... และนี่คือ เรื่องราวรักแท้ 4 ปีของพวกเขา ...
กลายเป็นที่ฮือฮาไปทั้งโลกโซเชียลฯ หลังจากที่ “คิม” (สงวนนามสกุล) หนุ่มใหญ่วัย 54 ปี ได้เปิดใจถึงเรื่องราวความรัก ระว่างตนเอง และ “น้องเพลง” ซึ่งเป็นตุ๊กตายาง
เท้าความก่อนว่า เดิมทีนั้น เขาเคยมีภรรยาที่เป็นคนมีเลือดเนื้อเหมือนคนทั่วไป ก่อนจะเลิกรากันไปเมื่อปี 2554
กระทั่งต่อมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คิมได้มาเจอกับตุ๊กตายางตัวหนึ่ง จากร้านขายของญี่ปุ่นมือ 2 ตุ๊กตายางตัวนี้เป็นของมือ 1 ที่หลุดมาในตู้คอนเทรนเนอร์ เขารู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น จึงซื้อมาในราคา 30,000 กว่าบาท และตั้งชื่อให้ว่า “น้องเพลง”
ชายวัย 54 ปี ให้เหตุผลของการเลือกคู่ชีวิตครั้งใหม่เป็นตุ๊กตายางว่า ตนเองมีลูกสาว หากมีภรรยาใหม่ก็กลัวมีปัญหากับลูก เรื่องแม่เลี้ยง-ลูกเลี้ยง และเขาตั้งใจจะเป็นเสาหลักให้ลูก เพราะอดีตภรรยามีครอบครัวใหม่แล้ว
การมีตุ๊กตายางดีกว่าซื้อบริการ เพราะจ่ายครั้งเดียวจบ ลูกสาวก็รับรู้มาตลอด ซึ่งตนก็ว่าดี เพราะจะได้ลดปัญหาทางสังคม ลดเรื่องข่มขืนหรือโรคติดต่อด้วย
สำหรับตุ๊กตายาง “น้องเพลง” มีลักษณะเหมือนคน เป็นยางนิ่มทั้งตัว มีเหล็กด้านใน สูงประมาณ 160 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ดูแลด้วยการใช้ออยล์เช็ดทำความสะอาด ปีละ 2 ครั้ง
อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนทรงผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ส่วนใหญ่จะหาซื้อเสื้อผ้าให้ “น้องเพลง” ตามแอปพลิเคชันชอปปิ้งออนไลน์ต่างๆ บ้างก็เป็นชุดนักศึกษา บ้านก็เป็นชุดสไตล์ญี่ปุ่นปิดหน้าอก ปิดข้างล่าง
“แต่ประเด็นคือมันหาซื้อยาก คิดว่ามีหลายคนต้องการแต่หาซื้อยาก มันลดเรื่องโรคติดต่อด้วย เราใส่ถุงยางเพื่อความสะอาดของเราและของน้องเขาด้วย วันไหนเบื่อก็เปลี่ยนลุค เปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนทรงผม อยากให้ผู้ชายหลายๆ คนลองเปลี่ยนมุมมองดู มันไม่มีปัญหาสังคม การข่มขืนมันลดลงด้วย” เจ้าของตุ๊กตายาง “น้องเพลง” กล่าว
ทั้งนี้ ตุ๊กตายาง (Sex Doll)เป็นหนึ่งใน เซ็กซ์ทอย (Sex Toy อุปกรณ์เสริมความสุขทางเพศ)ยังถือว่าเป็นของผิดกฎหมายในบ้านเรา เข้าข่ายลามก อนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม ทางกรมศุลกากร ห้ามนำเข้า หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นวัตถุหรือสื่อลามก มีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 287 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกัน หลายต่อหลายครั้งที่ประเด็นของ เซ็กซ์ทอย ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันในวงสังคม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองว่า ต้องการผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นของถูกกฎหมายเสียที
ทางด้านของ นพ.โยธิน วิเชษฐวิชัย จิตแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวช เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ แก่ทีมข่าว MGR Live ไว้ว่า เซ็กซ์ทอย สามารถช่วยลดปัญหาได้หลายเรื่อง และในทางการแพทย์ ที่มีเซ็กซ์บ่อยๆ ก็สามารถทำให้โรคหัวใจลดลง อัตราการตายลดลงได้
“การมีเซ็กซ์ทอย ผมว่ามันไม่ได้มีปัญหาเลย ผมว่ามันเป็นข้อดีมากกว่า ถ้าเกิดคนที่มีแนวโน้มจะหมกมุ่นอยู่แล้ว อันนั้นก็อาจจะก่อปัญหาได้ มันไม่ได้เป็นกับทุกคน ว่าการมีเซ็กซ์ทอยแล้วคนในประเทศจะหมกมุ่นมากขึ้น
และเซ็กซ์ทอยก็ไม่ได้ใช้สำหรับเรื่องของการช่วยตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นเซ็กซ์ในสัมพันธ์ชีวิตคู่ ถ้ามันมีเซ็กซ์ดีขึ้น ชีวิตคู่ก็ดีขึ้น และยังช่วยบำบัดชีวิตคู่ได้ด้วย เป็นอุปกรณ์เหมือนกับว่าทำให้มีความสุข เสียวซ่านมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องจริง แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมรับ
ถ้ามีเรื่องเซ็กซ์ทอย ผมคิดว่าไม่ได้มีข้อเสียอะไรมาก ญี่ปุ่นเขาก็มีกัน และคดีข่มขืนเขาไม่ได้มาก มันอยู่ที่ผู้ใหญ่กล้าพูดเรื่องเสรีพวกนี้ แล้วก็พูดถึงข้อดี-ข้อเสีย ที่จะสอนเด็กๆ ของเรายังไงมากกว่า ผมว่าถ้าเปิดเสรีถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถามว่าถึงเวลากับประเทศไทยไหม ถ้ายังมีผู้ใหญ่ที่หัวโบราณหน่อยก็คงยาก ก็น่าจะยังไม่พร้อมสำหรับประเทศที่ยังไม่เสรีครับ”
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเสรีแห่งการขายเซ็กซ์ทอย ที่นั่นมองว่า การขายเซ็กซ์ทอยเป็นการลดปัญหาเรื่องการข่มขืน ทั้งยังมีการขายใน “Sex Shop” ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโตเกียว และยังอนุญาตให้ขายสินค้าอย่างถูกต้อง สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างกับประเทศไทย ที่จัดเซ็กซ์ทอยให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ล่าสุดกับประเทศเกาหลีใต้ ที่เมื่อปลายปีที่แล้ว สำนักงานศุลกากรของเกาหลีใต้ ได้เริ่มอนุญาตให้นำเข้า ตุ๊กตายาง (Sex Doll) แบบเต็มตัวได้ หลังจากศาลสูงสุดของประเทศตัดสินว่า ตุ๊กตายางทั้งร่างกายไม่ใช่ "วัตถุลามกอนาจาร" ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ถือเป็นเซ็กซ์ทอยที่ใช้ในชีวิตส่วนตัว
โดยมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ตุ๊กตาที่มีลักษณะผู้เยาว์ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนสูง น้ำหนักหรือใบหน้า ตุ๊กตายางที่มีหน้าตาเหมือนกับบุคคลใดๆ ตุ๊กตาที่ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม เป็นต้น
ปัจจุบัน เซ็กซ์ทอย ได้มีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านของเทคโนโลยีและวัสดุที่นำมาใช้ ตามรูปแบบฟังก์ชันการใช้งาน และรสนิยมที่แตกต่างกันของผู้คนในยุคสมัยนี้
และในช่วงการล็อกดาวน์ จากมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ก็ดันให้ยอดขายของเล่นผู้ใหญ่จากทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะประเทศแถบตะวันตก
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทย จะหยิบประเด็นเซ็กซ์ทอย มาทำให้ถูกกฎหมายเสียที ...
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **