“ปั่นราคาเกินไปไหม?” สังคมตั้งคำถามว่าอะไรทำให้ “ไม้ด่าง” พุ่งสูงถึงหลักแสน-หลักล้าน และล่าสุดคือ 10 ล้านกันแล้ว!! หรือเป็นเพราะเหล่าพ่อค้า, แม่ค้า, คนดัง ไลฟ์สดและใช้โซเซียลฯ ปั่นราคากันเองหรือเปล่า?
** ไม่สน “ราคาทุน” ขึ้นอยู่กับ “ความพอใจ” **
การซื้อขายต้นไม้ในช่วงโควิด-19 ยังเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่การซื้อไปตกแต่งบ้านในช่วง work from home เพื่อให้เกิดความสวยงามเท่านั้น แต่ผู้ซื้อบางรายยังนำไปขายต่อ เพื่อเก็งกำไรให้สูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
จากการสำรวจตลาดต้นไม้สายพันธุ์ต่างๆ พบว่าระยะหลังมานี้ ความต้องการของตลาดสูงขึ้น ส่งให้ราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่กำลังเป็นที่ฮือฮามากล่าสุดคือ “วงการไม้ด่าง”
โดยล่าสุดมีผู้ยอมควักเงินจ่ายสูงถึง “10 ล้าน”!! เพื่อแลกกับสิ่งมีชีวิตสีเขียวนี้ ซึ่งก็คือ “กล้วยด่างแดงอินโด” ที่ยิ่งเอาไปขายต่อยิ่งได้กำไรงาม แถมมีคนจองหน่อของมันไว้ล่วงหน้าแล้ว ถึงหน่อละ “2 ล้าน” ด้วยกัน
ปรากฏการณ์นี้ทำให้สังคมเกิดข้อถกเถียงและออกมาตั้งคำถามว่า เป็นเพราะผู้ค้าสายเขียวใช้โซเซียลฯ ที่อยู่ในมือปั่นราคาต้นไม้ให้สูงขึ้นหรือไม่ เพราะยิ่งพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะเหล่าคนดังลุกขึ้นมา “โพสต์ขาย” และ “ไลฟ์สด” ผู้คนยิ่งแห่กันมาจับจอง เหมือนเป็นการประมูลราคา เพื่อให้ได้ต้นไม้เหล่านั้นไปครอง โดยไม่สนว่าจำนวนเงินจะมหาศาลแค่ไหนก็ตาม
เมื่อทีมข่าว MGR Live ต่อสายตรงถึงกูรูต้นไม้อย่าง เบิร์ด-นิติพันธ์ ลีละสุวัฒนากุล เจ้าของร้านขายไม้ด่าง “Cop.plants” คนดัง เจ้าของสถิติโพสต์ปุ๊บ-ขายได้ปั๊บภายใน 2 วินาที จึงได้คำตอบว่า การใช้โซเชียลฯ ในตลาดนี้ มีผลทำให้ “ราคาไม้ด่างถูกปั่น” ได้จริง
“ถามว่ามันมีการปั่นราคาไหม มันก็มีแหละ แต่ก็ต้องดูว่า ต้นที่เขาปั่นมันเป็นต้นที่เขากำลังซื้อขายกันจริงหรือเปล่า การไลฟ์ขายมีส่วนทำให้ราคาสูงขึ้น อย่างเช่น เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค (ดารานักแสดงช่อง3) ก็ทำให้ราคาไม้ด่างแต่ละตัว มันค่อนข้างสูงเกิน standard ที่เราขายกัน
สมมติเราซื้อขายกันในราคาหลักพันต้นๆ ประมาณ 2,000 แต่ เคน-ภูภูมิ ด้วยความที่เขามีชื่อเสียง มีคนติดตามเยอะ เลยทำให้คนที่มาเสนอราคาใส่ไปค่อนข้างเยอะ คืออาจจะปิดที่ประมาณ 3,000-4,000 แต่สำหรับคนที่เขาซื้อไม้-เล่นไม้ ก็ต้องดูว่า เอ๊ะ..ไม้ชนิดนี้ปกติมันไม่ใช่ราคานี้ แต่ถ้าปั่นราคาขึ้นปุ๊บ เราก็ไปซื้อราคานั้น ติดดอยเลย”
อีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้ราคาไม้ด่างพุ่งถึงหลักแสน-ล้านได้ เป็นเพราะว่าตลาดต้นไม้ไม่เหมือนสินค้าอื่น ที่จะมี “ราคากลาง” คอยกำหนด อย่างเช่น “ทองคำ” ที่จะถูกกำหนดราคาโดย “สมาคมค้าทองคำ” ว่า ห้ามขายเกินราคาที่กำหนดไว้ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย
แต่สำหรับการซื้อขายในตลาดต้นไม้ต่างออกไป เพราะขึ้นอยู่กับวิธีการดูแล ความยากง่ายในการเพาะพันธุ์ และต้องดูว่าราคาที่ตลาดซื้อขายในตอนนั้น เป็นไปในทิศทางไหน และที่สำคัญคือต้องเกิดจากความพึงพอใจระหว่าง “ผู้ซื้อ” กับ “ผู้ขาย” ว่าจะมีการตกลงราคากันยังไง
สอดคล้องกับที่เบิร์ดบอกเล่าไว้ว่า การซื้อขายไม้จะมีอยู่ 3-4 แบบด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ “การเสนอราคา” จนกว่าผู้ขายจะพอใจ เช่น แต่ละคนเสนอราคามา ถ้าผู้ขายพอใจและไม่มีใครเสนอราคาต่อ ก็สามารถปิดการขายได้ทันที
“เขาซื้อไป trade การ trade คือการซื้อ 1 ต้นมา แล้วเอามาเพาะต่อ เพื่อจะ trade ขายต่อไป สมมติว่าเราซื้อต้นด่างมาต้นหนึ่ง ในราคา 5,000 บาท แล้วคนที่สองมาซื้อ 5,000 บาท เขาก็จะไปขายในราคา 8,000 หรือ 10,000 บาท ก็แล้วแต่ว่าเขาจะไปขายเท่าไหร่
ถ้าเขาขายได้ พอคนที่ 3 มาซื้อในราคา 10,000 บาท เขาก็ขายต่อไปเรื่อยๆ ราคาเลยกระโดดไปเรื่อยๆ นอกเสียจากคนนั้นจะซื้อ เพื่อที่จะมาตั้งแม่ เอาไปขยายพันธุ์ต่อ”
** กูรูช่วยลิสต์ “5 พันธุ์นิยมปั่น” **
เมื่อลองให้พ่อค้าไม้ด่างคนดังรายนี้ ช่วยจัดอันดับ “พันธุ์ยอดฮิตในกระแส” ตอนนี้ว่ามีต้นอะไรบ้าง เจ้าตัวจึงขอออกตัวก่อนว่า ลิสต์ของเขาอาจแตกต่างจากผู้ค้ารายอื่น เพราะกลุ่มคนรักต้นไม้มีความชื่นชอบที่แตกต่างเช่นกัน และนี่คือ 5 สายพันธุ์จากกูรูรายนี้
1. บอนหูช้างด่างเหลือง (Alocasia Gageana Aura Variegated)
ไม้ด่างชนิดแรกที่กำลังมาแรงตอนนี้ ซึ่งราคาอยู่ที่ราวๆ หลักหมื่น แต่ถ้าเป็นต้นใหญ่ของหูช้างด่างเหลือง คุณเบิร์ดเผยว่า มีคนเสนอราคาถึงหลักแสนถึงล้านก็มี
2. บอนดำด่างชมพู (Alocasia serendipity variegated)
ไม้ตัว top ของพวก หูช้างด่างเหลือง (Alocasia Gageana Aura Variegated) หูช้างด่างขาว (Alocasia Gageana Albo Variegated) เป็นความชอบเฉพาะกลุ่มที่มีคนอยากได้เยอะมาก ราคาอยู่หลักแสนปลายๆ
โดยตอนนี้อยู่ที่หลักล้านแล้ว สาเหตุมาจาก หูช้างด่างเหลือง หูช้างด่างขาว ถูกอัพขึ้นมาถึงหลักแสน เลยทำให้ราคาของ บอนดำด่างชมพู ทะยานสูงขึ้น
3. เงินไหลมาด่างเหลือง (Syngonium Podophyllum Aurea Variegated)
อิงราคาจากเรทที่ซื้อ-ขายกัน อยู่ที่ใบละ 2,500-5,000 บาท
4. มอนสเตอร่า (Monstera)
ไม้ขายดีติดกระแส อย่าง มอนสเตอร่าอัลโบ (Monstera Deliciosa Var. Borsigiana Albo Variegata) สนนราคาใบไม่แฉก อยู่ที่ใบละ 4,000-5,000 และใบแฉก ราคา 8,000-12,000
ส่วน มอนสเตอร่าด่างเหลือง (Monstera Deliciosa Aurea Variegated) ถ้าเป็นใบเล็กไม่แฉก ราคาอยู่ที่ 10,000-15,000 ส่วนใบแฉก ราคา 15,000-30,000 บาท ส่วนจะอัพราคาขึ้นได้อีกไหม ทั้งสองชนิดขึ้นอยู่กับความด่างของใบ
5. สตรอเบอรี่เชค (Strawberry Shake)
เป็นไม้ standard ในกระแสอีกตัวที่ผู้รักไม้ด่างไม่ควรพลาด โดยใบเล็กราคาใบละ 5,000 บาท แต่ถ้าใบใหญ่ใบละ 8,000-12,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับคนที่สนใจและอยากจะเข้ามาในวงการค้าไม้ด่าง เบิร์ดให้แนวทางว่า ควรศึกษาการซื้อขายและตลาดของไม้เหล่านี้อย่างจริงจัง
รวมถึงเรื่องของราคาว่ามีการขายกันแบบไหน ราคาเท่าไหร่ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะขายไม่ได้เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ หรือเสียเงินลงทุนไปฟรีๆ
“ก่อนหน้านี้มี ข่าด่าง (Alpine Zerumbet) บ้านเราเอามาขาย ไปไกลมากประมาณ 2,000-3,000 แต่สักพักไม้ด่างของประเทศจีนเข้ามาปุ๊บ ราคา drop ฮวบมาเป็นหลักร้อยเลย แต่ถามว่าถ้า you ไม่รู้ ไอ้ตัวข่าด่างเนี่ยเขาขายกันหลักร้อย สองร้อย สามร้อย อยู่ๆ มาซื้อตอน 3,500 ถามว่าจะไปขายใครตอนนี้
นั่นหมายความว่าคุณติดดอยเลยนะ คือเขยิบตัวก็ไม่ได้แล้ว ฉันจะขายเท่าตัวก็ไม่มีใครซื้อละ เพราะราคามันตกฮวบมาหลักร้อยแล้ว ก็ต้องมีการดูศึกษาพวกนี้ไปด้วย
“ทีนี้ในราคาของไม้ มันก็ต้องดูอีกว่าต้นนั้นเป็นต้นที่ทำยากหรือเปล่า เป็นไม้หายากหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นไม้ทั่วๆ ไป ตลาดต้นไม้จะมีการปั่นราคาสักพักราคาก็จะตกลงมาเลย แต่มันก็จะมีไม้ที่เป็น standard ไม่มีขึ้นไม่มีลงก็มีอยู่แล้ว”
View this post on Instagram
...และนี่คือ “5 สายพันธุ์” ที่กูรูไม้ด่างมองว่า มาแรงที่สุด และถูกปั่นราคาบ่อยที่สุด!!...
>>> https://t.co/ioAHOv2dAE
.#LIVEstyle #LIVEstyleofficial #โควิด19 #โควิดวันนี้ #ไม้ด่าง #ขายไม้ด่าง #ปลูกไม้ด่าง #ธุรกิจ #แดงอินเดีย #มอนสเตอร่า pic.twitter.com/PSkTUHolE3— livestyle.official (@livestyletweet) September 30, 2021
สกู๊ป: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: จิราพร ภาระพงษ์
คลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอขอบคุณภาพ:อินสตาแกรม @cop.plants, เฟซบุ๊ก “โค้ชบอล หมูสด”, “Joe Gems”, “ยัวร์ อเวนเจอร์” และแฟนเพจ “We Plant”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **