เปิดใจแม่ค้าแซ่บ กับไอเดียสร้างมูลค่าเพิ่ม จากทุเรียนสุกเกินขาย ให้กลายเป็น “บัวลอยทุเรียน” ของหวานหน้าตาดี โดนใจลูกค้า ขายดีจนทุเรียนสุกไม่ทัน!!
โดนใจสายหวาน “บัวลอยทุเรียน”
“บัวลอยทุเรียน รสชาติจะเป็นบัวลอย แต่ใส่เนื้อทุเรียนด้วย ส่วนตัวเนื้อแป้งก็เป็นทุเรียน ปกติจะทำเป็นบัวลอยรูปไข่ดาว รูปผลไม้ รูปสัตว์ต่างๆ ทั่วไป แต่พอมาทำคอนเซ็ปต์นี้แล้วโดนใจ ลูกค้าว่าแปลกดี ก็บอกว่าอร่อยค่ะ เพราะขาประจำเขาก็กินกันอยู่แล้ว”
“เนะ-สุรัสวดี ทรัพย์แต้ม” สาวสวยวัย 37 ปี เจ้าของร้านขายทุเรียน บริเวณวัดน้อยแสงจันทร์ ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวกับทีมข่าว MGR Live
เมนู “บัวลอยทุเรียน” นั้น เกิดขึ้นมาจากการที่ร้านของเธอ มีทุเรียนที่สุกเละเกินจะกินเปล่าๆ ให้อร่อย ซึ่งทุเรียนลักษณะนี้จะไม่เป็นที่นิยมของลูกค้าส่วนใหญ่ ครั้นจะทำเป็นข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียนเหมือนอย่างเคย ก็เกรงว่าลูกค้าจะเบื่อกันเสียก่อน
ด้วยฝีมือการเข้าครัวที่มีติดตัวมาของเธอ จึงเกิดเป็นบัวลอยทุเรียนอีกเมนู ถูกนำมาวางขายอยู่หน้าร้าน เคียงคู่กับทุเรียนลูกแบบชั่งกิโล เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการเพิ่มมูลค่าในช่วงหน้าทุเรียนออกสู่ตลาด
“เราเป็นคนทำขนมหวานส่งตามร้านอยู่แล้ว แล้วก็เป็นคนชอบประดิดประดอย ทีนี้ก็ทำ (บัวลอยทุเรียน) กินเองรอบทุเรียนที่แล้ว เมื่อ 5-6 เดือนก่อน เราก็เลยลองโพสต์หน้าเฟซบุ๊ก คนก็สนใจ แล้วก็มาทำขายเดือนนี้ค่ะ
เนื้อทุเรียนที่นิ่มจะเละแล้ว ลูกค้าจะไม่กินค่ะ ส่วนมากจะเอามาทำน้ำกะทิทุเรียน ไม่ได้ทิ้งค่ะ เพราะหน้าร้านจะขายน้ำกะทิทุเรียนอยู่แล้ว แต่มาทำบัวลอยด้วย ถ้าทุเรียนไม่สุกวันนั้นก็ไม่ได้ทำ แต่ถ้าทุเรียนสุกก็จะได้ทำค่ะ”
ในส่วนของขั้นตอนการทำ ก็จะเหมือนกับการทำขนมบัวลอยทั่วไป แต่จะมีการผสมเนื้อทุเรียนสุกเข้าไปในแป้ง จนกลายเป็นสีเหลืองนวล
พร้อมกับบรรจงปั้นออกมา ให้มีรูปร่างหน้าตาถอดแบบจากพูทุเรียนในขนาดจิ๋ว ทำกันสดๆ หน้าแผง หากใครที่ต้องการเนื้อทุเรียนแบบชิ้น ก็สามารถสั่งเพิ่มได้
“ใช้แป้งข้าวเหนียวมาผสมกับเนื้อทุเรียน เติมน้ำและนวดให้เข้ากัน จะทำ 2 แบบ บางคนเขาไม่ชอบใส่เนื้อ เขาขอเป็นเนื้อที่อยู่ในตัวแป้งเลย ถ้าใส่เนื้อชิ้นของทุเรียน ก็จะใช้ทุเรียนแบบสุกห่ามๆ
จะมีใส่ถุงและใส่ถ้วย ใส่ถุงจะเป็นถุงน้อยๆ พอกิน อยู่ที่ชุดละ 35 บาท ถ้าใส่ถ้วยชุดใหญ่หน่อย มีเนื้อทุเรียนก็จะอยู่ที่ 60 แต่ถ้าใส่เนื้อทุเรียนเยอะขึ้นไปอีก ราคาก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ
ยอดขายแต่ละวัน ก็ไม่เคยนับ เพราะว่ามันรวมกับทุเรียนลูกแล้วก็อย่างอื่นด้วย ไม่ได้เอามาแยกกันว่าเท่าไหร่ค่ะ แต่บัวลอยมันก็หมดทุกครั้งที่ทำ”
แปรรูปได้หมด “ทุเรียนอ่อน-แก่” ไม่มีเหลือทิ้ง
สำหรับสาวชาวจังหวัดสมุทรสงครามผู้นี้ ไม่เพียงแต่จะมีเสน่ห์ปลายจวัก หากแต่ได้คลุกคลีอยู่กับการค้าขายมาตั้งแต่จำความได้
ประกอบกับเมื่อเวลามาขายของ เธอจะแต่งตัวแนวเซ็กซี่ตามสไตล์ที่ชื่นชอบ จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “แม่ค้าแซ่บ” ย่านวัดน้อยแสงจันทร์ อีกด้วย
“ขายทุเรียนมานานแล้วค่ะ ที่บ้านทำผลไม้อยู่แล้ว เป็นธุรกิจในครอบครัว เห็นแม่ขายตั้งแต่เรายังเด็กเลย ขายผลไม้อย่างอื่นด้วย ขายพวกสับปะรด มะม่วง ตามเทศกาล ตามหน้า ตามฤดูเลยค่ะ แล้วก็จะมีขายตามงาน จะเป็นพวกของกินอย่างอื่นค่ะ
(คนยกให้เป็นแม่ค้าแซ่บ) ฟังบ่อยแล้วก็เลยชินค่ะ (หัวเราะ) เป็นแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่เริ่มขายของแรกๆ ตอนเด็กๆ ด้วยเลยค่ะ”
นอกจากเมนูขนมหวานอย่างบัวลอยทุเรียนและข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ในช่วงฤดูกาลทุเรียนเช่นนี้ ทางร้านยังมีสินค้าแปรรูปอื่นๆ จำหน่ายด้วย
“ที่ร้าน ช่วงเทศกาลหน้าทุเรียน จะเน้นเป็นทุเรียนอย่างเดียวเลย มีทุเรียนทอด ทุเรียนเชื่อม ส่วนมากจะรับจากล้งที่เป็นเพื่อนกันค่ะ เพราะว่าของทุกอย่างต้องคัดแล้วว่ามันแก่จริงๆ ถึงจะมาทำ
บางทีถ้าเจอทุเรียนอ่อน มันไม่สามารถที่จะเอามาเชื่อม เนื้อมันจะเละ ไม่เหมือนใช้เนื้อแก่ ถ้าเอามาทอดก็เหมือนกัน ทุเรียนอ่อนเอามาทอดมันจะไหม้ ไม่เหมือนทุเรียนแก่ที่เอามาทอดค่ะ”
และจากกระแสข่าวสถานการณ์ทุเรียนปีนี้ราคาตก จนคนร่วมอาชีพได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน แต่สำหรับร้านทุเรียนของแม่ค้าวัย 37 ปีผู้นี้ เธอกล่าวว่า เนื่องจากการนำผลผลิตที่ไม่สามารถขายแบบชั่งกิโลได้ มาแปรรูปเป็นเมนูต่างๆ ทั้งคาวและหวาน กลายเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ซึ่งใครสนใจก็สามารถนำวิธีของเธอไปทำได้เช่นกัน
“ทางเราทุเรียนราคาตกยังไม่เจอค่ะ เพราะนำเอามาแปรรูปหมดเลย อย่างสภาวะเจอทุเรียนอ่อน ส่วนมากเจออ่อนแค่ไม่กี่ลูก ก็จะเอามาแกงส้มกับแกงคั่วกิน แต่ไม่ได้ขายค่ะ มันก็เลยยังไม่รู้สึกว่าขาดทุน ของก็ไม่เสียหาย ไม่มีการทิ้ง ทิ้งแค่เปลือกอย่างเดียว ถ้าเปลือกเชื่อมได้ก็คงเชื่อมแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “เนะ เนะเน๊ะ เน๊ะ”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **