xs
xsm
sm
md
lg

แน่ใจไหมว่า เราชนะ? สินค้าแพง-คิดเงินค่าสแกน-ซ้ำเติมช่วงโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้บริโภคโวย ราคาของขึ้นจากเดิมถึง 7% ตามใจ มีเงิน 2,000 กลับซื้อได้ไม่กี่อย่าง แถมบวกค่าบริการเพิ่มเวลาสแกนจ่ายเงินอีก ส่งเสียงเร่งให้ภาครัฐเข้ามาควบคุมจริงจัง!!

เสียงสะท้อนจากผู้บริโภค แพงจนไม่อยากใช้เงิน

หลังจากที่ทางกระทรวงการคลังโอนเงินให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิเราชนะงวดแรก 2,000 บาท ประชาชนที่ได้รับสิทธิต่างพากันไปใช้สิทธิซื้อข้าวของเครื่องใช้

แต่หลังจากได้รับเงินไปแล้ว ก็มีเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคจำนวนมากในหลายจังหวัด ถึงประเด็นสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้น จนมีการตั้งคำถามว่า เป็นเพราะอะไรทำไมร้านค้าถึงมีการปรับขึ้นราคาสินค้า

บางร้านมีการบวกเพิ่มถึง 7% บางร้านก็มีการคิดค่าสแกนสินค้าเพิ่ม สร้างความสับสนให้กับประชาชนที่เข้าไปซื้อสินค้าที่ร้านเป็นอย่างมาก จึงมีข้อเปรียบเทียบระหว่างการจ่ายเงินสดไม่มีการคิดภาษี แต่เมื่อจ่ายเราชนะนั้นมีการคิดภาษี

ซึ่งส่วนใหญ่ต่างออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาสินค้าปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เริ่มมีการร้องเรียนร้านค้าที่ฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน

นี่เป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนจากผู้ซื้อสินค้าชาว จ.ขอนแก่น ที่เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงการฉกฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า โดยไม่มีสาเหตุ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

โดยผู้ได้รับความเดือดร้อนรายนี้สะท้อนว่า ตั้งแต่มีเงินเยียวยาจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง รวมไปถึงล่าสุดโครงการเราชนะ เห็นได้ชัดว่า ร้านค้าต่างๆ มีการปรับราคาสินค้าที่แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ผู้ได้รับความเดือดร้อนรายนี้เล่าอีกว่า ตนเองซื้อปุ๋ยเพื่อไปทำการเกษตรจากราคาเดิมที่เคยซื้อในราคาถุงละ 480 บาท พอต้องใช้เงินจากโครงการเราชนะ กลับปรับขึ้นเป็นราคา 500 บาท ซ้ำเมื่อสแกนจ่ายยังมีการบวกเพิ่มอีกถุงละ 80 บาท

นั่นหมายความว่า ต้องจ่ายจากราคาเดิม 480 บาท เป็น 580 บาท นอกจากนี้ ยังมีท่อ PVC ที่ซื้อมาใช้เพื่อการเกษตรที่ซื้อมาในราคา 870 บาท แต่พอชำระเงิน ต้องบวกเพิ่มอีก 30 บาท อีกทั้งแชมพูสระผมยี่ห้อดังที่เคยซื้อในราคา 53 บาท ตอนนี้ก็พุ่งไปถึง 60 บาท

ยอมรับว่า ตอนสแกนจ่ายรู้สึกตกใจว่าทำไมถึงต้องมีการชาร์จราคาเพิ่มขึ้นไปอีกในการซื้อสินค้าแต่ละครั้ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเข้ามาดูแลการควบคุมการขายสินค้าตามร้านต่างๆ อย่างเร่งด่วน เพราะมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเรื่องการปรับขึ้นราคาของสินค้าจำนวนมาก


ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนในอีกหลายจังหวัด ออกมาเล่าถึงความเดือดร้อนในครั้งนี้ บางรายบอกว่าไปซื้อมาหลายร้านแล้ว มีการปรับเพิ่มราคาแทบทุกอย่าง

ผู้ได้รับความเดือดร้อนอีกรายจาก จ.นครราชสีมา ที่ออกมาเล่าว่า โครงการเราชนะของแพงขึ้นทุกอย่าง ปกติซื้อนมวัวแดงจืด 200 ml ราคา 285 บาท ตอนนี้ปรับขึ้นเป็น 305 บาท

สินค้าอีกรายที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงนี้ว่ามีการปรับราคาที่แพงเกินหน้าเกินตา นั่นก็คือ ราคาน้ำมันพืช ที่ปกติจะอยู่ในราคาประมาณ 30 กว่าบาท แต่ตอนนี้บางร้านปรับขึ้นมาในราคา 60-65 บาท

นอกจากนี้ มีหญิงสาวรายหนึ่ง จ.พิษณุโลก ที่ออกมาบอกว่า ไปซื้อมาหลายร้านแล้ว มีการปรับเพิ่มราคาแทบทุกอย่าง ซื้อนมให้ลูกลังละ 300 บาท แต่พอสแกนจ่าย บอกว่าต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 บาท เป็นค่าสแกน

ร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยังได้ติดประกาศบอกว่า ลูกค้าที่ใช้สิทธิโครงการบัตรประชารัฐ คนละครึ่ง เราชนะ ราคาสินค้าจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์


ซ้ำเติมคนเดือดร้อนช่วงโควิด

เมื่อมีการปรับขึ้นของราคาสินค้าเช่นนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ก็มองว่า แม้จะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ารวมกันแล้วหลายคนก็เป็นเงินจำนวนมาก ถือว่าเป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงโควิด ลำพังจะให้ชาวบ้านไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับเรื่องพวกนี้ มันเป็นการเสียเวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมาตรวจสอบ และดูข้อเท็จจริงปัญหาที่ชาวบ้านประสบและเจออยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้าบางรายก็มีการออกมาชี้แจงว่า ที่ของขึ้นราคา เพราะต้นทางที่ซื้อมาขึ้นราคาเช่นเดียวกันร้านขายปลีกก็จำเป็นต้องขึ้นตาม จึงอยากให้ลูกค้าทุกท่านเห็นใจแม่ค้าพ่อค้าด้วย

หลังจากที่มีผู้ใช้สิทธิ “เราชนะ” หลายคนออกมาแฉพฤติกรรมของร้านค้าที่ฉกฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ที่ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนที่ต้องซื้อของในราคาที่แพงขึ้น


ทางด้าน วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ก็ได้ออกมาเตือนร้านค้าที่ปรับขึ้นสินค้าเกินกว่าที่กำหนด พร้อมย้ำต้องติดป้ายราคาด้วย หากใครพบเจอก็สามารถร้องเรียนได้ทันที

ขณะนี้ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งออกตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ พร้อมได้ประสานให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบด้วยเช่นกัน โดยได้เน้นย้ำให้ร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด

[วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน]
หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

สำหรับร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งมีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่า ห้ามจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ห้ามรับแลกเงินแทนการซื้อสินค้า และต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน หากตรวจพบพฤติกรรมว่าทำผิดข้อกำหนดจะถูกยกเลิกออกจากโครงการทันที และอาจจะไม่สามารถจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ต่อไป

ทั้งนี้ ยังขอให้ประชาชนที่พบเห็นร้านค้าฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ให้แจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือแจ้งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที และหากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ข่าว : MGR Live


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น