xs
xsm
sm
md
lg

คนขายโอด คนซื้อครวญ!! #แพงทั้งแผ่นดิน ค่าครองชีพสูง-ของขึ้นราคา-ค่าแรงเท่าเดิม!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดือดร้อนถ้วนหน้า!! “หมู-ไก่-ไข่ไก่” พาเหรดขึ้นราคา รวมถึงภาคการเดินทาง ขึ้นค่าโดยสารกันพรึ่บ ส่งให้แฮชแท็ก #แพงทั้งแผ่นดิน ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ สะท้อน “ราคาขึ้นทุกอย่างสวนทางค่าแรง”

#แพงทั้งแผ่นดิน อาจได้กินหมูโลละ 300 บาท!!

เรียกได้ว่าตอนนี้ประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบไปทั่วทุกหย่อมหญ้าจริงๆ สำหรับปัญหาราคาข้าวของแพงขึ้นอย่างน่าตกใจ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู, เนื้อไก่, ไข่ไก่ และอื่นๆ อีกมากมายที่ทยอย “ปรับราคาขึ้น” ตามกันมาติดๆ

โดยเฉพาะ “เนื้อหมู” ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมูปี 2565 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากราคาหมูที่เพิ่มขึ้น ได้กระทบไปยังเนื้อสัตว์หรือแหล่งโปรตีนอื่น พาเหรดราคาให้ขยับสูงขึ้นไปตามๆ กัน



ทั้งนี้ ทีมข่าว MGR Live ได้สำรวจราคาตลาดทั่วไปของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะนี้ พบว่า เนื้อหมูก้อนมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 220-250 บาท ต่อกิโลกรัม, ไก่ตัว 80 บาท ต่อกิโลกรัม และไข่ไก่ (คละหน้าฟาร์ม) ตกประมาณ 3.00 บาท ต่อฟอง

ในส่วนของ น้ำมันปาล์ม ตก 55-60 บาท ต่อขวด 1 ลิตร และก๊าซหุงต้ม 318 บาท ต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งกำลังเตรียมที่จะขึ้นราคาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้



ไม่เพียงแค่วัตถุดิบในการประกอบอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภาคการเดินทางต่างๆ อย่าง ค่าทางด่วน “ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก” ที่ปรับขึ้นแล้ววันที่ 15 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา เป็นรถ 4 ล้อ เดิม 50 บาท ปรับเพิ่ม 15 บาท เป็น 65 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท ปรับเพิ่ม 25 บาท เป็น 105 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ 115 บาท ปรับเพิ่ม 35 บาท เป็น 150 บาท ตามลำดับ

เรือโดยสารคลองแสนแสบ ปรับราคาค่าโดยสาร ระยะละ1 บาท จาก 8, 10, 12, 14, 16, 18 บาท เป็น 9, 11, 13, 15, 17, 19 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565

ขณะที่ ค่าแรงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของกระทรวงแรงงาน ในปี 2563 พบว่าอยู่ที่ราว 313-336 บาทต่อวัน



จากราคาสินค้าที่พากันขยับสูงขึ้นสวนทางกับค่าแรงนี้ ทำให้สมาชิกโลกทวิตเตอร์ทั้งหลาย ต่างพากันติดแฮชแท็ก #แพงทั้งแผ่นดิน พร้อมระบายความอัดอั้นตันใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนทำให้แฮชแท็กดังกล่าวติดเทรนด์อันดับ 1 ไปในทันที

และเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันสำคัญของผู้ที่มีเชื้อสายจีน ที่กำลังจะมาถึงในปลายเดือนมกราคมนี้ ก็มีการคาดไว้ว่า ราคาเนื้อสัตว์ต่างๆ จะยังคงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเนื้อหมู อาจแตะถึง 300 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเป็ดสดและเป็ดพะโล้ ก็คาดว่า จะสูงขึ้นเช่นกัน

ทัวร์ลงพระเอกดัง เหตุเพราะ “เนื้อจากพืช”

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นดรามาร้อนๆ ให้ได้เป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลฯ เมื่อ “นาย - ณภัทร เสียงสมบุญ”พระเอกหนุ่มชื่อดัง ลูกชายของ “หมู - พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” ลงโพสต์โฆษณาขาย Plant based Food หรือ เนื้อแปรรูปจากพืชที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Naphat นาย ณภัทร เสียงสมบุญ”

พร้อมระบุข้อความ “ถ้าเนื้อหมูขึ้นราคา ลองหันมากิน “เนื้อจากพืช แทนนะครับ อร่อย ดีต่อสุขภาพ ปราศจากความกังวลเลยครับ นักเก็ตจากพืช หมูกรอบจากพืช และหมูสับจากพืช ได้โปรตีนสูง จะผัดกะเพรา ต้มจืด ไข่ยัดไส้ จัดไปแทนกันได้หมด”



แต่หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็เรียกได้ว่า พารถทัวร์ชาวเน็ตมาจอดทันที นั่นก็เพราะความคิดเห็นส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้เห็นโพสต์ดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด ว่า แทนที่จะเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนในเรื่องของแพง แต่กลับนำปัญหาปากท้องมาทำเป็นคอนเทนต์โฆษณา

อีกทั้ง Plant based Food ยังมีราคาแพงกว่าหมูด้วยซ้ำ เพราะเนื้อบดจากพืชในปริมาณ 220 กรัม มีราคา 79 บาท หากปริมาณ 1 กิโลกรัม ก็ตก 300 กว่าบาทแล้ว ทำให้ในเวลาต่อมาพระเอกรายนี้ต้องลบโพสต์ดังกล่าวออกไป

ด้านเพจ “Drama-addict” เพจสะท้อนสังคมชื่อดัง ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โดย “จ่าพิชิต”แอดมิดของเพจ กล่าวว่า Plant based Food ไม่สามารถช่วยประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้ได้


“ประเด็นน่าสนใจ ที่เห็นคนชวนกันไปกินเนื้อแบบ plant based ในภาวะที่เนื้อหมูแพง อันนี้ออกตัวก่อนว่า ไม่ได้มีอคติกับเนื้อแบบ plant based เพราะจ่าก็กินอยู่ แต่มันช่วยเราในภาวะนี้ไม่ได้จริงๆ สาเหตุดังต่อไปนี้

1. ปัจจุบัน plant based meat หรือเนื้อที่แปรรูปจากพืชโดยไม่ใช่เนื้อสัตว์ ราคาสูงกว่าเนื้อสัตว์อยู่พอสมควรเลย ตอนนี้สินค้ากลุ่มนี้จัดเป็นพวกตัวเลือกทางสุขภาพ สำหรับคนที่อยากเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ ราคาก็สูงกว่าเนื้อปกติพอสมควร ดังนั้น ในภาวะที่เงินฝืด แต่ค่าครองชีพพุ่งสูง ราคาสินค้าสูงแบบนี้ อันนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่เราจะใช้แก้ปัญหานี้ได้

2. อันนี้บ่นส่วนตัว คือ เข้าใจว่า เนื้อชนิดนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่เนื่องจากมันเป็นพวกสินค้าที่ผ่านการแปรรูปมา ดังนั้น มันต้องมีโซเดียมอยู่พอควร แต่ไอ้ที่ขายๆ กันอยู่นี่มันก็เยอะไปหน่อยนา โซเดียมเนี่ย ฝากผู้ผลิตทุกท่านช่วยลดโซเดียมเยอะๆ หน่อยจะได้กินสบายใจกว่านี้

3. จากเหตุผลที่ว่ามาเรื่องราคาเป็นหลัก ดังนั้น plant based meat ไม่สามารถช่วยเราในภาวะนี้ได้ แต่ถ้าในอนาคตผู้ผลิตสามารถพัฒนาให้ราคาถูกลงกว่านี้มากๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ไปด่าไอ้คนรับผิดชอบปัญหาหมูแพงกับเรื่องโรคระบาดในหมูกันก่อนครับ”


สำหรับความช่วยเหลือเร่งด่วนจากภาครัฐ ในเรื่องราคาเนื้อหมูแพงนั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดโครงการ “พาณิชย์ลดราคาหมู! ช่วยประชาชน” ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ประชาชนสามารถซื้อหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยโครงการนี้จะจัดขึ้นจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 และแม้จะเปิดจุดบริการทั่วประเทศถึง 667 หน่วยทั่ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

อีกมุมมองที่ชวนขบคิด คือ ความคิดเห็นของคนดังอย่าง “ฟิล์ม - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ที่สะท้อนสถานการณ์ปัญหาราคาสินค้าแพง ไว้อย่างโดนใจประชาชนว่า “ของกินของใช้แพงขึ้นทุกอย่าง ที่เห็นจะถูกก็เหลือแค่ค่าแรงกับยาบ้า”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **






กำลังโหลดความคิดเห็น