หน่วยงานเชิงรุกสะท้อน “คลัสเตอร์คลองเตย” โควิด-19 ระบาดแบบก้าวกระโดด เหตุเพราะ “ชุมชนแออัด-ภาครัฐล่าช้า” พบผู้ติดเชื้อพื้นที่เดียวหลายร้อยราย ด้าน “ชูวิทย์” ย้ำรัฐอย่าปิดบังตัวเลข หวั่นซ้ำรอย “คลัสเตอร์ทองหล่อ”
หวั่น “คลองเตย” จุดระบาดใหม่ กทม.
“เขตคลองเตย มีจำนวนประชากรประมาณ 100,000 คน ถ้านับเป็นชุมชนก็มี 43 ชุมชน บางชุมชนพื้นที่คับแคบมาก บ้านหลังนึงเป็นห้องเท่านั้นเอง แล้วอยู่กัน 4-5 คน เป็นห้องเล็กๆ แน่นไปหมดเลย แล้วก็มีผู้สูงอายุ มีเด็กอยู่กันแออัดมาก ซึ่งง่ายต่อการติดเชื้อมากค่ะ”
“ประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ”ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานพัฒนาเชิงรุกในพื้นที่คลองเตย กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ถึงสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากในขณะนี้ จนอาจเรียกได้ว่ากลายเป็น “คลัสเตอร์คลองเตย” แล้ว!
“มันเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากผู้นำชุมชนและคนที่ติดเชื้อ ว่า รอรถมารับแล้วไม่มีใครเอารถมารับ เขาก็ขอให้ดิฉันช่วยติดต่อหารถมารับ ดิฉันก็พยายามติดต่อไปหาผู้อำนวยการเขต หาหน่วยนู้นหน่วยนี้ ก็ปรากฏว่า เพียงระยะ 2-3 วัน คนโทรศัพท์มาเป็น 10 คน 15 คน 30 คน
แล้ววันที่ 27 เม.ย.ท่านผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร นำรถพระราชทานมา 2 คัน มาตรวจให้ คนที่เข้ามาตรวจในวันนั้นทั้งหมด 926 คน วันต่อมาทราบผลติดเชื้อ 50 คน เท่ากับ 5.4 เปอร์เซ็นต์ แล้ววันที่ 30 เม.ย.ก็มีตรวจอีก 411 คน พบคนที่ติดเชื้อ 49 คน แล้วหลังจากนั้น ก็เพิ่มขึ้นมา รู้สึกว่ามันกระโดดขึ้นมาเยอะมาก
ตอนนี้อาการหนักๆ ก็อยู่กันที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หลายคน มี 10 กว่าราย ก็เป็นคนไข้ที่มีอาการหนัก เหมือนกับลงปอดกันเยอะมาก ดิฉันคิดว่าคงจะมาจากหลายสาเหตุ แต่ที่ดิฉันได้ไปพบ 2-3 ราย มาจากการทำงานในไนต์คลับค่ะ แล้วก็มีเรื่องของการเล่นสงกรานต์ด้วย นอกนั้นก็อาจจะมาจากคนในครอบครัว แพร่เร็วมาก มันกระจายรวดเร็วมากค่ะ”
โดยข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานถึงตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการค้นหาเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 304 คน โดย 193 คน อยู่ในชุมชนแออัด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ 3 ชุมชน คือชุมชนพัฒนาใหม่ ชุมชน 70 ไร่ และชุมชนริมคลองวัดสะพาน
ขณะที่ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีต ส.ส.พรรครักประเทศไทย ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์การระบาดครั้งนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”ใจความว่า ตนเองทราบข่าววงในจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่า มีคนมาตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลายคนที่มีอาการหนัก เชื้อลงปอดแล้ว ที่ล้วนแล้วแต่มาจากชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัด ที่พักอาศัยเป็นเพียงผนังไม้ สังกะสีกั้น ผู้คนหาเช้ากินค่ำ และอาจไม่ได้มีการระมัดระวังสูงอย่างคนมีฐานะ
อีกทั้งยังพบว่า ในบรรดาคนที่มาตรวจโควิด-19 ในจำนวน 8 คน พบผู้ติดเชื้อถึง 5 คน จึงมีโอกาสสูงที่จะเป็น “คลัสเตอร์คลองเตย” ตนจึงขอเป็นสื่อกลางถึงผู้ที่มีอำนาจต้องรีบดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ชุมชนคลองเตย แต่ขออย่าได้ปิดบังตัวเลขให้ดูต่ำ โดยไม่ยอมรับความจริง
“ครั้งนี้ป้องกันไว้ดีกว่ามาตามแก้ไม่ทัน แพร่ไปทั่วแบบ “คลัสเตอร์ทองหล่อ” ที่เริ่มจากคนรวย แล้วซวยไปทั้งประเทศ เที่ยวนี้เกิดที่คลองเตยชุมชนแออัดแล้วแพร่เป็น“คลัสเตอร์คลองเตย” เขตคลองเตย มีทั้งย่านคนรวยอย่างสุขุมวิท และคนจนในย่านชุมชนแออัด สภาพเหมือนแดนนรกสวรรค์อยู่ในภพเดียวกัน หากเกิดโควิดแพร่ระบาดในเขตนี้ จะดูไม่จืดเลยครับท่าน เตือนกันแล้วนะครับ พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย" อดีต ส.ส.พรรครักประเทศไทย ระบุ
“ภาครัฐชะล่าใจเกินไป”
ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ได้อัปเดตความคืบหน้าในการลงพื้นที่นำเครื่องอุปโภค-บริโภค ไปช่วยเหลือประชาชนที่ไม่สามารถออกนอกชุมชนได้ และเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อการกระจายตัวของโรคอีกทาง พร้อมกันนี้ เธอยังช่วยสะท้อนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่เธอมองว่า ดำเนินการล่าช้า และอาจจะชะล่าใจเกินไป
“ตอนระบาดรอบแรก คลองเตยตอนนั้นก็ระบาดจากค่ายมวยค่ะ แล้วก็มีผู้เสียชีวิตไปคนนึง แต่ติดเชื้อตอนนั้นไม่รุนแรงมากค่ะ ก็ไม่กี่คน แล้วมาระลอก 3 เร็วด้วย หนักด้วย
ตอนนี้บ้านที่มีผู้ติดเชื้อ ก็แยกคนติดเชื้อออกไป แล้วคนที่ไม่เป็นก็ขอไม่ให้ออกจากบ้าน เราก็นำอาหารไปให้ เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าเขามีเชื้ออยู่หรือไม่ อย่างที่วัดสะพาน ก็ให้บริการอาคาร สถานที่ อาหาร บางส่วนก็มีคนนำมาให้ค่ะ
แต่ที่วัดสะพานจะมีการตรวจหาเชื้อที่วัดสะพาน คนก็มากันเยอะค่ะ และเป็นสถานที่ดูแลคนที่ติดเชื้อแล้ว เพื่อรอส่งตัวไปโรงพยาบาลที่ทางภาครัฐจัดให้ อยากให้มาช่วยหลวงพ่อเรื่องเงินด้วย เรื่องอาหารด้วย เพราะมันต้องใช้หลากหลายมาก
ตอนนี้ที่ตรวจไปไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ทางภาครัฐเองช่วยเหลือในชุมชนเรื่องของการรับคนที่ติดเชื้อแล้วไปโรงพยาบาล รถตรวจเคลื่อนที่จะมารวมทั้งหมดจะเป็น 12 วันต่อเนื่อง ดิฉันคิดว่าภาครัฐอาจจะชะล่าใจเกินไป ช้ามาก ไม่ทันการณ์ ถ้าไม่เร่งเดี๋ยวจะยิ่งลามกันไปใหญ่”
สำหรับแผนการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตยนั้น ได้รับการเปิดเผยจาก “ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง” โฆษกกรุงเทพมหานคร ผ่านเฟซบุ๊ก “เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง - Earth Pongsakorn Kwanmuang”
ใจความของโพสต์ระบุว่า จากการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อที่ทำงานในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ อยู่อาศัยในชุมชนเขตคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีคนอยู่กันอย่างหนาแน่น ลักษณะบ้านอยู่ติดกัน ทำให้การระบายอากาศไม่ดี จนอาจทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง
ขณะนี้ได้มีการลงพื้นที่ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนที่มีการระบาดมาก 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา 70 ไร่ ชุมชนพัฒนาใหม่ และ ชุมชนริมคลองวัดสะพาน โดยมีเป้าหมายการตรวจวันละ 1,000 คน และพยายามเพิ่มศักยภาพการตรวจให้ครอบคลุมทุกชุมชน
ในตอนนี้อยู่ระหว่างการขอวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อจะใช้ในการควบคุมการระบาดอย่างเร่งด่วนแบบที่ กทม.สามารถควบคุมได้ที่ ตลาดบางแค และทองหล่อ
สุดท้าย ครูประทีป ตัวแทนผู้ที่ทำงานเชิงรุกในพื้นที่ ได้ฝากความห่วงใยไปถึงคนในสังคมถึงวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นผ่านทีมข่าวอีกด้วย
“อยากให้มีสติค่ะ ใครช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย อยู่เฉยไม่ได้มันลุกลามไปมาก ไม่อยากให้เป็นเหมือนอินเดียค่ะ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “มูลนิธิดวงประทีป”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
