อุทาหรณ์ ตัวบวม-ฉี่เป็นฟอง-น้ำหนักขึ้นไวผิดปกติ ต้องระวัง!! ทำความรู้จัก “โรคโปรตีนรั่วในปัสสาวะ” สุดทรมาน เพราะ ไม่มีสาเหตุ-เป็นแล้วรักษาไม่หายขาด หมั่นสังเกตตัวเอง หากเป็นควรรีบพบแพทย์!!
ระวัง! ตัวบวม-ฉี่เป็นฟอง เสี่ยงโรค
“รู้สึกตกใจค่ะ เพราะว่า ณ วันที่เขาเป็น น้ำหนักเขาขึ้นมา 98 กิโล คือ อีก 2 กิโล ก็ 100 แล้วค่ะ ขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบพริบตา ระยะเวลาตอนแรกพี่ชิน เขาน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 71-72 แล้วอยู่ๆ มันขึ้นมา 98 กิโล
คือ จากคนที่รูปร่างปกติ ไม่ได้อ้วนเลย แล้วอยู่ๆ มันบวมทั้งตัว ตอนนั้นเราคิดว่ามันคือโรคอะไรกันแน่ เรารู้สึกว่าโรคนี้มันยังใหม่สำหรับประเทศไทย
โรคไต โรคมะเร็ง เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือโรคหัวใจ เรารู้จัก แต่โรคนี้เป็นโรคที่เราไม่รู้จักเลย และเราไม่คิดว่ามันจะส่งผลทำให้น้ำหนักขึ้นขนาดนี้ แล้วมันกลายเป็นว่าเดินไม่ได้ ขาก็บวม เวลาเอาไปส่องที่แสง มันจะเห็นเป็นใสๆ เลยค่ะ
พอเหยียบเท้าลงไปที่พื้น เท้าพร้อมจะแตก แล้วมันจะปวดร้าวทั้งขา เข่า เอว มันบวมทุกส่วนในร่างกาย มันเหมือนคนที่ต้องแบกน้ำหนัก จากที่เราไม่เคยต้องแบก มันไม่ใช่แค่ค่อยๆ น้ำหนักขึ้นทีละ 2 โล แต่มันขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในไม่ถึง 2 อาทิตย์”
ตุ๊กตา-อุบลวรรณ บุญรอด นักแสดง เปิดใจกับ ทีมข่าว MGR Live ถึงประสบการณ์ของสามี หลังป่วยเป็น “โรคโปรตีนรั่ว” หรือ “โรคโปรตีนรั่วในปัสสาวะ”ที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก “โรคภัยเงียบ” ที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้
สำหรับโรคโปรตีนรั่วในปัสสาวะนั้น เป็นสัญญาณที่แสดงถึงโรคไตอักเสบ มีการขับโปรตีนชนิดที่เรียกว่า อัลบูมิน ออกมาทางปัสสาวะมากเกินไป ทำให้เกิดอาการตัวบวมตามมา และจะพบมากในเด็ก ซึ่งอาการบวมที่เกิดจากโปรตีนรั่ว จำเป็นต้องได้รับการรักษา
“จุดเริ่มต้น คือ อยู่มาวันนึง เขามีอาการรู้สึกว่าตัวเริ่มบวมขึ้น ขาเริ่มบวมขึ้น น้ำหนักก็ขึ้นมาเยอะ ภายในอาทิตย์นึง น้ำหนักก็ขึ้นมาหลายกิโลอยู่ หลังจากนั้น พอปัสสาวะหรือฉี่ มันออกมาเป็นฟอง ปกติคนเราฉี่มันจะเป็นฟองแค่แป๊บเดียวมันก็จะหายไป แต่ปรากฏว่า ฟองมันขึ้นเป็นฟองใหญ่ พูดง่ายๆ เหมือนเราเป่าลูกโป่ง แล้วฟองนั้นมันอยู่ในน้ำแล้วมันไม่หายไป นั่นคือ อาการจุดเริ่มต้นที่เป็น
