xs
xsm
sm
md
lg

หลักแสนต่อเดือน!! เจาะความสำเร็จ หนุ่มวิศวะ “ปลูกไม้ป่าเศรษฐกิจ” สร้างรายได้ระหว่างเรียน [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจาะความสำเร็จ หนุ่มวิศวะ วัย 21 ปี ขายต้นไม้หายาก สร้างรายได้ระหว่างเรียน สูงสุด 170,000 ต่อเดือน ธุรกิจที่เติบโตสวนกระแสวิกฤตยุคโควิด-19 จนกลายเป็นเทรนด์ คนหันมาให้ความสนใจ จากความชอบตั้งแต่อายุ 14 ปี เริ่มกลายเป็นธุรกิจสร้างรายได้ ลองผิดลองถูก เจ๊งหลายครั้ง แต่พร้อมเรียนรู้ด้วยตัวเอง



สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน!!

“แต่ละเดือนจะอยู่ที่ 30,000-40,000 บาทต่อเดือน โดยเฉลี่ย แต่ถ้าช่วงหน้าฝน ช่วงนี้จะพีกหน่อย เคยทำสูงสุด 170,000 บาท ยอดขายต่อเดือน หักต้นทุนกำไรก็ได้เยอะอยู่ครับ”

แฟรงค์-ปรเมศ สุขมงคล นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัย 21 ปี ที่นอกจากการเรียนแล้ว ยังสร้างรายได้ระหว่างเรียน ด้วยการเป็นพ่อค้าขายต้นไม้ เปิดร้านเป็นของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า “บ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ”

ด้วยความที่เป็นคนชื่นชอบ และหลงใหลเสน่ห์ของต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก เริ่มปลูกมาตั้งแต่อายุ 14 ปี จากความชอบจนกลายเป็นอาชีพ สร้างรายได้ระหว่างเรียน สูงสุด 170,000 บาท ภายใน 1 เดือน

หนุ่มวิศวะวัย 21 ปี เล่าถึงการสร้างรายได้ระหว่างเรียนในครั้งนี้ให้ฟังว่า ด้วยความชอบตั้งแต่แต่ และช่วงโควิดรู้สึกเบื่อ จึงอยากหากิจกรรมทำยามว่าง

“มาขายต้นไม้ก็เริ่มประมาณปีที่แล้ว ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดพอดี แล้วเบื่อ ก็เลยสั่งเมล็ดพันธุ์มาปลูก ตอนนั้นปลูกพยุง กับแคนา สั่งมาเพาะเล่นๆ ไว้ 300 ต้น พอมันโตตอนแรกมันไม่มีที่ปลูก ไม่รู้จะไปปลูกไหน ก็เลยลงขายครับ

ไปโพสต์ขายในกลุ่มจุฬาฯมาร์เก็ตเพลส ลงไปก็เลยขายดีเลย เพราะราคาเราอาจจะไม่ได้แพงมากด้วย ตอนขายครั้งแรกก็ต้นละ 20-30 บาท ครั้งแรกเปิดขายสองวันก็หมดเกลี้ยง

ตอนนั้นได้เงินมาหมื่นสาม เพราะมันมีขายแบบ 20 บาท, 50 บาท, 100 บาท ก็ลงปุ๊บก็ขายดีครับ”


จากความชอบ กลายเป็นอาชีพจนประสบความสำเร็จ มีเงินจ่ายค่าเทอมเอง และให้คุณแม่ยืมเป็นบางครั้งอีกด้วย

“ก็ถือว่าเป็นรายได้หลักครับ ก็ถือว่าได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ที่สุด ก็ทำไปเรื่อยๆ อนาคตก็จะยึดเป็นอาชีพเสริม อยากไปทำงานก่อน ก็เป็นรายได้เสริมไป ก็ทำควบคู่กันไป ตอนนี้ก็เป็นหลักก่อน เพราะยังไม่ได้ทำงานค่าเทอมก็มีช่วยแม่บ้างครับ มีให้ยืมบ้าง”

ในขณะที่ยุคโควิด-19 ธุรกิจต้องหยุดชะงัก แต่ธุรกิจขายต้นไม้กลับสวนกระแสวิกฤต งอกงามเติบโตขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นเทรนด์ทุกคนหันมาให้ความสนใจ

“ก็มองว่ามาแรงครับ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะขายได้ดีอย่างนี้ เพราะว่าคนต่างจังหวัดยังมีพื้นที่อีกเยอะ ก็เอาต้นไม้ไปลงได้อีกเยอะ”




เขายังบอกอีกว่า เริ่มแรกไม่คิดว่าจะสร้างรายได้มากมายขนาดนี้ จากที่ลองเพาะพันธุ์เล่นๆ มา 300 ต้น แล้วไม่มีพื้นที่เพียงพอในการปลูก จึงคิดจะนำไปถวายวัด แต่เกิดเปลี่ยนใจลองโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊กดู จนมีรายได้ตอบแทนในที่สุด

“ตอนแรกไม่ได้คิดเลยดีกว่าครับ เพราะว่าที่เพาะ 300 ต้น ตอนแรกไม่ได้จะขายด้วย เพาะไว้เสร็จแล้วไม่มีที่ปลูกก็ว่าจะไปบริจาควัดหมดเลยครับ แต่ทีนี้เปลี่ยนใจลองลงขายลองดูดีกว่า

มีบางช่วงของขาดก็มี มันขึ้นผุดมานิดหนึ่งเขาก็เอา ผุดมานิดหน่อยเขาก็เอา เป็นต้นมะริดเลย มีช่วงหนึ่งที่ขึ้นมานิดหนึ่งคนก็เอาครับ แต่ตอนนี้มีเยอะครับ เพราะว่าเพาะไว้ 2,000 ต้น

ไม้ประดับก็วางแผนอยู่ กำลังคิดอยู่ว่าจะเอามาลงบ้าง แต่กำลังหาพื้นที่อยู่ เพราะตอนนี้ที่ตรงนี้มันเต็ม พวกไม้ด่างก็คิดอยู่ กำลังหาแหล่งอยู่ อนาคตอาจจะมีครับ ส่วนใหญ่ถ้าลูกค้าถามต้นอะไรมาก็จะไปหาให้เขาเลย”

นอกจากนี้ อนาคตยังมองอีกว่า อาชีพเกษตรและวิศวะยังไม่รู้ว่าจะไปควบคู่กันได้มากน้อยแค่ไหน แต่หากให้เลือกจริงๆ คงเลือกอาชีพพ่อค้าต้นไม้

“ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ามันจะไปด้วยกันได้หรือเปล่า ถ้าเกิดเลือกได้ก็อาจจะเลือกตัวนี้มากกว่า เพราะว่าข้อดีก็คือ ได้อยู่กับบ้าน เพราะจริงๆ เป็นคนชอบบ้านมาก จริงๆ วันนึงไม่ค่อยได้ไปไหน

ถ้าให้เลือกจริงๆ ก็คงเลือกตัวนี้ ไม่รู้เหมือนกัน มีความสุขที่ได้อยู่ที่บ้าน เพราะอยู่ที่บ้าน อยู่เฉยๆ คนก็มาซื้อเอง ก็ไม่ต้องไปไหน”


เจ๊งมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ยังสู้ต่อ

เพราะต้องผ่านความล้มเหลวมาไม่รู้กี่ครั้ง จนกว่าจะมีวันนี้ได้ เขาเล่าถึงเส้นทางจุดเริ่มต้นกว่าจะประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ให้ตัวเองได้มากมายขนาดนี้

ย้อนกลับไปเมื่อตอนอายุ 14 ปี เก็บเงินได้ถึง 20,000 บาท ยอมลงทุนไปซื้อต้นมะนาวเพื่อนำมาขาย แต่กลับไม่เป็นอย่างหวัง ขายไม่ได้ ยิ่งทำยิ่งขายทุน

แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ ทำให้คิดเปลี่ยนมาเริ่มปลูกผักแทน ซึ่งผลลัพธ์ก็ดูแย่ลงไปเรื่อยๆ แต่เขายังไม่ยอมท้อแพ้ เพราะมันคือสิ่งที่เขารัก และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่เสมอ

“เริ่มต้นที่มาปลูกต้นไม้ก็คือ ย้อนไปประมาณ 7-8 ปีก่อน เริ่มตอนประมาณ ม.3 อายุประมาณ 14-15 ปี ต้นไม้ต้นแรกที่เริ่มเล่นก็คือมะนาว ตอนนั้นพ่อแม่พาไปตามสวนแล้วเห็นมะนาวแล้วชอบมาก จริงๆ ก็ไม่ได้พาไปดูหรอก ก็ผ่านไป พอเห็นสวนก็บอกพ่อแม่ว่าขอแวะก่อน อยากเข้าไปดูก็สะสมไว้ทุกสายพันธุ์ที่เขามี

มะนาวก็ทำอยู่ 2-3 ปีแล้วก็เลิกไป เพราะมันไปไม่ได้ พอปลูกไปเรื่อยๆ มันไม่เห็นผล เพราะว่ายังเด็กอยู่ ไม่ค่อยรู้เรื่องดิน เรื่องปุุ๋ย ปลูกไม่ขึ้น

แล้วเริ่มมาปลูกผักต่างๆ ไปเรื่อย ก็ปลูกตามท้องตลาดทั่วไปครับ กะเพรา โหระพา พริก ขายตามแถวบ้าน ก็ขายได้ไม่เยอะ ได้นิดหน่อยก็เลิกไป กล้วยยังปลูกเลย สักพักมันขายไม่ได้ราคา ก็เลิกอีก แล้วก็ค่อยมาทำต้นไม้”


ยอมรับว่า ยากมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พยายามเก็บเงินลงทุนด้วยตัวเองทุกอย่าง แม้ตอนเริ่มทำจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่พอมาถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า

“ถ้ามะนาวตอนแรกอยากจะทำขาย แต่มันไปไม่ได้ เพราะปลูกไปลูกก็ไม่ออก ก็เลยเลิก มะนาวก็เก็บงินซื้อเองตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นลงทุนเยอะกว่าสองหมื่นครับ เพราะว่าเล่นต้นที่มันมีลูกเลย ซื้อมาต้นเดียวสองพันแปด

แล้วมาเริ่มลงทุนครั้งแรกจริงๆ ลงทุนน้อย เริ่มเพาะ 300 ต้น ลงทุนพันกว่าบาทเอง แล้วหลังจากนั้นก็ลงทุนเพิ่มหมื่นสามถ้าถือว่าเป็นก้อนแรกที่ลงทุน ก็ถือว่าคุ้มค่า”

จนวันนี้ “บ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ” เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีต้นไม้ให้เลือกถึง 30 ชนิด เช่น มะริด สักทอง กระถินเทพา ไม้แดง พยุงไทย มะฮอกกานี กฤษณา ตะเคียนทอง เหลืองปรียาธร กันเกรา คูนสีเหลือง รวมไปถึงไม้หายากและไม้โบราณอย่าง บุนนาค มะเกลือ จันทน์กะพ้อ สาธร มะหาด ประดู่แดง มะพูดหวาน และอีกมากมาย

“ก็ถือว่ายากครับ แต่ก็ได้ความรู้จากมะนาวมาเยอะอยู่ กว่าจะมาถึงตอนนี้ ก็มีเลิกไปพักหนึ่ง เบื่อแล้วไม่อยากทำ ก็ย้อนไปช่วงประมาณ 2-3 ปีได้ครับ เพราะตอนนั้นจะเข้ามหาวิทยาลัยด้วย ก็เลยหยุดไปก่อน พอเสร็จแล้วก็กลับมาทำใหม่

พอจะถึงจุดนี้มันก็ยากอยู่ มันต้องค่อยๆ เพราะว่าจะมาถึงแล้วทำเลยมันก็ไม่สำเร็จ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อย่างถ้าสั่งของแล้วโดนโกงอันนั้นทำอะไรไม่ได้ ช่างมัน แต่ถ้าสั่งเมล็ดแล้วเมล็ดเสียก็สั่งเจ้าอื่น สั่งอีกเจ้าก็มาทำใหม่”


นอกจากแรงบันดาลใจหลักที่มากจากความชอบ ยังได้คำแนะนำจาก พระอาจารย์ดาวเรือง ที่อยู่วัดป่าบ้านอ้อมแก้ว จ.อุดรธานี ที่ให้คำแนะนำว่าให้ขายต้นไม้แล้วจะดี

“อยากทำต้นไม้ แรงบันดาลก็คือจริงๆ มีพระอาจารย์ที่แนะนำมา ที่รู้จัก ก็แนะนำให้ขายต้นไม้ ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อ แล้วก็มาทดลองทำเฉยๆ ก็ชอบด้วย ก็อยากทำ ที่บ้านไม่ได้ทำเกษตรเลย

มาทำอันนี้อายุประมาณ 19 ครับ พอได้เงินมาก้อนแรกก็ลงทุนหมดเลย สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ สั่งกล้าพันธุ์มาทำต้นใหญ่ขายบ้าง
ก็มีแบบว่ามีสั่งต้นกล้ามาด้วย เพราะบางอย่างเพาะไม่เป็น แล้วก็สั่งเมล็ดมาเพาะเอง สองอย่าง ก็ทำมาเรื่อยๆ

สำหรับพื้นที่สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนให้กับพ่อค้าขายต้นไม้หนุ่มรายนี้นั้น ใช้พื้นที่บ้านหลังเก่าของคุณยาย เพียง 100 ตารางวาเท่านั้น

“จริงๆ ใช้ตรงนี้ด้วย และก็ใช้บ้านอีกหลังหนึ่งทำ ตรงนี้ประมาณ 100 ตารางวา เป็นบ้านของยาย พอดียายเพิ่งเสียช่วงปีที่แล้ว ก็เลยขอยืมที่แม่ แล้วกำลังคิดขยายเพิ่มเลยครับ เพราะหาที่ได้แล้ว กำลังจะขยายอยู่ ก็ที่ฝั่งตรงข้าม คุยกับแม่ไว้อยู่ เพราะเท่านี้ถือว่ายังน้อยอยู่ ก็จะเอาแค่แบบว่าล็อกเล็กๆ เอง”


5 ไม้ยอดนิยม ขายได้ราคาดี

สำหรับต้นไม้ที่เรียกได้ว่าขายดีมากที่สุด 5 อันดับในสวนบ้านต้นไม้แม่ทองหล่อแห่งนี้ มีมะริดที่เริ่มต้นในราคา 120 บาท มะตาด 100 บาท ลูกจันทน์ 100 บาท สารภี 100 บาท มะพลับไทย 120 บาท

ส่วนต้นไม้ที่ได้รับความนิยมในสวนมากที่สุด หนุ่มวิศวะบอกว่า เป็นต้นมะริด เพราะยิ่งโตยิ่งแพง และยังสามารถสร้างรายได้แปรรูปสร้างรายแทบจะทุกส่วน

“หลักๆ เลยที่ขายดีมีมะริด แล้วก็มีลูกจันทน์ มะตาด สารภี มะพลับไทย แล้วก็มีอีกหลายอย่าง เริ่มต้นที่ 100 บาท แล้วก็ 120 บาท ถ้าราคาต่ำสุดที่นี่ 70 บาท สูงสุดที่ขายอยู่ก็ 1,500 บาท ราคาก็พอๆ กัน เพราะไม่ได้แพงเกินไปเดี๋ยวขายไม่ได้
แนะนำต้นมะริดครับ เพราะข้อดีของเขาก็คือ ยิ่งโตยิ่งแพง เพราะว่าที่นี่พอเลี้ยงไปเรื่อยๆ ราคาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็แนะนำต้นมะริดเลย

ที่คนเขาชอบหนึ่งเลยฟอร์มเขาสวย แล้วใบไม่ค่อยพลัดใบ ใบล่วงน้อย ผลทานได้ ไม้ตัดขายได้ ไม้เขาเอาไปทำเครื่องดนตรี เขาบอกว่าเล่นแล้วเสียงมันจะกังวาล ถ้าจะไม่ผิดระนาดมั้งครับที่เอาไปทำ ทำได้หลายอย่าง

ถ้าจะเอาตัดไม้จริงๆ มันนานอยู่ 20-30 ปี แต่ถ้าเอาผลผลิต 4-5 ปีก็ออกแล้วครับ เอาลูกมาเพาะขายต่อ หรือว่าทานผลได้ กินเนื้อข้างใน เอาไปแปรูปได้ เคยเห็นที่หนึ่งก็เอาไปทำแยมก็ได้ ทำได้หลายอย่าง รสชาติมันก็หวานหอม เนื้อสัมผัสเหมือนอโวคาโด แต่ตัวรสชาติเขาจะหวานแบบเอกลักษณ์ของเขา”

[ต้มมะริด ไม้ป่าเศรษฐกิจ เป็นที่นิยมในสวน]
นอกจากนี้ ต้นไม้ในสวนยังมีชนิดใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ หมุนเวียนแบบไม่ซ้ำ มีให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 30 ชนิด หรือลูกค้าสนใจต้นไม้ชนิดใดเป็นพิเศษ เจ้าของสวนก็พร้อมจะหามาให้ได้เสมอ

“มีหมุนเวียน มันจะมีไม้ใหม่ๆ เขามาเรื่อยๆ ก็พลัดสลับกัน บางครั้งบางตัวอาจจะมีแล้ว แต่มันหายไปเลย มันหาไม่ได้แล้ว ก็เอาตัวใหม่มาลง

ความยากก็คือมัน ต้นไม้มันก็เหมือนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง มีโรค มีแมลงบ้าง แล้วก็มีช่วงที่ดูแลเขายากก็มีอยู่ ก็มีครับ ปลูกแล้วตายก็มี ก็ทิ้งไป ทำใหม่ ทำไปเรื่อยๆ ครับ

“ก็แนะนะให้มาถามที่นี่เลยดีกว่า เพราะไม่รู้จะแนะนำยังไง ก็แนะนำเรื่องดินผสม ก็พอรู้เรื่องดิน เรื่องปุ๋ยที่พอรู้ ให้คำแนะนำได้
ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ก็แนะนำไป ใครอยากได้อะไรก็แนะนำไป ส่วนใหญ่จะมีคนที่มาซื้อที่นี่แล้วไปขายก็ได้

จริงๆ ถ้าอยากทำขาย หรืออยากได้ไม้อย่างนี้ส่วนใหญ่มันมีลูกค้าที่ไม่มีพื้นที่ เขาก็จะมาถ่ายรูปที่นี่แล้วไปขายแล้วค่อยมาเอาของ เพระาเราก็ขายราคานี้อยู่แล้ว

ลงทุนไม่ต้องเยอะหรอก ก็เริ่ม 5,000-6,000 บาท ก็พอ ทำทีละน้อย แล้วก็ค่อยๆ ขยาย”


ลองผิดลองถูก เรียนรู้ด้วยตัวเอง

ไม่มีใครสอน ลองผิดลองถูก เรียนรู้ด้วยตัวเอง ใช้ความขยัน อดทนบวกกับความหลงใหลในเสน่ห์ของต้นไม้สีเขียวๆ ทำให้ทำออกมาได้ดีในที่สุด

“ทุกอย่างคิด และศึกษาเองหมดครับ ถ้าเรื่องดินเรื่องปุ๋ยก็ศึกษาเองหมด ปุ๋ยนี่ก็ลองเล่นมาเยอะอยู่ หมดไปก็เยอะครับค่าปุ๋ย แต่ก่อนเล่นขวดละ 2,000-3,000 บาทก็เล่น แต่มันก็ใช้ไม่ดีครับ

ศึกษาในยูทูป ลองไปหมด ตัวไหนดีก็ล่น ก็ใช้หมดเลย ไม่มีไปเรียน ศึกษาเองหมด เพาะเองแล้วก็ศึกษาเรื่องดิน แล้วก็สั่งเมล็ดมาเพาะ

เพราะว่าต้นไม้ดูแลยาก ถ้าช่วงหน้าหนาว หน้าแล้ง ดูแลยากมาก เพราะที่นี่ก็มีเสียเยอะมากอยู่ ก็พยายามใส่ปุ๋ย รดน้ำสม่ำเสมอ เสียก็เยอะ โดนก็เยอะ สั่งเมล็ดมาแล้วเมล็ดไม่ดีแบบนี้ก็มี ทุกอย่างก็คิดเองหมด ก็ดูว่าตัวไหนน่าจะขายดี ก็เอามาขาย”

หลังจากเลิกเรียน ต้องรีบกลับมารดน้ำ ดูแลต้นไม้ เขาเล่าว่าทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะเป็นคนที่เล่นเกมส์ไม่เป็น ออกกำลังกายก็ไม่ชอบ ชอบต้นไม้ที่สุด จึงทุ่มเวลาให้ต้นไม้อย่างเต็มที่

“จริงๆ ก็ทำเฉพาะแค่ตอนเย็น ตอนช่วงเช้า-กลางวันมันร้อน ก็รดน้ำใส่ปุ๋ย ตอนเช้าไปเรียนก่อน ตกเย็นก็เข้ามาทำต้นไม้อย่างเดียว ก็ทำทุกวัน ดูแลทุกวัน”


นอกจากศึกษา เปิดตำราหาความรู้เอง ยังมีไอดอลด้านการเกษตร คือ คุณลุงจำรัส คูหเจริญ เจ้าของ “สวนมะนาวลุงจำรัส” ที่โด่งดังและขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกมะนาวจนประสบความสำเร็จอย่างสูง

“ก็มีลุงจำรัส ก็ได้คุยกันอยู่ เขาเก่งมากครับ ก็เข้าไปถามเขาอยู่เรื่อยๆ ก็ให้คำแนะนำเรื่องปุ๋ย เพราะไปหาเขาตั้งแต่เริ่มย้อนไปปลูกมะนาวใหม่ๆ เลย

ส่วนใหญ่ลุงเขาจะสอนแต่ให้เรียนครับ ลุงเขาจะสอนอย่างนั้นมากกว่า เพราะไปอีกครั้งก็พูดอยู่เหมือนเดิมครับ ส่วนใหญ่หลักๆ ก็คุณลงจำรัสแค่คนเดียวครับ คนอื่นก็ดูตามอินเตอร์เน็ตบ้าง แล้วก็มาปรับใช้

ก็ที่ปลูกมันเจ๊งก็จริง แต่มันสำเร็จแค่พันธุ์ที่เอามาจากเขา เพราะเคยปลูกไว้ ตอนนั้นปลูกไว้เยอะแล้วตายหมด มีเหลืออยู่ต้นหนึ่งออก 500 ลูกเลย เป็นพันธุ์ของเขาเลยครับ ซื้อมา 200 บาท ออกลูกเยอะครับ ต้นใหญ่”


มองเห็นโอกาส ลงมือทำถึงจะเห็นผล

เมื่อสังเกตเห็นโอกาสของไม้ป่าในปัจจุบันที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จึงไปศึกษาเพิ่มเติมและเริ่มขายเมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมาจนมาถึงปัจจุบัน

“เลือกพวกนี้เพราะว่าเน้นจำนวนครับ เพราะส่วนใหญ่คนมาซื้อคนก็เน้นจำนวน จำนวนเงินก็ได้พอๆ กับเขา พอๆ กับที่ขายไม้ใบ
พืชตัวนี้มันดูแลง่าย เหมาะกับผม เพราะกำลังเรียนอยู่ ดูแลไม่ยากมาก ถ้าไปเล่นไม้ประดับดูแลยากก็เลยไม่เอา”

ต้นไม้ป่า หรือไม้โบราณหายากเหล่านี้ เขาบุกตลาดออนไลน์ ด้วยการใช้วิธีขายทางเฟซบุ๊กเป็นหลักเพราะสะดวกง่ายต่อลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะไม้เหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ในการปลูก ทั้งยังพร้อมส่งให้คนที่สนใจทั่วประเทศอีกด้วย

“มันแล้วแต่วัน บางวันก็ขายไม่ได้ก็มี บางวันก็ขายได้ มันตอบไม่ได้ว่าวันหนึ่งเท่าไหร่ ถ้าวันหนึ่งเยอะสุดที่ขายได้ก็ 400 ต้น บางวันก็เงียบก็มี เพราะว่ามันเป็นออนไลน์”


แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบว่าแพ็กส่งมากกว่า ทุกจังหวัด (ทั่วประเทศเลย) ครับ ถ้าสั่งเยอะๆ ก็ไปส่งถึงที่เลย ไปไกลสุดถ้าจำไม่ผิดที่ จ.ราชบุรี แค่นั้นพอ แต่ถ้าไกลๆ มาก ก็ส่งเคอรี่ ส่วนใหญ่ที่ซื้อมาจากช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

ไม่เพียงเท่านี้นอกจากจะจัดส่งให้ทั่วประเทศ ยังส่งออกไปถึงต่างประเทศมาแล้วอีกด้วย อนาคตเขาจึงหวังขยับขยายสร้างรายได้ถึงล้านต่อเดือนกันเลยทีเดียว

“เป็นคนไทยครับ แต่อยู่กัมพูชา ตอนนั้นเขามาสั่งไป 800 กว่าต้น ก็ส่งไป ทุกอย่างรวมๆ กัน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีต่างชาติ ก็เป็นคนไทยนี่แหละครับ ก็สั่งตามต่างจังหวัด อาทิตย์ที่แล้วก็มีสองเจ้า เจ้าหนึ่งก็ 400 ต้น อีกเจ้าก็ 300 ต้น ก็ไปส่ง

(หลักล้านต่อเดือน) ก็อยากครับ แต่ยังไม่ถึง เพราะมันเพิ่งจะเปิดมาได้ปีกว่า และเดี๋ยวอาจจะลงไม้ตัวอื่นด้วย ตัวที่หายากกว่านี้ เป็นไม้เศรษฐกิจกับไม้หายาก”

นอกจากมองเห็นโอกาส แล้วลงมือทำแล้ว หลายคนคงอยากรู้วิธีคิด หรือวิธีการวางแผนของสวนแห่งนี้ที่กำลังเติบโตสร้างรายได้ให้อย่างสวยงาม

ซึ่งหนุ่มวิศวะคนนี้ เขาก็บอกว่า ไม่ได้มีการวางแผนอะไรแม้แต่น้อย เพียงแค่ชอบ และอยากปลูกอะไรก็ทำให้เต็มที่แค่นั้นเอง
“ก็ไม่ได้วางแผนอะไรเลยครับ อยากปลูกอะไรก็ปลูกเลย ก็ใช้แค่ความอดทน ลองผิดลองถูกด้วย”

[พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ]
ในอนาคตอาจจะได้เห็นสวนแห่งนี้ เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้เข้าเข้ามาชม พร้อมแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเจ้าของสวนบอกว่า ขอหาความรู้ให้มากกว่านี้ก่อน จึงจะกล้าให้คำแนะนำได้อย่างทั่วถึง

“ก็ดูไว้อยู่ครับ อาจจะเปิดในอนาคต เปิดให้ความรู้ว่าไม้แต่ละตัวเป็นยังไง ก็ให้คำแนะนำ ก็รอให้ความรู้เยอะว่านี้ก่อนครับ ตอนนี้ความรู้ยังไม่ถึง”

ท้ายนี้เขายังฝากถึงคนที่ไม่กล้าลงมือทำ เพราะเกษตรเป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำจึงจะเห็นผล หากมัวแต่กลัวก็ไม่มีวันสำเร็จ
“จริงๆ เรื่องเกษตรมันต้องลงมือทำมันถึงจะเห็นผล ถ้าคิดอย่างเดียวแล้วไม่ทำมันก็ไม่ได้อะไร พูดง่ายๆ อบากปลูกอะไรก็ปลูกไปเลย เดี๋ยวก็รู้เองว่าขึ้นหรือไม่ขึ้น

ก็เริ่มจากลงทุนน้อยๆ ก่อน อย่าเพิ่งไปทำเยอะ ทำเยอะส่วนใหญ่ก็พลาดเยอะ เงินหนึ่งพันอย่างน้อยก็ได้ต้นไม้ที่นี่ไป 10 ต้นแล้ว”

หากใครสนใจต้นไม้ที่สวนแห่งนี้ ก็สามารถเข้าไปที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “บ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ” หรือสามารถโทร.ไปที่เบอร์ 088-845-6659 แต่หากใครสนใจจะเข้าไปเลือกเองที่สวน ก็สามารถเข้าไปได้ที่ซอยกำนันแม้น 12 บางขุนเทียน จอมทอง กรุงเทพฯ


ตอบโจทย์ความสุข ช่วยคลายเครียด


   ก็ตอบโจทย์อย่างหนึ่ง คือ มันผ่อนคลาย เวลาได้ดูต้นไม้ ได้อยู่กับบ้านส่วนที่บอกว่าดูต้นไม้แล้วทำให้คลายเคลียดมันเป็นเรื่องจริงครับ

เคยไปอ่านมาที่หนึ่ง มันเป็นงานวิจัย เขาบอกว่าถ้าเวลาเครียดๆ ถ้าได้ดูต้นไม้แล้วผ่อนคลาย คลายเครียดส่วนตัวก็ชอบตั้งแต่เด็กเลย ชอบสีเขียวๆ




“อยากได้อะไร ให้เก็บเงินซื้อเอง”



    ที่บ้านก็สอนว่าอยากได้อะไร ให้เก็บเงินซื้อเอง มีลูกสองคน ผมมีน้องคนนึง น้องคือสนใจคนละแนวเลยครับ เขาสนใจแฟชั่นมากกว่า

พ่อแม่ก็ภูมิใจ แล้วก็สนับสนุน อยากไปสวนไหนคุณแม่ก็พาไปทุกที่เลยส่วนใหญ่ก็ช่วยไปส่งต้นไม้ ช่วยพาไปหาต้นไม้ หาเมล็ดพันธุ์

ส่วนเรื่องการลงทุนที่บ้านก็ไม่ได้ช่วยเลย เก็บตังค์ทำเองหมดครับ และที่บ้านไม่ได้ทำอาชีพเกษตรเลย ทำบ้านเช่ากับที่จอดรถอยู่หลังสวน







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)



สัมภาษณ์: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพเคลื่อนไหว: กีรติ เอี่ยมโสภณ
ภาพ: วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ “บ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **







กำลังโหลดความคิดเห็น