xs
xsm
sm
md
lg

ต้องจองคิวล่วงหน้า 3 ปี! “นักสร้างศิลปะเคสคอมฯ” การันตีความเจ๋งด้วยรางวัลระดับโลก!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ความชอบมันทำให้เราไม่เหนื่อย” เปิดใจ “ปาล์ม-จักรพรรดิ ทองเหลือ” Modder ชาวไทย เสกเคสคอมพิวเตอร์สี่เหลี่ยม ให้เป็นดีไซน์สุดเจ๋ง ทั้ง รถ bigbike, รถ super car, รองเท้า Sneaker, เรือโจรสลัด ONE PIECE, ค้อนธอร์ ฯลฯ การันตีรางวัลระดับโลกถึง 2 ครั้ง ใครอยากจับจองต้องรอไปอีก 3 ปี!!



Modder คิวทอง จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี

“ความยากมันก็ยากหมด อาศัยความชอบอย่างเดียวในการทำ ทำผิดๆ ถูกๆ ไป จนสำเร็จครับ ผมเริ่มจากศูนย์ ไม่รู้เรื่องเลย อยากรู้อะไรก็เสิร์จอินเทอร์เน็ต แต่เราก็ต้องลองผิดลองถูกเอง บางอย่างเขาก็ไม่ได้บอก ทำเคสพวกนี้มันมีเรื่องของคอมพิวเตอร์ด้วย ต้องจัดวางฮาร์ดแวร์ มีทิศทางลม เพราะใช้ไปนานๆ มันก็ร้อน ต้องมีเรื่องเซอร์วิสหลังการใช้งาน เช่น ฝุ่นเข้า คุณถอดมาปัดฝุ่นได้มั้ย ต้องคิดเผื่อด้วย

ตอนนี้ที่ผมทำพร้อมกันประมาณ 6-7 ตัว แล้วก็มีที่รอคิวอยู่ประมาณ 3 ปี ลูกค้าผม 80 เปอร์เซ็นต์ เขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องเวลา เขาอยากได้งานที่ดีๆ ยอดสั่งตอนแรกประมาณ 3-4 ตัว ผมก็ดีใจมากแล้ว พอผ่านไปก็มีสั่งอีก ออเดอร์เป็นปี สั่งอีก ออเดอร์เป็น 2 ปี ผมก็เลยหยุดก่อน แล้วก็มารับสั่งประมาณกลางปีที่แล้ว สุดท้ายเป็น 3 ปี หลังจากนั้นผมไม่รับอีกเลย”

“ปาล์ม-จักรพรรดิ ทองเหลือ” Modder ชาวไทย วัย 27 ปี จาก จ.สิงห์บุรี กล่าวกับทีมข่าว MGR Live



หากจะพูดถึงคำว่า “Modder”หลายคนอาจจะสงสัยว่าคืออะไร พูดง่ายๆ ก็คือ “การตกแต่งหรือโมดิฟายเคสคอมพิวเตอร์” แปลงเคสคอมพิวเตอร์จากกล่องสี่เหลี่ยม ให้กลายเป็นรูปร่างตามใจปรารถนา ได้ทั้งความสวยงามและเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลงาน ซึ่งการ Mod คอมพิวเตอร์ ได้มีการจัดการแข่งขันระดับโลกมาแล้ว และคนไทยก็ไปคว้ารางวัลกลับมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับฝีมือของ Modder ผู้นี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาได้คว้า “ชนะเลิศ” ในการแข่งขัน Mod เคสคอมพิวเตอร์ระดับโลกมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน!!

อีกทั้งได้ฝากผลงานให้เป็นที่รู้จักในวงการ ทั้งเคสรถ bigbike เคสรถ super car เคสเครื่องยนต์ เคสรองเท้า Sneaker เคสเรือโจรสลัด Going Merry จากการ์ตูน ONE PIECE เคสค้อนธอร์ หรือ ค้อนโยเนียร์ จากภาพยนตร์ Avenger และอื่นๆ อีกมากมาย

และดีกรีความฮอตก็ไม่ใช่เล่นๆ โดยราคาสำหรับการ mod เคสคอมพิวเตอร์ เริ่มต้นที่ 40,000 บาท และหากใครต้องการสั่งทำเคสคอมพิวเตอร์กับเขาตอนนี้ ต้องต่อคิวรอไปอีก อย่างน้อย 3 ปี!!

มาทำความรู้จัก ปาล์ม Modder ชาวไทยผู้นี้ไปพร้อมๆ กัน ตามบรรทัดต่อจากนี้



[ เคสเรือโจรสลัด Going Merry จากการ์ตูน ONE PIECE ]

ตั้งแต่เด็กๆ ผมเป็นคนชอบศิลปะ ชอบวาดรูป จำได้ว่าผมเคยวาดการ์ตูนเป็นเล่มเลย ผมก็เลยมองว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมเท่าไหร่ที่จะต้องออกแบบ ต้องมีความใจรักอยู่แล้ว

ผมได้เปรียบอย่างนึง ก็คือ หลังจากจบ ม.6 ผมไปต่อ ปวส.ช่างกล ก็จะไปคลุกคลีกับเครื่องจักร เครื่องกลึง ก็จะมีความเป็นช่างติดตัวมา ก็เลยค่อนข้างง่ายสำหรับการจะมาประยุกต์ศิลปะกับพวกช่าง

ตอนนี้ผมรับเริ่มที่ 40,000 บาท อย่างเช่น มอเตอร์ไซค์ แล้วแต่ความยากง่าย (ใช้เวลาทำ) ประมาณ 3 เดือน เดี๋ยวนี้น่าจะเสร็จไว ถ้าสมมติผมไม่มีงานเลยนะ 2 เดือน น่าจะเสร็จ เพราะเริ่มชินมือแล้ว

เพิ่งมามีผู้ช่วยประมาณยังไม่ถึง 2 เดือน แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็ทำเองหมด ช่วงนี้ต้องบอกก่อนว่าคิวมันยาว ยาวไป 3 ปี ปกติปีสองปีแรก เวลาทำเสร็จผมไปส่งเองถึงบ้านเลย โพสต์เสร็จก็จะมีงานเข้ามา แต่พอโควิด ผมลูกค้าเยอะกว่าเดิมเยอะ



[ เคสหุ่นยนต์ในเกม Overwatch ราคาหลักแสน ]

ประมาณ 3-10 เดือนก็มี (ตัวที่ทำ 10 เดือน) ทำอยู่ยังไม่เสร็จ เป็นหุ่นยนต์ในเกม Overwatch ตัวนี้ราคาประมาณแสนต้นๆ เป็นตัวที่แพงที่สุดที่รับทำมา ตัวนี้ลูกค้าเขาไม่รีบด้วยไง เขาขอเวลาหาฮาร์ดแวร์ เขาอยากจัดเต็มทั้งเคสและสเปกภายใน สเปกภายในก็หลายแสนเลยครับ”

ปาล์ม อธิบายต่อว่า การแปลงเคสคอมพิวเตอร์ของเขา สามารถทำได้ทุกแบบตามที่ลูกค้าต้องการ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเขานั้น จะเป็นผู้มีใจรักในการตกแต่งเคสคอมพิวเตอร์อย่างเดียวไม่พอ ต้องใจเย็นด้วย เพราะเคสคอมพิวเตอร์เป็นงาน hand made ที่ต้องทำขึ้นมาใหม่ทุกชิ้น ต้องใช้เวลาและความละเอียดอ่อนอย่างมากในการทำ



[ ร่วมงานกับ Corsair ]

“ร้านผมจะดีอย่างที่ว่าลูกค้าอยากได้แบบไหน ผมคิดเป็น 3D ให้ บางคนเขาก็ไปจ้าง ไปซื้อแบบมา จะค่อนข้างแก้ได้ยาก บางทีเราอยากดัดแปลงก็แปลงไม่ได้ แต่ร้านผมสามารถทำได้หมด อย่างเรือ Going merry ค้อนธอร์ ผมก็เขียนขึ้นมาเอง

ลูกค้าส่วนมากที่ผมเจอเป็นวัยรุ่นที่มีตังค์ เขาคงชินกับการพรีออเดอร์แล้วต้องรอนานๆ ผมไปดูบ้านเขาก็มีฟิกเกอร์อะไรพวกนี้ เขาคงเข้าใจแหละว่า งานพวกนี้มันเป็นงานศิลปะ มาเร่งมันก็ยิ่งไม่ดี

มีลูกค้าหลายคนที่ทนรอไม่ได้เยอะมาก เขาไม่ติดเลยนะเรื่องราคา เขาติดตรงเวลา ผมทำให้เขาไม่ได้ ผมจำได้ลูกค้าจะให้ทำรถ bigbike ประมาณ 4-5 ตัว ทำให้วันเกิดน้องๆ ผมบอกไม่ได้จริงๆ คิวเป็นปีเลย เขาก็ทำใจ แต่บางคนเขาก็รอได้

หลังๆ นี้จะมีแบรนด์เข้ามาหา Corsair ตัวแรกที่ทำจะเป็นรถถัง คอนเซ็ปต์ที่เขาให้มาจะเป็นเกมย้อนยุค ตัวที่ 2 จะเป็นทศกัณฐ์ ออกมาก็สวยงามตามเวลาที่เขาให้มา ตัวนี้เวลาค่อนข้างบีบนิดนึง แล้วเร็วๆ นี้ จะมีทำร่วมกับ Intel ทำให้ยูทูบเบอร์ แต่ผมไม่ได้ทำคนเดียวนะ โปรเจกต์เขาจะมี modder แบบผม 4 คนทำให้ยูทูบเบอร์”

จาก mod เคส DIY จนได้อันดับ 1 ของโลก

ต้องบอกก่อนผมไม่ได้จะมา mod เคสโดยตรง ตอนนั้นประมาณปี 2 ผมก็แค่อยากเล่นเกม เห็นเพื่อนซื้อการ์ดจอมาตัวละหมื่นกว่าบาท ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องคอมก็ตกใจ คอมที่ผมมีตอนนั้นค่อนข้างกาก ก็เลยหารายได้เสริม รับวาดรูปการ์ตูนแล้วก็เก็บตังค์ ซื้อฮาร์ดแวร์ทีละชิ้น ซื้อเมนบอร์ด ซื้อ CPU ซื้อการ์ดจอมาอัปเดตคอมเล่นเกม”

ปาล์ม กล่าวกับผู้สัมภาษณ์ต่อว่า ตนเองจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สาขาการออกแบบแม่พิมพ์ จึงมีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรม 3D

แต่จุดเริ่มต้นของการ mod เคสคอมพิวเตอร์นั้น มาจากการที่เขาไปเจอเข้ากับเคสคอมพิวเตอร์ที่ผ่านการตกแต่ง แต่พบว่าราคาสูงเกินกว่าเขาที่เป็นนักศึกษาปี 2 ในตอนนั้นจะซื้อได้ จึงตัดสินใจทำขึ้นมาเอง



[ เคสจาก PVC เครื่องแรกในชีวิต ]

“พอใกล้ปิดเทอมก็ไปเห็นเคสอยู่ตัวนึง เป็นเคสที่เป็นโครงท่อเหล็กเชื่อมกัน ผมก็ไปดูราคา หมื่นกว่าบาท ก็ตกใจ ผมก็เลยมีความคิดว่าทำเองก็ได้มั้งถ้างั้น คิดตรงนั้นเสร็จ ผมก็ซื้อฮาร์ดแวร์เรียบร้อยหมด ปิดเทอมปุ๊บผมกลับมาบ้าน มาทำเคสที่เป็นของเราเอง แต่ว่าจากโครงเหล็กมาแปลงเป็นเคส PVC

ทำประมาณเดือนนิดๆ ครับ ตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย ผมเป็นอย่างเดียวคือเขียนโปรแกรม 3D ดูคร่าวๆ ว่า มันจะออกมาหน้าตาประมาณไหน จากนั้นต้องแปลงจาก 3D ให้เป็นของจริง ก็ต้องเชื่อมเหล็กเอง ตอนนั้นก็ฝึกเชื่อม พี่เรียนช่างเชื่อมก็ให้เขาสอน พอทำเสร็จก็เอาไปโพสต์ในกลุ่มแต่งคอมพ์ ได้ยอดไลก์ยอดแชร์เยอะ เหมือนเป็นกำลังใจให้เรา ภูมิใจว่าเราก็ทำได้

ผมโพสต์ตัวนั้นเสร็จ ก็มีผลตอบรับอย่างคาดไม่ถึง ก็เลยทำตัวที่ 2 เป็นเคสทรงเดิมแต่จะยาวขึ้นหน่อย เปลี่ยนจากท่อ PVC เป็นเหล็กสี่เหลี่ยม ใส่ชุดน้ำคอมพิวเตอร์เข้าไปด้วย ตัวนี้ก็ได้เอาไปประกวดในรายการของประเทศไทย งาน Vmod Lan Party 2016 ได้รางวัลที่ 2 มา เราก็รู้สึกดีใจ ประกวดครั้งแรกได้ที่ 2 เลย เราก็ยิ่งอยากทำมันอีก”



หลังจากได้ลองชิมลางในสายประกวด จนได้รางวัลติดมือกลับมาตั้งแต่ครั้งแรก ก็ทำให้ไฟแห่งการแข่งขันในตัวได้ลุกโชน และเป็นจุดเริ่มต้นให้เขา mod เคสคอมพิวเตอร์ประกวดเรื่อยมา

“หลังจากนั้น ก็มีอีกรายการ เป็นของ JIB ผมก็เห็นเขาประกาศว่าประกวดเคส mod ผมก็เลยคิดว่าจะทำเคสสวยๆ ไม่มีที่ไหนทำมาก่อน เน้นทรงเท่ๆ ก็เลยออกแบบไว้ก่อนแล้วทำตอนปิดเทอม เป็นทรงมอเตอร์ไซค์ Ducati สีดำแดง ตัวนั้นที่ผมเอาไปประกวด เป็นเวอร์ชันอัปเกรด มันจะมีเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ตัวนั้นได้รางวัลชมเชย เพราะว่าผมลงผิดประเภท

คือ เขารับแค่ประเภท Tower Mod ก็คือ เอาเคสทั่วไปมาทำการแปลง แต่ของผมเรียกว่า Scratch Build คือ เราเริ่มตั้งแต่ 1 สร้าง เชื่อมเอง เขาก็ไม่มีรางวัลสำหรับอันนั้น แต่เขาก็ปลอบใจด้วยรางวัลชมเชยให้ หลังจากนั้น ก็เอาตัวนี้ไปประกวด ที่ระยอง ก็ได้ที่ 1 มา

ปกติเวลาสายที่เรียน จบไปจะทำที่โรงงาน เป็นวิศวะก็มี เป็นนักออกแบบก็ได้ ผมยังไม่อยากทำงาน ก็ไปอบรมกับเพื่อนที่ชลบุรี หลังจากที่ประกวดเสร็จก็หอบเครื่องมือย้ายไปที่หอพักที่ชลบุรีด้วย ระหว่างอบรม 4 เดือน ผมก็แปลงตัวนี้ไปเรื่อยๆ เดือนสุดท้าย ผมได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติ อยู่ประเทศกรีซ จ้างผมทำเคส เป็นออเดอร์แรกเลยที่ผมได้ ตัว Ducati ตอนนั้นผมรับทำที่ 1,000 USD ประมาณ 30,000 ต้นๆ

เมื่อผลงานเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนดังไกลถึงต่างประเทศ ทำให้ความฝันของปาล์มใหญ่ขึ้นตามลำดับ นำไปสู่การประกวด mod เคสคอมพิวเตอร์ในสนามระดับโลก จนสามารถคว้ารางวัลที่ 1 มาครองถึง 2 ครั้งด้วยกัน



[ "EnginePC" รางวัลที่ 1 หมวด Ryzen รายการ Cooler master world seires 2018 ]

“เป็นรายการ Cooler Master ปี 2017 ที่เขาจะจัดทุกปี ทั่วโลกใครก็สามารถลงได้หมด ผู้หญิงผู้ชายแข่งได้หมด เป็นร้อย เขามี 3 ประเภท คือ 1. Tower Mod ที่ทำจากเคสแล้ว mod เพิ่ม 2. Scratch Build เริ่มสร้างใหม่ และ 3. Ryzen ที่ใช้ CPC ของ AMD เขาจะมีข้อกำหนดว่าให้ถ่ายรูปและมีวิดีโอ ตอนนั้นผมก็ส่งไป 2 เคส เป็นเคสเครื่องยนต์กับเคส BMW ผมได้ที่ 1 ของโหมด Ryzen จากตัวเครื่องยนต์ ได้รางวัล 3,000 USD

ต่อจากนี้ก็คือได้ที่ 1 ของ Thermaltake เขาจะมีคนคัดคนมาแข่งทั่วโลก 12 คน ผมไปแข่งกับคนที่เก่งๆ อยู่แล้ว ก็ได้โจทย์ว่าต้องใช้เคสของเขา อุปกรณ์ของเขาทั้งหมด ทำเสร็จก็จะมีผลโหวต สุดท้ายก็ได้รางวัลที่ 1 ตอนนั้นทำเป็นหัวหุ่นยนต์สีแดงครับ ได้ประมาณ 5,000-6,000 USD รวมฮาร์ดแวร์ การ์ดจอ เมนบอร์ด เคส มา mod ใช้ได้เลย คร่าวๆ ประมาณ 200,000 กว่าบาท

มันเป็นปลายปี 2019 แต่ประกาศผลต้นปี 2020 ปกติได้รางวัลเราจะต้องเอาเครื่องของเราไปโชว์ที่ไต้หวันในงาน แต่พอดีปีนั้นโควิด ผมก็เลยอดไป เศร้าเลย ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ไปโชว์ผลงานแล้วนะ ต่างประเทศเขาก็บอกว่ามีคนอยากเจอตัวผม อยากติดต่อ ก็เลยเฟลไป เสียดายเหมือนกันเพราะโควิด”

ปาล์มเสริมว่า ฝีมือของ modder ไทยนั้นไม่ธรรมดา เพราะไม่รางวัลการันตีมาแล้วมากมาย ก่อนที่เขาจะเข้าวงการเสียอีก อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาดด้วย



[ "CyborgHelmet" รางวัลที่1 รายการ Thermaltake 2019 ]

เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามต่อว่า ในอนาคตจะไปสายประกวดต่ออีกหรือไม่ เขาก็ให้คำตอบว่า อยากลงประกวดทุกสนามที่มีการแข่งขัน

“modder น้อยกว่าความต้องการของตลาดด้วยซ้ำ ถ้าต่างประเทศผมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่อย่างเวียดนามผมเห็นตลาดเขาบูมมาก ปีนึงแข่งในประเทศไม่รู้กี่ครั้ง ของไทยแข่งครั้งล่าสุดที่ระยองแล้วไม่มีแข่งอีกเลย แต่ modder ชาวไทยต้องบอกว่าก่อนที่ผมจะเข้าวงการ ก็คือได้รางวัลระดับโลกมาเยอะมาก

รางวัลเป็นเกียรติยศสำหรับเรามากกว่า เป็นความภูมิใจว่าอย่างน้อยเราแก่ตัวไป เราบอกลูกบอกหลานได้ว่าได้รางวัลที่ 1 ของโลกมานะ

ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนชอบแข่งขัน ถ้าเป็นงานประกวดผมอยากลงให้หมดเลย เหมือนเป็นการชาเลนจ์ตัวเอง ว่าอย่างน้อยเรายังมีไฟ ไปแข่งกับคนอื่น จริงๆ ไอเดียผมเยอะมาก ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นไอเดียของคนอื่น แต่ถ้าเป็นไอเดียผม ผมจะได้ปลดปล่อยไอเดียก็ต่อเมื่อผมประกวด”

เจาะเบื้องหลัง กว่าจะได้เคสสักตัวไม่ใช่ง่ายๆ!!

และแล้วก็มาถึงการเจาะลึกการ mod เคสคอมพิวเตอร์ ที่กว่าจะสำเร็จออกมาสักครั้ง ต้องผ่านกระบวนการคิด กระบวนการทำหลากหลายขั้นตอน โดยวัสดุที่ใช้หลักๆ มาจาก 3D Print หรือ การสร้างชิ้นงานจริงจากแบบ 3 มิติ ที่วาดขึ้นบนโปรแกรมเขียนแบบ

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมเรียนที่พระจอมฯปีสุดท้าย เขามีโปรเจกต์ให้ทำแม่พิมพ์ แล้วเขาจะให้ print 3D ก็สะดวกดี ไม่ต้องมานั่งปั้นชิ้นงานเอง แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดอะไร

หลังจากที่แข่ง JIB ได้รางวัลชมเชย ผมรู้สึกว่าอยากแต่งเพิ่มอีก ก็ใช้ความคิดเยอะ ว่าเราจะทำยังไงให้มันสวยขึ้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียนรู้แล้วก็เสิร์จไปเรื่อย มีทั้งเรื่องสี เราจะเอาสติ๊กเกอร์มาติดแทนดีมั้ย พ่นสียังไง เพิ่มไฟ หลายๆ อย่าง

แล้วก็มาเจอร้าน print 3D เราก็เออ… เราเคย print ก็เลยเขียนแบบ 3D แล้วส่งให้ร้าน ชิ้นไม่ใหญ่มากฟุตนึง 9,000 บาท ตอนนั้นยังหารายได้เองไม่ได้ ผมบอกเขาว่าอยากทำเคสคอมแบบนี้นะ เขาก็เหมือนชอบแล้วก็ลดให้เหลือ 2,000 มั้ง



เราเขียนโปรแกรม 3D เป็นแล้ว แต่ว่าเราจะไปจ้างเขา print ตลอดก็ไม่ได้ มันแพง ก็เลยลองไปหาพวกเครื่อง print สามมิติในเน็ต ไปเจอเครื่องนึงประมาณ 7,000-8,000 เครื่องไม่ใหญ่มาก ก็ print เครื่องนี้มาเกือบปีเลย

พอผมเริ่มมีเงินทุนก็มองหาเครื่องมือใหม่ๆ เพิ่มเติม ก็จะมีเครื่อง print ที่มันดีขึ้น แต่ก็ไม่เกินหมื่นเพราะผมมองว่ามันก็ print ได้เหมือนกัน บางทีชิ้นงานผมใหญ่ๆ ก็อาศัยตัดชิ้นงานในโปรแกรมเอา แล้วก็แบ่งมา print จะประหยัดได้เยอะ แต่ตอนนี้เครื่องมือผมเริ่มเยอะแล้ว พอทำงานมีเงิน ผมก็เอาเงินไปซื้อเครื่องมือ (หัวเราะ)”

และจากที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เคสคอมพิวเตอร์จากเขา 1 ตัว ใช้เวลาขั้นต่ำ 3 เดือน เหตุที่ต้องใช้เวลานานนั้น มาจากการออกแบบและเตรียมชิ้นส่วน ขณะที่การประกอบนั้นใช้เวลาไม่นาน

“เริ่มแรกจากการดีลลูกค้าเสร็จ สมมติจะทำมอเตอร์ไซค์ ก็ให้เขาเลือกว่าอยากได้รุ่นแบบไหน มีต้นแบบจากรุ่นไหน สมมติเขาเลือก BMW ผมก็ไปดู ผมจะดราฟท์แบบ วางฮาร์ดแวร์ตรงไหน ก็ไปเขียนแบบเป็น 3D ขั้นตอนนี้จะประมาณ 2-3 อาทิตย์ แล้วผมจะเริ่มทยอย print

print ก็นานเหมือนกัน ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้ print เสร็จก็เอาไปขัด ความยากอีกอย่างก็คือการขัด ถ้า print 3D เสร็จ ชิ้นงานมันไม่ได้เรียบออกมามันจะเป็นรอยเส้น ถ้าเอาชิ้นงานมาดูใกล้ๆ จะเป็นชั้นๆ เลย เราก็เอาสีโป๊วขัดๆ ความยากจะอยู่ตรงนี้ บางทีเราขัดไม่ดี ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็ยืดระยะเวลาในการทำขั้นตอนนี้ออกไปอีก

ถ้าทำทุกอย่างเสร็จ ประกอบประมาณ 3-4 วันเสร็จ แล้วก็เก็บรายละเอียดรวมๆ แล้วก็ 2-3 เดือน มันจะไปนานตรงที่เขียนแบบ ออกแบบ บางทีมันจะมีจุด error จุดที่เรามองข้ามไป ก็ต้องคอยแก้



ของอย่างนี้มันเป็นของเฉพาะทางมาก ไม่ใช่ง่ายๆ อย่างน้อยต้องมีความรู้ด้านออกแบบ สมมติคุณคิดอย่างเดียวแล้วไปจ้าง คุณก็จะเห็นขั้นตอนแค่ตรงนั้น แต่ถ้าคุณคิดแล้วทำเอง บางทีเราเจอจุดเล็กๆ น้อยๆ เจอเทคนิคแปลกๆ ก็เก็บมาดีไซน์ของเราเพิ่มได้ มันทำให้เราคิดต่อเพิ่มได้”

สำหรับเสปกภายในเคสคอมพิวแชนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า “ยิ่งแพงก็ยิ่งแรง”

“ความแรงก็ขึ้นอยู่กับราคา ยิ่งแพงก็ยิ่งแรง มีเรื่องของที่ทำให้สวยงาม ถ้าฮาร์ดแวร์ก็ได้หมด จะมีทั้ง 2 อย่าง คือ ให้ผมสั่งใหม่หมด แล้วก็ส่งมาให้ผมก็มี มันจะมีฟิกสเปกสำหรับเคสที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ ต้องใช้บอร์ดขนาดเล็ก

ปกติคอมพ์ทั่วไปจะใช้พัดลม แต่ถ้าอยากเท่กว่าเดิมก็ใช้เป็นชุดน้ำระบายความร้อนได้ ชุดน้ำก็จะแบ่งเป็น 2 อย่าง มีชุดน้ำแบบเปิดกับชุดน้ำแบบปิด ชุดน้ำปิดเป็นชุดน้ำที่มีหม้อน้ำและบล็อกน้ำมาให้ เราแค่มาติดตั้งเฉยๆ แต่ถ้าเป็นชุดน้ำเปิดมันจะแยกเลย ปั๊ม หม้อน้ำ เราเลือกได้หมด ราคาก็แพงกว่าเดิม

อย่างตอนทำชุดน้ำแรกๆ ผมยังไม่ค่อยเซียน น้ำหกใส่การ์ดจอ ตอนนั้นก็ 30,000 เหมือนทำเคสฟรีเลย (หัวเราะ) ผมรับผิดชอบเอง จะไปโทษลูกค้าก็ไม่ได้เพราะลูกค้าไม่ได้เป็นคนมาทำน้ำหก ผมเป็นคนทำ ก็เลยซื้อการ์ดจอให้เขาใหม่ ก็เป็นอุทาหรณ์สำหรับเราว่าต้องดูให้ดีนะ พวกฮาร์ดแวร์พวกนี้ไปแล้วไปเลย ต้องระมัดระวัง”



เมื่อถามถึงเอกลักษณ์ในผลงานของปาล์ม เขาก็ให้คำตอบว่า หากพูดถึงเคสรถ bigbike ย่อมต้องนึกถึง “Juggapat Modifier” เป็นชื่อแรกแน่นอน

“ถ้าเป็นเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ ผมว่ายังไม่ค่อยมีใครทำนะ ถ้าคนทั่วไปมองเข้ามาในงาน mod เป็นงานรถ bigbike ก็คงคิดว่ามาจากผม แล้วก็มีอีกตัวที่ผมทำประกวดเหมือนกัน เมื่อล่าสุด ได้รางวัล best art award เป็นเคสรองเท้า Sneaker ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก ก็ยังไม่มีใครทำมาก่อน แล้วผมก็คิดว่าไอเดียนี้น่าจะเป็นไอเดียแรกๆ ของโลกที่ทำ

เอาจริงๆ ผมแทบไม่มีเวลาไปพัฒนาตัวเองเท่าไหร่ ในความคิดผม ผมอยากจะไปเรียนพวกเขียนโปรแกรมควบคุมมอเตอร์ ที่ว่าจะให้มันมีลูกเล่นกับเคสคอมเราให้มันเปิด-ปิด แต่ตอนนี้ไม่ว่างเลย อย่างที่บอกคิวแน่นมาก เลยไม่มีเวลาขยับตัวไปไหน ถามว่าไกลมั้ย ก็ไกลอยู่ แต่ว่ายังไกลได้อีก

ผมว่าจุดเริ่มต้นจริงๆ เป็นที่ความชอบมากกว่า ถ้าผมไม่ชอบแล้วมานั่งเชื่อมเหล็ก บางทีมันร้อนมือ ลวกมือ บางคนไม่ชอบ เลิกเลย แต่ผมชอบ เชื่อมเหล็กมือพอง โดนเหล็กบาด ไม่สนใจ แค่พันพลาสเตอร์แล้วไปทำใหม่แค่นั้น เหมือนว่าความชอบมันทำให้เราไม่เหนื่อย มันทำให้เราอยากสู้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ”

วอนเปิดใจให้อาชีพ “Modder”

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ปัจจุบันมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึง modder ด้วย และด้วยความที่ไม่ใช่อาชีพที่คุ้นเคยกันในสังคมไทย และไม่มั่นใจถึงความมั่นคงในอนาคต แน่นอนว่าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทำให้ผู้ใหญ่หลายบ้านยอมรับได้ง่ายๆ “ครอบครัวทองเหลือ” ของปาล์มก็เช่นกัน…

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดอันดับหนึ่ง เหมือนครอบครัวเขาอยากให้รับราชการ คือใจผมไม่อยากรับราชการตั้งแต่แรกหลังจากจบมาต้องทำงานโรงงาน ผมโชคดีหน่อยที่ผมมีเคสทำกับต่างชาติ ทีนี้ครูที่ผมไปเรียน ปวส. เขาทักมาว่าอยากเป็นครูมั้ย ตอนนั้นก็มีงานตัวนึงแล้วยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ ก็คิดว่าไปลองดูก็ได้ ก็ไปสัมภาษณ์ เขาก็บอกว่าผมได้แน่ๆ อยู่แล้ว

พอมานั่งคิดอีกที ผมไม่ชอบเลย แต่พ่อแม่คาดหวัง ไปคุยกับชาวบ้านเรียบร้อยว่าผมจะได้เป็นครูแล้ว ตอนนั้นเงินเดือน 8,000 มั้ง เป็นครูอัตราจ้าง ถ้าไปก็ต้องไป-กลับทุกวัน ผมเป็นคนที่เกลียดการตื่นเช้ามาก เป็นครูต้องตื่นเช้าหนักกว่าเดิม แล้วอาจารย์บอกว่าถ้ามา เสาร์ต้องไปสอนเพิ่ม อาทิตย์ต้องไปเรียน ป.บัณฑิตเพิ่มอีก

ตอนนั้นแม่ก็บอกว่าไปเลยลูก ทำเคสก็ทำเวลาว่าง ผมก็คิดว่าไม่น่าได้มั้งเพราะเวลาว่างไม่มีเลย แล้วจะมาทำเคสยังไง ก่อนวันสุดท้ายที่ต้องไปรายงานตัว ผมจำได้ ผมบอกกับพ่อว่าผมไม่ไปนะ พ่อก็หน้าเครียด ผมก็โทรไปบอกอาจารย์ ผมขอโทษครับ ผมไม่ไปแล้ว อาจารย์ก็คงเฟลๆ แหละเพราะเหมือนคุยไว้อย่างดี”



หลังจากที่ตัดสินใจ ขอเป็นคนที่กำหนดเส้นทางชีวิตตัวเอง ปาล์มก็มุ่งมั่นตั้งใจในเส้นทางสายนี้อย่างสุดความสามารถ เมื่อมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีรางวัลการันตี และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเขาได้จริง ก็ทำให้มุมมองของพ่อแม่ที่มีต่ออาชีพของลูกชายดีขึ้นตามลำดับ

“แต่ผมเครียดจริงๆ นะ ผมไม่อยากทำ ผมมองแล้วว่าถ้าผมก้าวไป คงต้องถอนตัวออกมายากแน่ๆ สมมติผมไปทำ ผมก็มีเวลาให้สิ่งที่ชอบน้อยลงหรืออาจจะไม่มีเลย อย่างน้อยถ้าผมไปไม่รอด ผมก็ไปหาสมัครตามโรงงานก็ได้ ผมคิดว่ามันดีกว่าที่ผมจะต้องไปทำงานนั้น มันไม่ได้เหนื่อยแต่มันไม่ใช่งานที่เราชอบ สู้ผมถอนตัวในตอนนั้นมาทำในสิ่งที่ผมชอบ ขอสู้ตายตรงนี้ดีกว่า ทำผลงานออกมาให้สวยแล้วมีคนจ้างต่อ แล้วก็สู้กับมันไปจนถึงที่สุด

ตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วย แต่ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับผมมากกว่า สุดท้ายผมไม่ไปก็คือไม่ไป พอหลังๆ เริ่มมีงาน เริ่มได้รางวัล ผมก็บอกว่า เดี๋ยวไปทำงานต่างจังหวัดนะ แม่บอกไม่ต้อง ทำอยู่นี่แหละ (หัวเราะ) ทำงานอยู่บ้าน มันดีกว่าหลายอย่าง ตรงที่เราไม่ต้องไปเสียเงินค่าหอพัก ค่ากิน-ค่าอยู่ เราอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่แพง เงินที่ได้มาก็เอามาเก็บ ส่วนนึงก็เอาไปซื้อเครื่องมือ เราจัดการได้ง่ายกว่าเดิม ผมเป็นคนที่ไม่ชอบไปไหนด้วย ชอบอยู่กับที่ ก็มีความสุขดี

เขาก็แฮปปี้ดี ก็ไม่ได้เครียดแล้ว แต่พ่อผมก็ยังเป็นห่วงอยู่ พ่อผมเพื่อนรอบข้างเขาเป็นข้าราชการ เขาก็จะมีความคิดแบบนั้นว่าข้าราชการดีนะ แก่ไปก็มีบำนาญกิน แต่ว่าผมตั้งเป้าไว้ว่า ผมจะเกษียณตัวเองให้มันเร็วกว่านั้นอีก เพราะผมอยากทำในสิ่งที่ผมชอบ”



เขายังย้ำว่า ความชอบของตนในด้านงานศิลปะ สามารถเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้จริง

ดูจากพ่อแม่ผมที่อยากให้เป็นข้าราชการ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่พ่อแม่จะเป็นห่วงเรา มันเป็นอาชีพใหม่ด้วยเนอะ เมื่อก่อนที่ผมดูฝรั่งเขานั่งไลฟ์เล่นเกม แล้วมี donate เข้ามา วันนึงเขาคงได้เป็นล้านเลย ถ้าเราเปิดใจ เรามองอาชีพใหม่ๆ มันเกิดขึ้นมาเยอะแยะไปหมด มันอยู่ที่ว่าเราจะเปิดใจมั้ย

เดี๋ยวนี้หลายอย่าง อย่างสตรีมเกม อีสปอร์ตส์ เงินเข้ามาเยอะมาก อย่างยูทูบเบอร์ เมื่อก่อนจะคิดว่าคนมานั่งกินได้ตังเป็นล้านๆ เดี๋ยวนี้ก็มีให้เห็นเยอะแยะไปหมด แค่เปิดใจครับแล้วก็จะเห็นโลกที่มันกว้างขึ้น ต่อไปใครจะไปรู้ว่ามันจะมีอาชีพที่แปลกกว่านี้รึเปล่าเราก็ไม่รู้ คิดว่าต้องมีแน่ๆ”

เมื่อถามถึงเป้าหมายอนาคต modder ผู้นี้ก็กล่าวว่า ยังมีอีกสิ่งที่อยากทำ คือการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในลักษณะเดียวกับการแปลงเคสคอมพิวเตอร์



พร้อมทั้งฝากถึงคนที่สนใจและมีข้อสงสัยในการทำเคสคอมพิวเตอร์ สามารถสอบถามไปได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “Juggapat Modifier - JMDF” รวมถึง ยูทูป ช่อง “JMDF”

“เอาจริงๆ ตอนนี้ผมอยากจะทำอย่างอื่นด้วยนะ แต่ก็ทำตรงนี้ไปก่อน พอเรามีเงินตั้งตัวเยอะๆ เราก็ไปหาทำอย่างอื่นที่ชอบต่อไป ที่คิดไว้จะเป็นพวกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซื้อพวกแบตเตอรี่ ซื้อล้อ แล้วมาบิวต์เอง เป็นรถไฟฟ้าที่เราออกแบบ อันนี้คือในความคิดนะแต่ว่ายังไม่มีเวลาทำ

สำหรับคนที่สนใจอยากจะทำ อย่างแรกเลยถ้าผมจะแนะนำ ต้องมีความชอบ เริ่มทำได้เลย ให้เริ่มจากที่ชอบ เริ่มจากที่เราถนัด แล้วก็เอาความรู้ที่ตัวเองมีมาประยุกต์ใช้ มาปรับใช้ อย่างผมมีความรู้เรื่องเครื่อง print มีความรู้เรื่องเขียนแบบ 3D ผมก็ต่อยอด แต่ถ้าคนอื่นที่เขียนแบบไม่เป็น อาจจะเริ่มจากง่ายๆ ก่อน ถ้าเราชอบ เราเริ่มลงมือทำเลย และใช้ความรู้ที่เรามี สมมติเราขาดตรงไหนก็ไปเรียนเพิ่ม สำคัญที่เราชอบรึเปล่า ถ้าชอบก็ลุยเลย มีอะไรก็ปรึกษาผมได้ครับ”



Top 5 เคสตัวโปรด

1. MonsterV2



ที่ผมชอบอันดับ 1 ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความสวยนะ ผมชอบตัว Ducati เหมือนเป็นตัวที่เราได้มีคนรู้จัก ถึงจะไม่มากเท่าตัวแดง แต่ก็เป็นตัวที่ชอบมาก เหมือนเป็นครู ให้เราได้มีประสบการณ์หลายๆ อย่าง จุดเริ่มต้นหลายๆ อย่าง เป็นพื้นฐานที่เราต่อยอดได้

2. EnginePC



ขอยกให้ตัวเครื่องยนต์ เป็นตัวที่ได้รางวัลที่ 1 รายการ Cooler Master ระดับโลก ต้องบอกก่อนว่าผมใช้เวลาทำแค่เดือนเดียว อีกตัว BMW ทำประมาณ 8 เดือน ส่งประกวดพร้อมกันแต่อีกตัวได้รางวัล

3. LamboghiniV12



ผมชอบตัว Lamboghini สีม่วง ตัวนั้นเป็นเคสตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยทำตอนนั้น มีช่องนึงเขามาสัมภาษณ์ ตัวนั้นยอดวิวสูงสุดในช่องเขาเลย 7-8 แสนแล้ว ทำให้ผมเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

4. H2R-pink




เป็นมอเตอร์ไซค์สีชมพู แบรนด์ Asrock จ้าง ต้นแบบมาจาก Kawasaki H2R

5. JMDF-Sneker



เคสรองเท้า เป็นเคสล่าสุดที่ผมได้ทำประกวด ได้รางวัล best art award







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)





สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป : อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอบคุณภาพ : แฟนเพจ “Juggapat Modifier - JMDF”, ยูทูบ “JMDF”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **






กำลังโหลดความคิดเห็น