เปิดอุทาหรณ์ “ลูกดับเพราะกินวีแกนเคร่งเกิน” เหตุเพราะขาดสารอาหาร นักโภชนาการชี้ทริกการกินที่ถูกต้อง
เคร่งวีแกน = ขาดสารอาหาร-เสี่ยงชีวิต!!?
ถือเป็นข่าวเศร้าที่พูดคุยกันทั่วโซเชียลฯ เมื่อคุณแม่ชาวฟลอริดารายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ (วีแกน) ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จากความผิดฐานฆาตกรรมลูกชายวัย 18 เดือนของตัวเอง หลังจากเธอให้เขากินแต่ผลไม้และผักสด อีกทั้งยังไม่ได้กินอะไรเลย 1 สัปดาห์ก่อนสิ้นใจ
ทว่าคุณแม่รายนี้ได้บอกกับตำรวจว่า ลูกชายของเธอได้กินแต่ผัก-ผลไม้อย่างเคร่งครัด อีกทั้งมีปัญหาในการนอนหลับ โดยจากการชันสูตรศพพบว่าเด็กน้อยเสียชีวิตด้วยโรคขาดสารอาหาร เรียกได้ว่าสร้างความสะเทือนใจแก่สังคมเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้คนในสังคมเกิดความสนใจ และตระหนักถึงการกินมากยิ่งขึ้น เพราะมองว่าหากขาดสารอาหาร และได้รับโภชนาการไม่เพียงพอ อาจจะก่ออันตรายถึงชีวิตเหมือนเด็กคนนี้ได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง แววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ถึงเรื่องการรับประทานอาหารวีแกน ที่ถือว่าตอนนี้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคจำนวนมาก พร้อมช่วยสะท้อนถึงการรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการที่ถูกต้อง
คุณแววตาได้เผยความรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และตามหลักโภชนาการมองว่า เด็กวัยแรกเกิดควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ เพราะหากทำการบ้านเรื่องโภชนาการไม่ดี เด็กอาจจะขาดสารอาหาร และติดเชื้อโรคได้ง่าย
![[แววตา เอกชาวนา]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/565000006503311.JPEG)
“ตัวพี่เองก็สนับสนุนการเป็นวีแกน แต่วีแกนก็มีหลายแบบ และต้องทำการบ้าน การกินวีแกนจริงๆ เป็นการกินที่ดีหลักหนึ่งเลย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก
เพียงแต่ว่าเด็ก เราจะต้องดูก่อนว่าลูกของเรามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงหรือไม่ จะต้องดูน้ำหนักตั้งแต่แรกเกิด จะคลอดก่อนกำหนดก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ตามคือ หลังจากคลอดมาแล้ว เราจะต้องมีการประเมินถึงน้ำหนัก และสุขภาพของลูก ที่ต้องมีน้ำหนักมากกว่าแรกเกิด
เป้าหมายคือ ลูกต้องได้รับกรดอะมิโน โปรตีนจากแหล่งต่างๆ 19 ชนิดจากแหล่งต่างๆ อย่างดี แต่ถ้าหากว่าแม่หรือผู้ปกครองไม่สามารถจะหากรดอะมิโนต่างๆ และไม่มั่นใจเลยว่าอาหารของเราจะมีโปรตีนครบถ้วนหรือเปล่า ก็อยากให้ผ่อนหนักผ่อนเบานิดหน่อยว่า เป็นวีแกนแต่เป็นวีแกนที่ไม่ต้องเคร่งครัด สามารถกินนม กินไข่ได้ หรือจะกินนมจากพืชก็ได้”
เปิดทริกกิน “วีแกน” ให้ดีต่อสุขภาพ
เรียกได้ว่าหลักการกิน “วีแกน” อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์เป็นไลฟ์สไตล์ที่มีมานาน หลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และยังช่วยดูแลรักษาโลกใบนี้ แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนในสังคมกลับไม่เห็นด้วย ได้มีการพูดถึงเรื่องขาดสารอาหารจนเกิดอันตราย อย่างเช่นกรณีเด็กน้อยคนนี้
ผ่านสายตาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารมองว่าเกี่ยวกับทัศนคติของแต่ละบุคคล พร้อมให้ความรู้เพื่อป้องกันความเสี่ยงการขาดสารอาหาร ผู้ที่กินวีแกนในวัยเด็กควรกินอาหารเหล่านี้ให้มากขึ้น ในบรรทัดหลังจากนี้...
“ถ้าคุณแม่และผู้ปกครองสามารถหาโปรตีน และกรดอะมิโนมาทดแทน ก็สามารถเป็นวีแกนได้ แต่หากไม่สามารถหาว่าเป็นส่วนไหน ก็ขอแนะนำว่าให้กินนม กินไข่ หรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งให้เด็ก ส่วนเนื้อสัตว์ไม่กินไม่เป็นไร
แต่ต้องกินให้หลากหลาย อยากสนับสนุนว่า สำหรับเด็กเล็กๆ 1-3 ขวบ การกินไข่วันละ 1-2 ฟอง ถ้าหากว่ากินวีแกน ไม่กินเนื้อสัตว์อื่น ก็ขอให้มีไข่ 1-2 ฟอง เพราะนมกับไข่จำเป็นมาก สำหรับเด็กวัยนี้ที่สมองเขาจะต้องพัฒนา
ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโอเมกา 3 เสริมสร้างเซลล์สมองและจอตา โดยโอเมกาส่วนใหญ่จะอยู่ในสัตว์ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าหากไม่ให้เขากินปลา แค่ได้กินนมกับไข่ ในความคิดพี่แววก็พอใจแล้วค่ะ”
ไม่เพียงเท่านี้ยังฝากทิ้งทายถึงพฤติกรรมการกินวีแกนของคนในยุคปัจจุบัน ทุกคนควรมีความปลอดภัยและภูมิต้านทานที่ดี ส่วนสำคัญคือ เด็กในปกครองจะต้องได้รับประทานอาหารอย่างหลากหลาย
“ไม่ว่าจะเป็นอาหารวีแกน หรืออาหารปกติ ความหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราเป็นวีแกน เราต้องหาโปรตีนที่หลากหลายจากแหล่งพืชต่างๆ หาคุณภาพที่ดีของแคลเซียม
ต้องมีความรู้พื้นฐานของโภชนาการสำหรับเด็ก เพื่อที่จะทำให้เด็ก หรือลูกของเรามีความแข็งแรงทั้งด้านจิตใจและสมองด้วยค่ะ
การกินผักผลไม้สนับสนุนให้กินทุกช่วงวัย แต่ไม่ใช่เป็นแหล่งทดแทนสารอาหาร เราจะต้องกินอาหารหลัก 5 หมู่ค่ะ เพราะหากเมื่อใดที่ขาดสารอาหาร อย่างแรกเลย คือ สมอง สติปัญญาไม่ดี
เราอยากจะให้เด็กทุกคนบนโลกใบนี้มีสติปัญญาตามพันธุกรรมของเขา และเสริมด้วยการกินอาหารที่ดี อย่างน้องคนนี้ 18 เดือน พอเขาน้ำหนักน้อย สารอาหารน้อย การเคลื่อนไหวของร่างกาย กล้ามเนื้อ โปรตีนไม่เพียงพอ เขาก็จะติดเชื้อโรคได้ง่าย
เด็กๆ ต้องการโปรตีนมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะว่าโปรตีนจะสร้างเซลล์กล้ามเนื้อให้แข็งแรง กล้ามเนื้อที่แข็งแรงก็จะสร้างเม็ดเลือดขาวที่แข็งแรง มันจะเป็นกระบวนการทั้งหมดของร่างกาย ที่ช่วยไม่ให้ติดเชื้อโรคได้ง่ายด้วย เพราะคนที่ไม่มีโปรตีน หรือมีน้อย จะทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่ายค่ะ”
