xs
xsm
sm
md
lg

สวย-แม่น ขวัญใจสายมู! “หมอนก Bird Eye View” หมอดูไพ่ยิปซีสุดฮอต!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจ “แม่หมอนก” YouTuber สายดูดวงสุดฮอตแห่งช่อง “Bird eye view” จากอดีตหญิงสาวผู้ผิดหวังในความรัก ปัจจุบันผันตัวมาเป็นหมอดูคิวทองเรื่องความรัก พร้อมสะท้อนอาชีพหมอดูยุคโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย “ดูดวงมันเป็นการรู้อนาคต แต่ข้าวต้องกินวันนี้”



คนแห่ดูเพราะ “โควิด” ก่อนหายไป เพราะไม่มีเงิน

“จริงๆ แล้วนกอกหัก พอเราอกหักก็รู้สึกว่าอยากจะดูดวง อยากจะรู้ว่าความรักของเราจะเป็นยังไง แล้วพอเราเริ่มดูดวงเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นว่า เราไม่ได้อยากได้คำตอบแล้วว่าเขาจะกลับมามั้ย แต่เรารู้สึกชอบมากกว่า ก็เริ่มจากการดู Youtube ผ่านไปสักระยะ เราก็เลยไปเรียน Short course อาจารย์ก็บอกว่า ถ้าเป็นไปได้ไปหาทางของตัวเองจะดีมาก

พอเราเริ่มศึกษาในระดับนึง ทำแล้วเราชอบ ช่วงนั้นก็จะเป็นช่วงทำ Thesis จบ ทำวิจัยจบ เราว่างก็เลยตัดสินใจทำคลิปลง Youtube ทำแล้วเว้นไว้สักประมาณเดือนนึง พอกลับไปดูปุ๊บ คนดูประมาณ 2,000 กว่าวิว ก็รู้สึกว่าอยากทำจริงจัง จากการเป็นช่องเล็กๆ แล้วก็ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ ค่ะ”


สาวผมสั้นหน้าตาสะสวย พร้อมด้วยสำรับไพ่ยิปซีมากมาย ที่อยู่ตรงหน้าทีมข่าว MGR Live คือ “นภัสสร โชติกวณิชย์” หรือที่รู้จักกันในนาม “แม่หมอนก” เจ้าของ YouTube Channel “Bird eye view”ที่มีผู้ติดตามถึง 3.42 แสนคน

แม่หมอผู้นี้นอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องของความแม่นยำจากการดูดวง โดยเฉพาะหัวข้อความรักแล้ว บรรดาคอนเทนต์ต่างๆ ได้ถูกเล่าผ่านน้ำเสียงน่าฟังและเข้าใจง่าย ประกอบกับใบหน้าที่สวยสะดุดตา จนทำให้มีผู้มาเข้าคิวเพื่อดูดวงกับเธอยาวเหยียด ส่งให้ชื่อของ “แม่หมอนก Bird eye view” ถูกยกให้เป็น “หนึ่งในหมอดูออนไลน์ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้” และหากมีการจัดอันดับหมอดูไพ่ยิปซีสุดแม่นเมื่อไร ต้องมีชื่อของแม่หมอคนนี้ติดอันดับต้นๆ ด้วยทุกครั้ง!!

จากจุดเริ่มต้นที่เกิดจากการผิดหวังในเรื่องของความรัก พาให้เธอก้าวเข้าสู่แวดวงการดูดวงอย่างเต็มตัว โดยทุกวันนี้มีรายได้หลักมาจากการทำช่อง YouTube Channel “Bird eye view” และการเปิดดูดวงแบบส่วนตัวที่มีคนสนใจ จนต้องจองคิวข้ามเดือน ความฮอตของเธอถึงขนาดที่ทาง JOOX Thailand ดึงตัวไปร่วมทำคอนเทนต์ดูดวงลงในแอปอีกด้วย

“นกดูดวงมาประมาณ 3 ปีนิดๆ ค่ะ เริ่มตั้งแต่สมัยเรียน นกเรียนปริญญาโท เรียนทรัพยากรมนุษย์ นกชอบพวกเกี่ยวข้องกับจิตวิทยา การคิด เกี่ยวข้องกับพวกสถิติ การบันทึก พฤติกรรมของคน มันน่าสนใจ ตอนเรียนเลยลองขอดูดวงเพื่อนในคลาส แต่เราต้องขอเก็บค่าครู 5 บาท 10 บาท ถ้าเราไม่เก็บ มันก็จะเข้าตัวเรา พอเก็บค่าดูปุ๊บ เราก็เอาไปทำบุญ


รายได้มาจากยอดวิวใน YouTube มีเปิดดูดวงส่วนตัวด้วย และมีโปรโมตให้ product ใน Instagram บ้าง แต่ด้วยสถานการณ์โควิด เขาก็จะส่งมาหรืออาจจะขอให้ลงโปรโมตให้ได้มั้ย ถ้าเป็นทาง story นกก็ยินดี

ช่วงนี้มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยโอเคจริงๆ เศรษฐกิจไม่ดี เราก็ลงให้เลย ไม่คิดเงิน แต่ถ้าคนอยากลงโพสต์หน้า Instagram หรือหน้า Facebook อันนี้ก็จะมีรายได้เข้ามา แล้วก็จะมียอดไลฟ์จากทาง JOOX จากทาง Shopee ค่ะ

(ดูดวงส่วนตัว) นกก็จะเปิดเป็นรอบๆ ก็น่าจะประมาณเกือบร้อยอัป เขาจะส่งคำถาม วัน-เดือน-ปีเกิด มา เพราะก่อนที่จะเปิดไพ่ เราต้องเปิดดวงชะตาเขาก่อน แล้วเราก็อัดเป็นวิดีโอคลิปส่งไป”

เมื่อถามต่อว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เป็นสาเหตุทำให้คนหันมาหาที่พึ่งทางใจ อย่างการดูดวงมากขึ้นหรือไม่ แม่หมอนก ตอบว่า ในระลอกแรกได้รับความสนใจมาก แต่ปัจจุบันด้วยวิกฤตที่หนักขึ้น ผู้คนจึงให้ความสำคัญกับปากท้องที่อยู่ตรงหน้า มากกว่าการดูดวงที่เป็นการทำนายถึงอนาคต


“ตอนแรกพอมีโควิดปุ๊บ คนรู้สึกว่าชีวิตจะเป็นยังไงต่อไป ย้ายงานดีมั้ยก็ดูดวง ตอนแรกเราไม่ได้โดน เพราะเขายังมีเงิน เขายังมีการประคองชีวิตได้ในระดับนึง มันก็ไม่ได้โดนถึงเรา แต่พอตอนนี้หลายๆ อย่าง คุณภาพชีวิตเขา หรือแม้กระทั่งการเงิน เศรษฐกิจ การลงทุนหลายอย่างมันชะลอไปหมด เราก็เริ่มที่จะโดน reflect ของโควิดแล้วเหมือนกัน

พอมาในยุคที่เศรษฐกิจมันเริ่มแย่ ถ้าเป็นนก ระหว่างเอาเงินไปซื้อข้าวกับเอาเงินไปดูดวง นกว่าซื้อข้าวกินดีกว่า เพราะหลายๆ ครั้งที่คนส่งคิวมาจองดวงแล้ว แล้วขอเงินคืน เขาไม่มีเงินซื้อข้าว นกก็โอนคืน เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่จำเป็นจริงๆ ข้าวต้องมาก่อนเราอยู่แล้ว

นกว่าการดูดวงมันเป็นการรู้อนาคตก็จริง แต่ข้าวมันเป็นวันนี้ด้วยซ้ำที่เราจะต้องกินมัน ไม่ใช่อีกวัน 3-5 เดือน เพราะฉะนั้น ก็จำเป็นต้องเลือกข้าวก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่โดนเป็นยอดใหญ่ๆ แต่มันก็โดนเราโดยตรง เพราะในแต่ละรอบก็ประมาณ 2-3 คน ที่มาขอคืน ทุกคนโดน reflect กันหมด คนที่ตามเรา เขาก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไป ก็ยังต้องมีการทำมาหากิน ถ้าเขาไม่มีเงินในการดำเนินชีวิต เขาก็จะลำบาก ตัวเราเองก็จะลำบาก มันเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า”

ดังได้แม้ไม่โปรโมต

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ในการเดินทางของช่อง “Bird eye view” นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการศึกษาและเก็บข้อมูล ทั้งในส่วนของการดูดวง และการทำช่อง YouTube ซึ่งผลตอบรับที่ตามมา ก็เรียกได้ว่าดีเกินคาด มีคนให้ความสนใจมาติดตามโดยที่ไม่ต้องทำการโปรโมตเลยทีเดียว

เอาจริงๆ ช่องเราไม่เคยโปรโมต หมายถึงไม่เคยซื้อโปรโมตเลย นกรู้สึกว่าเราอยากได้อะไรที่เป็นคนที่ติดตาม หรือชื่นชอบเราจริงๆ ถามว่า การมาถึงจุดนี้มันไม่ได้มาจากการที่เราโปรโมตใดๆ ทั้งสิ้น แต่ว่ามันมาจากการที่ส่วนหนึ่งเรารู้ว่ากลุ่ม target เราเป็นใคร แล้วเราก็เข้าไปจับเขาให้ได้ใกล้มากยิ่งขึ้น

กว่าจะมาได้ก็ต้องศึกษาเยอะมาก เริ่มทำคลิปแบบที่มันเป็น routine เริ่มมีเวลาลงคลิปมากขึ้น ว่า อาทิตย์นึงจะต้องลงเท่านี้ๆๆ นะ ตอนแรกก็มี pick a card คือ การเลือกกองไพ่ ซึ่งแต่ละกองไพ่ มันก็จะมีสถานการณ์โดยรวมมา อย่างเช่นคำถาม “เขาจะกลับมามั้ย” กองไพ่จะมี 1-4 อย่างแรกเราจะต้องมีคนที่เราคิดถึง พอนึกถึงหน้าเขาปุ๊บ พอเลือกกองไพ่ปุ๊บ คำทำนายก็จะออกมา แล้วก็จะมีคลิปราศี เป็นพวก เมษ สิงห์ ธนู ซึ่งราศีเหล่านี้เราก็จะทำในทุกๆ เดือนค่ะ



เราอยากให้ช่องเราเป็นช่องที่ไม่ได้รู้สึกว่าหมอดูเป็นคนที่เขาต้องมาไหว้ ต้องมาบูชา เราไม่ใช่แบบนั้น เราคือมนุษย์ธรรมดา แต่เราอยากให้เขารู้สึกว่า เขาอยากจะพูดคุย อยากได้รับคำปรึกษาในเวลาที่เขารู้สึกว่าไม่สบายใจ อยากได้คำพูดที่มันเป็นคำพูดที่เขาตัดสินใจกับชีวิตเขาได้มากกว่า มันก็ยิ่งทำให้การดูดวงเป็นอะไรที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น”

สำหรับการดูดวงในสไตล์แม่หมอนกนั้น จะมีความเป็นธรรมชาติ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน และจะไม่มีการตัดต่อคลิป จึงทำให้ผู้ชมได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นของการทำนาย

“ช่วงหลังๆ คลิปก็จะเริ่มมีความกระชับ หรือทำให้ดูสั้นขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าการดูคลิปที่ยาวจนเกินไป มันทำให้ดูเยิ่นเย้อ แล้วมันจะจับใจความได้ค่อนข้างยาก บวกกับการทำคลิปแต่ละครั้ง เราก็จะมีคำถามอื่นที่แทรกเติมไปด้วย สมมติว่า กองนี้เขาไม่กลับมา แล้วทำยังไงให้เขากลับมา หรือถ้าเขาไม่กลับมา มันจะเป็นยังไงต่อ มันเหมือนกับแต่ละกองจะมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน ในเรื่องของ pick a card เราก็จะต้องออกแบบคำถามที่มันเหมาะสมกับเขา

ช่องเราจะมีอย่างนึงคือ เปิดแบบรันยาว เวลาที่เราอัดคลิปก็ทุกคนได้ดูเราเหมือนไลฟ์สด เพราะว่าเราไม่มีการตัดเลย แม้กระทั่งบางทีทำแก้วตก มีเสียงแมว คือ เราไม่มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นสถานการณ์จริงทั้งหมด อาจจะเป็นด้วยเพราะว่าตัวนกมีพื้นฐานตอนเรียน ป.โท เราพรีเซนต์งานบ่อยมาก มันเลยทำให้เรากลายเป็นคนที่ชอบทำอะไรสดๆ หรือทำอะไรรันยาวโดยที่ไม่ต้องมีสคริปต์

เรารู้สึกว่าอะไรที่มันมีการพูดหน้างาน หรือพูดกันสดๆ มันจะเอาความคิดและทัศนคติของเราออกมาจริงๆ ซึ่งมันก็ทำให้เขาเข้าใจความเป็นธรรมชาติของเราในจุดนี้ ค่อยๆ สั่งสมมา แต่ว่าระหว่างที่เรานำเสนอก็ต้องระมัดระวังคำพูดให้มากๆ เราต้องทำการบ้านก่อน แต่การทำการบ้านในที่นี้ไม่ใช่เป็นการเตรียม dialogue มา แต่มันเป็นการฝึกตัวเองให้พูดยังไงไม่ให้รู้สึกกระทบกระเทือนกับสภาวะจิตใจของคนที่ดูอยู่”


เมื่อถามถึงความยากง่ายระหว่างการดูดวงแบบ general หรือการดูดวงโดยรวม ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร กับการดูส่วนตัว แบบไหนมีความยากง่ายมากกว่ากัน หมอดูคนสวย เผยว่า การดูดวงส่วนตัวนั้นยากกว่า เพราะมีเรื่องของการเปิดดวงชะตาเข้ามาเกี่ยวข้อง

“ต้องพูดว่ามันอยู่ที่เคมีด้วย บางคนดูดวง general กับนกตรง แต่พอมาดูดวงส่วนตัวไม่ตรงก็มีนะคะ นกต้องบอกก่อนว่าการดูดวงแบบ general มันคือการเปิดดวงสุ่ม ก็เป็นไปได้ที่สถานการณ์มันจะไปตรงกับคนกลุ่มใหญ่ แล้วจะไม่ตรงกับคนกลุ่มน้อยก็มี มันเป็นดวงทั่วไปที่อาจจะไม่ตรงกับบุคคล

ส่วนดวงส่วนตัว นกว่าอันนี้น่าจะยากกว่า เพราะเหมือนแต่ละคนจะมีคนดูแล คนที่เขาคุ้มครอง บางคนมีการนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน หรือแม้กระทั่งบางคนมีเรื่องของการใช้ไสยศาสตร์ หรือว่าบูชาของ การที่จะไปเปิดดวงเขาก็จะยิ่งยากมากขึ้น หรือบางคนมีกรรมในเรื่องนี้ที่มันซับซ้อนมากๆ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็ปิดไม่ให้เราไปเปิดดวงของเขาก็มี

ต้องอย่าลืมว่าการเป็นหมอดูมันไม่ใช่เราไปเปิดดวงให้เขาแล้ว แล้วมันจะไม่ส่งผลอะไรกับตัวเราเลย เพราะฉะนั้นหมอดูก็ต้องมีวิธีการดู และเราก็ควรจะต้องทำบุญอย่างสม่ำเสมอ ต้องมีวิธีการแก้ที่เหมาะสม ต้องมีเรื่องของการไหว้ครูด้วย เพื่อจะเซฟตัวเองในระดับนึง”

นอกจากนี้ การสื่อสารคำทำนายออกไป ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของผู้ที่มารับการดูดวงเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความหมายของไพ่ที่เปิดได้ด้วย


“เราต้องศึกษาว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร จะได้ใช้การสื่อสารที่เหมาะสม รวมทั้งการรับมือกับคนที่มาดูดวง ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจที่จะดูดวงได้ เรามีวิธีการสื่อสารยังไง อย่าลืมว่าการดูดวง เราต้องบอกคำตอบที่เป็นจริงกับเขาเท่านั้น เราไม่สามารถบอกคำตอบที่มันเติมแต่งไปได้ เราเห็นแค่ไหนต้องอ่านแค่นั้น ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจที่เขาสามารถที่จะรับคำตอบว่า มันเป็น yes หรือ no ได้ มันก็ค่อนข้างที่จะไม่ดีต่อใจเขาในระยะยาว

คนที่ดูช่องเรา เป็นคนที่ตั้งแต่อายุ 15-30 คนเหล่านี้เป็นวัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งบางคนที่เขายังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ การดูดวงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวต่อตัว จะเป็นรับคิวแบบคลิป ถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องของการพิมพ์ก็เถอะ เราจะมองเห็นได้จากการสื่อสารของเขา ถ้าสมมติว่า เขาไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจที่เขาสามารถรับการดูดวงได้ เราก็บอกว่า พักก่อน อย่าเพิ่งดู รอให้เขาไปฮีลตัวเองก่อน

เรารู้สึกว่าคนที่ดูดวง ถ้าเขาไม่มีปัญหาจริงๆ เขาคงไม่ตัดสินใจดู ประเด็นคือ เขาไม่ได้อยากมาฟังว่าปัญหามันคืออะไร แต่เขาอยากมาฟังว่ามันพอจะมีหวังในปัญหานั้นมั้ย ที่เขาจะแก้ได้ หรือมันจะไปในทิศทางไหนที่ดีขึ้น มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า การที่เราพูดอะไรที่มันเป็นเชิงบวก มันทำให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น แต่ก็ต้อง base on ไพ่ เพราะว่าสมมติเราพูดอะไรที่นอกเหนือจากไพ่ หรือว่าไม่ได้พูดอะไรตามไพ่ มันก็จะกลายเป็นความคิดของเราเอง”

ยอมรับ หากินกับความเชื่อของคน

เมื่อถามต่อว่า ยังมีบางส่วนในสังคมมองอาชีพหมอดูเป็นอาชีพที่หากินกับความเชื่อของคน ในฐานะของคนที่อยู่วงการนี้ ก็ไม่ได้ปฏิเสธทัศนคติดังกล่าว

“ก็ถูกนะคะ เอาจริงๆ หมอดูก็ต้องอาศัยคนที่เชื่อค่ะ เพราะว่าความเชื่อมันทำให้สิ่งนั้นดำเนินไปได้ แต่ทุกอย่างเราต้องผ่านการเรียน ทุกอย่างมันเป็นสถิติ หรือแม้กระทั่งศาสตร์ที่เป็นตัวเลขก็เป็นสถิติเหมือนกัน วัน-เดือน-ปีเกิด คนที่เกิดเดือนนี้ เขาจดสถิติมาแล้วว่าน่าจะเป็นคนยังไง มีแนวโน้มไปในทิศทางไหน

ศาสตร์ที่เป็นเรื่องของการดูดวงมันไม่ได้เกิดขึ้นจากการนั่งเทียน หรือเรื่องของการมโน ไพ่แต่ละใบเขานะต้องคิดมาแล้วว่าความหมายคืออะไร ครอบคลุมได้เท่าไหน

ถ้าถามว่า หมอดูทำงานกับความเชื่อของคน ก็ใช่ค่ะ เพราะถ้าเขาไม่เชื่อ เขาก็เลือกที่จะไม่มาดูกับเรา แต่ประเด็นคือ สิ่งที่หมอดูต้องรักษา คือ เราจะรักษาความเชื่อเหล่านี้ยังไงให้เขารู้สึกว่า เราสามารถเป็นคนที่เขาเชื่อและไว้ใจได้ นกว่าอันนี้คือสิ่งที่สำคัญมาก”



เธอยังกล่าวต่อไปถึงสิ่งสำคัญในการทำอาชีพนี้ นั่นก็คือ ไม่ควรแอบอ้างคำทำนายของหมอดูท่านอื่นมาเป็นของตน ตลอดจนรักษาพลังงานบวกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

“การเป็นหมอดู นกว่าสิ่งสำคัญมากเลย คือ จรรยาบรรณ คำทำนายของเรามันควรเป็นคำทำนายของเรา มีเยอะมากที่มันมีเรื่องของการ copy คำทำนาย เอาคำทำนายเราไปลง แล้วบอกว่าเป็นคำทำนายเขา ซึ่งอันนี้นกก็ต้องพูดตรงๆ ว่า การให้ความสำคัญ การรักษาคำทำนายของเรา การให้ข้อมูลที่มาจากเราโดยตรง อันนี้มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

ต่อมาก็ พอนกมาอยู่จุดนี้ นกรู้เลยว่า เวลาที่เราทำงาน เราต้องหาว่าคีย์ของงานเราคืออะไร คีย์ของงานเราคือ Toxic ให้ได้น้อยที่สุด ปัญหาในชีวิตต้องลดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเราทำงานกับปัญหา ถ้าเรามีปัญหาส่วนตัวในชีวิต เราก็ไม่สามารถที่จะรันงานของเราได้

ถ้าเรามีความรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้ไม่ค่อยโอเคเลย มันก็ทำให้คำทำนายที่ออกมามันดิ่งลงไปหมด แล้วยิ่งคำทำนายส่วนตัวยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ จำเป็นมากๆ ที่หมอดูจะต้องรักษา energy ในชีวิตให้มันบวกมากที่สุดเท่าที่จะมากได้”

