พ่อค้าชาวสุพรรณ อาสารับ-ส่งผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวจนหายกลับถึงบ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แลกกับรอยยิ้ม เผย “รอบริการของภาครัฐอย่างเดียวมันก็ไม่ทัน อะไรที่เราช่วยได้เราก็จะช่วย”
รับ-ส่งฟรีขอแลกรอยยิ้ม
“บางคนที่โทร.มาให้ไปรับก็จะถาม ‘ไปส่งมีค่าใช้จ่ายอะไรมั้ย’ ก็บอกไม่มีครับ ส่งฟรีแลกกับรอยยิ้ม เขาก็บอกว่าขอบคุณมาก เราต้องการตอบแทนสังคมและต้องการรอยยิ้มจากคนป่วย แม้จะเป็นรอยยิ้มที่อยู่ภายใต้หน้ากาก แต่เราจะมองเห็นแววตาของเขาได้ว่าเขามีความสุขที่รักษาหายแล้ว และได้กลับไปอยู่กับครอบครัว
เพราะว่าจะไปรอบุคลากรทางการแพทย์ รอบริการของภาครัฐอย่างเดียวมันก็ไม่ทัน อะไรที่เราช่วยได้เราก็จะช่วย ในภาวะที่มันเป็นความเครียดจากการแพร่ระบาดของโรค เมื่อไหร่ก็ตามที่เราส่งกลับบ้าน ทุกคนมีรอยยิ้ม เราก็สุขใจแล้ว”
“นัน - นันทชัย ศิริอรุณรัตน์” พ่อค้าออนไลน์วัย 42 ปี ชาว อ.อู่ทอง กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ในการทำหน้าที่จิตอาสา รับ-ส่งผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวหายแล้ว จากโรงพยาบาลสนามใน จ.สุพรรณบุรี กลับบ้านในพื้นที่ อ.อู่ทอง และใกล้เคียงอย่างปลอดภัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
เขาเล่าถึงที่มาที่ทำให้ตัดสินใจมาเป็นจิตอาสา เกิดจากการที่เห็นสถานการณ์ความช่วยเหลือที่ไม่เพียงพอต่อผู้รับบริการ ประกอบกับคนในครอบครัวก็เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จึงตัดสินใจที่จะพาผู้ป่วยที่รักษาตัวจนหายแล้วกลับบ้าน
เขาได้นำรถกระบะส่วนตัวไปต่อเติมหลังคา และเมื่อคนรู้จักทราบเรื่องก็ได้ร่วมลงขัน อย่างการเสริมเบาะรองในรถให้เขาฟรี และช่วยเหลือค่าน้ำมันรถสำหรับเดินทางมาด้วย
“ผมเห็นกู้ภัยโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า เราจะตอบประชาชนยังไงดี ตอนนั้นมีรถที่รับ-ส่งคันเดียว ส่งศพผู้เสียชีวิต ส่งคนป่วย เอาคนป่วยกลับบ้าน เราก็มาคิดว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง วันนึงมาเจอกับตัวเองคือญาติแฟนติดเชื้อ ก็รอรถที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ PCR ปรากฏว่า มีรถของหน่วยราชการอยู่คันเดียว เขาก็กลัวว่าจะไปไม่ทันหมอนัด ตั้งแต่วันนั้นก็คิดได้ว่า ถ้าเรามีหลังคาแครี่บอยใส่รถ ช่วยเหลือกันตรงนี้ดีกว่า ต่อมาปรากฏว่าญาติตัวเองก็ติดอีก
ซื้อหลังคาเอาไว้บังแดดบังฝนได้ปุ๊บ มีพี่ร้านที่ทำเบาะ ทำผ้าใบก็สั่งเขาทำ เขาถามว่าไปทำอะไร ก็เลยบอกว่าเอาไว้รับ-ส่งผู้รักษาโควิดหายกลับบ้าน จะได้มีเบาะรองนั่งไม่ต้องเจ็บก้น ทำนอตยึดหลังคาแครี่บอยให้ เขาก็ไม่คิดตังค์ พี่ที่รู้จักกันเขารู้ว่าเราทำ เขาก็อยากจะทำบุญวันเกิด ก็โอนเงินค่าน้ำมันให้ พวกเพื่อนๆ สมัยเรียนมัธยมพอรู้เขาก็ร่วมกัน
เราก็ประกาศในเฟซบุ๊ก ในกลุ่มอู่ทอง ใครไม่มีรถรับ-ส่ง หลังจากรักษาหาย เราก็ยินดีรับฟรีตอนแรกกะว่าถ้าไม่มีใครร่วมบุญเราก็จะใช้เงินเรา ก็ไม่ได้รวยอะไรหรอก แต่บางทีเราทำออนไลน์ได้ พอมีรายได้ ก็เจียดมาเป็นค่าน้ำมันแล้วก็เอาเวลาว่างที่มี ไหนๆ ก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยมาทำตรงนี้ครับ แต่ถ้าใครอยู่นอกเขตของเรา เราก็หาคนที่จะพอช่วยเหลือได้ ถ้าอยู่นอกเขตไกลๆ เรารับไม่ไหว”
สำหรับ “สุพรรณบุรี” ขณะนี้เป็นเป็น 1 ใน 29 จังหวัด “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” หรือ “พื้นที่สีแดงเข้ม” มีมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยจะประเมินในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จะยืดระยะเวลาต่อจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 64
นัน เล่าต่อว่า การที่ตนเองมาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะต้องการแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการที่ได้มาเป็นจิตอาสาในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์นั้น เขาได้รับ-ส่งผู้ที่หายจากโควิดแล้วถึง 18 คน
“มีมาเรื่อยๆ ครับ ที่กำลังจะไปส่งก็รายที่ 18 ตอนนี้สุพรรณเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม มีผู้ป่วยวันละ 200 กว่าคน รักษาหายวันนึง 100 กว่าคน ใน อ.อู่ทอง วันนึงมีผู้ป่วย 30-40 คน ญาติที่จะมารับบางคนก็ไม่สะดวก เราก็จะบริการกลุ่มนี้
บางทีรถโรงพยาบาล รถกู้ภัย รถมูลนิธิต่างๆ ทยอยวิ่งรับ ก็ไม่พอ เราก็แจ้งทางนายอำเภอ เขาก็ประสานไว้ให้ตามศูนย์พักคอยต่างๆ ทางโรงพยาบาลบางทีอาจจะเกรงใจ แต่ก็จะมีคนที่เห็นโพสต์ผม เขาก็จะติดต่อมาเอง
เรารับจากโรงพยาบาลสนามในสุพรรณทั้งหมดกลับอู่ทอง ถ้าอยู่ใกล้เคียงกันก็รับไปส่งให้ได้ อย่างวันก่อนรับจาก โรงพยาบาลสนาม 3 อ.ดอนเจดีย์ กลับไปส่ง ต.บ้านโข้ง มีคนป่วยอยู่คนนึงอยู่ไม่ไกลกันประมาณ 20 กิโล เราก็เลยรับไปส่ง ติดไปด้วย นอกเขตก็ช่วยๆ กันไป เพราะไม่อย่างนั้นกู้ภัยต้องตีไปตีกลับหลายแห่ง”
วอนผู้ป่วยอย่าหมดกำลังใจ
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือนั้น พ่อค้าหนุ่มรายนี้ กล่าวว่า จะรับเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวจนหายแล้ว เพราะแม้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต่ำ ซึ่งเขาก็ได้มีการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนและหลังการรับผู้โดยสาร
“ทำไมเรารับเฉพาะคนที่หายแล้วกลับบ้าน ผู้ป่วยรักษาหายแล้วจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อยู่ แต่เป็นความเสี่ยงที่ต่ำ กลับไปต้องไปกักตัวอีก 14 วัน เพื่อดูอาการ แล้วก็ตรวจว่าจะมีเชื้อปะทุมาอีกรึเปล่า บางคนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ที่ไม่ใช่คนแก่ เราก็จะให้เขาเปิดรถขึ้น-ลงเอง แต่ถ้าเกิดว่าใครที่ขึ้น-ลงเองไม่ได้ เราก็จะใส่ชุด PPE คอยเปิด-ปิดให้
แม้จะมีความเสี่ยงต่ำสุด แต่เราก็ต้องเซฟตัวเองด้วย ใส่ face shield ใส่ mask กู้ภัยที่เขารู้ว่าเราทำเขาก็เอาชุด PPE มามอบให้บ้าง และเราก็มีพื้นฐานเรื่องกู้ชีพกู้ภัย ทางเจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่า เวลาถอดชุด PPE ถอดหมวก ถอดถุงมือ ต้องทำยังไง
ที่ใช้มากสุดก็จะเป็นถุงมือกับแอลกอฮอล์ แล้วก็ยาฆ่าเชื้อ ส่งเสร็จปุ๊บเราก็ต้องฆ่าเชื้อในรถ ก่อนขึ้น-ลง ก็ฉีดแอลกอฮอล์ ใส่ถุงมือเปิด-ปิดประตู
บางทีญาติเอารถเก๋งไปรับ ยังมีความเสี่ยงอยู่ถึงจะนั่งคนละชั้นกัน เพราะอยู่ในห้องโดยสารเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะบอกให้เปิดกระจกวิ่ง อย่างของเราให้แครี่บอยหลังรถ ป้องกันตัวเราเองด้วย แล้วก็เปิดกระจกวิ่งเหมือนกัน ก็จะฉีดยาฆ่าเชื้อให้ ผู้ป่วยก่อนจะขึ้นมาเขาก็จะฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนขึ้นรถให้อยู่แล้ว”
ทั้งนี้ พ่อค้าจิตอาสาได้ย้ำถึงผู้ที่กำลังรับการรักษาอยู่ว่าอย่าท้อ และอย่าเพิ่งหมดหวัง ต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับยกตัวอย่างคนในครอบครัวของเขาที่อายุมากเกือบ 100 ปี และติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยังรักษาตัวจนหายได้ และขณะนี้ก็กลับมากักตัวต่อที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย
“วันก่อนมีประโยคนึง ไปรับที่ศูนย์พักคอย มีคนที่อยู่ในมุ้งเขาตะโกนบอก ‘พี่ เดี๋ยวอีกวันสองวันหนูหายอย่าลืมมารับหนูนะ’อันนี้คือประโยคที่สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษา มีคนกลับบ้านปุ๊บแล้วมีรถมารับกลับ ไม่ได้ปล่อยให้เขาเดียวดาย
อยากจะบอกว่า อาม่าผมอายุ 94 ปี ติดโควิด-19 แล้วก็รักษาหายกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ถ้าเราติดแล้ว ให้เรามีกำลังใจที่จะต่อสู้ อย่าท้อแท้
เวลารับคนป่วยไปรักษาที่เราเห็นข่าว ทุกคนจะร้องไห้ บางทีเห็นภาพเด็ก คนแก่ ต้องไปรักษา เขากลัวว่าจะไม่ได้กลับบ้าน ตรงนั้นเป็นภาพหดหู่ แต่พอเวลาเราเอาคนรักษาหายแล้วกลับบ้าน ที่บ้านจะรอต้อนรับ รอญาติกลับ ได้กลับไปอยู่ในชายคาบ้าน ก็มีรอยยิ้ม ทุกคนจะมีความสุขว่าคนของเรารักษาหายกลับมาบ้านแล้ว”
สุดท้ายนี้ เขาได้ฝากกำลังใจถึงทุกคนที่ร่วมเผชิญวิกฤตการระบาดครั้งนี้ และหากผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีที่รักษาหายแล้ว มีความประสงค์จะกลับบ้านใน อ.อู่ทอง หรือใกล้เคียง สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 083-0243191 จิตอาสาผู้นี้ยินดีให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“อยากเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังเจอวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทุกคน ตอนนี้มันเป็นปัญหาระดับโลก ทุกคนต้องเจอผลกระทบไม่มากก็น้อย อัตราผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดดตอนนี้ บางคนพอรู้ว่าติดแล้วจิตใจห่อเหี่ยว โรคนี้เป็นได้ก็รักษาหายได้ แต่เราต้องปฏิบัติตัวตามแพทย์ ตามพยาบาลที่สั่ง
พร้อมกับยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยที่เราต้องใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อและป้องกันการรับเชื้อมา เพื่อให้โรคนี้มันหมดไปเร็วๆ
ถ้าใครมีอะไรที่พอช่วยเหลือสังคมได้ก็อยากให้ช่วย อย่าไปรังเกียจผู้ป่วย อย่าไปรังเกียจคนที่รักษาหายแล้ว อยากให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน คนไทยจะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
...รอรัฐช่วยไม่ไหว ขอส่งเธอแลกรอยยิ้ม!!...
>>> https://t.co/gaLSh37D7D
.
“เราต้องการรอยยิ้มจากคนป่วย แม้จะเป็นยิ้มที่อยู่ภายใต้หน้ากาก แต่เราจะมองเห็นแววตาของเขาว่า เขามีความสุขที่ได้กลับไปอยู่บ้านแล้ว”
.#LIVEstyle #โควิด #โควิด19 #โควิดวันนี้ #โควิด19วันนี้ #จิตอาสา #น้ำใจ pic.twitter.com/BqSdHgoaVf— livestyle.official (@livestyletweet) August 11, 2021
เรื่องและคลิป: ทีมข่าว MGR Live
ตัดต่อ: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอบคุณภาพ: เฟซบุ๊ก “Nantachai Siri” และ “สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **