ทึ่งมาก!! “ไส้เดือน” สร้างรายได้สูงให้ทั้งหมู่บ้านมานานกว่า 30 ปี แปรรูปตากแห้งส่งออกจีน-ไต้หวัน ทำเงินสะพัดเดือนละเฉียดแสน!!
แปรรูปตากแห้ง “ตัวสีเขียวหรือแดง” ก็สร้างรายได้
“โตมากับการทำไส้เดือนตากแห้ง เพราะว่าเป็นอาชีพหลักของทั้งหมู่บ้าน รายได้ในหนึ่งปี รวมๆ แล้วก็เกือบ 100 ล้านบาท มีเงินกินเงินใช้ตลอดทั้งปี”
นี่คือโพสต์จากเฟซบุ๊ก “Wakim Phakin”ชาวบ้านบ้านตาล จ.นครพนม ที่มองว่า แม้อาชีพนี้จะดูแปลกในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับหมู่บ้านนี้ เป็นอาชีพที่สามารถทำเงินได้เดือนละเฉียดแสน!! ทำให้เกิดเป็นที่นิยมของชาวบ้าน และ “สืบทอดกันมายาวนานกว่า 30 ปี” เรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเลยก็ว่าได้
[ อาชีพแปลก ชาวนครพนม ]
“คนอื่นอาจมองว่าเป็นอาชีพที่แปลกประหลาด แต่สำหรับหมู่บ้านนี้ เราว่าเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจ เพราะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านมานานมาก”
สอดคล้องกับที่ นพมาศ วงษาเนาว์ชาวบ้านบ้านตาล จ.นครพนม หนึ่งในชาวบ้านที่ทำอาชีพ “แปรรูปไส้เดือนตากแห้ง” ส่งขายทั้งในประเทศ และส่งออกนอกประเทศ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงวิธีการแปรรูปไว้ว่าสามารถทำทุกอย่างได้ครบวงจรในครัวเรือนของตนเอง
โดยการแปรรูปไส้เดือนตากแห้ง จะเริ่มทำราวๆ เดือน พ.ย. ไปจนถึง ก.พ. ในช่วงนี้ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน จะร่วมกันมาช่วยกันขุดดินหาไส้เดือนเพื่อแปรรูป และนำไปตากแห้ง
[ ตากแห้งแล้ว ส่งออกต่างประเทศได้เดือนละแสน ]
ส่วนแหล่งขุดก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะหาได้จากพื้นที่ทุ่งนาตามธรรมชาติของชาวบ้านนี่เอง บวกกับการซื้อมาเพาะพันธุ์เพิ่มจากคนที่ไปหามาขาย ทำให้เกิดเป็นรายได้สะพัดในหมู่บ้าน
วิธีสังเกตไส้เดือนที่นำมาแปรรูปได้นั้น จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ ถ้าเป็น “ตัวสีแดงจะตัวหนา”แต่ถ้า “สีเขียวจะตัวบางกว่า”ราคาของไส้เดือนสดจะอยู่ที่ 100 กก. หลังแปรรูปตากแห้งจะเหลือ 8-9 กก. จะส่งขายได้ในราคากิโลฯ ละ 500 บาท
[ ชำแหละดินออกจากตัวไส้เดือน ]
ส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านทำเป็นการแปรูปเพื่อนำไปตากแห้ง จะเริ่มด้วยการชำแหละเอาดินออกก่อน แล้วนำไปแช่ล้างด้วยน้ำเปลือกไม้ประดู่ให้สะอาด ก่อนนำไปตากแดดจนแห้งอย่างที่ต้องการ
“แปรรูปไส้เดือนต้องลงมือทำตั้งแต่กลางดึก เพื่อให้ทันแดดออกในตอนเช้า บ่ายๆ ก็เก็บส่งขายได้เลย ถ้าได้วัตถุดิบทำก่อนฤดูกาล ก็สามารถทำเงินได้มากกว่าทุกปี”
ด้วยชาวจีนและไต้หวันมีความเชื่อที่ว่า สามารถนำไปทำเป็นยาบำรุง และผสมยาชูกำลังได้ ทำให้ประเทศเหล่านี้ต้องการไส้เดือนตากแห้งในปริมาณที่เยอะพอสมควร ทำให้รายได้ในหมู่บ้านแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“สัตว์ไร้ขา” อยู่ใต้ดินแต่กินได้
