xs
xsm
sm
md
lg

ชำแหละ “ผีน้อย” = จุดจบคนไทยเข้าเกาหลี? หลบหลีกกฎหมาย-ตีกลับยกลำ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำทัวร์แฝง แจกแพลนเที่ยว!! แห่บินเกาะเชจู หลบหลีกการตรวจเข้าเมือง สารพัดวิธี “ผีน้อย” ทำคนเดือดร้อน ตีกลับยกลำ ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ อนาคตห้ามคนไทยเข้าประเทศ!?




ห้ามคนไทยเข้าประเทศ!?


“มันอาจจะมีส่วนมีผลกระทบบ้าง ในการที่สแกนผิด สแกนถูก แต่ก็ยังเชื่อมั่นอยู่ว่า ถ้าเรามาเที่ยวจริงๆ เรามีหลักฐานพร้อม มีพร้อมทุกอย่าง เราเป็นนักท่องเที่ยวที่ชัดเจน ยังไงก็คิดว่าผ่านค่ะ แต่ถ้าถามว่า มีเปอร์เซ็นต์ไหม ที่คนไทยจะผ่านเข้ายาก อันนี้เรื่องจริง”


แนน-อริสราภรณ์ ลี เจ้าของแฟนเพจ “สะใภ้เกาหลีมาดามลี” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตในเกาหลี เปิดใจกับ ทีมข่าว MGR Live หลังจากมีกระแสข่าวแรงงานไทยผิดกฎหมาย หรือ “ผีน้อย” ในเกาหลีใต้ ส่งให้มีการตรวจเข้าเมืองเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

เรียกได้ว่า มีการเปิดเผยตัวเลขสถิติ การตรวจคนเข้าเมือง คนไทยถูกส่งกลับยกลำ 115 คน รวมถึงมีการเปิดเผยตัวเลขสถิติ คนไทยบินไปเกาะเชจู ที่ประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 10,000 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตีกลับจำนวน 5,000 คน

เนื่องจากทั้งหมดถูกตรวจพบ และคาดว่า ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เป็นการแอบแฝง หลบหลีกเข้าไปทำงานเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ส่งผลให้สังคมตั้งข้อสงสัยไว้ว่า ในอนาคตอาจจะทำให้สถานการณ์การเข้าประเทศเกาหลีใต้ของไทยย่ำแย่ จนถึงขั้นอนาคตอาจจะเข้าไปในประเทศแดนกิมจิแห่งนี้ไม่ได้

“ถ้าบอกว่าไม่มีผลกระทบเลยเป็นไปไม่ได้ เพราะคนไทยที่มาเหมือนเป็นกรุ๊ปที่โดนเพ่งเล็งเยอะที่สุด คือ พอมาแล้วเป็นคนไทย มันจะมีส่วนที่ทำให้โดนจ้อง และโดนสแกนเยอะมากขึ้น


ตม. เขาก็จะมีการตรวจสอบ เช็กมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ถ้ามา แล้วไม่มี profile เข้าออกประจำ หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เคยมีประวัติ เพราะเวลาผ่าน ตม. คีย์เข้าในระบบคอมพิวเตอร์มันขึ้นหมด

ฉะนั้น ส่วนใหญ่พอมา ถ้าไม่ชัวร์ เขาจะเกณฑ์เข้าห้องหมดเลย แล้วก็เข้าไปจะมีการสแกนอีกรอบนึง ด้วยการเช็กประวัติ เป็นเหมือนการสแกน 2 รอบ

[อริสราภรณ์ ลี]
คือ ถ้ารอบแรกไม่ดีจริง จะไม่เดินผ่านไปได้เลย จะถูกเรียกเข้าห้องเย็นหมดเลย ซึ่งมันจะเยอะมาก ไฟลต์กะมีเข้าเยอะมาก จะไปแออัดกัน แต่ว่าถ้าคนไหนมีเอกสารเตรียมพร้อม และมีข้อมูลชัดเจน หรือว่าบางคนอาจจะมีคนรับรอง ก็จะผ่านออกมาได้

แต่ถ้าสแกนรอบ 2 แล้ว ไม่มีความชัดเจน ถามอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่พัก ไปเที่ยวที่ไหน คือ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อันนี้ก็จะถูกส่งกลับแน่นอน สถานการณ์ตั้งแต่เปิดมาเยอะมาก และเมื่อมาทางอินชอนไม่ได้ ก็จะไปทางเกาะเชจู เพราะเนื่องจากว่าที่เกาะเชจู มีการละเว้นเรื่องของ K-ETA

คนก็แห่ไปเข้าทางเกาะเชจู เพราะมองว่าจะผ่านไปได้ และไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ แต่จริงๆ มันไม่ได้ง่าย ซึ่งเกาะเชจูเป็นเกาะเล็กๆ เอง”


ล่าสุด ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ แจงว่า เกาะเชจูเป็นเส้นทางของขบวนการลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย ในการใช้เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

เพราะไม่มีระบบคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ใช้วีซ่า “K-ETA” แต่ถึงผ่านก็ไม่สามารถการันตีจะเข้าประเทศได้ เพราะอาจถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธเข้าประเทศ

ขณะที่ในโซเชียลฯ ต่างออกมาเล่าประสบการณ์การเข้าไปท่องเที่ยวในเกาหลี แต่กลับโดนปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะเป็นผีน้อย และเป็นปัญหาใหญ่ในการเข้าประเทศนี้

“การปฏิเสธรับ นทท. ไทยของเกาหลีครั้งนี้ ทำให้เราไม่อยากไปประเทศนี้เลย แน่นอนว่าแรงงานที่ลักลอบไปประเทศเข้าแบบผิดกฎหมายก็เป็นปัญหาใหญ่


แต่ขณะเดียวกัน เกาหลีเองก็ไม่มีมาตรฐานในการตรวจสอบคนเข้าเมืองที่แน่นอน ทั้งยังไม่เห็นเอาผิด หรือมีมาตรการในฝั่งของผู้ประกอบการฝั่งตัวเองด้วย”




ผีน้อยระบาดหนัก!! สารพัดวิธีแฝงเข้าเมือง


จากการตรวจสอบ ความเคลื่อนไหวในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีการเปลี่ยนข้อมูลเรื่องหางานทำในเกาหลี ลักษณะผีน้อย พบว่า มีการทำเป็นขบวนการ พร้อมการมาขอข้อมูลการเดินทางแบบผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก

โดยส่วนใหญ่ที่เลือกเกาะเชจูเป็นปลายทาง เนื่องจากไม่ต้องลงทะเบียน K-ETA ให้ตรวจสอบ แต่หากข้ามไปแผ่นดินใหญ่ต้องลงทะเบียนระบบดังกล่าว และยังมีการทำทัวร์แฝง แจกแพลนเที่ยวเสมือนจริง พร้อมบอกทริกการผ่าน ตม.ในโซเชียลฯ อีกด้วย


ทั้งการปลอมตัวเป็นแฟนคลับ ติดรูปศิลปินหน้า passport และอีกสารพัดวิธีอีกไม่ถ้วน ที่ผีน้อยสอดแทรก พยายามเข้าไปทำงานด้วยความเสี่ยง ไม่กลัวความผิดใดๆ ประสบการณ์การใช้ชีวิตกับครอบครัว 4 ปี ในประเทศเกาหลี ผ่านสายตาของแนน ได้บอกเล่าให้ฟัง ถึงค่านิยม ‘ผีน้อย’ พร้อมให้ความรู้เพิ่มเติม ในบรรทัดต่อไปนี้...

“มองว่า น่าจะเป็นเรื่องของเงินค่ะ ค่าเงิน และผลตอบแทนที่เขาจะได้รับ เนื่องจากว่าค่าแรงขั้นต่ำที่เกาหลีประมาณ 1 ล้านเก้าแสนวอน ราวๆ เหมือนไทยก็ประมาณ 50,000-60,000 บาท ซึ่งอัตรามันค่อนข้างสูงกว่าจะอยู่เมืองไทย

มันทำให้คนกล้าที่ยอมเสี่ยง และยอมจะกู้หนี้ยืมสินมา ด้วยความที่เกาหลีหาเงินง่าย แต่ถามว่ากว่าเขาจะได้เงินมาล้านเก้าแสนวอน เขาก็แลกมาด้วยความเสี่ยง และแลกมาด้วยการทำงานที่หนักมาก ไม่เหมือนเมืองไทย

และเกาหลีก็ทำงานเร่งกับเวลา เร่งกับอากาศ ถ้าบางคนโชคดีไปเจอเจ้านายดีก็ดี เจอเจ้านายไม่ดีก็ลำบาก โดนคนเกาหลีโกงก็เยอะ แต่จริงๆ มันมีมุมด้านมืดในเกาหลีค่อนข้างเยอะพอสมควร เกี่ยวกับแรงงาน”


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากผีน้อยยังคงระบาดหนัก สถานการณ์การเข้าเมืองเกาหลีของคนไทยอาจจะไปถึงจุดที่ห้ามคนไทยเข้าประเทศ

โดยเจ้าของแฟนเพจสะใภ้เกาหลีมาดามลี ได้ทิ้งท้าย พร้อมแนะนำให้ฟัง ถึงผู้ที่สนใจเดินมาท่องเที่ยว และทำงาน จะต้องเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“อยากให้คนที่มาเที่ยวจริงๆ ถ้ามาแบบถูกต้อง คือ ไปลง K-ETA แล้วการลง K-ETA ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ ถ้าลงแล้วยังไม่ผ่าน ทางสถานทูตเขาก็รับให้เราไปยื่นทำ VISA ท่องเที่ยว ส่วนมาทำงานแนะนำให้ผ่านกรมแรงงาน มาสอบผ่าน EPS Thailand ให้ถูกต้อง มาแบบถูกต้อง อยู่แบบถูกต้อง


และมีประกันรักษาสุขภาพ ซึ่งมองในแง่ถาวรหรือว่าระยะยาวมันดีกว่า ที่เราจะมาอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนประธานาธิบดีใหม่ ก็มีการลงปราบปราบเกือบทุกวัน จับหนักทุกวัน

ซึ่งอยากแนะนำให้มาแบบถูกต้องชัดเจนที่สุด ส่วนนักท่องเที่ยวให้ K-ETA ถ้าไม่ผ่านให้ขอยื่น VISA ชัดเจนมาคุณก็ผ่านค่ะ”





สกู๊ปข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น