xs
xsm
sm
md
lg

เทียบความแกร่ง “เดลตาพลัส” ติดเชื้อไวขึ้น 10% ทำลายสถิติเดิม อยู่ที่ “น้อยกว่า 5-10 วิ”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไขข้อสงสัยเชื้อกลายพันธุ์ “เดลตาพลัส” ตัวที่แกร่งที่สุด-แพร่เชื้อไว-หลบหลีกวัคซีน ผ่านการวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหายใจ พร้อมประเมินโอกาสระบาดระลอกใหม่ หากเปิดประเทศ!!




เชื้อกลายพันธุ์เดลตาพลัส “แกร่งที่สุด-แพร่เชื้อไวสุด”!!?


ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ล่าสุด ทางกระทรวงสาธารณสุข ตรวจพบสายพันธุ์ “เดลตาพลัส” (Delta Plus) หรือ สายพันธุ์ AY.4.2รายแรกที่พระนครศรีอยุธยา 1 ราย

แน่นอนว่า หลังพบเชื้อ นำมาซึ่งความวิตกกังวลของประชาชน ถึงความรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์เดลตาพลัส ที่อาจจะมีการแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมอย่างสายพันธุ์เดลตา ที่ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดุและอันตรายที่สุด

ก่อนหน้านี้ ในไทยเคยพบเชื้อหลากสายพันธุ์ ตั้งแต่ อัลฟา (Alpha), เบตา (Beta), แกมมา (Gamma) และ เดลตา (Delta) ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก (Who) ได้ออกมาเตือนให้เฝ้าระวัง “เชื้อกลายพันธุ์” เพราะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งยังรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

[นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์]
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง ทีม MGR Live จึงติดต่อไปยัง นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนักและโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ให้ช่วยไขความกังวล และให้ความรู้ถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสเดลตาพลัสที่พบในไทย

“เดลตาเป็นเชื้อที่น่ากลัวที่สุดแล้วในขณะนี้ คือ มันสามารถจะแพร่ระบาดเหมือนอีสุกอีใส คือ คนหนึ่งสามารถแพร่ให้อีก 8 คน ซึ่งทุกคนผมเชื่อในโลกนี้ไม่ช้าไม่นานก็จะติดหมด ต่อให้ฉีดหรือไม่ฉีดก็ตาม



คือ ฉีด (วัคซีน) ไปแล้วก็จะติด ใครได้ติดก็จะมีภูมิป้องกันได้ หรือคนที่ติดไปแล้ว ก็ควรจะฉีดวัคซีนสัก 1 เข็ม เพื่อป้องกันไม่ให้ติดต่อ อันนี้เราต้องปฏิบัติ”

หมอมนูญ เสริมอีกว่า การกลายพันธุ์ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการเดินทางไปต่างประเทศ หากเป็นการแบ่งตัวของไวรัสและแพร่กระจาย

“ไม่จำเป็นต้องมาจากการเดินทาง มันขึ้นกับเชื้อตัวนั้นมันแบ่งในตัวเรามากแค่ไหน สมมติร่างกายเราอ่อนแอ เชื้อเราอยู่นานขึ้น มันก็สามารถจะแบ่งตัวได้มากขึ้น และมันจะกลายพันธุ์ได้มากขึ้น”


โดยคาดการณ์ว่า สายพันธุ์เดลตาพลัสนี้ จะมีการติดเชื้อที่ง่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดลตาเดิม 10% คือ สถิติเดิมตอนนี้อยู่ที่ 5-10 วินาที สำหรับการแพร่กระจายเชื้อไปสู่อีกคน

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ของเดลตาพลัส” นั้น ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมจาก “เดลตา” เดิม คือ ยังคงเหมือนกันตรงที่สามารถจับเซลล์มนุษย์ได้ง่าย อยู่ในร่างกายได้นาน และแพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ) 1.4 เท่า หรือ 60%

“ความจริงก็เจอมานานพอสมควร คือ ที่อังกฤษเขาก็ตรวจเจอมา พบว่า มีประมาณ 6% ของเราเพิ่งจะเจอ 1 คน และคนที่ป่วยเขาไม่ได้เดินทางไปไหนเลย มันก็เกิดจากการกลายพันธุ์ของมันเอง มันไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่เจอเขาก็บอกว่ามันอาจจะแพร่ระบาดได้มากขึ้น

ความรุนแรงเท่าๆ เดิม มีแต่การแพร่กระจายอาจจะง่ายขึ้นประมาณ 10% และเรื่องความหลบหลีกภูมิคุ้มกันก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น และองค์การอนามัยโลก ก็บอกว่า ยังไม่เป็นเชื้อที่น่ากังวล เพียงน่าจับตาเท่านั้นเอง”


และเมื่อถามถึงการใช้วัคซีนอาจจะเป็นความหวังในการพิชิตเชื้อกลายพันธุ์ตัวนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ กล่าวว่า อนาคตเชื้อโรคมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา ปัจจุบันวัคซีนที่มีอยู่มีประสิทธิภาพในป้องกันเชื้อเดลตาพลัสได้

“วัคซีนที่มีของเราก็มีหลายชนิด แต่ของเราผมว่าเชื้อตายอาจจะประสิทธิภาพต่ำหน่อย อาจจะครอบคลุมเชื้อเดลตา เดลตาพลัสได้น้อยกว่า สู้วัคซีนอะดีโน (Adenovirus) วัคซีนไวรัลเวกเตอร์ (Viral Vector) ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เป็นที่มาว่าทำไมคนที่ฉีดซิโนแวค (Sinovac) 2 เข็ม ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม จะต้องตามด้วย แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ตามด้วย ไฟเซอร์ (Pfizer) หรือ โมเดอร์นา(Moderna) 1 เข็ม”




โอกาสระบาดระลอกใหม่-คนติดเชื้อสูง!!


ทั้งยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นหลักพันในทุกวัน ทั้งคลัสเตอร์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง แต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ รัฐบาลกลับเตรียมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาผ่อนคลายในพื้นที่นำร่อง โดยไม่ต้องกักตัวเสียแล้ว

ท่ามกลางความกังวลของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ออกมาแถลงข่าวโต้ดรามา ว่า การเปิดประเทศในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอยู่ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังเชื้อโควิดอย่างใกล้ชิด

ส่วนการติดตามความคืบหน้าการตรวจสายพันธุ์ที่ติดเชื้อในประเทศ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ติดตามและเก็บตัวอย่างและมีการตรวจสอบการติดเชื้อของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมาตลอด

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่า ข้อมูลทุกอย่างโปร่งใส สามารถนำมาเปิดเผยได้ ซึ่งการกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเชื้อโควิดเดลตาพลัส ที่พบในไทย เป็นคนละตัวกับอังกฤษ โดยปัจจุบันผู้ป่วยได้รักษาหายแล้ว อีกทั้งยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายดังกล่าว


หันมามองมุมมองของผู้เชี่ยวชาญรายเดิม เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ให้คำตอบเอาไว้ว่า หากเปิดประเทศอาจจะมีอัตราผู้ติดเชื้อสูงมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านี้ มีความกังวลหลากหลายโรงเรียนเริ่มทยอยเปิดเทอมกัน ก็อาจจะทำให้ทั้งเด็กๆ และครู ติดเชื้อ และอาจเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของโรค

“ผู้ติดเชื้ออาจจะมากขึ้น ผมไมได้กังวลนักท่องเที่ยวต่างชาติมากหรอก กังวลนักท่องเที่ยวไทยมากกว่า เพราะนักท่องเที่ยวไทย ก่อนจะไปเที่ยวก็ไม่ได้บังคับให้ฉีดวัคซีน เราไม่ได้ตรวจว่ามีเชื้ออยู่ในตัว 2 ครั้งก่อนเดินทาง เราไม่ตรวจเลย

มีโอกาสที่จะนำเชื้อไปให้คนในพื้นที่นั้นมากกว่า และอีกหน่อยเราจะเปิดโรงเรียน โรงเรียนก็จะเป็นสถานที่จะมีการแพร่ระบาดแน่นอน เพราะเด็กไม่ได้ฉีดวัคซีน เด็กเล็กก็ไม่ได้ฉีด ฉะนั้น โอกาสที่จะติดในโรงเรียนก็จะเพิ่มขึ้น และเด็กอาจจะเอาเชื้อไปแพร่ในบ้านอีก

เราต้องทำใจ เพราะเราเปิดโรงเรียน เปิดการท่องเที่ยว ผู้ติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน คือ ขออย่าให้คนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น คนที่ป่วยหนักเพิ่มขึ้น”

สุดท้าย คุณหมอมนูญ ได้ฝากความห่วงใย พร้อมทั้งวิธีการดูแลตัวเอง ในสถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง

“ป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ใส่หน้ากาก อยู่ห่างๆ กับคนที่เราไม่รู้จัก แล้วก็หมั่นล้างมือ อยู่ในที่โล่ง ที่อากาศถ่ายเทดี อันนั้นก็เป็นวิถีชีวิตใหม่ที่เราต้องปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ และควรรีบไปฉีดวัคซีน”




ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **







กำลังโหลดความคิดเห็น