แล้วเมื่อกดตรงช่วงขา ตามตัวที่บวม เราเอานิ้วกดลงไป ปกติคนทั่วไปถ้าเราเอานิ้วกดที่ตัว กดที่ขา พอเอานิ้วขึ้น เนื้อมันก็จะขึ้นตามนิ้ว แต่พอเรากดลงไปแล้วปล่อยมือขึ้นมา มันก็บุ๋มลงไป แล้วก็ใช้เวลานานมากกว่ามันจะค่อยๆ มาทีละนิดๆ
นี่คือ อาการเริ่มต้นที่รู้สึกว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ ก็เลยไปหาหมอ พอไปหาคุณหมอ คุณหมอก็บอกเลยว่าเป็นโปรตีนรั่วในปัสสาวะ เป็นอาการของไตอักเสบ ไม่ใช่เป็นไตที่ต้องฟอกไต เหมือนไตอักเสบ แล้วทำงานผิดปกติ ส่งผลให้โปรตีนรั่วในปัสสาวะ คือ เป็น เป็นอัลบูมิน ที่รั่วออกมา ซึ่งสาเหตุระบุได้ไม่แน่นอน ว่าเกิดจากอะไร เพราะว่ามีคนที่เป็นแบบนี้ค่อนข้างเยอะ
แต่คนชอบคิดว่า ถ้าเป็นไตมันต้องเกี่ยวกับการกินเค็ม แต่อันนี้มันไม่ใช่ไตแบบนั้น มันเป็นแบบไตอักเสบ ที่เป็นโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ฉะนั้น สาเหตุคุณหมอไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่า มันเกิดจากอะไร แต่เมื่อมันเกิดแล้ว เราก็จะไม่สามารถที่จะไปกินอาหารที่มีรสชาติเค็มหรือรสจัดได้เลย เพราะจะยิ่งส่งผลให้ตัวบวมขึ้น แล้วโปรตีนก็จะรั่วมากขึ้น”
โดยในระยะป่วยนานกว่า 8 ปี สำหรับสามีของเธอ ด้าน ตุ๊กตา เผยถึงจุดสังเกตอาการให้ฟังว่า หากมีอาการตัวบวม ปัสสาวะเป็นฟอง อาจบ่งบอกอาการ “โปรตีนรั่ว”
“จากวันนั้นถึงวันนี้ มันผ่านมา 8 ปีแล้วค่ะ ปีนี้คือปีที่ 8 ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่าพี่คินเขาอาการเหมือนคนปกติ คือ หายแล้ว ไม่มีอาการอะไรเลย แต่ยังคงกินยา 1 เม็ด ที่เป็นตัวยาสเตียรอยด์ เพื่อคุมเอาไว้อยู่ ไม่ให้อาการมันกลับมาอีก
แต่จุดเริ่มต้น คือ ณ วันที่เป็น โปรตีนมันรั่วถึง 16,000 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบระดับ คือ ระดับ 4 ถือว่าสูงมาก รั่วเยอะมาก ในตอนนั้นคุณหมอให้กินยาประมาณ 12-13 เม็ด ซึ่งพอกินยามาได้สักระยะนึง ก็จะเริ่มมีการลดยาลง เพราะสเตียรอยด์เหล่านี้ ที่กินเข้าไปมากๆ มันไม่ดีต่อร่างกาย
คุณหมอเริ่มให้ลดยาทีละครึ่งเม็ด จนเรารู้สึกว่า ไม่อยากกินแล้ว เห็นว่าอาการดีขึ้น เราก็เลยไม่กินยาเลย หลังจากลดมาจนเหลือประมาณ 1 เม็ด
เราก็เลยบอกว่า เราจะไม่กินยา ก็กลายเป็นว่ากลับมาเป็นอีก รวมทั้งหมด 4 ครั้ง ที่ลองทดลองหยุดยา พอดีขึ้นก็ลองหยุดทานยาตามที่คุณหมอแนะนำ ก็กลับมาเป็น 4 ครั้ง ก็เลยคุยกับคุณหมอ ว่า งั้นเราคงจะต้องกินยาคุมตรงนี้ไปก่อน แต่ว่าต้องดูแลสุขภาพ รักษาสุขภาพไปด้วยในสิ่งที่ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน และออกกำลังกาย”
เป็นแล้วไม่หายขาด!!
ในส่วนขั้นตอนของการรักษานั้น ด้าน ตุ๊กตา กล่าวว่า ต้องดูแลควบคุมเรื่องอาหาร กินยา ประกอบกับการออกกำลังกาย เพราะโรคนี้รักษา “ไม่หายขาด”
อย่างไรก็ดี ในระยะเวลากว่า 1 ปี สามีของเธอต้องกินไข่ขาวต้ม วันละ 15 ฟอง เพื่อทดแทนโปรตีนที่รั่วออกไป
“คุณหมอ บอกว่า โรคนี้ไม่มีวันรักษาหายขาด ยังไงจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต แต่ทำยังไงที่จะดูแลสุขภาพของเรา ให้มันดีด้วยการไม่กินเยอะเหมือนเดิม กินยาน้อยที่สุด เพื่อทำลายตับ ไต ของเราน้อยที่สุด
เพราะยังไงเราหลีกเลี่ยงการกินยาไม่ได้ แล้วไม่มีวันรักษาหายขาด ซึ่งสำหรับบางคน อาจจะมองว่า เป็นโรคไม่อันตราย แต่ว่าถ้าถามเรา มันคือโรคที่ไม่มีวันรักษาหาย ยังไงมันก็อันตราย
มันเลยทำให้เขาต้องกลับมาควบคุมเรื่องอาหารการกิน แล้วต้องกินไข่ขาววันละ 15 ฟอง ทุกวัน แทนข้าว แล้วกินไข่ขาวเปล่าๆ โดยที่ไม่หยอดซอส ไม่ได้โรยเกลือ เป็นไข่ขาวต้มแล้วแกะไข่แดงทิ้ง เพราะไข่แดงก็กินไม่ได้ เพื่อทดแทนโปรตีนที่มันรั่วออกไป ทำอย่างนี้เป็นปีๆ ค่ะ”
นอกจากนี้ ตุ๊กตา ได้ฝากถึงวิธีการสังเกตตนเอง ซึ่งหากพบอาการลักษณะนี้ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคโปรตีนรั่วในปัสสาวะหรือไม่ ก่อนที่จะสายเกินแก้....
“ให้ระวังการกิน และหากกลัวการเป็นโรคนี้ ให้สังเกตปัสสาวะของเรา เวลาเข้าห้องน้ำ อยากบอกว่า การที่พี่ชินเขาดีขึ้น เพราะเขาเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายมากขึ้น ไม่กินอาหารรสจัด หรือรสเค็ม เกินไป กินอะไรที่มันพอดีๆ และพยายามหลีกเลี่ยงของทอด ของหวาน
และที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ หรือแข็งแรงขึ้น จนเหมือนคนปกติทุกวันนี้ คือ ออกกำลังกายค่ะ
ตอนที่เขาน้ำหนักเยอะๆ เขาสู้กับความเจ็บปวด ด้วยการเริ่มเดิน จากเดินช้าๆ แล้วนั่งพัก ก็กลายเป็นเดินเร็ว จากเดินเร็วได้ เริ่มให้ร่างกายชิน ก็เริ่มมาวิ่งบ้าง เดินบ้าง จนทุกวันนี้เขาก็เลยเสพติดการออกกำลังกาย แล้วมันส่งผลทำให้สุขภาพของเขาดีขึ้น กินยาลดลง
สิ่งที่อยากจะฝากบอกกับทุกๆ คน คือ อย่าละทิ้งการออกกำลังกาย ออกกำลังกายจะเยียวยาทุกอย่าง และเป็นยาวิเศษที่สามารถทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น อย่าไปมองแต่เรื่องความสวยงามเพียงภายนอก แต่ให้มองถึงสุขภาพภายในที่มันสำคัญกับชีวิตมากกว่า”
สกู๊ปโดย : MGR Live
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม "@Tookkatachinjung"
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **