ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้… เปิดใจ “ร้านชีสบอร์ดออนไลน์สุดฮิตแห่งยุค” ที่มีเจ้าของเป็นบัณฑิตสายศิลป์จบใหม่วัยเพียง 23 ปี จากความชอบชีสนำไปสู่การตีตลาด TikTok จนแฮชแท็ก #ชีสบอร์ด เป็นไวรัล ออเดอร์เข้าเพียบ โกยเงินแสนต่อเดือน!!
อาหารที่ชอบ ศิลปะที่ใช่ กลายเป็นอาชีพ
ภาพของ Charcuterie Board (ชาร์คูเตอรี บอร์ด) หรือ Cheese board (ชีสบอร์ด) เป็นวัฒนธรรมอาหารของฝั่งตะวันตก ที่ประกอบไปด้วย ชีสก้อนหลากชนิด, Cold Cuts (เนื้อสัตว์แปรรูป), แครกเกอร์, น้ำผึ้ง, ถั่วต่างๆ ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ถูกเรียงลงในถาดอย่างสวยงาม สามารถนำวัตถุดิบต่างๆ ในถาดมาจับคู่รับประทานได้ตามใจชอบ ให้รสชาติ เค็ม มัน เปรี้ยว หวาน สัมผัสกรอบและนุ่ม ลงตัวในคำเดียว
เมนูนี้เรียก ได้ว่ากำลังกลายเป็นกระแสอย่างมากบนโลกโซเชียลฯในบ้านเรา โดยเฉพาะบนแอปพลิเคชัน TikTok ที่มีการเข้าชมแฮชแท็ก #ชีสบอร์ด ไปแล้วถึง 57 ล้านครั้ง!!
แต่หากจะย้อนไปถึงจุดที่ทำให้เมนู “ชีสบอร์ด” กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นไวรัลนั้น มาจากชีสบอร์ดของร้าน Nokky's Charcuterie ที่มีเจ้าของคือ “นก-นัชชา เกียรติธนวิทย์” สาวน้อยวัย 23 ปี บัณฑิตหมาดๆ จากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ซีอีโอวัยฮอร์โมนเปิดใจถึงเบื้องหลังจุดเริ่มต้นไว้ว่า จากความชอบรับประทานชีสบอร์ดเป็นทุนเดิม จึงคิดนำมาต่อยอดเป็นอาชีพ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายเธอผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านอาหารเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความกล้าที่จะลองทำอะไรที่แตกต่าง ทำให้ร้านในฝันของเธอถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยเงินทุนก้อนแรกราว 20,000 บาท
“นกเป็นคนที่ชอบทาน Charcuterie มากอยู่แล้ว ปกติเราไปซื้อแล้วมาทำเอง ครอบครัวป้าเป็นพี่สาวของแม่ เขาโตที่อเมริกาด้วย ก็อยู่บ้านเดียวกัน เวลาทานอาหารก็เลยทานอาหารไทยกับอาหารฝรั่งร่วมกัน เราเรียนศิลปะมา เวลาที่บ้านมีปาร์ตี้ก็จะเป็นคนอาสาจัด มันก็จะเหมือนกับตรงกลางระหว่างอาหารที่ชอบกับศิลปะ พอเราได้มาจัดก็สนุกมากเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นเริ่มตั้งแต่ตอนนกอยู่ปี 4 ตอนนั้นทำธีสิสก็มีเวลาว่างนิดนึง เราก็อยากจะหาอะไรทำ เงินทุนตอนแรกเป็นเงินเก็บของนกเองทั้งหมดเลย เริ่มที่ 20,000 ค่ะ ตอนแรกที่เริ่มทำซื้อของตามห้างค่ะ เพราะเรายังไม่มีกำลังขนาดที่ซื้อทีละเยอะๆ
ตอนนั้นไม่เครียดค่ะ เหมือนเรายังสนุกอยู่ เราก็ยังไม่ค่อยโตด้วยส่วนนึง ว่า ต้องใช้เงินกับการลงทุนอย่างเป็นระบบแค่ไหน เราอยากซื้ออันนี้ อยากลองทำอันนี้ก็ทำเลย
ตอนแรกคิดว่าเรียนจบจะทำด้านศิลปะ แต่ว่าเป็นคนชอบทานอยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาทำเกี่ยวกับอาหาร พอดีอันนี้มันไปได้ก็เลยโอเค ทำเลยแล้วกัน”
อีกเหตุผลที่ตัดสินใจเปิดร้านนี้ขึ้นมา นก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในไทยก็มีขายชีสบอร์ดเช่นกัน แต่ส่วนตัวมองว่ามีตัวเลือกไม่มากนักและราคาสูง ประกอบกับอยากให้เมนูนี้เป็นที่แพร่หลายและจับต้องได้ง่ายมากขึ้น