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า เจ้าสัตว์ไร้ขาชนิดนี้ เป็นถึงสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของไทย เพราะนอกจากจะขายได้ ยังมีประโยชน์ที่หลากหลายอีกด้วย
ข้อมูลนี้ได้รับการคอนเฟิร์มจาก ศ.ดร.อานัฐ ตันโชผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาและวิจัยไส้เดือนดิน เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การกินไส้เดือนมีมานานแล้ว ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
“อย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการนำมากินด้วยการย่างไฟ เชื่อว่าเป็นยารักษาโรคบางอย่าง และในประเทศจีน มีการนำไส้เดือนใช้เป็นส่วนผสมในยาบำรุงตามตำรายาโบราณ”
[ “ศ.ดร.อานัฐ” ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาและวิจัยไส้เดือนดิน ]
การนำไส้เดือนมากินนั้น มีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์คือ ไส้เดือนมีโปรตีนในปริมาณที่สูงมาก แต่โทษก็มีเช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายสำหรับคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน เนื่องจากมาจากในลำไส้ ของไส้เดือนมีจุลินทรีย์อยู่มากถึง 500 ชนิด
แต่ในคนที่มีภูมิต้านทาน ยังไม่พบว่าจะเกิดผลข้างเคียงอะไร แต่ในระยะยาวยังไม่สามารถบอกได้ ดังนั้นแนะนำว่า การจะนำไส้เดือนมากิน ต้องผ่านการทำความสะอาด ปรุงให้ถูกสุขอนามัย และควรต้องใช้วิจารณญาณในการกินด้วย
ในส่วนของประเทศจีน และไต้หวัน ที่ให้ประเทศไทยส่งออกไส้เดือนให้ จะนำเข้าเฉพาะไส้เดือนที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาด และตากแห้งแล้วเท่านั้น โดยจะนำเข้าปีละเป็นจำนวนมาก และคิดเป็นมูลค่าสูงมากต่อปี
“ไส้เดือนจึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ และสามารถสร้างมูลค่าได้มากขึ้น หลายๆ จังหวัดเริ่มหันมาสนใจการทำไส้เดือนตากแห้ง บางที่มีอุปกรณ์การแปรรูปอย่างดีด้วยซ้ำ เพราะถือว่าเป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้ชาวบ้านอย่างมหาศาล”
[ มีมูลค่า-คุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับทั้งไทย-เทศ ]
นอกจากนี้ กูรูด้านการวิจัยไส้เดือนรายเดิม ยังเคยทำการวิจัยเรื่องการผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนจากขยะอินทรีย์ พบว่า “ไส้เดือนสดๆ” สามารถนำมาใช้กำจัดพวกขยะอินทรีย์ให้ย่อยสลายจนหมดสิ้นได้ในเวลาที่รวดเร็ว ทั้งยังได้ปุ๋ยจากมูล และฉี่ของไส้เดือนดินที่มีมูลค่าและคุณภาพสูง ทำให้เป็นที่ยอมรับทั้งในไทย และต่างประเทศ
พร้อมกับสามารถนำไปใช้ร่วมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชผล เพราะไส้เดือนให้ผลผลิตที่ดีมาก เพราะให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการในระดับที่สูง และเพียงพอตามที่พืชต้องการ
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : ปิยะธิดา อุดมชาลี
ขอบคุณภาพ : แฟนเพจ “ไส้เดือนตากแห้ง”, เฟซบุ๊ก “Wakim Phakin”, ยูทูบ “ไพฑูรย์ ท้าวนาง”, ยูทูบ “Thairath Online” และมติชนออนไลน์
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **