“วันนั้นยืมตังค์กู แล้วเมื่อไหร่สูจะคืนเงิน” ทวงหนี้มิติใหม่ เตรียมลำโพง-ไมค์ มาร้องเพลงหน้าบ้านลูกหนี้ กูรูกฎหมายเตือนระวัง ต้องทวงให้ถูกวิธี จากเจ้าหนี้อาจตกเป็นจำเลยได้?!
ทวงแบบนี้ เป็นหนี้ที คนรู้ทั้งซอย!!
“วันนั้นยืมตังค์กู แล้วเมื่อไหร่สูจะคืนเงิน มีเงินก็มาคืนกูซะ อย่าลีลาล้าลาลัลลา
คืนกูเหอะเพราะกูมีภาระ ไม่อยากจะกินแต่มาม่ามาม่า
บล็อกทั้งเฟซ บล็อกทั้งไลน์เลยนะ เดี๋ยวจะโดนด้าดาดาด่า”
กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ในตอนนี้ หลังจากที่มีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอของตนเอง ขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ไปพร้อมกับลำโพงพกพาและไมค์ลอย
แถมยังยืนร้องเพลงในทำนองเพลง “Stand by หล่อ”หรือเพลง “โดนัทยังมีรู” เพลงไวรัลจากโปรเจกต์ “New Country” โดยเปลี่ยนเนื้อหาเป็นการ “ทวงหนี้” ที่หน้าบ้านลูกหนี้ของตน ราวกับเปิดมินิคอนเสิร์ตก็ว่าได้!!
เนื้อหาของคลิปดังกล่าว ยังมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ยอดเงินที่ให้ยืมไปนับแสนบาท ลูกหนี้บอกว่าจะนำไปลงทุนขายของ ตนเองก็สงสาร แต่เมื่อมาทวงเงินกลับกลายเป็นว่าปิดประตูบ้านเงียบเชียบ และยังได้ยินเสียงเด็ก ซึ่งคาดว่าเป็นลูกของเจ้าหนี้ดังออกมา โชคดีที่เหตุการณ์ทวงหนี้ครั้งนี้ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
“มึงนอนให้สบายใจไปเลย เปิดพัดลมให้สบายใจไปเลย กินข้าวหุงข้าวทอดไข่ให้สบายใจเลย กูรอได้ไม่พรือ อยู่หน้าบ้านนี่แหละ” เจ้าหนี้กล่าว
ขณะเดียวกัน หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็นำมาซึ่งความคิดเห็นหลายมุมจากโลกโซเชียลฯ ทั้งเห็นใจเจ้าหนี้ แต่ส่วนหนึ่งก็กังวลว่า พฤติกรรมที่แสดงออกมาของเจ้าหนี้จะเป็นการเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่
“มิติใหม่แห่งการทวงหนี้”
“จัดไปจ้าเจ้าหนี้เอาใจช่วยขอให้ได้ตังค์ของเราคืน”
“กฎหมายคุ้มครองลูกหนี้มันเยอะไปทางที่ดีอย่าให้ยื้ม”
“ทวงหนี้แบบนี้ไม่ดีผิดกฎหมาย ยังไงก็ว่ากันตามผิด แต่ส่วนตัวเห็นใจเจ้าหนี้ เข้าใจฟีลเวลาลูกหนี้แมร่งไม่คืนไม่หนีไม่จ่าย และอีกอย่างดัดแปลงเพลงได้โดนใจ ถึงกับอยากเอาไปร้องบ้างตอนเจอลูกหนี้ตัวเอง”
ล่าสุด มีข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมจากเจ้าหนี้ ว่า ลูกหนี้ได้มีการโทรศัพท์มาพูดคุยด้วยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ตนเองได้ติดต่อไปหลายวัน ไปแต่ลูกหนี้รายดังกล่าวก็ไม่ได้สนใจ
แม้ทวงหนี้ไม่มีคำหยาบ แต่ก็เสี่ยงโดนคดี?!
เพื่อความชัดเจนของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางทีมข่าวจึงได้ติดต่อไปยัง เกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง เพื่อขอความรู้ถึงประเด็นทางข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการทวงหนี้
“ต้องเรียนเจ้าหนี้ทุกคน เข้าใจความรู้สึกของเจ้าหนี้นะครับ เมื่อเขายืมเงินแล้วไม่คืน เราจะมีความรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน ตัวเองก็ลำบาก มันมีกฎหมายการทวงหนี้อยู่ครับ ทวงกับลูกหนี้โดยตรง ทวงโดยสุภาพ ไม่ข่มขู่ และทวงเป็นเวลา หลักของมันอยู่แค่นั้นเองครับ
ทุกคนมีกฎหมายคุ้มครองหมด เจ้าหนี้เองก็มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ เพียงแต่ว่าเราต้องไปใช้สิทธิในทางศาล หรือสิทธิโดยชอบธรรมทางกฎหมายก่อน ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระ ก็ไปใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป คือ ฟ้องร้องต่อศาลครับ
ในฐานะเจ้าหนี้สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิตามกฎหมาย ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ก็ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้ค้ำประกันก็ว่ากันไป สามารถฟ้องร้องลูกหนี้ บังคับคดียึดทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ แต่ไม่มีสิทธิประจานลูกหนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิประจานใครครับ”
[ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ]
ทนายชื่อดังกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เจ้าหนี้อาจเข้าข่ายมีความผิดทางกฎหมายได้
“มันเป็นความผิดตามกฎหมาย ข้อแรกเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ เป็นการทวงถามหนี้ในลักษณะประจาน หรือเปิดเผยฐานะของลูกหนี้ ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ทราบ การที่ไปทวงหนี้หน้าบ้านเขา มันก็คือการประจานเขาอย่างหนึ่ง แม้จะใช้คำสุภาพก็แล้วแต่ อันนี้ผิดนะครับ มีโทษจำคุกด้วย
ถึงแม้จะไม่มีการข่มขู่ แต่ก็มีการประจานลูกหนี้ ได้มีการถ่ายสถานที่ บ้านเลขที่ หรืออาจจะมีรูปของลูกหนี้ด้วย ก็อาจจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA อีก ซึ่งก็มีโทษจำคุกเช่นเดียวกันนะครับ
รวมถึงถ้ามีถ้อยคำไหนที่เป็นลักษณะกล่าวหา ว่า ลูกหนี้เป็นหนี้แล้วขี้โกง ไม่จ่ายเงิน ไม่ชดใช้ ก็จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาอีก และการถ่ายมาลง TikTok ถ่ายมาลงโซเชียลฯ มันคือการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานะครับ คือผิดทั้งกฎหมายทวงหนี้ ผิดทั้งกฎหมาย PDPA ผิดทั้งหมิ่นประมาท อย่างน้อยก็ 3 ข้อหาแล้วครับ”
กูรูกฎหมาย ได้ฝากย้ำเตือนถึงเจ้าหนี้ทุกคน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ทางที่ดี ‘คิดให้ดีก่อนให้ใครยืม’
“การที่เจ้าหนี้เอาคนอื่นมาประจาน วิพากษ์วิจารณ์ในทางที่เสียหาย รวมทั้งเอามาเล่นสนุกโพสต์ลง TikTok อะไรก็แล้วแต่ มันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย แล้วก็อาจจะสร้างความเสียหายแก่ลูกหนี้ถ้าเขายังมีข้อต่อสู้ได้
เพราะฉะนั้นก็ให้เจ้าหนี้ดำเนินการในทางที่มันถูกต้องดีกว่าครับ ถ้าเราไปดำเนินการโดยพลการที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะเป็นเจ้าหนี้ก็อาจจะเสียเปรียบ ตกเป็นจำเลยในดำเนินคดีอาญาซะเองนะครับ ซึ่งไม่คุ้ม
แต่ถ้ารู้สึกลำบากใจ เงินเราก็อย่าไปให้ใครยืมดีกว่า มันก็ทวงยาก แล้วก็เสียเพื่อน เสียมิตรภาพเยอะแยะมากมาย เผลอๆ เจ้าหนี้จะเสียอนาคตด้วย เพราะว่าไปดำเนินการที่ผิดกฎหมายครับ”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **