แกล้งคน-เรียกแขก เอายอดไลก์ “TikTok” แหล่งสร้างคอนเทนต์ “ไม่สร้างสรรค์”!!?

กะเทาะเคสดาว TikTok สร้างคอนเทนต์ไม่สร้างสรรค์ - แกล้งใช้ตะเกียบไม่เป็น สังคมสับเละ!! ไม่ตลก รบกวนเวลาคนอื่น ผู้เชี่ยวชาญสะท้อนระวังใช้สื่อในมือทำลายตัวเอง!!?

“TikTok” แหล่งฮิต รวมเทรนด์ไร้สาระ-ไม่สร้างสรรค์?

"กินปลาเยอะๆ จะได้ฉลาดๆ" นี่คือคำพูดของเจ้าของบัญชีผู้ใช้ TikTok สาวรายหนึ่ง ที่ได้ลงคลิปเกี่ยวกับการใช้ตะเกียบในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากบนแอปพลิเคชัน TikTok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ

โดยเจ้าของคลิปทำทีว่าใช้ตะเกียบไม่เป็น จนเพื่อนที่มาด้วยต้องสอนให้หักครึ่งจนตะเกียบสั้น ทั้งที่ตะเกียบลักษณะนี้ทางผู้ผลิตได้ทำรอยมาให้แล้ว เพียงแค่แยกตะเกียบออกจากกันตามแนวยาวก็สามารถใช้งานได้

อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นยังมีคลิปเกี่ยวกับการใช้ตะเกียบตามมาอีก โดยคลิปนี้เธอทำทีเรียกพนักงานร้านให้มาช่วยสอนวิธีใช้ตะเกียบให้ถูกต้อง ซึ่งในคลิปพนักงานเห็นว่าตะเกียบเหลือขนาดครึ่งเดียว จึงได้เดินไปหยิบตะเกียบคู่ใหม่มาให้ โดยมืออีกข้างยังคงถือถาดอาหารของลูกค้าโต๊ะอื่นอยู่ พร้อมทั้งสอบถามวิธีใช้ แต่เธอยังคงพยายามหักตะเกียบตรงกลางอีกครั้ง จนพนักงานต้องสาธิตให้ดู ส่วนเจ้าของคลิปก็ได้แต่หัวเราะออกมา

ส่งให้คลิปดังกล่าวเมื่อเผยแพร่ออกไปกลายเป็นไวรัล มีผู้ชมกว่า 10 ล้านวิว แน่นอนว่าสังคมออนไลน์ต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ มองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ อาจจะเป็นการส่งข้อมูลผิดๆ หรือเป็นการรบกวนผู้อื่น ควรมีการควบคุมคอนเทนต์ต่างๆ ในแพลตฟอร์ม TikTok หรือไม่

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อทีมข่าวตรวจสอบ พบว่าก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปี 64 คงไม่มีใครไม่รู้จักไวรัล #จอดรถที่คนพิการ แกล้งทำขาเป๋ ทำคอนเทนต์สนุกสนาน เพราะไม่มีที่จอดรถ หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้กลายเป็นไวรัลอย่างมาก พร้อมถูกวิจารณ์หนักถึงพฤติกรรม ความสนุกสนาน และการล้อเลียนผู้พิการ

[แกล้งทำขาเป๋]

เกี่ยวกับประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาถกกันต่อในโลกออนไลน์ ทางทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง “เชียง-วศิน พรวิจิตรจินดา” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และเจ้าของเพจ TikTok Ads by เชียง ให้ช่วยสะท้อนการผลิตคอนเทนต์ “ไม่สร้างสรรค์” , “การแกล้ง” เรียกยอดที่ไม่เหมาะสมในปัจจุบัน

[เชียง-วศิน พรวิจิตรจินดา]

“จริงๆ แล้วใน TikTok มันมีคลิปที่มีครีเอทีฟหลากหลายมาก คลิปแกล้งคนเนื่องจากมันเป็นไวรัล มันก็เลยทำให้เห็นในมุมนั้น แต่จริงๆ ถ้าเข้าไปดูใน TikTok จะมีคลิปที่มีความสร้างสรรค์เยอะมาก มีความรู้ที่ถูกย่อยให้มาแล้วในคลิปวิดีโอสั้นๆ 30-60 วินาทีเท่านั้น

ทำให้คนดูรู้สึกไม่เสียเวลา ซึ่งจริงๆ คลิปวิดีโอใน TikTok มีความรู้ มีสาระเยอะ และเป็นสาระที่มีความสร้างสรรค์เยอะมาก ฉะนั้นภาพที่ออกไป บางทีเป็นภาพไวรัล ทำให้บางคนมี mindset ไม่ดีต่อการมาอยู่ในคอนเทนต์ TikTok ครับ

ผลเสียต่อดาวต่างๆ เขาอาจจะดังในชั่วข้ามคืน แต่เอาจริงๆ ผมว่ามันก็ไม่ได้มีความสุขหรอก เวลามีคนมาดรามา หรือมีคนมาพูดไม่ดีกับเรา เวลามีคนว่าไม่ดีกับเรา 1 คนก็รู้สึกไม่ดีแล้ว แต่นี่รุมด่า ผมว่ามันน่าจะไม่มีความสงบสุขในใจเท่าไหร่ แต่ถามว่ามันเป็นไวรัลมา มีคนรู้จักมากขึ้น มันก็มีทั้งผลดีและผลเสีย”

สังเกตได้เลยว่าเทรนด์ TikTok ในลักษณะที่ไม่สร้างสรรค์นั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่กระแสต่างๆ ในแพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมจนเกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบตามมามากมาย ซึ่งพบเห็นได้ทุกแพลตฟอร์ม หากเลือกที่จะใช้เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มในการสร้างคอนเทนต์ อาจเป็นช่องทางชั่วข้ามคืนที่ทำให้ผู้อื่นรู้จักมากขึ้น

“จริงๆ ทุกแพลตฟอร์มทุกพื้นที่มันมีทั้งคนดี และไม่ดี มีคนที่ทำคอนเทนต์ที่ดีและทำคอนเทนต์ที่ไม่ดี มันอยู่ที่วิจารณญาณของผู้ชม ผู้เลือกเสพสื่อ เราเสพสื่อแบบไหน เราก็จะเป็นคนแบบนั้น คือเราอาจจะต้องเลือกเสพสื่อที่ทำให้เรามีชีวิตสร้างสรรค์ จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้”

แนะเพิ่มความปัง “กระชับ-ตรงประเด็น”

ถามถึงเทรนด์คอนเทนต์แกล้งคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีแอปพลิเคชันชื่อดัง ควรมีการควบคุมคอนเทนต์ หรือระบบจัดการหรือไม่ เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นแพลตฟอร์มกระแสย่อยที่กลายเป็นกระแสหลักที่หลายๆ คนพูดถึง และติดหนึบไม่ไปไหน

“การแกล้งคนเป็นนิสัยส่วนบุคคล จริงๆ มันเป็นการบูลลีส่วนบุคคล ไม่ได้เชียร์ให้ทำแบบนั้นสักเท่าไหร่ หรือแม้แต่จะ report ก็ได้ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ มันเป็นพื้นฐานของคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว ว่าถ้าเราไม่มีนิสัยที่แกล้งคน หรือเลือกเสพคอนเทนต์ที่สนุกสนานโดยที่ไม่ต้องแกล้งคนก็ได้ ให้เป็นวิจารณญาณของผู้ชมมากกว่า ให้เลือกเสพคอนเทนต์มากกว่า

จริงๆ ทางแอปพลิเคชัน TikTok เขามีเจ้าหน้าที่ควบคุมคอนเทนต์อยู่แล้ว เขามีประสบการณ์จากแพลตฟอร์มอยู่ อย่างเช่น Facebook, Youtube คือเขามีการควบคุมเบื้องต้นว่ามันมีคลิปที่โดนแบน แต่ว่าต้องเข้าใจว่าไม่สามารถควบคุมได้หมดทุกคนจริงๆ”

พร้อมทิ้งท้าย แนะนำวิธีการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดปัง และสร้างสรรค์ในยุคที่ทุกคนมีสื่อในมือ ให้ขบคิดให้มากกว่าเดิม

“TikTok เป็นเทรนด์กระแสใหม่ ซึ่งปีนี้คลิปวิดีโอสั้นมาแน่นอน เพราะเห็นจาก TikTok ทำคลิปวิดีโอสั้น ทาง Facebook ก็มีคลิปวิดีโอสั้น ฉะนั้นมันมีทุกแพลตฟอร์ม การทำคลิปวิดีโอสั้นมาแน่นอนในปีนี้ เพราะถ้าใครอยากสร้างตัวตน สร้างไวรัลที่เป็นคลิปวิดีโอสั้น ได้ทุกแพลตฟอร์ม

ไม่ว่าจะเป็น TikTok, IG, Facebook, Youtube ฉะนั้นเราควรจะไปทำคลิปวิดีโอสั้นแนวๆ นี้เยอะขึ้น และฝึกทำคลิปวิดีโอสั้นให้เป็นผู้เชี่ยวชาญมากขึ้นด้วย เพราะเทรนด์ปีนี้มาแน่นอนครับ

สำหรับคลิปที่ปังและสร้างสรรค์ คือ คลิปที่สามารถสร้างครีเอทีฟมากขึ้น คือการทำให้ธรรมชาติโดยที่ความรู้สึกของคนส่วนตัว เป็นคลิปที่เปิดด้วยวินาทีแรกที่น่าสนใจ และตรงประเด็น สร้างสรรค์ กระชับ

และที่สำคัญ ต้องสร้างให้มี Engagement คือการทำอย่างไรก็ได้ให้คนคอมเมนต์เยอะๆ ให้มีการมีส่วนร่วม มีการกดไลก์ กดคอมเมนต์ ถ้ามีส่วนร่วมเยอะ หรือเป็นคลิปที่เป็นกระแสได้ก็จะดีมากครับ”

ทว่า ล่าสุดเจ้าของคลิปได้ออกมาชี้แจงว่า ก่อนถ่ายได้อธิบายต่อพนักงานก่อนแล้ว และจบคลิปก็ได้บอกขอบคุณพี่เขาทุกอย่าง ถ้ามองอีกมุมเป็นการโปรโมตให้ร้านด้วยซ้ำ ว่าพนักงานเขาน่ารัก และบริการดี