ตีแผ่ “ยาเสียสาว” = อาชญากร กดการหายใจ-อันตรายถึงตาย ทลาย #คดีแตงโม !!?

ถกสนั่น “ยาเสียสาว” ตัวแปรคดี #แตงโม !? หลังพบคนบนเรือเสพ แพทย์ชี้มักถูกนำมาก่อเหตุอาชญากรรม เตือนระวังตกเป็นเหยื่อ ถึงขั้นเสียชีวิตได้!!

ออกฤทธิ์ไว อันตรายถึงตาย!!?

ยังคงเป็นข้อกังขาสำหรับกรณีการเสียชีวิตของ “แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์”โดยมองว่า เรื่องราวค่อนข้างจะไม่ชอบมาพากล พยานและหลักฐานที่ปรากฏ ค้านสายตาทั้งชาวไทย และต่างประเทศ กลายเป็นกระแสข่าวไปทั่วทุกมุมโลก

จนเกิดแฮชแท็ก #ทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโมและเมื่อปรากฏข้อพิรุธที่น่าสงสัยมากมาย จึงเกิดการเรียกร้องความยุติธรรมด้วยแฮชแท็ก #แตงโมต้องไม่ตายฟรี และการแปลข่าวที่เกิดขึ้นเพื่อสื่อถึงทั่วโลก โดยล่าสุด พบ “ยาเสียสาว” หรือ Alprazolam ในพยานบุคคลบนเรือ 1 ราย

ทว่า ความแคลงใจยังคงไม่สิ้นสุด เพราะยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปมไม่ตรวจสารเสพติด 2 ผู้ต้องสงสัยบนเรือ

แต่กลับพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ ชนิด “Alprazolam” ในพยานบุคคลจำนวน 1 ราย โดยได้รับการเปิดเผยจาก หนุ่ม-กรรชัย ผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า คือ “ปอ-ตนุภัทร” หนึ่งในบุคคลบนเรือ โดยอ้างว่ากินเพื่อแก้เครียด

[นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล]

ทันทีที่กระแสข่าวออกไป สังคมโซเชียลฯ ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความอันตรายของยาเสียตัวอีกครั้ง และมองว่า นี่อาจจะทำให้เกิดความคึกคะนองของคนบนเรือ และเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตหรือไม่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง “หมอกอล์ฟ-นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล” แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม และเจ้าของเพจ “คุณหมอสตอรี่”

คุณหมอกอล์ฟ ให้ความรู้ว่า ยาเสียสาว หากนำมาใช้ผิดประเภท อาจเข้าสู่การกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ทำให้เกิดเรื่องอาชญากรรมได้

“มันเป็นคำรวมๆ คำว่า ยาเสียสาว ยาเสียหนุ่ม เป็นคำรวมๆ ของยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม เคลิ้ม หรืออยากมีเซ็กซ์นั่นเอง
ถ้าตัวกระตุ้นทางเพศ จะมีตัวเดียว คือ ตัว “จีเอชบี (Gamma-hydroxybutyrate)” จะทำให้มีความอยาก เพราะฉะนั้นก็มีส่วนทำให้คึก ยาเสียสาวทุกตัวน่ากลัวหมดเลย แต่ “อัลปราโซแลม (Alprazolam)” ในระยะยาวก็จะเสียความทรงจำ ทำให้คิดอะไรไม่ค่อยไว นึกอะไรไม่ค่อยออก สมองไม่ค่อยดี

จริงๆ มันเป็นยา หรือวัตถุออกฤทธิ์ที่ทางการแพทย์ใช้ ซึ่งจะใช้ก็ต่อเมื่อมีการรับรองแพทย์อย่างถูกต้อง มีการเขียนใบสั่งยา ไม่สามารถไปซื้อเองได้ ต้องให้คุณหมอเป็นคนระบุเอาไว้ แต่ว่ามันมีการนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์

อย่างเรื่องของการที่ยาบางชนิด เราเอาไปใช้ในการดมสลบ เช่น ในเรื่องการผ่าตัด แก้การปวด การเจ็บ แต่ด้านการทำให้เคลิ้ม ทำให้เกิดเรื่องอาชญากรรม การข่มขืน”

โดยยาอัลปราโซแลมจะมีผลต่อระบบประสาท มีผลข้างเคียงจะมีการเสียความจำช่วงขณะ ซึ่งถือเป็นดาบสองคม หากนำมาใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด

“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มที่ทำให้ง่วง ซึม หรือว่าไม่มีสติ หรือบางตัวจะเคลิ้มกับการดื่มเหล้า นิยามของยาเสียสาวจะออกฤทธิ์ไว กินแล้วไม่เกิน 30 นาที ก็ออกฤทธิ์แล้ว ส่วนใหญ่ละลายน้ำได้ดี ละลายในแอลกอฮอล์ยิ่งดีไปกว่าเลย

แล้วส่วนใหญ่ของผลข้างเคียงยาพวกนี้ ก็จะมีการเสียความจำชั่วขณะ หรือจะจำเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ที่เราคุ้นๆ กัน ก็จะเป็นของยานอนหลับ อย่าง “อัลปราโซแลม (Alprazolam)”หรือยา “โดมิคุม (Dormicum)”

อีกกลุ่มก็จะเป็น “จีเอชบี (Gamma-hydroxybutyrate)” ซึ่งตัวนี้ก็มีใช้ในการแพทย์ และอีกกลุ่มก็จะเป็นยาเสพติด อย่างเช่น “ยาเค (Ketamine)”

ถ้าเป็นตัวยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับตัวนี้ ก็จะเป็นลักษณะของการคลายกล้ามเนื้อ และต้านอาการชัก แต่ว่าเวลาโดนยาตัวนี้เข้าไปมันจะทำให้ง่วงซึม และเสียความทรงจำไปในช่วงขณะ แต่ถ้าโดนมากๆ มีอาการหัวใจเต้นเร็ว และขาดสติได้

ในขณะที่ถ้าเป็นจีเอชบีมันจะแตกต่าง คือ จีเอชบีไม่ได้มีลักษณะเป็นเม็ด แต่ลักษณะที่นิยมใช้กัน จะเป็นของเหลวใสๆ มีรสเค็มเล็กน้อย อันนี้จะทำให้ตื่นตัว มีความครื้นเครง และอยากมีเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย

ถ้าหากกินไป 5-10 นาที จะมีอาการมึนงง ถ้าโดนมากๆ จะปวดสมอง กดการหายใจ และยิ่งถ้าโดนแอลกอฮอล์ร่วมด้วยอาจจะเสียชีวิตได้”

กระตุ้นทางเพศ ร่างกาย “ชาย-หญิง” ต่างกัน!!?

ปัจจุบันมีการควบคุมการใช้ยาอัลปราโซแลมอย่างเข้มงวด ควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด ซึ่งหากอยู่ในมือของแพทย์ก็จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อชีวิต แต่หากอยู่ในมือของผู้ที่แสวงหาประโยชน์จากผู้อื่นในทางมิชอบ ก็จะกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เช่นกัน จนนำมาซึ่งการตั้งข้อสงสัย อีกแง่มุมถึงความแตกต่างของเพศ ที่กินประมาณมากอาจจะทำให้ถูกมอม กระตุ้นทางเพศ และเกิดอาชญากรรม

หมอรายเดิมให้ความรู้ไว้ว่า ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทานเข้าไป รวมทั้งการตั้งรับที่แตกต่างของร่างกายแต่ละบุคคล

“ขึ้นกับคนเลย ร่างกายชายหญิงก็ต่าง คนเคยกินและไม่เคยกินก็มีความแตกต่าง ปกติยาพวกนี้โดยรวม ถ้าไม่นับจีเอชบี ส่วนใหญ่จะกินแล้วง่วงซึม มึนงง คลื่นไส้อาเจียน แต่ถ้าเป็นจีเอชบีมันจะมีเคลิ้มสุขนิดนึง มีตื่นตัว อยากมีเพศสัมพันธ์”

พร้อมกันนี้ หมอยังฝากเตือน และการเตรียมพร้อมวิธีเอาตัวรอด เมื่อโดนมอมยาเสียสาว หรือยาเสียหนุ่ม เพราะอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิต

“สิ่งที่ต้องเตือนให้ระวัง คือ ถ้าสมมติไปเที่ยวสถานที่ที่เราไม่รู้จัก หรือไปพบปะคนแปลกหน้าที่เขาให้ดื่มแอลกอฮอล์ คือ อย่าพยายามไปรับแก้วจากคนแปลกหน้า

หรือแม้กระทั่งเวลาที่ไปเข้าห้องน้ำ แล้วแก้วน้ำเราอยู่ที่เดิมบนโต๊ะก็ตาม ไม่แนะนำเพราะบางทีตอนเราไปห้องน้ำ มีใครมาผสมอะไรรึเปล่าไม่รู้ หรือหากมีกลิ่นที่แปลกๆ อยู่ๆ แอลกอฮอล์เค็มขึ้น ก็ไม่ควรเอามาทานแล้ว

และถ้าเป็นไปได้ ดื่มแล้วปกติเราเป็นคนไม่ค่อยเมา ไม่เมาเร็วขนาดนี้ แต่ครั้งนี้ดื่มไปเล็กๆ น้อยๆ แล้วเมามากกว่าเดิม ต้องรีบบอกเพื่อน หรือโทร. บอกเพื่อน คนที่บ้านมารับ เพราะอาจจะโดนวางยา

เพราะยาบางชนิดมันมีการกดการหายใจ และกดสมองด้วย ถ้าเกิดซึมหรือง่วงจนหลับ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิต คือ ให้คนรอบข้างที่รักเราแล้วไปกับเรา ดูแลและสังเกตอาการด้วยครับ”