รดน้ำ=สาดโรค!! เจาะช่วง “สงกรานต์” โควิดพุ่ง-ติดเชื้อหลักแสน!?

จับตาหลัง “สงกรานต์” จุดเปลี่ยน “โควิด-19” ยอดผู้เสียชีวิตหลักร้อย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งหลักแสน โควิดระลอกนี้ หาทางลงไม่เจอ? ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ พร้อมประเมินโอกาสระบาดระลอกใหม่ แนวโน้มกลับมาใช้ชีวิตปกติ!!?

ยอดผู้เสียชีวิต “หลักร้อย” ผู้ติดเชื้อพุ่ง “หลักแสน”!?

ดูเหมือนว่า ปีนี้ เทศกาลสุดฮิตอาจไม่ช่วยให้ “ดับร้อน” แต่กลับเป็นความกังวลของเชื้อ “โควิด-19” ที่ยังไม่เลิกระบาด

ถึงแม้สงกรานต์ปีนี้ จะมีการอนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ แต่จะงดประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ มีการสวมหน้ากากตลอดเวลา พกเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างตลอดเวลา

ความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งในส่วนของมาตรการควบคุมโรค และระบบสาธารณสุข ต่างคาดการณ์ว่า หลังสงกรานต์อาจมียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่า 1 แสนคนต่อวัน

โดยปัจจุบัน “ยอดผู้ติดเชื้อ” ยังอยู่ “หลักหมื่น” “ยอดผู้เสียชีวิต” ยังอยู่ “หลักร้อย” ต่อวัน ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง ทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนักและโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ให้ช่วยไขความกังวล ถึงแนวโน้มโควิด-19 พุ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์

“เป็นไปตามคาดเดา ว่า มันต้องมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น เพราะว่ามีการรวมตัวของคนจำนวนมาก และรวมตัวกันในสถานที่อากาศถ่ายเทไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถโดยสาร ในยานพาหนะต่างๆ การกลับบ้านบ้านไปเจอคนสูงอายุ มีการรวมตัวกันหลายๆ คน เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะติดกันเยอะมาก

โควิดพุ่ง ติดเชื้อ 1 แสนคนเป็นไปได้แน่นอน มันขึ้นอยู่ว่าเราตรวจมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น ถ้าเราตรวจมากจะเจอมาก ถ้าเราตรวจ RCPT วันนึงตรวจได้แค่ 20,000-30,000 คนเท่านั้น เราไม่ได้ตรวจมากเหมือนกับประเทศเกาหลี เพราะเกาหลีเขาตรวจวันนึง 5 แสน-6 แสนคน เขาเจอติดเชื้อได้ถึง 6 แสนคนต่อวัน”

เช่นเดียวกับ “รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล” หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ทางเฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล” ไว้ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุแสนเป็นเดือนแล้ว รวมทั้งจุดสูงสุดโควิดระลอกนี้ยังหาทางลงไม่เจอ

“จุดสูงสุดแบบลากยาวของระลอกนี้ ยังหาทางลงไม่เจอ ตัวเลขผู้ป่วยอาการรุนแรง และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจยังไต่ขึ้นต่อ เป็นผลสะสมจากผู้ป่วยที่ทยอยเพิ่มมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน

นั่นหมายถึงการเสียชีวิตเกินร้อย ยังจะคงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ยังพอใจชื้นว่า ก่อนสงกรานต์ยอดรวมผู้ติดเชื้อและผู้เข้าข่ายของรายงานทางการ ยังไม่แตะหลักแสนตามโพลหลายสำนัก

ส่วนสำนักโลกสวยแห่งนี้ เชื่อว่า ผู้ติดเชื้อจริงแตะหลักแสนมากว่าเดือนแล้ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่นอกจากการฉีดวัคซีน เพื่อเข้าสู่หมุดหมายโรคประจำถิ่นดังหวัง แต่ต้องพยายามคุมตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก อย่าให้ขึ้นไปถึง 2,500 ราย เพราะจะรบกวนศักยภาพของโรงพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยอื่นที่ไม่ใช่โควิด”

โอกาสโควิดลด-ใช้ชีวิตปกติ?

ท่ามกลางความกังวลของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ถึงอัตราผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งสูง หมอมนูญ เสริมอีกว่า ในช่วงสงกรานต์ มีความเป็นห่วงผู้สูงอายุ เหตุต้องเจอคนหมู่มาก หรือการได้รับเชิญไปงานรดน้ำดำหัวตามประเพณีของไทย

“ผู้สูงอายุ และคนที่เดินทางมีความเสี่ยง เข้าไปบ้านตัวเองไม่ได้ใส่หน้ากาก ไม่ได้เว้นระยะห่าง เพราะโอกาสที่จะติดกัน มันเยอะมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นช่วงขาขึ้น ไม่ใช่ขาลง เพราะฉะนั้นความเสี่ยงที่จะติดเชื้อก็มาก แต่เราก็ทำใจว่ายังไงติดก็ต้องติด

เป็นห่วงคนสูงอายุในบ้านที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือว่าฉีดไม่ครบ คือ เป็นห่วงมาก โดยเฉพาะภาคอีสาน คนอีสาน ลูกหลานมักจะไม่ยอมให้ปู่ย่า ตายายของตัวเองไปฉีดวัคซีน

ตอนนี้ก็มีวัคซีนเพียงพอ ก็มีคนบางกลุ่มที่ต่อต้านวัคซีน ไม่อยากให้ปู่ย่า ตายายฉีด เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ซึ่งจริงๆ เป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ คือ ถ้าไม่ฉีดเวลาติดเชื้อมันจะป่วยหนักแล้วเสียชีวิตได้ ภายในไม่กี่สัปดาห์”

ส่วนความคืบหน้าการตรวจผู้ติดเชื้อในประเทศในช่วงระบาดกำลังแพร่กระจายลดลง รวมทั้งการระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่นั้น ทาง คุณหมอ มองว่า การติดเชื้อ และการได้รับวัคซีนป้องกัน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขนานใหญ่อีกต่อไป

“ก็โชคดีที่เชื้อกลายพันธุ์ความรุนแรงของโรคมันลดลงเรื่อยๆ แล้วคนก็ติดกันมากขึ้นเรื่อยๆ คนก็มีภูมิตามธรรมชาติ และเราก็ได้ภูมิจากการฉีดวัคซีน ก็เชื่อว่า 2 อย่างมารวมกัน

คือ ภูมิตามธรรมชาติ กับภูมิจากการฉีดวัคซีน ก็จะมีภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเพียงพอที่จะหยุดการแพร่ระบาดไปวงกว้าง หรืออาจจะมีคนติด แต่ก็อาจจะไม่เป็นวงใหญ่เหมือนระยะนี้”

ตราบใดที่ยังมีการกลายพันธุ์ ก็มีโอกาสกลับมาติดเชื้อโควิด-19 ได้อีก สุดท้าย คุณหมอมนูญ ได้ฝากความห่วงใย พร้อมทั้งวิธีการดูแลตัวเอง ในสถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง

“ต้องยอมรับว่าทำให้ดีที่สุด ถ้าติดก็ต้องติด เราต้องยอมรับ การทำดีที่สุด คือ การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และรีบไปฉีดวัคซีนให้ครบ ส่วนคนข้างเคียงที่ไม่ได้ฉีดก็ขอให้เขาไปฉีด ถ้าเราทุกคนได้ฉีดวัคซีน โรคนี้ก็เหมือนเป็นโรคหวัดธรรมดา ไม่น่ากลัวครับ

คือ ต้องทำใจนะครับ ว่าอย่าไปกลัวมัน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ช่วงสงกรานต์ก็พยายามไปเที่ยวพักผ่อน แล้วไม่ต้องไปกักตัวเองเหมือนกับ 2 ปี ที่แล้ว”