นอกจากใน YouTube แล้ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของแม่หมอนก ทั้ง Instragram, Facebook และ Twitter ก็มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากเช่นกัน



เมื่อทีมข่าวถามต่อไปว่า มองว่า ประสบความสำเร็จถึงในจุดที่พอใจแล้วหรือยัง ในสายอาชีพนี้ เธอให้คำตอบว่า ตนเดินมาไกลกว่าที่คิด ซึ่งความท้าทายหลังจากนี้ คือ จะทำอย่างไรที่จะรักษาฐานคนติดตามเอาไว้ให้ได้นานที่สุด

“นกว่าค่อนข้างไกลกว่าที่เราคิดในระดับนึง ทุกวันนี้ที่เราทำช่อง หรือทำคอนเทนต์ในแต่ละวัน เรารู้สึกอยากขอบคุณคนที่ follow เรามากกว่า เราไม่ได้รู้สึกว่าทำแล้วอยากจะได้ยอดวิวเยอะๆ หรือทำแล้วอยากจะได้อะไรที่มันเติบโตเร็ว แต่เรารู้สึกว่าเราอยากจะรักษาคนที่ชื่นชอบเรา หรืออยากดูเราให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม้กระทั่งทุกวันนี้ ล่าสุด นกมีไลฟ์กับทาง JOOX เราก็รู้สึกว่าจะทำยังไงให้ดึงคนเข้ามาดูใน JOOX ให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เราทำก็คือ ทำยังไงให้เขาชื่นชอบในคอนเทนต์ ยิ่งคนดูเยอะก็หมายถึงว่าเขาชอบเรา เรารู้สึกเป็นแบบนั้นมากกว่า เหมือนเรารักษาฐานที่มีอยู่ให้มันแน่นมากที่สุด ส่วนคนที่มาติดตามใหม่ก็ยินดีมากๆ ที่มาชื่นชอบ

เหมือนเรามาจากจุดที่ไม่มีอะไรเลย แม้กระทั่งไม่มีการโปรโมต ซื้อโฆษณาหรืออะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นการมาถึงจุดนี้ได้ เราก็รู้สึกว่าเรามาไกลมากๆ เรามาตรงนี้ได้ เพราะคนที่ support จริงๆ เขาตามเราตั้งแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นใคร แล้วเขาก็ตามเรามาเรื่อยๆ”


หมอดูกับสัมผัสที่ 6

“(เป็นหมอดู) ต้องมี Sense มั้ย? อาจจะต้องมีบ้าง แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน อย่างตัวนกเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะเห็นวิญญาณบ่อย แล้วก็จะฝันค่อนข้างแม่น เป็นความฝันที่มันเป็นแปลกๆ นกไม่เล่นหวย แต่ว่าตีเป็นสถานการณ์มากกว่า ฝันว่าฟันหักคือบ่อยมากๆ ที่ตรงเป๊ะ จะมีคนเสียถัดจากนั้นประมาณ 2-3 วัน

ตอนนั้นฝันว่าฟันหน้าหัก เราต้องคำนวณแล้ว มันเป็นวันไหนยังไง มันจะมีวันที่เป็นวันเพื่อน วันครอบครัว ผลของการทำนายด้วยมันก็จะเกิดกับวันนั้น ส่วนใหญ่ฝันถ้าจะแม่นจริงๆ สำหรับนกจะเป็นเวลาประมาณ ตี 4 ถึงตี 5 หรือช่วงเช้าจะใกล้หน่อย ใกล้กับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

ถ้าเป็นตัวเราก็จะแก้เคล็ดด้วยการหาเวลาไปทำบุญ แต่ถ้าเราฝันเห็นเพื่อนเดินมาแล้วสวยมากๆ ถ้าเป็นคนสนิทก็จะเตือนโดยตรงเลยว่าช่วงนี้ฝันไม่ค่อยดี ดูแลตัวเองหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ เรื่องการเดินทาง ความเชื่อของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะไม่ได้เชื่อเราขนาดนั้นก็มี ก็จะเตือนให้เขาระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

แล้วก็มีเรื่องที่เราไปดูดวงให้ฟรีที่ต่างจังหวัด ทีนี้เพื่อนของคุณแม่พี่สะใภ้เขาส่งดวงมา เราก็ดูให้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เก็บเงิน ก็บอกให้เขาไปทำบุญ ก็ไม่แน่ใจว่าเขาทำรึเปล่า แต่เราดันไปดูเรื่องสุขภาพให้เขาออกมาไม่โอเค แล้วเขาก็ไปใช้วิธีการแก้โดยการบนเรื่องของการบวช

กลายเป็นว่า เขาไม่ได้รับเคราะห์ คนที่รับก็คือเรา ขับรถกลับจากต่างจังหวัดผ่านสุโขทัย ก็โดนแก๊งปาหิน ยางรถบวมเกือบแตก ปกติเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุในชีวิตเลย แล้วก็ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวข้องกับแก๊งปาหิน ถ้าไม่ได้ซวยจริงๆ ใครจะไปโดน แล้วตอนนั้นฝนตกหนักมาก แม้กระทั่งรถที่ขับผ่านยังมีน้อยมากๆ เลยรู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ก็โชคดีมากๆ ที่ตอนนั้นเราบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาระหว่างเดินทางกลับ ก็ทำให้เราไม่ได้เป็นอะไรเลย”



ไพ่นั้นสำคัญไฉน

แน่นอนว่า อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของอาชีพนี้ ก็คือ “ไพ่” ซึ่งความแตกต่างของไพ่แต่ละสำรับนั้น ส่งผลต่อคำทำนายทั้งสิ้น ทำให้แม่หมอคนนี้ต้องเรียนรู้การอ่านไพ่แบบใหม่ๆ อยู่เสมอ

“ทุกวันนี้ นกก็นั่งดูคลิปของตัวเอง แต่ไม่ได้ดูเพื่อจะเลือกกองไพ่นะคะ แต่เราดูเพื่อหาจุดติ ว่า คลิปนี้มีอะไรปรับปรุงมั้ย ประโยคนี้เราควรพูดรึเปล่า เป็นการ recheck ของตัวเอง แล้วก็ฟัง YouTube ของต่างประเทศ ต้องฟังทุกคืนเพราะมันเป็นการฝึกตัวเราให้เราอ่านไพ่ได้มากยิ่งขึ้น

บวกกับไพ่ของต่างชาติเขาเยอะมาก ต่างชาติจะได้ไพ่เซตนี้ก่อน พอเข้าไทยมาปุ๊บ เราก็จะได้ซื้อมาลองใช้ รูปภาพ สตอรี่ในไพ่ก็จะไม่เหมือนกัน ไพ่ทุกสำรับจะมีหนังสือบอก ทุกครั้งที่ซื้อมาก็ต้องมานั่งศึกษา มานั่งทำความเข้าใจใหม่ เขาจะมีความหมายที่แตกต่างกัน ไพ่บางสำรับเรารู้สึกว่าน่าจะอ่านได้ แต่พอซื้อมาปุ๊บ กองเอาไว้เลย อ่านแล้วไม่เข้าใจก็มี ที่สะสมไว้น่าจะเป็นร้อย บางสำรับสวยมากจนต้องเก็บ กลัวเปิดแล้วหน้าเขาจะช้ำ



ปกติแล้วช่องเราเป็นช่องที่ต้องเห็นหน้าไพ่แล้วอธิบายตามรูป เพื่อให้คนเห็นภาพมากยิ่งขึ้น แต่บางไพ่มัน abstract มาก มีสำรับนึงที่เป็น inspire มาจากของ Vincent van Gogh เป็นสีๆ แม้กระทั่งตัวนกบางอันยังอ่านยากเลย มันก็เลยทำให้เราตัดสินใจเอาเซ็ทเดิมๆ มาดีกว่า หรือถ้าจะเป็นเซตใหม่ ตอนนี้ก็จะมีสำนักพิมพ์ใหม่ๆ ในไทยเขาก็เริ่มทำไพ่กันเอง เขาก็จะทำไพ่ที่มีภาษาไทยหรือไพ่ที่ดูง่ายมากยิ่งขึ้น”

และไพ่แต่ละชุดนั้น ไม่ใช่ว่าจะนำมาใช้งานแบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ต้องผ่านการทำพิธีบูชามาก่อน และสำหรับหมอดูผู้นี้ มีกฎเหล็กอยู่ว่า ไม่ให้ใครจับไพ่ของเธอเด็ดขาด

จริงๆ แล้วไพ่ยิปซีเขามาจากศาสตร์ที่เป็นพวกโรมัน แต่ประเด็นคือพอมาในไทยปุ๊บ เราก็จำเป็นที่จะต้องดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับความเชื่อของเรา ไพ่มันก็คืองานศิลปะ แต่มันเป็นงานศิลปะที่มีเรื่องของสถิติมาแล้วว่ามันหมายความว่ายังไง หรือตีความยังไง ตัวคนอ่านอาจจะต้องมีเรื่องของเซนส์ด้วย ในเรื่องของการไหว้ครูด้วย

ไพ่ทุกสำรับที่เอามา เขามีความเฉพาะตัวของเขา อย่างที่นกบอกว่าจับได้เลยถ้าเขายังไม่ได้ไหว้ พอเราได้เขามาปุ๊บ การที่จะทำให้เขาดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เปิดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือเราอ่านภาพเห็นมากยิ่งขึ้น เราก็ต้องพาเขาไปไหว้ ซึ่งตัวนกจะมีเรื่องของไหว้พระด้วย แล้วก็มีในเรื่องของการไหว้ที่เป็นองค์พระพิฆเนศด้วย นกไหว้ที่บ้าน ห้องที่นกทำงาน คือ ห้องพระ พอเราไหว้แล้ว หรือบูชาแล้ว เขาจะต้องอยู่อีกที่นึง ที่เขาจะไม่โดนจับมากจนเกินไป



นกไม่ให้ใครจับไพ่ ต่อให้มาดูส่วนตัวกับนก นกก็ไม่ให้เลือกเองค่ะ มันแล้วแต่หมอดูแต่ละคน บางคนเขาจะจับไพ่ได้ ไม่มีปัญหา แต่สำหรับตัวนก นกขอให้เขาเป็นคนยิงคำถามมาดีกว่า แล้วเดี๋ยวเราเปิดให้ เพราะว่าไพ่มันเหมือนเราเป็นเจ้าของเขา เราบูชาในเรื่องของไหว้ เราไม่รู้ว่าคนที่มาดูดวงบางคนไปจับอะไรที่มันไม่ดีมารึเปล่า เราไม่รู้ background ของแต่ละคนจริงๆ เราเลยไม่สามารถที่จะให้เขาจับไพ่ได้”

แม่หมอนก กล่าวต่อว่า พลังงานที่เชื่อมกันระหว่างหมอดูและไพ่ ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อผลการทำนาย ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่า ไพ่นั้นมีชีวิต

“ต้องบอกว่า ไพ่ไม่ใช่ทุกสำรับที่เขาจะชินมือกับเรา นกว่าไพ่มันเหมือนเขามีชีวิต เวลาที่เราหยิบเขามาปุ๊บ เราจะเช็กก่อนที่เราจะใช้เขาในการทำนาย ช่วงนี้เราเป็นยังไง หรือว่าช่วงนี้สถานการณ์เขาเป็นยังไง คำถามเขาจะมีอยู่ในนั้นอยู่แล้ว พอเราเช็กปุ๊บแล้วมันเป็นแบบนี้ๆๆๆ แล้วมันไม่เชื่อมโยงเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็ต้องปิดแล้วไปเอาเซตอื่นมา

หรือวันนี้เขาสะดวกให้เราใช้ ก็จะทำนายได้ค่อนข้างตรง แต่ถ้าเขาไม่อยากให้เราใช้ คำทำนายมันก็จะบิดไปหมดเลย นกก็เลยไม่ค่อยให้ใครจับไพ่เท่าไหร่ มันเป็นความเชื่อของเราด้วยที่เรารู้สึกว่าไพ่เขามีชีวิต หรือว่ามีเรื่องของเคมี

นกว่าพอเราเปิดไพ่ เราต้องไม่นึกถึงเรื่องของเราเลย อ่านไพ่มาปุ๊บมันต้องเป็นกลาง ตอนที่เราเปิดไพ่ต้องมีสมาธิในระดับนึงว่าจะไม่มีเรื่องของเรา”



นอกจากนี้ ยังมีประเด็นของ ไพ่ romance หรือไพ่ที่ปรากฏภาพวาบหวิว ซึ่งไพ่ลักษณะนี้ ทางช่อง “Bird eye view” จะไม่หยิบมาใช้ เนื่องจากคำนึงถึงผู้ชมส่วนมากเป็นสำคัญ

“ไพ่ Romance จริงๆ แล้ว ตัวนกก็มีเก็บสะสมไว้ เป็นงานศิลปะได้ แต่ช่องนกเด็กดูเยอะ เราก็ต้องเลือกคำถามให้มันเหมาะ แม้กระทั่งเลือกไพ่ที่จะมาดู ถ้าเป็นรูปแล้วมีเนินอก นกก็ไม่ค่อยอยากจะใช้ เมื่อก่อนเราก็ไม่เคยคิดในรายละเอียดพวกนี้ พอวันนึงคนที่ติดตามเราเยอะมากขึ้น เป็นวัยที่ยังไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าอันนี้ควรมั้ย เราเป็นผู้ใหญ่ เราต้องเลือกสื่อที่เหมาะสม เราก็จะไม่ใช้ไพ่แบบนี้มาเปิด หรือคำถามเราก็จะไม่เลือกคำถามที่มันเป็น 18+

จริงๆ แต่ละช่องเขาก็จะมีกลุ่มเป้าหมายของเขาเฉพาะ บางช่องก็เลือกที่จะเปิด กลุ่มที่ดูก็อาจจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็น่าจะมีวิจารณญาณในระดับนึง ที่ต่างประเทศดูกันเยอะมาก แต่เขาก็ต้องเขียนชัดเจนว่ามันคือ 18+ เป็นคำถามผู้ใหญ่หน่อยนะ เพราะฉะนั้น เด็กๆ ดูก็จะต้องใช้วิจารณญาณ หรือว่าเด็กๆ เลือกที่จะไม่ดูได้ ก็จะดีมาก

นกจะเป็นช่องที่อยากให้เข้าถึงทุกคน ให้เขารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เป็นความรักใสๆ แล้วกัน เราอาจจะใช้คำที่บางทีมันเลี่ยงไม่ได้ คำพวก physical attraction แรงดึงดูดทางกาย เราก็จะพูดว่าเข้าใจกันเท่านี้เนอะ จะไม่ได้ลงลึกมาก นกรู้สึกว่าอยากจะเซฟกับน้องๆ มากที่สุด”

เปิดพื้นที่มอบพลังบวก

กว่า 3 ปี ในเส้นทางของการเป็น YouTuber สายดูดวง มีเรื่องราวความประทับใจผ่านเข้ามามากมาย หนึ่งในนั้นคือการที่ช่อง “Bird eye view”ได้กลายเป็นชุมชนเล็กๆ ที่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนแพลตฟอร์มอื่นๆ ของหมอดูผู้นี้ ที่กลายเป็นพื้นที่แห่งการช่วยเหลือเกื้อกูล

“ใน Youtube สิ่งที่นกแฮปปี้มากๆ คือ ทุกครั้งเวลาเข้าไป เราจะเห็นน้องๆ มาทำ time stamp ให้ คลิป pick a card จะได้ไม่ต้องไปนั่งกรอทีละกอง ก็กดไปที่กองนั้นได้เลย น่ารักมากๆ พอลงคลิปไปปุ๊บ ประมาณ 2 นาที ก็มีมาแล้ว มีคนมาทำให้ตลอด นกก็จะไปขอบคุณเขา เขาก็ทำโดยที่เขาอยากทำจริงๆ

บวกกับเวลาที่มีคนมาคอมเมนต์ปัญหาในชีวิต นกไม่เคยลบคอมเมนต์เลยนะ ต่อให้เขาบ่นขนาดไหน ช่วงนี้ชีวิตเขาย่ำแย่นู่นนี่นั่น มีคนอีกเยอะมากที่เข้าไปอ่านคอมเมนต์ของเขา แล้วให้กำลังใจเขา กลายเป็นว่าช่องเราไม่ได้เป็นช่องที่ดูดวงอย่างเดียว แต่เป็นช่องที่ทำให้คนมาให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วย หรือแม้กระทั่งใน Facebook ก็ด้วย”


จากความโดดเด่นในการดูดวงเรื่องความรักนี้เอง ทำให้แม่หมอนกได้มีโอกาสร่วมงานกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ในการทำคอนเทนต์ที่ไม่เพียงแค่เป็นการดูดวงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการให้คำปรึกษาในเรื่องของความรักอีกด้วย

“น่าจะมีเรื่องให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรักเยอะมาก ล่าสุด ที่ทำกับ JOOX ก็จะเป็นคอนเทนต์ที่คล้ายๆ กับ Clubhouse แต่ให้เรามีโอกาสพูดคุย ซึ่งมันมีการทำนายดวงด้วย เป็น Topic แต่ละสัปดาห์ อาจจะเป็นเรื่องแฟนเก่า ทุกคนที่เข้ามาจะต้องมีคำถาม เราก็อาจจะเปรยไปก่อน เป็นยังไงความสัมพันธ์ ทำไมไม่ได้ไปต่อ เขาก็เล่าๆ

ล่าสุด เขาเล่าไปแล้วร้องไห้ไป แต่ตัวเราก็ต้องรักษา center ของเราให้ได้มากที่สุด เขาอยากให้คนๆ นี้ กลับมาในชีวิตมากๆ แต่ในขณะที่เราเป็นคนนอกที่มองมา จริงๆ แล้วจุดที่เขาเป็นตอนนี้มันดีมากแล้ว โชคดีมากๆ แล้วที่คนคนนี้ออกไปจากชีวิต

หรือแม้กระทั่งคนที่คอมเมนต์ก็บอกว่า โชคดีมากแล้ว มันมีการได้ interact ได้พูดคุย ได้ให้กำลังใจ มันดีมากๆ ตรงที่คอนเทนต์นี้สามารถคอมเมนต์ได้ คนที่มาดูดวงเขามีปัญหา สิ่งที่เขาอยากได้คือกำลังใจ มันก็เลยทำให้เราชอบคอนเทนต์นี้มาก ที่เราได้มีโอกาสพูดคุย ได้สื่อสารกับเขา ไม่ใช่แค่ดูดวงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องของการให้คำปรึกษาได้ด้วย

เมื่อบทสนทนาดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย เธอก็ขอฝากให้ทุกแพลตฟอร์มของ “Bird eye view” เป็นช่องทางที่จะช่วยเยียวยาทุกคน ยามมีปัญหาทั้งทางกายและทางใจ


“นกโดนคอมเมนต์เยอะมาก ว่า ดูแต่ความรัก เวิ่นเว้อ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ช่องนี้เกิดจากการที่นกอกหักมาก่อน ตอนที่เราไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก เราย่อมรู้ดีว่าความรู้สึกมันแย่ขนาดไหน และต้องการที่พึ่งมากแค่ไหน เพื่อที่จะทำให้ความรู้สึกนี้มันออกไป ช่อง “Bird eye view” ก็จะเป็นช่องที่อยากช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด

เรารู้สึกว่าตอนนี้เราไม่ได้เป็นแค่หมอดูแล้ว นกมองว่านกเป็นพี่ เป็นน้อง ทุกคนที่อยู่ในช่องเราเป็นญาติกัน เราจะไม่วันนี้เลย ถ้าเราไม่มีพวกเขาค่ะ”


จริงไหม ดูดวงบ่อยแล้วอายุจะสั้น?!

“นกว่าไม่เกี่ยวนะ การดูดวงมันเป็นเรื่องของการระมัดระวังในชีวิตมากยิ่งขึ้นมากกว่า ถ้าเรารู้อนาคต รู้ว่าอะไรไม่ดีมันจะเกิดขึ้น แล้วเราระมัดระวังตัวมากขึ้น การดูดวงมันก็น่าจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ดูดวงแบบ general คือ การที่เขาดูโดยรวมเป็นร้อยๆ คน เป็นคนที่เกิดราศีนี้ อะไรแบบนี้ ไม่มีปัญหา หรือแม้กระทั่ง pick a card ที่ลงในเพจ อันนั้นก็ดูได้ปกติ

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเอา วัน-เดือน-ปีเกิด-เวลาเกิด ของเราไปคำนวณ เราไม่ควรให้เขาดูบ่อยมากจนเกินไป ควรจะประมาณ 3 เดือนครั้ง หรือ 6 เดือนครั้ง เพราะว่าอะไรที่มันแก้ได้ มันจะแก้ได้ง่ายขึ้น ถ้าสมมติเรายิ่งไปขยี้ปม อะไรที่มันแก้ได้ง่ายๆ มันก็จะแก้ยาก”







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)



สัมภาษณ์: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพเคลื่อนไหว: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ: พลภัทร วรรณดี
ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @awwnokk, เฟซบุ๊ก “Bird Eye View”, ยูทูบ “Bird Eye View” และ TikTok @birdeyeview9
ขอบคุณสถานที่: ร้าน “บ้านต้นไม้สีขาว” (เลียบทางด่วนรามอินทรา)



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **






กำลังโหลดความคิดเห็น