เคสแรกในหมื่นกว่าราย! “เอ หมื่นศพ” จิตอาสาคนดังเปิดใจ หลังแต่งหน้าให้ศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยที่ไม่รู้มาก่อน ล่าสุด กักตัวรอตรวจแล้ว เผยขอใช้ตนเองเป็นกรณีศึกษา “ถ้าผมติด แสดงว่าศพที่ตายด้วยโควิดยังสามารถแพร่เชื้อได้”
เจ้าตัวคาด โอกาสติดน้อย แม้สัมผัสเสี่ยงสูง?!
“จากประสบการณ์การแต่งหน้าศพของผม ผมทำมา 10 กว่าปี หมื่นกว่าศพ ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องแต่งหน้าศพ เพิ่งจะมีปัญหาเคสนี้แหละ
ผมไม่ได้โทษโรงพยาบาลกับญาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ผมก็เข้าใจ หลายเคสมีการตายปุ๊บ บางทีเดินเรื่องเสร็จ ไม่ว่าใครก็อยากจะเอาศพกลับบ้านมาทำพิธีให้เร็ว อีกมุมนึงโรงพยาบาลงานเขาก็เยอะ ก็มีโอกาสผิดพลาด”
“ปัฐติภาร บุญยี่” หรือที่รู้จักกันในนาม “เอ หมื่นศพ” จิตอาสากู้ภัยชื่อดัง ของพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังจากที่เขาทำหน้าที่แต่งหน้าศพชายวัย 74 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน แต่กลับมาทราบหลังจากนั้น 2 วัน ว่า ผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เขาต้องกักตัวด่วน เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง!
“วันที่ 14 ช่วงบ่าย ผมได้รับแจ้งจากทางครอบครัว ว่า ขอให้มาช่วยแต่งหน้าศพให้กับคนในครอบครัวเขา เขาอยากให้ดูดี ผมก็เลยถามว่าแล้วส่งมาจากไหน เขาก็บอกว่า มาจากฝั่งนนทบุรี ซึ่งผมก็ดูข่าวอยู่ว่าฝั่งนนทบุรีจะแรง ผมก็ถามว่าเขาเป็นอะไรมา ญาติบอกป่วยเป็นความดัน เบาหวาน ศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาดิน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ผมก็โอเค เดี๋ยวจะไปรอแต่งให้ที่วัด
ศพมาถึงเกือบสี่โมงเย็น ผมก็แต่งเหมือนเคสอื่นๆ ปกติ ใช้เวลาแต่งหน้าศพถ้าเป็นศพผู้ชายเต็มที่ 15 นาที ก็เสร็จแล้ว ถ้าเป็นเคสผู้หญิง ใช้เวลาเกือบ 20 นาที ตอนแต่งศพผมถามญาติว่า ทำไมศพตัวไม่เย็น ตัวยังอุ่น ญาติบอกว่าที่โรงพยาบาลบอกว่าไม่ได้มีห้องแช่ศพ ฉีดยาเสร็จแล้วให้รีบเอาออกมาเลย ผมแต่งไปจนเสร็จก็เดินทางกลับ
พออีก 2 วัน เช้าของวันที่ 16 ผมได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง มีคนโทร.มาบอกว่า ‘เคสที่คุณเอแต่งที่วัดเขาดิน คุณเอรู้หรือยังว่าเขาเป็นโควิด’ ผมก็บอกผมไม่รู้ เขาเลยบอกว่าต้องรีบกักตัวด้วยนะ”
หลังจากได้รับสายบอกข่าวร้าย เขาเกิดคำถามมากมายขึ้นในหัว หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ก็ได้ความว่า ยังไม่ทันจะทราบผลเลือดของผู้เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลก็ให้นำศพออกมาเสียแล้ว แต่เขาก็มีการป้องกันและทำความสะอาดร่างกายอย่างดี ทั้งก่อนและหลังการแต่งหน้าศพ
“ถ้าพูดถึงความรู้สึก ผมจะรู้สึกแย่ตรงที่ว่าไปไหนมาไหนไม่ได้ ญาติเขาติดต่อมา ผมเลยถามว่า ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ญาติบอกว่า วันนั้นที่ทางโรงพยาบาลเจาะเลือดไป เขาก็ปล่อยให้เอาศพกลับมาบำเพ็ญได้ตามปกติ
ผมช่วยเจ้าหน้าที่ห้องเก็บอยู่ ซึ่งตามหลักแล้ว เคสไหนที่เป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อโรงพยาบาลตรวจเลือดแล้ว เขาจะไม่ปล่อยศพออก เขาจะต้องแช่ไว้แล้วรอผล ถ้าเกิดไม่ติดโควิด โรงพยาบาลก็จะแจ้งญาติว่าปลอดภัย เอาศพกลับไปบำเพ็ญได้ แต่ถ้าเกิดศพติดโควิดปุ๊บ เราก็จะทำการแพ็กจากห้องเก็บศพ ฉีดยา ใส่โลงให้อย่างดี ให้ญาติเอาไปเผาเลย
ทุกศพที่ผมแต่ง ผมใส่มาสก์ป้องกันตามปกติ แต่งหน้าศพเสร็จผมก็ไปล้างสบู่ 2 รอบ แล้วก็ฉีดแอลกอฮอล์ แล้วก็ล้างมือด้วยเจล ส่วนเรื่องมือ บางเคสผมก็ใส่ถุงมือ บางเคสผมก็ไม่ได้ใส่ถุงมือ แต่ขอยืนยันว่า ถ้ามือเราไม่เป็นแผล ยังไงเชื้อก็ไม่เข้าครับ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่”
ขณะนี้ จิตอาสาแต่งหน้าศพ ได้กักตัวเองอยู่ภายในห้องเช่าร่วมกับลูกๆ ซึ่งจะได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเร็วๆ นี้
“ผมเลี้ยงลูกคนเดียว ลูก 2 คน ถึงเขาจะเป็นเด็ก แต่เขาพูดว่า “อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด” เพราะเราไม่สามารถแยกกันนอนได้ เพราะเป็นห้องโล่งอยู่รวมกัน 3 คน ทางผู้ใหญ่บ้านเขาแจ้งผม ว่า ผมจะตรวจได้ก็ต่อเมื่อนับจากวันที่ผมไปจับศพให้ครบ 5 วัน ไปตรวจหมดทั้ง 3 คน เพื่อความสบายใจของสังคมด้วย
แต่ผมคิดไว้ในใจว่าโอกาสที่ผมจะติดมันน้อย เพราะว่า 1. คนเสียชีวิตเขาไม่ได้หายใจแล้ว เชื้อตัวนี้จะแพร่ได้ก็ต่อเมื่อเราหายใจเข้า-ออก หรือว่าพูดคุยกัน 2. ศพฉีดฟอร์มาลินมา ซึ่งผมก็อยู่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาลทุกวัน ผมก็มีข้อมูลอยู่ว่า ฟอร์มาลินมันสามารถฆ่าเชื้อโควิดได้ เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว และ 3.คนเสียชีวิตโควิด เชื้อมันจะตายหลังจากเสียชีวิตไปประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อขาดออกซิเจนในร่างกายทั้งหมด”
ศพแพร่เชื้อได้หรือไม่ ขอใช้ตนเองเป็นพิสูจน์!
ทั้งนี้ เขายังได้ให้ความคิดเห็นต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถมองได้หลายแง่มุม ในเมื่อกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เขาก็อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นกรณีศึกษาของสังคม ว่า ศพของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
“มันมองได้หลายมุม ถ้าจะมองว่าเป็นเหตุสุดวิสัย คิดแบบนี้เราก็สบายใจ ไม่ต้องโทษใคร เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว เรามัวแต่มานั่งโทษกัน ถามว่ามันดีขึ้นมั้ย ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น คนตายเขาก็ไม่ได้ฟื้นขึ้นมา แต่มุมมองของสังคมหลายๆ ด้าน เขาก็อาจจะมองว่า โรงพยาบาลชุ่ย ทำงานผิดพลาด ผลยังไม่ออกมาแล้วคุณปล่อยศพออกมาได้ยังไง
อีกมุม ถ้าสมมติว่า ผลตรวจออกมาแล้วผมไม่ติด นั่นก็แสดงว่า ศพที่เสียชีวิตจากโควิดมันไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เราคิด ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ แต่ถ้าสมมติว่าผมติด นั่นก็แสดงว่าศพที่ตายด้วยโควิดยังสามารถแพร่เชื้อได้อยู่
เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งจะได้ให้สังคมได้รับรู้ ได้ตีแผ่ว่าศพโควิดจะน่ากลัวเหมือนอย่างที่ทุกคนคิดหรือไม่น่ากลัว วันสองวันนี้จะรู้ผล บทสรุปจะอยู่ตรงนี้ ถ้าสมมติว่า ผมไม่ติด จะทำให้สังคมเห็นเลยว่า ต่อไปคนตายโควิด สามารถเอามาจัดงานศพในวัดได้เหมือนเคสทั่วไป”
แม้ในตอนนี้ยังไม่ทราบผลการตรวจหาเชื้อว่าเขาและลูกๆ ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แต่ขณะนี้สิ่งที่ตามมาหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ ความคิดเห็นเชิงลบ จากคนที่ไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง
“บางคนแค่อ่านพาดหัวข่าว แต่ไม่ได้เข้าไปดูเนื้อข่าว ‘รู้ว่าศพเป็นโควิดแล้วไปแต่งทำไม หน้าใหญ่’ ผมดูแล้วคนพวกนี้ไม่เคยเข้าไปกดดูเนื้อข่าวแล้วก็มาด่า มันควรมั้ย
อีกมุมไปเมาท์กัน ‘นั่นไง มันบ้าอยู่แต่กับศพ ติดโควิดจนได้’ ข่าวยังไม่ได้บอกเลยว่าผมติด เขาก็ลงให้เป็นกลางว่า ผมไปสัมผัสแต่งหน้าศพติดโควิดมา ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วยการกักตัว แต่พวกที่อ่านเห็นข่าวแล้วก็ลือ มันอะไรกันนักหนาไม่รู้”
ท้ายที่สุดนี้ เขาได้ฝากถึงญาติของผู้เสียชีวิตทุกกรณี ว่า หากแพทย์นำอะไรก็ตามจากร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจ ควรรอให้ผลการตรวจออกมาแน่นอนว่าปลอดภัยไม่ติดเชื้อ ตลอดจนฝากความห่วงใยถึงคนในสังคมในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ด้วย
“ในกรณีอย่างนี้ คนในครอบครัวเสียชีวิต ถ้าเกิดว่าหมอเจาะเลือด หรือนำน้ำมูก น้ำลายไปตรวจ ทุกเคสหมอจะต้องแจ้งญาติก่อนอยู่แล้วว่าขออนุญาตเจาะเลือด น้ำมูก น้ำลาย เมื่อหมอเขาทำขั้นตอนแบบนี้ อยากจะบอกญาติทุกเคสว่า อย่าเพิ่งเอาศพออกมา ให้รอผลชันสูตรที่ชัดเจนก่อน แล้วค่อยเอาศพมาบำเพ็ญดีที่สุด เพราะเหตุการณ์นี้ ความผิดพลาดมันมีอยู่แค่ตรงนี้นิดเดียว ตรงที่ผลชันสูตรศพยังไม่ได้ออกมาชัดเจน
และผมอยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลเรื่องความสะอาดของตัวเอง อันดับแรก มือสะอาด ใส่ผ้าปิดจมูกให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะไปทำอะไรที่ไหน ทุกครั้งต้องมีแอลกอฮอล์ติดตัวไว้ดีสุด เมื่อผมแก้ไขตัวผมเองเสร็จ ผมก็กลับไปเป็นจิตอาสาแต่งหน้าศพเหมือนเดิม ไม่มีอะไรหยุดผมได้”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “อาสา ฅนแต่งหน้าศพ”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **