สะบัดแปรง-แต่งชีวิต “ช่างโจ้” ผู้ลบรอยแผลให้ “เจ้าสาวผู้เสียโฉม”

สุดยอดฝีมือ! เปิดใจ “ช่างโจ้” เนรมิตหน้า-ผม เจ้าสาวมีแผลบนใบหน้า-ไร้ผมครึ่งศีรษะ จากการประสบอุบัติเหตุ เติมแต่งฝัน ส่งต่อกำลังใจ ไม่เคยเลือกงาน จนประสบความสำเร็จ!!

สะบัดแปรง เพิ่มความสวย “เจ้าสาว”

“วันแรกที่หนูโพสต์รูปไป ไม่ได้คิดว่า feedback จะกลับมาขนาดนี้ คือ หนูขออนุญาตเจ้าสาวโพสต์รูป เพราะว่าหนูต้องการจะบอกกับทุกคน ว่า ทุกคนมีความสวยในแบบตัวเอง ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปร่าง หน้าตา แต่เป็นกำลังใจหรือพลังใจ

ทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง โจ้เลยโพสต์ไปว่า ของขวัญที่ดีที่สุด สำหรับผู้หญิง คือ การได้แต่งงาน เพราะเจ้าสาวเคยพูดมาคำนึงว่า พี่คะ หนูไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ ครั้งนี้มันทำให้เป็นแรงผลักดันแล้วว่า เราต้องทำให้ดีที่สุด เราต้องทำให้ลูกค้า ยิ้มได้ มีความสุขมากที่สุด”

นี่คือ ความรู้สึกของ “จิงโจ้-วานิช หอมเขียว” วัย 27 ปี ช่างแต่งหน้า และ เจ้าของร้านเรือนเจ้าสาว จ.สุพรรณบุรี หลังโพสต์ภาพเนรมิตเจ้าสาว ที่เป็นแผลบนใบหน้า-ไร้ผมครึ่งศีรษะ และมีร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมจากการประสบอุบัติเหตุตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้เธอเกือบไม่รอดชีวิต

แน่นอนว่า กลายเป็นภาพที่ถูกแชร์ และถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก บ้างให้ความสนใจไปในประเด็นฝีมือการแต่งหน้า รวมทั้งเรื่องราวของเจ้าสาวคนนี้ ที่ได้สร้างกำลังใจให้ผู้ได้เห็นภาพดังกล่าว

[จิงโจ้-วานิช หอมเขียว]

“ลูกค้าได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เคยประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนกับรถสิบล้อ และถูกรถสิบล้อลากไป เกิดเหตุไฟลุก ไฟคลอกตัวลูกค้า ตอนนั้นลูกค้ามีอายุ 13 ปี หลังจากนั้น ลูกค้าก็ได้รับการรักษา นอนโรงพยาบาล

เจ้าสาวเขาบอกว่า พอรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา มีความรู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้ว ไม่อยากอยู่เป็นภาระใคร เขารู้สึกท้อแท้ แต่คำๆ หนึ่งของคุณแม่ บอกว่า งั้นแม่ขอชีวิตที่เหลือได้ไหม อยู่เพื่อแม่ได้ไหม

นั่นคือ จุดเปลี่ยนของเจ้าสาว ตอนที่เจ้าสาวเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟัง เราก็ปลื้มใจ มีความรู้สึกว่าเจ้าสาวผ่านเรื่องราวมาได้ คือ เจ้าสาวมีพลังบวกเยอะมาก เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่ทำให้ลูกค้าสวยที่สุดเท่าที่เราทำได้ ให้เขาดีใจที่สุดในครั้งหนึ่งในชีวิตเขา และชีวิตเราที่ได้ทำผลงานให้ลูกค้าประทับใจ

นี่คือ สิ่งที่เราได้ยินเขาพูดจากลูกค้า และเรื่องราวจากลูกค้า ทำให้เราคิด ต้องทำ ต้องวางแผนทำให้ลูกค้าออกมาดีที่สุด”

ทว่า ช่างได้เติมเต็มรอยแผลให้กับเจ้าสาว พร้อมกับทรงผมที่สวยงาม เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่เธอที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความสดใส แต่ยังสร้างพลังบวก เติมเต็มความฝัน ให้ช่างโจ้อีกด้วย

“ตอนแรกเขายังไม่ได้ดูกระจก พอได้ดูกระจก เขาก็ยิ้มให้กับเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวก็ยิ้มไม่หยุดเลย เราก็เลยสอบถามเจ้าบ่าว ว่า เจ้าสาวเป็นไงครับ พอใจไหม โอเคไหม แล้วเจ้าสาวเขาบอกว่าพี่คะ สวยมากเลยค่ะ คือ มันเกินคาดมากกว่าที่หนูตั้งใจไว้

สำหรับเคสนี้ บอกเลยว่า สิ่งที่ได้รับจริงๆ คือ การได้รับกำลังใจและพลังบวก สิ่งนี้คือ สิ่งที่เจ้าสาวทำให้เรามีพลังมากขึ้น ว่า ขนาดเจ้าสาวยังเจอเหตุการณ์แบบนี้มา ยังแกร่ง ยังสู้มาได้ตั้งแต่อายุ 13 ถึงอายุ 27 เพราะฉะนั้นต่อให้เราเจอลูกค้า หรือเจอเคสแบบไหน เราจะต้องทำให้เขาออกมาเต็มที่ ไม่ว่าจะเคสยากเคสง่าย

ไม่ว่าลูกค้าจะสวยหรือไม่สวย เราต้องเติมเต็มในสิ่งที่ลูกค้าเขาต้องการ และต้องทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ สวยในแบบที่ลูกค้าต้องการ ให้ได้มากที่สุด นั่นคือ กำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้น อีกระดับนึงเลยค่ะ”

อัปเดตเทรน – ไม่หยุดพัฒนา = ความสำเร็จ

กว่า 7 ปี ของเส้นทางการเติมแต่งความสวยงามให้ใครมานับไม่ถ้วน ช่างโจ้ ยอมรับว่า ในปัจจุบัน วงการแต่งหน้าจะต้องพัฒนาฝีมือ และเรียนรู้อัปเดตเทรนด์การแต่งหน้าอยู่เสมอ เพราะหากไม่ฝึกฝนตัวเอง ก็จะอยู่ไม่รอดในยุคปัจจุบัน

“ตั้งแต่เปิดร้าน ทำมา 7 ปีแล้วค่ะ การ make up มันก็เหมือนศิลปะ มันต้องอัปเดตเทรน เทรนยุโรป เทรนฝั่งเอเชีย เราต้องดู และเราต้อง mix มาตามยุคตามสมัย ตามเทรน และตามที่ลูกค้าชอบ เราจะต้องมาช่างน้ำหนัก ว่า เราควรไปในทางไหนได้บ้างกับลูกค้าคนนี้ ลูกค้าแต่ละคนที่เขาจ้างเรา”

[เติมแต่งฝัน ส่งต่อกำลังใจให้เจ้าสาว]

ยอดติดตามแฟนเพจเกือบ 2 หมื่นคน งานแต่งหน้ามีเข้ามาที่ร้านนี้แทบทุกวัน นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดีว่า กว่าจะมีวันนี้ได้ เขาต้องทุ่มเท-มุ่งมั่น กับงานที่ได้รับเพียงไหน ซึ่งช่างโจ้บอกเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ยึดมั่นมาเสมอ คือ การไม่เลือกงาน และซื่อสัตย์กับลูกค้าเสมอ

“โจ้ว่ามีส่วนค่ะ เพราะโจ้ไม่เคยเลือกลูกค้าเลย ใครจองก่อนได้คิวก่อน โจ้รับคนนั้น เพราะว่าเราไม่สามารถเลือกลูกค้าได้ และไม่จำเป็นต้องเลือกลูกค้าต้องสวยอย่างเดียว เพราะลูกค้าที่เขาจองก่อน ถึงเขาจะสวย หรือเขาไม่สวย เขาจองเราก่อน เราต้องรับท่านนั้น เราไม่มีสิทธิเลือกลูกค้าค่ะ

โดยปกติลูกค้าก็มีเยอะในระดับนึง แต่ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่โพสต์รูปไป feedback กลับมา 1 นาที ไม่เกิน 2 นาที ตอนนี้ลูกค้าแชตเข้ามาทุก 1 นาที ตอนนี้แอดมินไล่ตอบแชตไม่ทันเลยค่ะ”

สุดท้าย ในฐานะช่างแต่งหน้าที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี เขาฝากขอบคุณถึงกำลังใจที่ส่งผ่านเข้ามา พร้อมทิ้งท้ายถึงคนที่มีความฝันอยากทำอาชีพด้านการแต่งหน้า และมองเขาเป็นแบบอย่างด้วยว่า ให้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ แล้วความฝันที่รักจะตอบแทนความสำเร็จในสักวัน

“อันดับแรกเลย โจ้ต้องขอบคุณเจ้าสาวก่อน ที่เลือกร้านเรา เพราะว่าถ้าไม่มีเจ้าสาว ที่ไม่มาเลือกร้านเรา ให้มาดูความสวย เราจะไม่สามารถมี feedback กลับมาแบบนี้ได้ และจะไม่มีคำชมจากผู้ชม คนดู หรือคนที่ติดตามผลงาน ให้กับงานได้ขนาดนี้

ต้องขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมและให้กำลังใจ ทั้งโจ้ ทั้งเจ้าสาว ที่ทำให้มีวันนี้ ให้มีกำลังใจ ที่ทำให้เป็นไวรัล สำหรับคนที่จะดูโจ้เป็นแบบอย่าง โจ้ไม่ได้เป็นคนเก่งอะไร แต่แค่คิดว่าทุกอย่างที่เราต้องทำ เราต้องทำให้เต็มที่ เราต้องขอบคุณทุกคน”