ชื่นชมเด็กกตัญญู! สองพี่น้อง “ใบหยก-ใบหม่อน” ขี่จักรยานพ่วงข้างขายผักสด ชีวิตสุดรันทด กำพร้าพ่อแม่ มีเพียงตายายที่เลี้ยงดูมา เผย อนาคตฝันอยากเป็นหมอ “หนูจะช่วยทำงานหาเงิน จะได้แบ่งเบาภาระตากับยาย”
พ่อค้าแม่ค้าผักรุ่นจิ๋ว
“เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ หนูจะช่วยทำงานหาเงินมาดูแล เพราะจะได้แบ่งเบาภาระตากับยาย แก่แล้วค่ะ สุขภาพยาย หลังยายปวด แล้วตาข้างหนึ่งมันมองไม่ค่อยเห็น ตาเป็นโรคหอบ ไม่แข็งแรง”
“น้องใบหยก-สุพรรณิกา นวดกลาง” วัย 10 ขวบ กล่าวกับผู้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวชีวิตของตน ที่อาจไม่ได้วิ่งเล่นตามประสาเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะเธอและ “น้องใบหม่อน-ปกรเกียรติ์ นวดกลาง” น้องชายวัย 9 ขวบ ต้องทำงานเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระตาและยาย ผู้เลี้ยงดูมา เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก
ชีวิตของ 2 พี่น้อง อาศัยตากับยายเป็นที่พึ่งสุดท้าย ณ บ้านพักคนงานบริเวณปั๊มน้ำมัน ใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ที่ตาทำงานรับจ้างอยู่ โดยหลานๆ จะเรียกตากับยาย ว่า พ่อและแม่ เมื่อมีเวลาว่าง ทั้งคู่จะพร้อมใจช่วยหารายได้เสมอ เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ทำ จะช่วยให้ตาและยายเหนื่อยน้อยลง
โดยหลานทั้งสองจะใช้เวลาหลังเลิกเรียน เพื่อทำงานบ้านและคัดแยกขวดไปขาย ซึ่งงานแยกขยะ ขวดพลาสติกนั้น แม้จะเป็นงานที่ต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก แต่เด็กๆ ก็ทำด้วยความเต็มใจ เมื่อเสร็จงานและทำการบ้านเรียบร้อย ทุกคนต่างพร้อมหน้าพร้อมตากินอาหารเย็นพร้อมกัน
ส่วนในวันหยุด 2 พี่น้องจะพากันปั่นจักรยานพ่วงข้าง นำผักสดที่ยายปลูกไว้ ไปขายที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. บริเวณสามแยกดอนหวาย ถนนมิตรภาพ ทำให้ผู้คนที่สัญจรไป-มา ผ่านปั๊มแห่งนี้ ได้แวะมาอุดหนุน ต่างอดชื่นชมในความขยันขันแข็งของเด็กทั้งสองไม่ได้
สำหรับผักสดนานาชนิดที่ถูกนำไปขายนั้น สีทอง เขียนปทุม ยายของเด็กทั้งสองเป็นคนปลูก ด้วยสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง เพราะเคยประสบอุบัติเหตุหนักเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้รับความกระทบกระเทือนทั้งทางร่างกายและจิตใจ อีกทั้งอายุมากถึง 63 ปีแล้ว แต่ยายสีทองก็ยังคงทำงานหนักทุกวัน
“ตอนนั้นอายุประมาณ 30 กว่า รถตกเหว เย็บหมดทั้งตัว สติไม่รู้เรื่องเลย ไปอยู่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 3 เดือน ไปอยู่โรงพยาบาลสงขลา 6 เดือน ไปบวชอีก 1 ปี ค่อยกลับมา พอยายหาย ยายก็มาหาเงินส่งลูกเรียน
สุขภาพตอนนี้ ตามองไม่เห็น เป็นต้อเนื้อ ลอกไปแล้วครั้งนึง แต่เป็นอีก กินตาดำ เห็นลางๆ กับหัวเข่าเจ็บ หมอให้ผ่า แต่ถ้าผ่าแล้วถ้าเดินไม่ได้ ใครจะหาผัก ขึ้นมะขามมาขาย
ที่ปลูกผักเป็นที่ของเถ้าแก่ ปตท. บ้านก็บ้านเถ้าแก่ ที่ของปั๊ม เขาให้ทำกิน เพราะเราไปไหนไม่ไหวแล้ว มีผักชีลาว ผักชีไทย คะน้า กวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ไม่ได้ปลูกเยอะ เพราะเราไม่ได้ขายส่ง
เขาเคยไปขายกับยายตั้งแต่สมัยอยู่ ป.2 ขายตามตลาดนัด สมัยนั้นรถจักรยานเก่าเอาผักใส่ข้าง ก็ขี่ไป หลานก็ไปด้วย เขาชอบ เขาบอกแม่ไปไม่ไหวแล้ว ตาก็ไม่ดี หลังก็หัก แม่ไปหามาเดี๋ยวหนูไปขายเอง เราก็ปลูกแล้วเขาก็ไปขายเอง”
ด้าน น้องใบหยก แม้จะมีอายุเพียง 10 ขวบ แต่ก็เข้าใจความลำบากของตาและยายเป็นอย่างดี ทำให้เธอลุกขึ้นสู้แบ่งเบาภาระครอบครัว
“ขายเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเช้าจนถึงบ่ายสาม ขายได้ก็เอาเงินไปให้ยาย ยายก็เก็บไว้ให้เราไปโรงเรียนค่ะ”
ครูห่วง เรียนดีแต่ยากจน
หากย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดของ 2 พี่น้อง ทั้งคู่ไม่เคยแม้กระทั่งเห็นหน้าพ่อ ส่วนผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยเลี้ยงดู เพราะต้องคดียาเสพติด ก่อนจะไปทำงานที่ต่างประเทศ มีเพียงอ้อมกอดจากตาและยาย ที่คอยโอบอุ้มมาตั้งแต่แบเบาะ
และเคยมีเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ถึงขั้นที่ยายสีทองก้มกราบลูกแท้ๆ ด้วยหวังให้กลับตัว!!
“เขาบอกว่าเดี๋ยวไปซื้อยา ขอตังค์แม่ร้อยนึง ก็หายไปเลย ตาเลิกงานมา บอก ‘แม่มึงๆ หลานร้อง แม่มันไปไหน’ ก็บอกมันหายไปตั้งแต่ 5 โมงเย็น ไม่รู้มันไปซื้อยาอะไร ยังไม่เห็นมันมา แกก็บอก มันไม่มาแล้ว
มาอีกทีท้องใบหม่อนมา ยายคุกเข่ากราบตีนลูกสาว เขายืนอยู่ ยายคุกเข่ากราบให้มันเลิก ให้มันสำนึกตัว มันก็เดินหนี แล้วบอกไม่ให้ก็ไม่เอาหรอกตังค์ ไม่น่าทำแบบนี้ มันว่าอย่างนี้แล้วก็เดินหนีไปเลย ยายเสียใจ ร้องไห้จนถึงทุกวันนี้”
ขณะเดียวกัน อนันต์ ก้อนวิมล ที่เด็กๆ เรียกว่าพ่อ แท้จริงแล้ว ตาอนันต์เป็นสามีใหม่ของยายสีทอง หลังสามีเก่าเสียชีวิต ตั้งแต่หลานทั้งสองยังไม่เกิด
“เลี้ยงแม่เขามาตั้งแต่ท้อง เลี้ยงหลานมาตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ย้ายมาอยู่ที่นี่เกือบ 5-6 ปีแล้ว ทำงานที่นี่ เฝ้าบ้าน รับผิดชอบดูแลเวลาน้ำไม่ไหล ไฟดับ ตัดแต่งต้นไม้ กวาดลาน ทุกอย่าง แต่ก่อนยายแกก็ทำ แต่ตอนนี้ไม่ไหว แกปวดหลัง ก็เลยลาออก”
สำหรับการศึกษาของเด็กๆ นั้น ปัจจุบัน น้องใบหยก เรียนอยู่ ป.4 ส่วนน้องใบหม่อน เรียนอยู่ ป.3 โรงเรียนบ้านดอนหวาย (สิงห์คุรุประชาสรรค์) ต.ดอนหวาย อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
ทางด้านของ อภิญญา ทนันไธสง ครูประจำชั้นของน้องใบหยก กล่าวว่า เธอเป็นเด็กเรียนดี แต่เป็นห่วงเรื่องโอกาสในการศึกษาต่อ
“ผลการเรียนของหยก น้องเรียนดีมาก เรียนเก่ง สอบได้ลำดับที่ 2 ของห้อง เป็นเด็กใฝ่เรียนรู้ค่ะ เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน แต่ห่วงเรื่องทุนการศึกษา ที่ครูถาม ทางบ้านหาเงินแค่คนเดียว คือ คุณตา รายได้หลักอยู่กับคุณตา พ่อกับแม่เขาแยกทางกัน ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ส่งเสีย
ที่โรงเรียนช่วยได้ก็คือ ยื่นส่งแบบขอทุนของ สพฐ. แต่มันก็ไม่แน่นอนค่ะ บางเทอมก็ได้ บางเทอมก็ไม่ได้ มันเป็นระบบทุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน เพิ่งได้เดือน ก.พ. 1,000 บาท แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่อง ห่วง กลัวน้องไม่มีทุนในการศึกษาต่อ ซึ่งน้องมีน้องด้วย คุณตาก็หนักอยู่เพราะส่งทั้ง 2 คน”
ขณะที่น้องใบหยกก็กล่าวว่า ตนเองชื่นชอบวิชาพลศึกษาและวิชาศิลปะ ส่วนความใฝ่ฝัน เธออยากเป็นหมอในอนาคต
“โตขึ้นอยากเป็นหมอค่ะ เพราะจะได้ช่วยตากับยาย แล้วก็ช่วยคนอื่นได้ค่ะ”
เหนื่อยแต่สู้เพื่อหลาน
แม้ต้นทุนชีวิตที่ติดลบ มีเพียงตายายที่ทำงานรับจ้าง ทำให้เด็กทั้งสองแทบไม่มีโอกาสที่จะได้เที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่น แต่ทั้งสองก็มีความสุขจากเครื่องเล่นฝีมือตาอนันต์
สำหรับ ยายสีทอง ที่แม้ชีวิตจะผ่านมรสุมลูกใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอก็ยังฝ่าฝันมาจนถึงทุกวันนี้ และแม้ในอนาคตจะลำบากแค่ไหน เธอก็จะสู้เพื่อหลานต่อไป
“เหนื่อยเหมือนกัน เห็นลูกคนอื่นเรียนสูงๆ ต้องหายังไงให้หลานได้เรียนสูงๆ ได้ทำงานสบายๆ เห็นหลานเขาอยากเรียน ถึงยายจะล้มลงก็จะคลานเอา ขอให้มีเงินให้หลานไปโรงเรียน อยากให้เขาเรียนสูงๆ ไม่ต้องมาลำบากเก็บผัก หาผักหน้าดำหน้าแดง
หลานก็ยังเล็กก็จะสู้เพื่อหลาน ก็คิดไว้ว่าสุดแรงเรา อยากให้เขาเรียนสูงๆ ไม่ลำบากเหมือนเรา ไม่ลำบากเหมือนแม่เขา อยากให้เขาสบาย อยากให้อนาคตเขาดี ให้ฝันเขาเป็นจริง ยายอยากที่สุดเลย อยากลอกตา จะได้มีแสงสว่าง จะได้ทำมาหากินให้ลูกได้เรียน”
ส่วนทางด้านของผู้เป็นตา แม้หลานๆ จะไม่ใช่สายเลือดของตน แต่ก็ยืนยันจะส่งเสียเลี้ยงดูทั้งคู่ให้สูงสุดเช่นกัน
“แต่ก่อนผมก็คิด ผมกินเหล้า หรือจะเอาแต่ตัวเองรอด ลูกก็ไม่มี จะมาลำบากอะไร เลือดก็ไม่ใช่เลือดกูซักหยด จะมาทนลำบากอะไรนักหนา ทางบ้านผมก็พูด แต่อย่างว่า แกไม่ได้เลี้ยงมา ไม่มีความผูกพันหรอก ผมเลี้ยงของผมมาตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ทิ้งไม่ได้หรอก นอกจากผมเป็นอะไรไป
เหนื่อย เรารับผิดชอบทุกอย่าง ของกิน ตังค์ไปโรงเรียน ลูกเลยแหละ ทางย่าเขาเคยโทร.มาขอ จะให้ผม 70,000 ผมบอกมาเอาตาผมไปดีกว่า ก็อยากให้เขาเป็นอย่างที่เขาคิด เขาอยากเป็นหมอก็ส่งให้สุดกำลัง ก็ได้เลี้ยงเขามาแล้ว”
แม้ตาและยายพร้อมที่จะทำงานอย่างหนัก เพื่อส่งเสียให้หลานทั้งสองได้เรียนสูงๆ เท่าที่จะทำได้ แต่เมื่ออะไรก็ไม่แน่นอน ยายจึงคิดว่า อย่างน้อยหลานต้องขายของเป็น เพื่อที่วันที่ยายไม่อยู่ หลานจะได้มีอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้
“ก่อนจะไป ให้เขาลืมตาอ้าปากได้ ให้เขาหากินเองได้ ก็บอกหยก บอกหม่อน ต้องหัดขายของ ถ้าแม่เป็นอะไร หนูจะได้ขาย จะได้มีอาชีพ จะได้ทำมาหากินเป็น สอนให้ปลูกผัก ช่วยหมด ช่วยได้ทุกอย่าง เด็ก 2 คน ช่วยทำงานหมด ปลูกผักเป็น ขายผักเป็น”
นี่คือเรื่องราวของ “ใบหยก” และ “ใบหม่อน” 2 พี่น้อง ที่แม้จะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่มีปมด้อย เพราะเด็กๆ ได้รับความรักจากผู้เป็นตาและยายที่เลี้ยงดูมาอย่างเต็มเปี่ยม กลายเป็นภูมิคุ้มกันชีวิต หล่อหลอมให้พวกเขาเป็นเด็กกตัญญูและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อีกด้วย
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือทุนการศึกษาของน้องใบหยก และน้องใบหม่อน และค่ารักษาพยาบาลยายสีทอง สามารถสนับสนุนได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาโนนสูง ชื่อบัญชี นางสีทอง เขียนปทุม เลขที่บัญชี 020-1-38692-163
สัมภาษณ์ : รายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ”
เรียบเรียง : MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **