xs
xsm
sm
md
lg

“โลกธุรกิจไม่มีทางลัด” ตั้งค่าหัว 2 ล้าน ล่า #นัตตี้โกงเทรดพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กูรูการตลาดสะท้อนเคส “นัตตี้” ยูทูบเบอร์สาวหลอกร่วมลงทุน เหยื่อนับพัน ยอดเงินกว่า 2 พันล้านบาท ย้ำ ถ้าไม่อยากเป็นเหยื่อ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน “โลกธุรกิจไม่มีทางลัด”

หายเข้ากลีบเมฆ #นัตตี้โกงเทรดพันล้าน

“ผมมองว่า ในมุมผู้บริโภคก็ต้องเข้าใจวิธีการสร้าง story ของแต่ละคน ต้องรู้ว่า story นั้นมันจริงหรือเปล่า มีเหตุมีผลหรือเปล่า ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญของคนไทย เราเสพแต่ story อย่างเดียวไม่ได้ เราดูแต่ตัวเลข followers อย่างเดียวไม่ได้ เขาจะขายของ เขาจะชวนเราลงทุนอะไรก็ตาม เราก็ต้องดูความเชื่อถือ ดูความถูกต้องเป็นสำคัญครับ”

วีรพล สวรรค์พิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและนักวิชาการอิสระ ให้ความเห็นแก่ทีมข่าว MGR Live ถึงกรณีที่สังคมกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ กับแฮชแท็ก #นัตตี้โกงเทรดพันล้าน

เป็นเรื่องราวของ “นัตตี้ - นัทธมณ คงจักร์” ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง ที่ได้ชักชวนผู้คนให้นำเงินมาลงทุนกับเธอด้วยการเทรดหุ้น โดยยืนยันว่า ผู้ร่วมลงทุนจะได้กำไร แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับผลตอบแทน มีผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ ทั้งบุคคลทั่วไปและบุคคลที่มีชื่อเสียงรวมกว่าพันราย โดยมีมูลค่าความเสียหายนั้นสูงถึง 2 พันล้านบาท!!


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมขุดคุ้ยประวัติของหญิงสาวรายนี้ขึ้นมา ก็พบว่าเธอเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตีสิบ เมื่อปี 2557 ว่า เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและใช้ชีวิตดุจเจ้าหญิง แม่ทำธุรกิจคาราโอเกะอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ที่บ้านมีรถ 14 คัน มีพี่เลี้ยง 22 คน แม้แต่รองเท้าก็แทบจะไม่ต้องสวมเอง

ต่อมาครอบครัวเกิดล้มละลาย ทำให้ 2 แม่ลูกต้องระเห็จไปประเทศมาเลเซีย และทำงานรับจ้างนวดเท้าตามบ้าน เมื่อนัตตี้อายุได้ 13 ปี ก็มีมหาเศรษฐีชาวมาเลย์มาหลงรักและขอแต่งงาน โดยให้สัญญาจะไม่ล่วงเกินเด็กสาวจนกว่าเธอจะโต แต่แล้วเขากลับผิดสัญญา แม่จึงให้เธอหย่าและพาหนีกลับมาเมืองไทย


เวลาผ่านไป ด้วยความสามารถด้านการร้องเพลง เล่นดนตรี และเต้นคัฟเวอร์ ทำให้นัตตี้กลายเป็นเน็ตไอดอลในที่ยุคโซเชียลแคมได้รับความนิยม ถึงขั้นได้ร่วมงานกับค่ายเพลงที่เกาหลี ภายใต้สังกัด Dream Cinema โดยมีผลงานเพลงคือ So What และ I’m Gonna Catch Ya ต่อมาต้องแยกย้ายกัน เพราะขัดแย้งเรื่องสัญญาและค่าตอบแทน

เมื่อกลับมาเมืองไทย นัตตี้ได้ผันตัวเองมาเป็นยูทูบเบอร์และครูสอนเต้น พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก “นัทธมณ” เป็น “ลีอาห์”และ “สุชาตา”ตามลำดับ เธอมีผู้ติดตามในยูทูบถึง 8 แสนคน

ก่อนจะผันตัวมาเป็นกูรูเรื่องหุ้น ในฐานะ “โค้ชนัตตี้”มีการสอนเทรดหุ้น และมักจะโชว์ความสำเร็จของตนเองผ่านโลกออนไลน์ อย่างการเทรดเงินทำกำไรได้เงินหลักแสนในเวลาแค่ 16 นาที หรือการทำกำไร 4 ล้านบาท ในหนึ่งวัน พร้อมทั้งอ้างว่าตัวเองเป็นนักเทรดระดับ VIP ของโลก




นอกจากนี้ “โค้ชนัตตี้” ยังรับฝากเงินจากคนอื่นๆ มาเทรดโดยรับประกันผลตอบแทน จนทำให้มีคนสนใจนำเงินมาร่วมลงทุนด้วยจำนวนมาก แต่ต่อมาเธอไม่สามารถหาเงินมาให้กับคนที่มาลงทุนได้ ทั้งยังอ้างสารพัดเหตุผล จนเจ้าทุกข์นับพันรายรวมตัวกันเอาผิดยูทูบเบอร์ผู้นี้

ล่าสุด มีรายงานว่า ทางกลุ่มผู้เสียหาย ได้เพิ่มรางวัลนำจับยูทูบเบอร์สาวจาก 1 ล้าน เป็น 2 ล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่า เธออาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ด้วยช่องทางทางธรรมชาติ

“โลกธุรกิจไม่มีทางลัด”

จากเรื่องราวที่ถูกเปิดเผยมานั้น ทำให้คนในสังคมตั้งข้อสังเกตกันไปต่างๆ นานา ว่า ประวัติชีวิตของนัตตี้ ตกลงแล้วเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง?!

ทางด้านของ อ.วีรพล ได้วิเคราะห์ประเด็นนี้ผ่านแว่นการตลาด ว่า การสร้าง personal brand หรือการทำตัวเองให้เป็นแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในสังคมขึ้นมา เป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดเพื่อทำธุรกิจ



[ วีรพล สวรรค์พิทักษ์ ]
“ตอนนี้มันมีกระแสเรื่องการลงทุนเกิดขึ้น ทุกคนอยากมี personal brand ทำตัวเองให้เป็นแบรนด์ สิ่งที่ตามมา คือ จะมี followers จากนั้นพอมีฐานมันก็จะต่อยอดมาทำธุรกิจต่างๆ บางคนผลิตสินค้าขาย ทำแบรนด์ตัวเอง และการชักชวนลงทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น ในอสังหาฯ หรือแม้กระทั่งการขายตรง อันนี้เป็นภาพรวมว่าเป็นมายังไง

มองในมุมของผู้บริโภคทั่วไป พอเราเห็นคนที่เขามี personal brand เป็น KOL (Key Opinion Leader : ผู้นำทางความคิด) หรือเป็น Influencer ต่างๆ แน่นอนเราก็จะติดตามเขา ตอนนี้เราดูกันแต่ตัวเลขว่าคนนี้กำลังดัง ทำคอนเทนท์น่าสนใจ โปรไฟล์น่าสนใจ personal brand มันมาพร้อมกับ storytelling ทุกคนต้องสร้าง story ของตัวเองให้ดูน่าสนใจ

วิธีการสร้าง storytelling คือ 1. โชว์ความสำเร็จ ฉันประสบความสำเร็จ ต้องบินเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ฉันไปเมืองนอกบ่อย ฉันขับซุปเปอร์คาร์ 2. โชว์ความลำบาก โชว์ความน่าสงสาร ฉันลำบากมาก ชีวิตลำเค็ญ คนก็จะสงสาร

และ 3. โชว์ความพลิกผันของชีวิต มันคือ 1 กับ 2 ผสมกัน อันนี้คือคีย์ที่คนใช้กันเยอะในช่วงนี้ ลำบากปุ๊บแล้วมารวย สร้างเนื้อสร้างตัวจาก 50 บาทตอนนี้มี 50 ล้าน ชีวิตผันผวน คนก็จะว้าว จะรู้สึกว่าฉันอยากจะเป็นแบบนี้ ก็เป็นคีย์ในการสร้าง story ยุคโซเชียลมีเดียครองเมืองอย่างในปัจจุบัน”



นอกจากนี้ เขายังเสริมด้วยว่า ความสะดวกสบายและรวดเร็วในการทำธุรกรรมทางการเงินของยุคสมัยนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การถูกหลอกลวงทางออนไลน์เป็นไปได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

“ตอนนี้ต้องบอกว่าธุรกรรมออนไลน์ทำได้แค่ปลายนิ้ว ประเทศไทยเรื่องของ cashless (การลดการใช้เงินสด) เรื่องของ digital currency (สกุลเงินดิจิทัล) ต่างๆ เราถือว่าเติบโตได้เร็ว ประเทศไทยเรามีการโอนเงินกันง่าย

เพราะฉะนั้นการโอนเงิน การเลือกลงทุน การจ่ายเงิน มันทำง่ายแค่ปลายนิ้ว แน่นอนว่าทำให้เศรษฐกิจมันก็เติบโต การค้าขายออนไลน์ก็เติบโต แต่ในอีกมุมหนึ่ง การโกงกันทางออนไลน์มันก็ทำได้ง่ายขึ้นเล่นเดียวกันครับ”

สุดท้าย กูรูด้านการตลาด ได้ฝากถึงคนในสังคม ถึงเรื่องของการเสพสื่อโซเชียลต่างๆ ตลอดจนการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่ต้องสืบค้นข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อที่จะไม่ได้ตกเป็นเหยื่ออย่างเช่นในปัจจุบัน



“ในมุมความเห็นส่วนตัวของผม โลกธุรกิจไม่มีทางลัด ที่ดีดนิ้วแล้วรวยเลย ลงทุนแล้วรวยเลย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีทาง ดังนั้น ถ้าเราเห็นอะไรที่มันผิดปกติ เช่น รวยเร็วผิดปกติ สำเร็จเร็วผิดปกติ ได้เงินเร็วผิดปกติ ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่ามันไม่จริง อย่าเพิ่งรีบลงทุน ให้ศึกษาข้อมูลก่อน ทุกอย่างจะมีขั้นตอนของมันเสมอ

แต่คนไทยเป็นคนเลือกลงทุนตามกระแส เลือกลงทุนตามข่าว จริงๆ แล้วการลงทุนต้องศึกษาข้อมูลและดูเบื้องหลังการลงทุน จะเป็นหุ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ เราไม่ได้ดูที่ตัวบุคคลหรือ personal brand เราต้องดูที่ความมั่นคง ดูที่การทำธุรกิจของบริษัทนั้นๆ การลงทุนมีความเสี่ยงถึงแม้เราจะเลือกลงทุนกับบริษัทใหญ่ แต่มันอาจจะน้อยกว่าเลือกลงทุนกับบุคคล

เพราะฉะนั้นก็ต้องศึกษาข้อมูลครับ อยากให้ลงทุนด้วยสติ ลงทุนด้วยข้อมูลที่จริงเป็นสำคัญ จะทำให้คุณเลือกลงทุนได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ”

ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม nutty.suchataa



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น