xs
xsm
sm
md
lg

นางสงกรานต์เสวยเลือด! แผ่นดินแห้ง-อาชญากรรมร้ายแรง-ป่วยหนักที่สุด!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โหรดังพยากรณ์ “ดวงสงกรานต์ 2564” มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ การเงินประเทศเสียหาย ผู้คนล้มตายจากโรคระบาด แต่วงการศาสนามีข่าวดี เป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

แรงทุกด้าน! บ้านเมืองน่าห่วง โจรผู้ร้ายชุกชุม

“วันมหาสงกรานต์ ก็คือวันเวลาที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ปีนี้ย้ายในวันอังคารที่ 14 เม.ย. 64 นางสงกรานต์ปีนี้เป็นนางสงกรานต์ที่น่าติดตาม ชื่อ “รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง แก้วโมราเป็นอาภรณ์ ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนูศิลป์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรไปบนหลังวราหะคือหมู

มีคำพยากรณ์เกี่ยวกับผู้ปกครอง พระมหากษัตริย์จะเจริญราชศิริสวัสดีแล ส่วนคำพยากรณ์เกี่ยวกับประชาชน มิดี คนจะเกิดทุกข์ จะตายเพราะความเจ็บไข้ได้ป่วย แผ่นดินจะแห้ง หัวปีจะมีฝนแต่น้อย จะเกิดศึกรบกัน จะเกิดกลียุค คนจะได้ยากกันนักแล จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิงไหม้และโจรผู้ร้ายชุกชุม จะเกิดไข้เจ็บหนักเป็นที่สุด”

ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ถึงคำพยากรณ์ดวงเมือง เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ประจำปี 2564 ยังมีเรื่องที่สร้างความกังวลมากมาย โดยเฉพาะความแตกแยกของผู้คนในสังคม แต่ก็จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีในแวดวงศาสนา


“ถัดจากวันสงกรานต์ วันพุธก็เป็นวันเนา คำพยากรณ์บอกว่าข้าวจะแพง คนทั้งหลายจะทุกข์ร้อน แม่ม่ายจะพลัดที่อยู่ ผ่านวันเนาไปก็จะไปสู่วันเถลิงศก คือ วันที่เปลี่ยนจุลศักราช สมณพราหมณาจารย์จะปฏิบัติชอบด้วยธรรมอันประเสริฐ อันนี้ก็น่าจะดีกว่าปีก่อนๆ เกี่ยวกับเรื่องของนักบวช ศาสนา ครูบาอาจารย์ ก็น่าจะเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งวุ่นวาย

ประการสำคัญ ดาวมฤตยู ยังทับลักขณาเมืองอยู่จนถึงเดือนกรกฎาคมปีหน้า มฤตยูไปตรงไหนก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตรงนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทำมุมสัมพันธ์ร้ายก็จะเกิดความยุ่งยากตามภาพของดาวที่เวียน การชุมนุม การนัดหยุดงาน การปฏิบัตินอกกฎหมาย ความแตกแยก ความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน ไม่พึงพอใจในกฎหมายหรือความเป็นอยู่ ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากกับรัฐบาล จะเกิดอาชญากรรมที่ร้ายแรงได้”

นอกจากจะเปิดเผยคำพยากรณ์นางสงกรานต์ในปีนี้แล้ว โหราจารย์ชื่อดังยังได้กล่าวถึงดวงดาวที่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาบ้านเมืองต่อเนื่องอีก 3 ดวง คือ ดาวราหู ดาวพฤหัส และดาวเสาร์


[ ภิญโญ พงศ์เจริญ ]

“มีดาวอีก 3 ดวงที่ต้องพิจารณา ดวงแรกคือ ราหู จะโคจรอยู่ตรงราศี เรือนตรงนี้เป็นเรือนกดุมภะของดวงเมือง หมายถึงเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง พอราหูมาอยู่ในภพที่ 2 เขาเรียกราหูค้นทรัพย์ ค้นเอาเงินทองที่สะสมไว้จนหมดสิ้น และยังจะต้องไปกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งภายในและภายนอกประเทศมาแก้ไขปัญหา เป็นหนี้ทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือน แต่ก็โชคดีว่ามันจะสามารถหาแหล่งเงินมาใช้ได้ ซึ่งค้นอยู่ตรงนี้ปีครึ่งตั้งแต่ ก.ย. 63 ถึง มี.ค. 65”

สำหรับอิทธิพลของราหู จะทำให้เกิดอุปราคาขึ้นในปี 2564 จำนวน 4 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งแม้มองไม่เห็นที่เมืองไทย แต่ก็จะส่งผลกระทบด้วย โดยเฉพาะการเกิดภัยธรรมชาติ ทั้งทางน้ำและทางดิน ส่วนอุปราคาครั้งที่ 2 จะส่งผลกระทบหนักในเรื่องของการเงิน ที่อาจกล่าวได้ว่า ปีนี้หนักไม่ใช่น้อย

“อุปราคาครั้งที่ 1 เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 18.18 น. สมผุสราศีพิจิก มองไม่เห็นที่ประเทศไทย เกิดในราศีธาตุน้ำ จะมีคำพยากรณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายจากอุทกภัย เช่น ฝนตกมากเกินไป ความตายจากการจมน้ำ อุบัติเหตุทางทะเลหรือแม่น้ำ เกิดความยุ่งยากในงานอาชีพเกี่ยวกับน้ำหรือของเหลว


เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย ภัยของโรคระบาด มีอัตราคนตายสูง จะเกิดการตายในหมู่ชนสามัญ หรือสตรีผู้มีชื่อเสียง สุขภาพอนามัยของประเทศเสื่อมโทรม ถ้าเป็นจันทรุปราคา ประชาชน ชนขั้นกรรมาชีพจะเดือดร้อน เกิดความไม่พอใจ มีปัญหาเกี่ยวกับคนหมู่มากที่จะต้องสะสาง เกิดอาชญากรรมลึกลับ เกิดขึ้นและยุ่งยากแก่การสืบสวน และการเกิดอุปราคาตรงนี้คือราศีพิจิก ซึ่งเป็นสถิรราศี ก็จะมีผลอยู่ได้นาน

อุปราคาครั้งที่ 2 เป็นสุริยุปราคาวงแหวน ในวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 17.41 น. สมผุสตรงราศีพฤษภ มองไม่เห็นที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน จะมีคำพยากรณ์ จะทำให้เกิดความเสียหายเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตร การพังทลายของหน้าดิน หรือการเสื่อมโทรมของดิน อาจเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่มหรือความเสียหายที่เกี่ยวกับดิน แล้วเกิดในสถิรราศีเหมือนกัน มันก็จะส่งผลให้อยู่ได้นาน อิทธิพลก็จะครอบคลุม

โลกธุรกิจจะถูกก่อกวน การเงินของประเทศจะถูกกระทบกระเทือน เสียหาย เกิดปัญหาทางการค้าและการเงิน ก่อให้เกิดความยุ่งยาก เกิดความล้มเหลวรายใหญ่ ธนาคาร สถาบันการเงินจะตกอยู่ในภาวะคับขัน และเกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบภาษีอากร”

เตือนรัฐบาล การเมืองแรงหวั่นซ้ำรอย!

ขณะที่ช่วงปลายปี จะเกิดอุปราคาขึ้นอีก 2 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน กับเดือนธันวาคม โดยคำพยากรณ์เผยถึงเรื่องของการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ!

“ครั้งที่ 3 จะเกิดจันทรุปราคาบางส่วน ในวันที่ 19 พ.ย. 64 เวลา 16.02 น. สมผุสราศีพฤษภ มองไม่เห็นที่กรุงเทพฯ ก็ยังเกิดในเรือนการเงิน ยังส่งผลกระทบเรื่องของราศีธาตุดิน เกิดความเสียหายเกี่ยวกับดิน พืชผลทางการเกษตร โลกธุรกิจประสบปัญหา นำความอับโชคมาสู่ผู้ปกครอง แต่มันเกิดในภพ 2 หมายถึงการเงินของประเทศจะถูกกระทบกระเทือน เกิดความล้มเหลวเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ก็จะคับขันหรือเปลี่ยนแปลง

และอุปราคาครั้งสุดท้าย เป็นสุริยุปราคาเต็มดวง ในวันที่ 4 ธ.ค. 64 เวลา 14.33 น. สมผุสราศีพิจิก มองไม่เห็นที่กรุงเทพฯ เป็นราศีธาตุน้ำ เกิดฝนตกมากเกินไป เกิดอุทกภัย คนตายจากการจมน้ำ เกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ทางทะเลเป็นจำนวนมาก และเกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับน้ำหรืออาชีพที่เกี่ยวกับน้ำ เกิดโรคระบาด เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย



อัตราการตายของคนสูง และมันเป็นการตายของบุคคลสำคัญ จะเกิดความอับโชคแก่ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง เน้นในครั้งสุดท้าย ผลของการเกิดก็คงอยู่นาน เพราะเกิดในสถิรราศี เพราะฉะนั้นภัยพิบัติมันใหญ่โต สมกับตัวนางสงกรานต์ที่เสวยโลหิตนั่นแหละ”

และอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ไม่เพียงแค่ราหู ยังเหลือดาว 2 ดวง คือ ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟากฝั่งของรัฐบาล ซึ่งมีข่าวดีให้พอได้ยิ้มออกกันอยู่บ้าง แต่ก็ต้องระวังเหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงเมื่อวงรอบดาวเสาร์ทุก 30 ปีเวียนมา ไม่ว่าจะเป็นพฤษภาทมิฬ กองทัพปกแอก รวมไปถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย

“แต่ก็มีอีก 2 ดวง คือ ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ ดาวพฤหัสตอนนี้โคจรอยู่ตรงราศีกุมภ์ เป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ ถือว่าเป็นดาวดี ทำให้การบัญญัติกฎหมายดำเนินไปด้วยความราบรื่น หมายถึงผ่าน รัฐบาลประสบความสำเร็จ เรื่องอื่นที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของดาวพฤหัส การเงิน การศาสนา วัดวาอาราม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะเป็นผลที่พึงพอใจ และดาวพฤหัสโคจรอยู่ตรงราศีกุมภ์ ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 64 ถึง 28 ก.ย. 64 และอีกช่วง คือ 8 พ.ย. 64 ถึงปี 65

อีกดวงคือดาวเสาร์ น่ากลัว เป็นดาวมหาชน เป็นดาวคนส่วนใหญ่และเป็นตัวแทนของเจ้าเรือนชะตาที่ 10 กำลังโคจรอยู่ในราศีมังกร จะมีคำพยากรณ์ไปใน 2 ด้าน พระเสาร์จะอยู่ในภพที่ 10 แต่ในทางที่ดี ถ้าปราศจากโยคเกณฑ์ร้าย ก็จะทำให้เกิดความสำเร็จแก่รัฐบาล สามารถรักษาอำนาจ ตำแหน่ง และการออกกฎหมายราบรื่น



ถ้าตกในโยคเกณฑ์ร้ายก็จะนำความอับโชคให้กับผู้ปกครอง รัฐบาล ฐานะของรัฐบาลก็จะขาดความนิยมเชื่อถือ ขาดกำลังการสนับสนุน รัฐบาลอาจแพ้คะแนนเสียง หรือประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้ง ก็อาจจะเกิดความอับโชค อาจจะต้องแพ้คะแนนเสียง ฐานะของรัฐบาลก็จะขาดความนิยมเชื่อถือ หรือกำลังการสนับสนุน ประชาชนก็จะไม่ศรัทธา ถ้าจะเตือนก็เตือนผู้ปกครอง อย่าให้ประวัติศาสตร์วงรอบดาวเสาร์ทุก 30 ปีซ้ำรอย จะได้อยู่เย็นเป็นสุขถ้วนหน้ากัน

สุดท้าย เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ประจำปี 2564 นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติได้ฝากคำอวยพร แก่ผู้คนในสังคม ไว้ว่า “สงกรานต์ก็เป็นคติที่คนถือว่าเป็นวันที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบ มันต้องมีวงรอบใหม่ของปีใหม่ เราก็ตั้งจิตประสงค์ให้ปีใหม่เป็นปีที่ดี ประสบกับสิ่งที่ดีงาม การที่เราจะประสบกับสิ่งที่ดีงามได้นั้น เราก็ต้องกระทำกรรมดี ในสิ่งที่ถูกที่ควร กรรมนั้นก็จะนำเราไปสิ่งที่ดีงามในอนาคต

แต่การทำความดีมันจะสมบูรณ์ได้ก็ต้องอาศัยความเพียร ถือวิถีแห่งวิริยานุภาพ และต้องเพียรในสิ่งที่ดี อยู่ภายใต้กาลเทศะหรือห้วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ก็จะสำเร็จสมบูรณ์ได้ตามปรัชญาทางการเวลา ปรัชญาทางโหราศาสตร์ ก็ขอให้โชคดี”

ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **






กำลังโหลดความคิดเห็น