“รู้สึกว่าในเมืองไทยยังมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะ เหมือนมีแค่แบบเดียวต่อร้าน ที่มีอันนี้ๆ มีชีสอันนี้ เนื้อซัก 3 อย่าง พอวัตถุดิบโอเคราคามันจะสูง เพราะก็ต้องนำเข้ามา อย่างร้านอาหารก็ 1,000-3,000 บาท
ที่ร้านที่เมืองนอกมันจะมีให้เลือกเยอะมาก มันจะเป็นตู้เย็นให้เลือกเลย เราอยากได้อะไร เอาอันไหนก็ชี้ๆๆ เขาก็จะจัดมาให้ TikToker หรือว่าใน IG ของฝรั่ง เขาชอบทำ ชีส หรือ Cold Cuts ที่นู่นมันถูก เขาสามารถทำเป็นใหญ่ๆ ได้เลย
เราก็เลยมานั่งคิดว่าเป็นไปได้มั้ยที่เราจะทำในเมืองไทย เพราะว่าของพวกนี้ในเมืองไทยมันแพง แล้วก็หาซื้อไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ตัดสินใจว่าก็ลองทำดู เป็นยังไงค่อยว่ากัน
เราน่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่เริ่มทำ Charcuterie จริงจังค่ะ ตอนแรกที่เริ่มก็เริ่มจากแจกเพื่อนพ่อ แจกเพื่อนๆ ให้คนรู้จักมาซื้อก่อน ถามพ่อว่ามีเพื่อนอยากได้ของขวัญมั้ย มันส่งเป็นของขวัญได้
พอเขาเริ่มสนใจ เขาก็จะพูดปากต่อปาก แล้วหลังจากนั้น มันก็เริ่มติดตลาดไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วพอมันเริ่มไปได้ เราก็คิดว่าเราจะทำ IG กับ TikTok ขึ้นมา ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของร้านจริงๆ”
สำหรับ Nokky's Charcuterie เปิดให้บริการมาได้ราว 1 ปีครึ่งแล้ว และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ให้เธอถึงหลักแสนบาทต่อเดือน
“ยอดขายต่อเดือนก็ประมาณ 3 แสนบวกๆ ยังไม่หักค่าใช้จ่ายค่ะ ที่พีกมากๆ วันละ 50-60 ถาด ทำกันไม่ทัน แต่ก็จะมีช่วงที่กระแสมันเริ่มลง ตอนนั้นก็หายไปเยอะเหมือนกัน ก็คิดว่าจะทำยังไงดีให้ขึ้นมาใหม่ ก็ใช้เวลาเหมือนกัน ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลน่าจะประมาณ 20-30 ถาดค่ะ
ถ้าช่วงเทศกาลก็จะพีกหน่อย พีกสุดเลยก็จะเป็นคริสต์มาส ปีใหม่ รองลงมาก็จะเป็นวาเลนไทน์ ก็จะทำเป็นแล้วแต่เทศกาล ที่ผ่านมา ก็จะเป็นเซตวาเลนไทน์ มีเทียนหอมจุดแล้วมันจะมีข้อความออกมา อย่างปีใหม่ปีนี้ก็จะมีเซตพิเศษขึ้นมาอีก เป็นของขวัญที่มอบให้และดูสวยงาม”
ไวรัล #ชีสบอร์ด จนออเดอร์ถล่มทลาย!!
แม้สาวน้อยผู้นี้จะไม่มีความรู้ด้านอาหารหรือการทำธุรกิจมาก่อน แต่ด้วยความที่เล็งเห็นโอกาสในการทำการตลาดบนโลกโซเชียลฯ ประกอบกับความโชคดีที่สินค้าของเธอกลายเป็นไวรัลขึ้นมา
ทำให้จากตอนแรกที่ตั้งใจเดินในสายอาชีพด้านศิลปะตามที่เรียนจบมา ก็ตัดสินใจเบนเข็มมาเป็นแม่ค้าชีสบอร์ดเต็มตัว โดยมีช่อง TikTok และ Instagram ที่ใช้ชื่อ @nokkyscharcuterie เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์หลัก
“ไม่เคยเรียนศิลปะการจัดจานหรือเรียนด้านอาหารค่ะ แต่เราใช้ความรู้ทางด้านศิลปะจากมหา’ลัย แล้วก็ประยุกต์ใช้ในเรื่องของการโฆษณาด้วย อย่างกราฟิกเราก็ทำเองหมด บวกกับที่เคยดูตามต่างประเทศที่เราไปเที่ยวมา
ตอนแรกที่ตั้งใจจะเจาะตลาด IG เพราะเราเล่น IG เยอะสุด เรายิง ads คนก็จะรู้จักในระดับนึง แต่ว่ามันจะยังไม่ทั่วไป แล้วน้องสาวเล่น TikTok อยู่เลยแนะนำว่าลอง TikTok สิ มันสามารถไปไวรัลได้ ก็เลยลองลง TikTok ดู
เราก็เริ่มเล่น TikTok ก็พยายามเล่นดูว่าคนที่ทำเกี่ยวกับอาหารเขาทำยังไง ส่วนใหญ่ก็จะดูต่างชาติ เราก็ค่อยๆ ศึกษาต้องขอบคุณทาง TikTok ต่างประเทศ เขาจะมีไอเดียมากมาย ทำ Salami เป็นรูปดอกกุหลาบ รูปแม่น้ำ ริบบิ้น เราก็ไปตามดูว่าวิธีไหนน่าสนใจ ตั้งให้เป็น standard ของเราว่าถ้าเห็นอันนี้ต้องนึกถึงเรา
เราลง TikTok ให้คนมารู้จักวิธีการกิน รู้จักว่ามันคืออะไร เขาก็ยิ่งสนใจเพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เราลง TikTok ตรงกับช่วงที่กำลังมา มันก็เลยทำให้ได้คนในมุมกว้างมาก หลังจากนั้น TikTok ก็กลายเป็นช่องทางหลักของเราเลย
คิดว่าลูกค้าน่าจะเพิ่มขึ้นมาประมาณ 5-6 เท่าจากตอนแรกที่เริ่มทำ เป็นผู้หญิงซะเยอะกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิงคิดว่ามันน่าจะสามารถถ่ายรูปได้ แล้วก็เอาไปเป็นของขวัญให้ใครก็ได้ มันสวยด้วยตัวของมันเอง”
เธอกล่าวกับผู้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา ว่า ในช่วงแรกที่ตัดสินใจทำตรงนี้ ตนเองไม่รู้สึกกังวลว่าจะขายได้หรือไม่ และไม่คาดคิดมาก่อนว่า Nokky’s Charcuterie จะดังเป็นพลุแตก จากการที่มีลูกค้าซื้อไปและทำรีวิว
“ตอนแรกที่ทำไม่ได้คิดมาก ไม่ได้กังวลเพราะเรายังเรียนไม่จบ ทำเล่นๆ ทำชิลๆ ถ้าได้ก็ดี แต่บังเอิญมันดันดังก่อนที่เราจะเรียนจบ ที่พีกที่สุดน่าจะเป็นเพราะว่ามีแอกเคานต์ TikTok “ชิเอลแมวมึน” @cielmeowmun ก็คือ เจ้าของน้องชิเอลที่เป็นแมวค่ะ ซื้อของเราทานไปแล้วเขาก็ลง ตอนนั้นก็คือคนดูเกือบ 3 ล้านวิว เป็นจุดเริ่มต้นที่บูมมาก ไม่รู้ว่าเขาเอาไปลงค่ะ
ตอนนั้นนกไปฝึกงานที่ตั้งใจจะทำเป็นโปรดักชัน อยู่ดีๆ ก็มีไลน์แอดเข้ามา 200 ข้อความ โทรศัพท์สั่นตลอดเวลา เราก็ตกใจมาก จนถึงขั้นที่ต้องลง IG ร้านเพื่อบอกลูกค้าว่า เราไม่ว่างวันนี้นะ เดี๋ยวเราตอบ
เหมือนว่าเขาอยากทานเขาก็เลยเร่งเรานิดนึง ก็เลยต้องแจ้งให้ทั่วเลยว่าวันนี้เราไม่ว่างนะ ซึ่งวันนั้นเราไม่ว่างเลย กลับมาถึงบ้าน 4 ทุ่มก็ต้องนั่งดู ตอนนั้นเพิ่งเปิดร้านประมาณ 3-4 เดือนเองค่ะ แล้วมันก็ไปไวมาก
(หลังจากที่กลายเป็นไวรัล) เราก็ติดต่อเขา เป็นเพราะเขาเลยนะที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ เพื่อตอบแทนคุณแม่ชิเอลเราก็เลยส่งอีกอันให้ฟรีค่ะ ทุกวันนี้เขาก็ส่งทานบ่อยๆ เพิ่งมีวันเกิด เขาก็สั่งทานไป”
แต่อะไรก็ตามที่เป็นกระแส แน่นอนว่า ย่อมมาคู่กับความไม่มั่นคง เรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้แม่ค้ามือใหม่ต้องรับมือด้วยเช่นกัน
“สำหรับนก อย่างอาหารที่นกขายเป็น Charcuterie มันเป็นอาหารที่ไม่สามารถทานได้ทุกวัน แล้วก็ไม่สามารถทานเป็นมื้ออาหารให้เราอิ่ม ซึ่งมันก็จะยากตรงนี้ พอมันเป็นเทรนด์มา แล้วพอวันนึงเทรนด์มันหยุด พอหยุดปุ๊บ ถ้าเรารีบสต๊อกของ รีบขายให้มันเร็ว เราก็อาจจะล้มได้ง่าย
เรื่องของกระแสที่มันซา เราพยายามลง TikTok หรือ IG เท่าไหร่มันก็ไม่สามารถดึงคนเข้ามาได้ เหมือนเขารู้แล้วว่าอันนี้คืออะไรก็จบ มันไม่มีอะไรใหม่ๆ ก็เลยทำให้เราต้องคิดอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาค่ะ
เหมือนเราซื้อมาตุนช่วงพีกๆ แล้วพอมันหยุดเทศกาลพอดี ออเดอร์ก็หล่นลงมา แล้วมันจะมีของที่เสีย อย่างเช่น องุ่น เสียง่าย เราก็ต้องทิ้งหมดเลย เราก็เรียนรู้ว่าเราต้องมองข้างหน้าด้วย เคยมากสุดคือเดือนนึงที่เราไม่มีกำไร คือเท่าทุน มันจะถัวๆ กัน ไม่ใช่ขาดทุนแบบไม่สามารถไปต่อได้ แนะนำอยากให้ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปมากกว่า
แต่รู้สึกดีใจมากเลยค่ะที่หลายๆ คนพยายามจัดชีสบอร์ดของตัวเอง เหมือนเราจุดประกายให้เขาทำอันนี้ อย่างคนที่ซื้อในเซเว่น ซื้อชีส ซื้อองุ่นมาจัดแล้วก็ลง TikTok รู้สึกว่าดีใจที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เขารู้จักสิ่งนี้ แต่ก็จะมีอีกฝั่งนึงที่เขาทำตามเราเลย ซึ่งอันนี้ก็ช่วยไม่ได้ด้วยส่วนนึง พอเราอยู่ในโซเชียลฯใครจะทำตามก็ได้”
เคล็ด(ไม่)ลับ กิน “ชีสบอร์ด” ให้สนุก “รู้สึกว่าคนจะเข้าใจผิดเยอะมากว่าเวลาทานต้องทานเป็นคำ เราจำเป็นต้องเรียงๆ มันขึ้นไปแล้วทานในคำเดียว แต่เสน่ห์ของชีสบอร์ดจริงๆ คือ การชิมรสแต่ละอย่าง สมมติเรากินชีสเข้าไปได้รสชาติเค็ม กินองุ่นตามเข้าไปได้รสชาติหวาน มันจะมีรสชาติเยอะมากใน 1 ถาด พอเขาได้ลองทานหลายๆ อย่าง มันก็จะทำให้สนุกในการกิน สามารถคุยกันในปาร์ตี้ ทำให้เพิ่มบทสนทนาได้ด้วย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยว่าชอบทานอะไรกับอะไร ทานได้หมดทุกเวลาเลยค่ะ และคนจะมองว่าชีสมันจะอ้วนใช่มั้ยคะ แต่ถ้าเราทานในปริมาณที่พอดี มันจะมีประโยชน์กับเรา อย่างชีสบอร์ดของเราทีทั้งถั่ว ทั้งผลไม้สดและแห้ง เรียกว่ามันไม่ได้ทำให้เราอ้วนขนาดนั้น เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ด้วยซ้ำถ้าทานในปริมาณที่พอเหมาะ เรียกว่าเป็นอาหาร healthy ได้เลย” |
งบหลักสิบก็กินได้
สำหรับเมนูของทางร้าน ก็มีให้เลือกหลากหลาย มีตั้งแต่แบบรับประทานง่าย สำหรับมือใหม่ที่อยากลองความรู้จักชีสบอร์ด ไปจนถึงเซตที่มีส่วนประกอบของ Blue cheese ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชีสที่มีกลิ่นแรงและมีรสชาติเข้มข้นถูกใจสายแข็ง
“ตอนนี้มีหลักๆ 3 เซตค่ะ Original set ก็จะเป็นที่ทานง่ายทั้งหมดเลย เป็นชีส 3 ชนิดที่รสชาติไม่แรงมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นที่คนไม่ชอบ ก็จะมี Brie Cheese, Cheddar cheese แล้วก็ Smoked Cheese แล้วก็จะมีองุ่น มีถั่ว ช่วยตัดรส
Premium set เราก็จะมีของที่เรียกได้ว่าครบทุกอย่างที่อยากทาน มีทั้งมะกอกดอง ทั้ง Blue cheese หรือ Parma Ham ที่จะยากขึ้นมาหน่อย
ส่วน Homie set ก็จะสามารถพลิกไปทำอีกอย่างนึงได้คือ Baked brie เราให้เป็นก้อนใหญ่ไป แล้วเขาก็สามารถเอาไปอุ่นแล้วก็จิ้มทาน มันก็จะได้อีกฟีลนึง เราเริ่มมาจากไปขายที่บูทแล้วมันบูมมาก ก็เลยเริ่มทำขายถาวร
แล้วตอนนี้เราก็จะมี Custom คือ ให้จัดเอง เลือกกี่อันก็ได้แล้วแต่เรา ต่ำสุดที่ 20 บาท แล้วก็บวกๆ ไปจะเอาเท่าไหร่ ก็จะพยายามทำราคาที่ต่ำที่สุดให้เข้าถึงได้ง่ายที่สุด คนจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นี่คือความตั้งใจที่อยากให้เป็นค่ะ
ตอนนี้นอกจากชีสบอร์ดแล้ว ก็มีอีกเมนูคือ Cheese nuggets เพิ่งเปิดตัวเลย เป็นชีสทอดที่เป็นชีส 100 เปอร์เซ็นต์ ปกติชีสบอลที่เราเห็นจะเป็นชีสนิดนึงผสมมันฝรั่ง แต่อันนี้เราตั้งใจให้เป็นชีสเต็มๆ แล้วก็ใช้ชีสที่ร้านทั้งหมด เป็นชีสคุณภาพเดียวกับที่จัดถาดเลย”
ในส่วนของวัตถุดิบที่นำมาประกอบบนถาดนั้น เธอก็จะมีการคัดสรรอย่างดี และเลือกที่จะคงราคาสินค้าไว้ แม้วัตถุดิบแต่ละชนิดจะมีราคาสูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจก็ตาม
“ช่วงที่ซื้อกับซูเปอร์มาร์เก็ตก็จะขายเป็นแพ็กเล็กๆ พอลูกค้าเริ่มซื้อเยอะขึ้น เราจะซื้อทีหลายๆ อัน มันก็เปลือง พอถึงจุดที่ลูกค้าเยอะมากๆ จนที่เราซื้อมาในห้างมันไม่พอ ครึ่งวันก็หมด วันเดียวก็หมดต้องไปซื้อเพิ่ม
ก็เลยทำให้เราคิดว่าต้องซื้อจาก supplier ที่นำเข้ามา ทั้ง Cold Cuts ทีละขา ทั้งชีสทีละก้อนใหญ่ๆ แล้วก็เอามาสไลด์เองหมด ส่วนผลไม้ซื้อจากตลาดผลไม้อินเตอร์ของตลาดไทยที่ส่งเป็นลังใหญ่ๆ ค่ะ
หลังๆ มาช่วงโควิด พวกชีส พวก Cold Cuts ที่นำเข้ามาก็ขึ้นราคาไปด้วยหมดเลย ตอนแรกเราก็มานั่งคิดอยู่ว่าหรือว่าเราจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าดี แต่ว่าพอมาคิดไปคิดมา เรารู้สึกว่าอยากให้คนเข้าถึงได้อยู่เหมือนเดิม ก็เลยเลือกที่จะไม่ขึ้นราคาสินค้า และพยายามจัดเซตให้มันหลากหลายมากขึ้น ฤดูของผลไม้ชนิดนี้เราก็พยายามเอามา จะเป็นแบบนั้นมากกว่า”
[ ออกบูธครั้งแรก สายชีสเข้าคิวยาวเหยียด ]
นอกจากขายทางออนไลน์แล้ว Nokky’s Charcuterie ยังมีการออกร้านตามโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังสามารถส่งความอร่อยของชีสบอร์ดได้ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในกรุงเทพฯ
“ปกติก็ออกบูทบ่อยอยู่ค่ะ ครั้งแรกที่ออกบูธคือคริสต์มาสปีที่แล้ว ตอนนั้นผลตอบรับดีมาก คนต่อแถวกันไม่หยุดจนเราทำไม่ไหว ทำไม่ทันจริงๆ พอรู้สึกว่าผลตอบรับดี เราก็เลยเริ่มออกร้านเรื่อยๆ ตามห้างบ้าง ก็มีคนเชิญไปบ้าง
ตอนนี้ส่งได้ทั่วประเทศ ในกรุงเทพฯก็จะส่ง messager ถ้าเป็นส่งต่างจังหวัดก็จะเป็นส่งเป็นรถเย็นค่ะ เราจัดเป็นถาดแล้วซีลสุญญากาศ เอาอากาศออก ไม่ให้เขยื้อน ในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดก็ตาม ของเราอยู่ได้ในตู้เย็น ถ้าทานภายใน 3-5 วันยังสดใหม่เหมือนเดิมเป๊ะ
โดยรวมคิดว่า signature ของเรา คือ เราของครบทุกอย่างและของคุณภาพดี การันตีว่าถ้าซื้อจากเราจะได้ของที่ทั้งอร่อยและสดใหม่ค่ะ หลักๆ ที่ทำให้คนจดจำแบรนด์ Nokky ได้จากชื่อก่อนเลยค่ะ Nokky มาจากชื่อนกเอง รู้สึกว่าเป็นชื่อที่ติดหู คนจำได้ง่าย แล้วก็เรื่องวัตถุดิบ เราตั้งใจคงวัตถุดิบให้ดีจริงๆ ว่าลูกค้าได้รับไป 1 ถาด ลูกค้าจะต้องประทับใจ”
[ ออเดอร์ “ชีสบอร์ด 3 เมตร” สุดปัง ]
และเมื่อไม่นานนี้ นกก็ได้เผยถึงประสบการณ์ความตื่นเต้นและประทับใจ เมื่อมีออเดอร์นอกสถานที่สุดอลังการ ที่ต้องจัดชีสบอร์ดบนโต๊ะยาวถึง 3 เมตร!!
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราออกไปจัดนอกสถานที่ เป็นคุณแม่ฝรั่งจ้างเป็นงานวันเกิดลูกชาย ให้เราจัดบนโต๊ะ 3 เมตร ตรงกลางก็เป็น Charcuterie อันนี้เป็นออเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา แล้วก็เป็นกลางแจ้งด้วย
เขาออเดอร์มาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก่อนวันงาน เราก็ตื่นเต้นมาก เอาถาดมาวาง 3 เมตร แล้ววาดว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง จะได้กะได้ว่าเราจะซื้อของเท่าไหร่ พอวาดออกมาเป็นโต๊ะจริงๆ เราก็จะเห็นว่าต้องใช้ชีสกี่ชิ้น แล้วก็เริ่มลิสต์ของ พอมันเป็นขนาดนี้แล้วเราต้องเผื่อไว้ก่อนว่าเจ้านี้อาจจะไม่มี ก็ต้องเผื่อไว้ 1-2 อาทิตย์เลย จองไว้ก่อน ใกล้ๆ วันก็ให้เขามาส่ง
2 วันก่อนหน้าที่จะไป เราก็จะต้องมาจัดเตรียม มาหั่นชีส หั่น Salami ให้พร้อม พอไปถึงเราก็จะได้พับและเรียงเลยเผื่อเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทีม 3 คนรวมนกด้วย ก็กังวลอยู่ เราไม่เคยทำเลยค่ะ ตอนแรกฝนตกแล้วเราต้องเก็บของรอบนึง ฝนหยุดแล้วเราก็จัดใหม่ พอแขกเขาเริ่มมาก็ชมกันไม่ขาดว่าสวยมากเลย ไม่คิดว่ามันจะสวยขนาดนี้ ดีใจมาก”
มองโลกมุมบวก “คนเราประสบความสำเร็จได้บ่อยๆ”
บัณฑิตสายศิลป์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองมีความฝันหลายอย่าง แต่เป็นอันต้องพับโครงการไป เป็นเพราะ “ไฟในตัว” ที่จุดยังไงก็ไม่ติด จนมาเจอการขายชีสบอร์ด ที่ทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง
“ตอนจบมาจริงๆ คิดอยากจะทำร้านกระเป๋า อยากทำร้านเสื้อผ้า ของแต่งบ้าน อยากทำไปหมดเลยค่ะ เราก็จะวาดไว้ในสมุดของเราว่าเราจะมีกระเป๋าแบบนี้นะ แต่ยังไม่ได้เริ่มทำซักที
มีครั้งนึงที่เราเริ่มทำกระเป๋าเป็นของตัวเอง แต่ว่าไปได้ไม่สุด ทำเสร็จแล้วก็ไม่ขาย หรือว่าทำเสื้อของตัวเองแล้วก็ทิ้งสต๊อกไว้อยู่ ยังขายไม่หมด เหมือนไฟเราหมดเร็วมาก ก็เลยทำให้เรียนรู้ว่าถ้าเราจะทำ เราก็ต้องทำไปเรื่อยๆ ถ้าหยุดเมื่อไหร่มันก็ไม่เกิด
สาเหตุที่ทำให้เราหยุดทำหลายๆ โปรเจกต์ของเรา ก็อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเราเองด้วยที่มีพลังไม่พอ แล้วก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เรา enjoy กับมันจริงๆ เราก็เลยโอเค… ทิ้งมันแล้วกัน เราก็จะเริ่มไม่สนุกแล้วก็จะทิ้งไปเลย
แต่รู้สึกว่าอันนี้จับพลัดจับผลูด้วยว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบพอดี แล้วเราก็ enjoy กับการทำในทุกขั้นตอน มันก็จะมีบ้างที่เราไม่อยากทำ แต่โดยรวมแล้วเรารู้สึก enjoy กับมันมากที่สุด รู้สึกว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราสนุกตอนนี้ มันก็เลยไปได้เรื่อยๆ”
[ หาไอเดียชีสบอร์ดในต่างแดน ]
ส่วนการเติมเชื้อไฟให้ใจตัวเองนั้น เจ้าของร้านชีสบอร์ดสุดไวรัล กล่าวว่า เธอใช้วิธีการออกไปท่องเที่ยวในโลกกว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และหาไอเดียมาใช้กับธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
“มันไม่ใช่จะเฟลในเชิงการขายของ แต่มันจะเฟลในเชิงตัวเองไม่ทำแล้ว เบื่อแล้ว หยุดก่อน แต่ว่าตอนนี้เจอวิธีแก้แล้วคือไปเที่ยวค่ะ เป็นคนที่ชอบไปที่ใหม่ๆ สมมติเราไม่ไหวแล้ว เราอยู่ตรงนี้แล้วเราไม่โอเค เราก็จองตั๋วไปที่อื่น วิธีนี้ได้ผลมาก
เหมือนเราไปเห็นอะไรใหม่ๆ มาเยอะ ได้เจอคนใหม่ๆ ทำให้เรากลับมามีไฟมากขึ้น ก็แล้วแต่ช่วงค่ะ ปีนี้ก็ไปเที่ยวมา 2 ครั้งแล้ว ถ้าได้ก็ถือเป็นโบนัสว่าเราได้อะไรใหม่ๆ ในชีวิต รู้สึกว่าเวลาที่คนเราเครียดจะไม่ทำอะไรเลย
จริงๆ ก็อธิบายยากเหมือนกันค่ะ ว่า ใครเกิดมาเพื่อสิ่งไหน บางคนก็ไม่รู้จริงๆ ว่าชอบอะไร แต่ถ้าเราใช้ชีวิตไปซักวันนึงเราก็จะเจอว่าเราชอบอะไร หรือว่าถ้าเราไม่เจอแต่เราแฮปปี้แล้วก็ไม่เป็นไร เราก็ทำสิ่งที่เราทำอยู่ในปัจจุบันไปเรื่อยๆ
นกคิดว่าเมื่อไหร่ที่เราไม่แฮปปี้ก็แสดงว่าเราไม่ชอบ แปลว่า มันไม่เหมาะกับเรา เราก็ไปทำอย่างอื่น ลองไปเรื่อยๆ เหมือนเราไม่ได้บังคับว่าฉันจะต้องเจอแบบนี้ ฉันชอบอะไร ก็ชิลๆ ลองไปเรื่อยๆ ถ้ามันไม่ถูกใจก็ลองใหม่”
ถามถึงอนาคตของ Nokky's Charcuterie นกเปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ กำลังจะมีหน้าร้าน ให้เหล่าชีสเลิฟเวอร์ได้มานั่งชิลกัน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการบริการที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการที่ลูกค้าเรียกร้องกันมา
“ตัวนกคิดว่าเราทำออนไลน์ก็จะมีจุดที่ตัน เราก็รู้สึกว่าเราไปได้ไม่มากกว่านี้แล้ว ก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะขึ้นๆ ลงๆ แล้วเราจะทำอะไรกับมันไม่ได้ นอกจากพยายามโฆษณาให้ดีที่สุด
ที่เจอมาส่วนใหญ่ลูกค้าจะชอบบอก ‘ทานวันนี้เลยได้มั้ยคะ ส่งเดี๋ยวนี้เลยได้มั้ยคะ’ จะมีแบบนี้เยอะมาก อย่างเรารับออเดอร์มาวันนี้ เราจัดส่งให้พรุ่งนี้ เราต้องใช้เวลาเตรียมการ 1 วัน ต้องใช้เวลาเรียงออเดอร์ว่าคนนี้สั่งอะไร เราไม่สามารถเสริมความต้องการของลูกค้าในมุมนี้ได้
ก็เลยคิดว่า ถ้าเรามีหน้าร้านเราจะได้อีกฟีลนึง แล้วเราสามารถทำได้เดี๋ยวนั้นเลย ส่งได้เดี๋ยวนั้นเลย ลูกค้านั่งทานได้เลย หรือว่าได้บรรยากาศภายในร้าน บวกกับคุณพ่อชอบบอกว่า ‘ยังเด็กอยู่ทำไปเถอะ’ (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าตกลงลองทำดูดีกว่า น่าจะตอบโจทย์ปัญหาที่เราเจอตอนนี้
เดี๋ยวจะมีหน้าร้านแถวอารีย์ค่ะ สามารถเข้ามาซื้อแล้วก็นั่งทานได้เลย หรือว่า take away ก็ได้ ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มก่อสร้าง อยากทำร้านนี้ให้คนรู้จัก ให้มันเป็นบรรยากาศที่ดีๆ ที่รวมคนที่ชอบทานชีส ชอบทานไวน์ ให้มา hangout กัน”
สุดท้าย เจ้าของร้านวัย 23 ปี ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจถึงมุมมองการใช้ชีวิต โดยเธอกล่าวว่า เป็นคนมองเรื่องใกล้ตัวให้มีความสุขได้ง่าย สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้ ‘ถือว่าประสบความสำเร็จตลอดเวลา’
“พูดจริงๆ ก็คือไม่คิดเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนซื้อเยอะขนาดนี้ มีลูกค้าประจำ มีคนมาสัมภาษณ์ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จตลอดเวลาเลยค่ะ (หัวเราะ)
ปีที่แล้วเราไปออกบูธ มีคนต่อแถวเยอะมาก เราประสบความสำเร็จ ปีนี้เรามีร้านใหม่ เราประสบความสำเร็จอีก ก็รู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จได้บ่อยๆ ค่ะ เราไม่ได้ตั้งว่าเราต้องประสบความสำเร็จตอนเรามีเงิน 10 ล้าน ไม่ใช่แบบนั้น
จริงๆ ก็คิดว่าตัวเองยังเด็กอยู่ค่ะ เพิ่งอายุ 23 เอง ก็ต้องเรียนรู้อีกเยอะเหมือนกัน ในเรื่องของการทำธุรกิจหรือว่าในเรื่องของอาหาร ค่อยๆ ลองไป ให้มันผิดพลาดไป เดี๋ยวเราก็จะได้เรียนรู้เองว่าอันนี้ไม่ดีนะ ไม่ควรทำ
ปกติจะเป็นคนที่คิดเยอะมากแต่ไม่เริ่มทำซักที วางแผนก่อน ซื้อของก่อน ยังไม่ทำ แต่จริงๆ แล้วได้เรียนรู้ว่าเราทำไปเลย ธุรกิจส่วนตัวจริงๆ ก็ยากนะคะ แต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่ายากเกินกว่าที่ใครๆ จะทำ อยากให้คิดว่าอยากทำอันนี้ก็ลองทำดู มันจะมีอะไรให้เราแก้ไขและค่อยๆ เรียนรู้ไป ถ้าเราไม่เริ่มทำมันก็จะไม่โตได้ จนถึงวันนึงเราก็จะโตขึ้นเองค่ะ”
ครอบครัว-เพื่อน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “คุณพ่อคุณแม่ก็จะแนะนำว่าวิธีไหนคิดว่าดี หรือว่าตอนนี้ควรจะลองไปเลย ลุยไปเลย คุณพ่อชอบพูดว่า ‘ขาดทุนไปเถอะ อายุน้อยอยู่ยังมีโอกาส’ (ยิ้ม) ทำให้เรากล้าที่จะทำอะไรมากขึ้น คุณพ่อจะทานบ่อยมาก คุณพ่อจะชอบทานกับไวน์อยู่แล้ว ทานอันนี้คู่กับอันนี้ หรือชีสตัวนี้พ่อชอบมากเลย รู้สึกว่าควรจะเพิ่มลงไปในบอร์ดนะ ก็จะแนะนำมา เราไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลย แต่ว่าก็จะมีคุณพ่อช่วยแนะนำว่าอันนี้ต้องทำแบบไหน การจดบริษัททำยังไง ตอนนี้ทั้งร้านมี 3 คน ถ้าเวลาคิดก็จะช่วยกันคิดค่ะ แต่ว่าหน้าที่หลักๆ จะต่างกัน อย่างนกตอนนี้ก็คุมภาพรวมทั้งหมด เป็นฝ่าย ads ก็คือทำกราฟิก ถ่าย TikTok เพื่อนอีกคนจะทำเป็นฝ่าย logistic ก็คือ ตอบลูกค้า ส่งของ ประสานงาน แล้วก็อีกคนนึงจะเป็นคนจัดเป็นหลัก คนที่มาทำงานด้วยเป็นเพื่อนคนนึงแล้วก็รับสมัครเข้ามา แต่ตอนนี้ก็อยู่กันเหมือนเพื่อนเพราะอายุใกล้ๆ กัน (ทำงานกับเพื่อน) เคยคิดว่าจะมีค่ะแต่ว่าไม่มี อาจจะเป็นเพราะว่าเราคุยกันตลอดเวลาด้วยก็ได้ แล้วเราก็สนิทกันพอสมควร เป็นคนประเภทเดียวกัน ถ้าเราคิดว่าเราไม่โอเคกับเขาเรื่องนี้เราก็ต้องบอกเขา ถ้าเราเก็บไปคิดเองมันก็จะสะสมๆ แล้ววันนึงเราก็จะโกรธเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ถ้าเราคิดมากเรื่องนี้ เราคุยกัน ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรค่ะ” |
ดูโพสต์นี้บน Instagram
...พีคสุดคือ วันละ 50-60 ถาด รายได้เดือนละตก 3 แสน++...
>>> https://t.co/p2UZfpi2Xo
.
“ทุกวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จตลอดเวลาเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้ตั้งว่า ต้องสำเร็จตอนมีเงิน 10 ล้าน จะถึงจุดนั้น แต่รู้สึกว่าเราสามารถประสบความสำเร็จได้บ่อยๆ”
.#ชีสบอร์ด #อาหาร #คนรักชีส pic.twitter.com/LG1LkqNDDo— livestyle.official (@livestyletweet) November 17, 2022
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป : อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ, อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : แฟนเพจ “Nokky's Charcuterie”, อินสตาแกรม @naaatcha และ TikTok @nokkyscharcuterie
ขอบคุณสถานที่ : ร้าน “Coco Chaophraya” (ถ.พระอาทิตย์)
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **