xs
xsm
sm
md
lg

หนึ่งคนว่าย ไร้คนช่วย เบื้องหลัง “มนุษย์เงือก” จ้วงน้ำข้ามเกาะ เก็บขยะทะเลในพื้นที่เข้าไม่ถึง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจ “ทราย-สก๊อต” ว่ายน้ำตัวเปล่า ข้ามเกาะคนเดียว ฝึกตั้งแต่เกิด-ไม่ได้อยากเป็นกระแส หวังการว่าย ปลุกใจอนุรักษ์ท้องทะเล




ว่ายน้ำตัวเปล่า-ไร้ทุ่นลอยตัว กลางอันดามัน


“ผมว่ายน้ำบ่อยอยู่แล้ว ปีที่แล้วผมก็ว่ายไปเกาะนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ว่ายไปกลับ ว่ายแค่รอบเดียว แล้วต้นปีนี้ผมได้แข่งว่ายน้ำทะเล เราได้ที่ 1 ในกลุ่มอายุของผม มันก็เป็น challenge เพราะผมก็อยากเพิ่มระยะที่ผมว่ายได้


วันนั้นที่เป็นไวรัล ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นไวรัล ผมแค่ตัดสินใจว่าลองไลฟ์ตอนว่ายน้ำ อยากให้เขาได้มาอินกับชีวิต ที่มาอยู่ธรรมชาติแบบเต็มที่ เพราะรู้สึกว่าคนจะไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้ เลยตัดสินใจถ่ายครับ”

[ทราย-สิรณัฐ สก๊อต ]
ทราย-สิรณัฐ สก๊อต นักอนุรักษ์ผู้ต่อสู้เพื่อพิทักษ์ทะเลไทย เปิดใจกับ ทีมข่าว MGR Live หลังกลายเป็นไวรัล หนุ่มว่ายน้ำตัวเปล่า ไม่ใช้ทุ่นลอยข้ามทะเล อ่าวนาง-เกาะปอดะ จ.กระบี่ ไปกลับคนเดียว เป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จนกลายเป็นที่สนใจในโซเชียลฯ

นักอนุรักษ์วัย 26 ปี เล่าว่า ที่ตัดสินใจว่ายน้ำ ไม่ได้อยากจะให้เป็นกระแส และดรามาแต่อย่างใด แต่เพราะทรายเป็นคนชอบกีฬาว่ายน้ำ และมักจะว่ายน้ำแบบนี้เป็นประจำ

อีกทั้งตลอดทั้งปี เขาได้ลงแข่งขันว่ายน้ำ และฝึกฝนการว่ายน้ำในทะเล challenge เสมอ เพื่อเก็บระยะทางในทะเลภาคใต้เป็นประจำทุกอาทิตย์ โดยระหว่างว่ายน้ำเก็บระยะทางนั้น หากพบเศษขยะ อวนที่ถูกทิ้งเป็นขยะในทะเล เขาก็จะไปเก็บกู้ออกไปทิ้งด้วย


“คือ เราต้องคุ้นเคยกับทะเลก่อน เราต้องสบายตัวในน้ำ และเรื่องสุขภาพของหัวใจต้องแข็งแรง เพราะถ้าหัวใจเราแข็งแรง มันสามารถเผาผลาญ และช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย เลี้ยงออกซิเจนต่อได้ ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมไหน


พอดีทรายเป็นคนที่วิ่งระยะทางไกลด้วย แต่ไม่ได้ไกลเท่าว่ายน้ำ เลยทำให้ร่างกายค่อนข้างพร้อมที่จะว่ายระยะทางไกลอยู่


วันนั้นมีเพื่อนผมที่ไลฟ์ เขาก็จะเป็นคนช่วยยื่นน้ำให้ เพราะเมื่อเราต้องว่ายน้ำเกลือ น้ำในร่างกายเราจะออกไปเยอะ เราเลยต้องดื่มน้ำเยอะ แล้วก็มีคนขับเรือไปด้วยครับ”


ไม่เพียงแค่นั้น เขาเล่าว่า ตั้งแต่เกิดก็เริ่มหัดว่ายน้ำ และช่วงหนึ่งได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ จนเมื่อไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กลับมาอยู่เมืองไทย ก็ชอบเที่ยวทะเล จึงลองมาเที่ยวทะเลอันดามัน ก็เกิดรักในทะเลแห่งนี้

“ตามชีวิตธรรมดาของทราย ทรายเป็นคนที่อยู่กับทะเลครับ อาทิตย์หนึ่งทรายน่าจะว่ายได้ 30 กม. ซึ่งเป็นบางอาทิตย์ เพราะถ้าผมแบ่งเวลาของวัน 50% คือ ว่ายน้ำ อีก 50% คือ อนุรักษ์ทะเลครับ

ผมอยู่ภูเก็ต หาดที่ผมว่ายมันก็จะเป็นหาดที่ไม่มีเกาะ แล้วพอดีผมไปเที่ยวกระบี่ แล้วเกาะนี้มันเป็นไอคอนของกระบี่ แล้วเป็นอะไรที่สวยมาก และไกล ผมเลยตัดสินใจว่าอยากว่ายไปและว่ายกลับเพื่อเก็บระยะทางของตัวเอง และพัฒนาฝีมือการว่ายน้ำครับ”





“มนุษย์เงือก” เก็บขยะ รักษาทะเล


ด้วยความชื่นชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งกำลังอยู่ในวัยแห่งความท้าทายที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับท้องทะเล ทำให้ทรายรู้สึกผูกพัน มองเห็นสภาพชายหาดและโลกใต้ทะเลของไทยค่อนข้างน่าเป็นห่วง จึงหันมาใส่ใจ อนุรักษ์ จนได้รับฉายาว่ามนุษย์เงือก

โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้มุ่งมั่นในการทำกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเล ร่วมกับชาวบ้านในชุมชน ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ อย่างจริงจัง

เพราะเคยเห็นสัตว์ทะเลต้องตายลง จากการไปกินขยะพลาสติก จึงอยากสมมติตัวเองเป็นสัตว์ทะเล ที่ต้องว่ายน้ำอาศัยอยู่ในทะเล ว่า เขามีความรู้สึกอย่างไร สัตว์ทะเลต้องใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน ถ้ามีขยะลอยอยู่ในทะเล


“ผมทำมา 3 ปี เหมือน 4 เดือนที่แล้ว ผมหาจิตอาสาว่ายน้ำทางทะเลแบบผม ประมาณ 30 คน แล้วเราก็ว่ายไปเกาะแล้วเก็บขยะที่มันอยู่โขดหิน แล้วคนอื่นๆ เข้าไปเก็บไม่ได้ มันต้องมีความแข็งแรง

เพราะขยะอยู่ในซอกหิน แล้วขยะเป็นเศษอวน ที่ประมาณ 100 กว่ากิโล เราเก็บได้ 6 ตัน นี่ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เราทำ เพราะถ้าเราไม่ทำ ไม่เก็บ ทะเลตรงนั้นก็เสียหาย มันจึงต้องใช้นักกีฬาที่ว่ายน้ำด้วยครับ สำหรับคนที่ทำงานแบบนี้

คือว่าทะเลตอนนี้มันเป็นแหล่งทำมาหากินของเกือบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว หรือที่เป็นที่ทำอาหาร เอาอาหารจากทะเล แต่ขยะที่เราสร้างในชีวิตประจำวัน ที่เรามักจะใส่ถุงดำ มันมี 2 ปลายทาง คือ ถูกฝังกลบที่อยู่บนบก กับในทะเล


เหมือนจานที่เรากินข้าว แล้วพลาสติกกับจานพวกนี้ มันไปทำลายระบบนิเวศ อย่างเช่น สัตว์ทะเลกินแล้วเขาก็ตาย มันทำให้สัตว์ถูกคุกคาม มันทำให้ปะการังเสียหาย ซึ่งปะการังเป็นบ้านของปลา

ถ้าเกิดปะการังไม่มี ปลาไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ ซึ่งมันก็จะกระทบคนที่ทำมาหากินด้านอาหารของทะเล สุดท้ายแล้วมันเกี่ยวกับเรา เพราะว่าเรากินอาหารทะเลเข้าไป มันมีขยะ เศษพลาสติก ไมโครพลาสติกที่มันอยู่ในอาหารทะเล แล้วกินเข้าไป ตอนนี้มีเศษพลาสติกในหลอดเลือดคนแล้วครับ

มันเป็นเรื่องที่เจอจริง ทราย มองว่า เป็นเรื่องคุกคามของสิทธิมนุษย์ เพราะว่ามนุษย์สมควรได้มีอาหารที่มาจากแหล่งที่สะอาด และสิทธิของสัตว์อื่นๆ ด้วย เพราะสัตว์เขาก็เหมือนมนุษย์”


ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการเตรียมตัวว่ายน้ำจากหาดอ่าวนาง จ.กระบี่ ไปยังเกาะพีพี เพื่อหวังการว่ายน้ำ จะช่วยให้ทุกคนหันมาดูแล อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีความสุขกับการได้อยู่กับธรรมชาติ

“จริงๆ ผมอยากเอาการว่ายน้ำมาเปิดประสบการณ์ให้คน สามารถหันมาอนุรักษ์ทะเลได้ อาจจะจัดงานรอบหน้าที่จัดว่ายน้ำไปเกาะพีพี แต่อาจจะทำกับคนอื่น คงไม่ได้ว่ายไปคนเดียว อยากให้คนอื่นได้มีความสุข กับการได้อยู่กับธรรมชาติพร้อมกันครับ

คือ แฟนคลับขอบคุณที่เขาให้ความสำคัญกับตัวทราย และใจที่ทรายมี ที่รักธรรมชาติ แล้วก็เป็นกำลังใจให้ เพราะทรายทำให้ทุกคน มันเป็นสิ่งที่ทรายอยากสู้ให้

ทรายดีใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ทรายเห็นคนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมในข่าว mainstream เลยมีความสุขตรงนั้นมากเลย ก็ช่วยๆ กันรักษาทะเลของเราครับ”





สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Psi Scott”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น