลล์ หรือโซลาร์รูฟท็อป เพื่อนำไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาใช้ในบ้าน เมื่อ 5-6ปีที่แล้ว แล้วมันโอเคเหมาะกับบ้านเรา เลยทำให้เป็นที่นิยมขึ้นมา”
ขายคืนการไฟฟ้า ”โซลาร์เซลล์ภาคประชาชน”
แล้วมันจะคุ้มค่าหรือเปล่าในการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป? คงเป็นคำถามในใจของใครหลายคนที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องค่าไฟแพงอยู่ ณ ตอนนี้
“ถ้าถามว่าคุ้มทุนไหม จริงๆ ต้องมองว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นไปแล้วตอนนี้”
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ยังบอกอีกว่า บ้าน มีแต่จะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม มีแต่จะติดแอร์เพิ่ม ดังนั้น วิธีที่จะประหยัดค่าไฟ หรือมีแหล่งกำเนิดไฟเพิ่มขึ้น โซลาร์รูฟท็อป ก็เหมือนกับการมีแหล่งกำเนิดไฟฟ้าในบ้านเราเอง ซึ่งผลิตไฟฟ้าบนหลังคา พอได้มาเราสามารถนำไฟที่ได้มาใช้ภายในบ้านของเราได้
แล้วถ้าเราเป็นพนักงานออฟฟิศหรือไม่ได้อยู่บ้านตอนกลางวันล่ะ เช้าไปทำงาน เย็นกลับมาบ้าน พฤติกรรมการใช้ไฟแบบนี้ ถ้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้วมันจะคุ้มเหรอ?
กูรูรายเดิมอธิบายว่า มันก็มีการเข้าใจผิดของคนว่า เราไม่อยู่บ้านกลางวันแล้วติดไปก็คงไม่คุ้ม จริงๆ แล้วประเด็นนี้มันมีรายละเอียดที่ว่า ถ้าเราติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้ว มันสามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ เราสามารถเอาไฟที่ผลิตได้ ขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ ใน ”โครงการโซลาร์เซลล์ภาคประชาชน”
“เปรียบกับการขายฝากขายตุน พอเรากลับมาบ้านตอนเย็นเราเปิดใช้แอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เราก็ซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าที่เราขายฝากเอาไว้คืน”
มุมมองตอนนี้ที่คนหันมาติดตั้งโชล่าเซลล์มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการลดภาระค่าไฟเป็นเหตุผลหลัก และอีกอย่างหนึ่งการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป คือการพึ่งพาตนเองไม่ต้องรอให้มีนโยบายมาปรับลดค่าไฟจากภาครัฐ เพราะการปรับค่าไฟนั้นไม่ได้มีอัตราการปรับลดที่สูง
“การปรับลดค่าไฟ ไม่ได้ปรับในอัตราที่สูง แค่ไม่กี่สตางค์ การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปคือ การแก้ปัญหาค่าไฟแบบระยะยาว”
ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์ท่านนี้ยังบอกต่ออีกว่า โซลาร์รูฟท็อป มีทั้งข้อดีและสิ่งที่ควรระวังก่อนการตัดสินใจติดตั้ง ข้อดีคือ มีพลังงานให้ใช้ในบ้านเราอย่างฟรีๆ และอุปกรณ์เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่นาน อย่างแผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งาน 25-30 ปี
แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกบริษัทที่เข้ามาติดตั้งให้ดี เพราะไม่อย่างงั้นอาจมีปัญหาตามมา เช่น หลังคารั่วซึม ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออื่นๆที่อาจจะตามมา ก็ควรเลือกให้ดี
จากปัญหาค่าไฟที่แพงขึ้น ประชาชนคนทั่วไปก็พยายามหาวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง อย่างการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในส่วนของภาครัฐมีแนวทางในการสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องพลังงานทดแทนเหล่านี้บางหรือเปล่า?
คำตอบคือมีเพียงการแก้ไขในระดับครัวเรือน ส่วนของภาครัฐตอนนี้ยังคงทำได้แค่รับซื้อกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ประชาชนผลิตได้ และก็มีการปรับในการขออนุญาตติดตั้งให้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่มีเรื่องการสนับสนุนเงินลงทุนต่างๆ
ที่มีให้เห็นคือ เริ่มมีการสนับสนุนให้สถาบันทางการเงินปล่อยกู้ สำหรับผู้ใช้หรือผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง
ในส่วนของแผนระดับประเทศ รัฐเองก็มีแผนอยู่แล้วในส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนอื่นๆอยู่แล้วตอนนี้ และก็สิ่งที่เห็นตอนนี้ก็เริ่ม มีหลายพรรคการเมืองชูนโยบายเรื่องโซลาร์เซลล์ให้ในการเลือกตั้งครั้งนี้อีกด้วย
โซลาร์รูฟท็อปคงเป็นเรื่องจำเป็นแล้วตอนนี้ ค่าไฟจะสูงขึ้นตลอดขตามโครงสร้างค่าไฟ ส่วนหนึ่งเพราะโครงสร้างค่าไฟในบ้านเราเป็นแบบก้าวหน้า ยิ่งใช้เยอะค่าไฟจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
และการติดตั้งโซลาร์เซลล์ดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาค่าไฟที่ยั่งยืน ภาครัฐเองก็ควรจะทำให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานเหล่านี้ไปได้ง่ายและทั่วถึง กรรมการบริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์ท่านนี้ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
“จริงๆแล้วการส่งเสริมเรื่องของโซลาร์เซลล์ได้ประโยชน์หลายอย่าง 1.ค่าครองชีพที่ลดลง เมื่อคนไม่มีภาระเรื่องค่าไฟก็อาจทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น 2.มันจะส่งเสริมเรื่องของการจ้างงาน เพราะถ้าการติดตั้งโซลาร์เซลล์แพร่หลาย ก็จะเกิดการจ้างงานและมีการกระจายรายได้”
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพบางส่วน : โครงการ “บ้านเสนา” (sena.co.th),tcc.or.th
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **