xs
xsm
sm
md
lg

วัย 12 กัดฟันคว้าฝันเกินเอื้อม... “ไม่มีปัญญาส่งเรียนหมอ เพราะเรามันจน” [มีคลิป]

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดเรื่องราวของหนูน้อยยอดกตัญญูสู้ชีวิต วัย 12 ปี ทุกวันต้องตื่นตี 4 ช่วยป้าขายหมูปิ้ง สานฝันอยากเป็นหมอช่วยรักษาคนป่วย ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา พร้อมสู้กับทุกทางเดินชีวิต

ขายหมูปิ้ง สานฝันอยากเป็นหมอ

“อยากเป็นหมอค่ะ จะได้ช่วยรักษาคน เคยวาดฝัน แต่ยังไม่รู้เลยค่ะว่าจะเรียนถึงขนาดไหน”

ปอย-นภัสสร นาคน้อย เด็กกำพร้ายอดกตัญญูสู้ชีวิต วัย 12 ปี หนูน้อยที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่พร้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายครอบครัวในสังคมไทยที่ทั้งมีความพร้อม และไม่พร้อมแตกต่างกันไป

แม้จะยังเล็กมาก แต่หนูน้อยยอดกตัญญูสู้ชีวิตคนนี้รู้จักรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัว และรู้จักกตัญญูต่อปู่ย่า และป้าผู้เลี้ยงดู

ด้วยความที่มีความฝันว่าอยากเป็นหมอ เพื่อจะได้ช่วยรักษาคนอื่น แม้ต้นทุนชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ทั้งกำพร้าและยากจนจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง ทำให้ต้องดิ้นรนทุกอย่างมากกว่าคนอื่น แต่ก็พร้อมสู้กับชะตาชีวิต

เป็นเวลา 4 ปีแล้ว ที่เด็กหญิงวัย 12 ปีคนนี้ ต้องออกมาเตรียมตัวช่วยป้าขายหมูปิ้งในทุกๆ เช้า ถึงวันนี้จะลำบาก แต่ไม่อาจยอมแพ้ ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

ทุกๆ วันในตอนเช้าก็จะเห็นภาพของเด็กหญิงวัย 12 ปี ซ้อนมอเตอร์ไซค์รถพ่วง ด้วยความคิดว่าอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้ครอบครัว ด้วยการออกไปขายของช่วยป้าตั้งแต่เช้า เพราะคิดว่าป้าทำคนเดียวไม่ไหว จึงอยากแบ่งเบาช่วย

ในแต่ละวันชีวิตอาจจะไม่ได้เที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไปนัก เพราะต้องคอยหั่นหมู เสียบหมูทุกวัน ช่วยป้า แต่เด็กน้อยยอดกตัญญูคนนี้ก็พร้อมเต็มใจที่จะทำ


“ตื่นมาตี 4 ค่ะ ตื่นมาช่วยป้าเอาของขึ้นรถ ช่วยป้าจัดของ แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน ไปตอนตี 5 ถึงร้านก็ตี 5 ครึ่งแล้วค่ะ ช่วยแบ่งเบาภาระป้าด้วยค่ะ ถ้าป้าทำคนเดียวเขาไม่ไหว

หมูปิ้งขายไม้ละ 5 บาท และไม้ละ 3 บาท อร่อยค่ะ บางวันก็เหลือ บางวันก็หมด ทำแล้วได้ความสุขค่ะ”


ด้านคุณป้าของน้องปอย อย่าง ป้าแมว-ปราณี นาคน้อย ผู้ที่เลี้ยงดูหลาน ให้ความรักความดูแลเหมือนลูกแท้ๆ มาโดยตลอด
แม้รายได้จากอาชีพขายหมูปิ้งในแต่ละวันจะไม่แน่นอน แต่อย่างน้อยก็เป็นอาชีพที่ทำให้ป้าแมวสามารถเลี้ยงครอบครัวให้มีความสุข

“ตอนนี้ก็ได้ประมาณ 600-700 บาท มันก็ไม่พอรายจ่ายหรอกค่ะ เพราะว่าเช้าก็ต้องให้นักเรียนไปแล้ว 80 บาท ค่าที่อีก 40 บาท ค่าหมูอีก 400 กว่าบาท ไหนจะต้องซื้อของ ไม้ ถุง น้ำตาล อีก 100 กว่าบาท บางวันก็เหลือเงินกลับบ้าง บางวันก็ไม่เหลือกลับ

ไม่พอค่ะ บางทีก็ยืมเพื่อนบ้านบ้าง วันไหนพอไม่ต้องจ่ายอะไรเยอะ ก็เอาไปใช้เขา ไม่มีเราก็ยืมเพื่อนบ้าน ก็สอนหลานบ้าง เพราะเราไม่มีตังค์ที่จะไปเรียน เราก็ต้องมีอาชีพติดตัวเอาไว้ขาย วันหน้าจะได้ไม่ต้องลำบาก”


ส่วนเรื่องความฝันอยากเป็นหมอของหลานสาวตัวน้อยนั้น คุณป้าบอกว่า ตัวเองคงไม่มีกำลังมากพอที่จะส่งน้องเรียนไปถึงขนาดนั้น เพราะว่าเรียนหมอต้องใช้เงินเยอะ มีแค่วิชาหมูปิ้งเท่านั้นที่สอนให้ติดตัวไปทำมาหากิน

“ไม่มีหรอกค่ะ เป็นหมอต้องใช้เงินเยอะ ป้าไม่มีเงินส่งน้องเรียนหรอกค่ะ ป้าให้ได้แต่วิชา ให้ได้แต่สิ่งที่เราทำ จะให้ป้าไปส่งน้องเรียนหมอ ป้าคงไม่มีปัญญา บ้านก็ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น ก็ทำกินไปวันๆ”

ได้แต่หวังว่าความใฝ่ดีของน้องปอย จะนำความเจริญมาสู่ตัวเอง และประสบความสำเร็จในการเป็นหมอตามฝันในอนาคต


ยกป้าเป็นแบบอย่าง “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

แม้ต้นทุนชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ทั้งกำพร้าและยากจนจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง จะเหนื่อย ท้อแท้แค่ไหน หนูน้อยวัย 12 ปีคนนี้ ก็ได้รับกำลังใจ และคำสอนของคุณป้า ที่นับว่าเป็นพลังที่ดี สามารถนำเด็กหญิงคนนี้สู่ความสำเร็จอย่างที่หวัง

“เอาป้าเป็นแบบอย่าง เอาป้าเป็นกำลังใจ ป้าเขาก็เหนื่อยค่ะ คุณป้าบอกว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วความสำเร็จจะมาหาเองค่ะ”
ด้วยความประพฤติดี ขยัน กตัญญู จะสามารถนำเอาความรู้ ประสบการณ์ในชีวิตไปพัฒนาครอบครัวของตัวเองให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นต่อไปได้ ด้วยความตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุด

น้องปอยเป็นเด็กกำพร้า พ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่ก็แยกทางไปมีครอบครัวใหม่ ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต เธอจึงเติบโตมากับปู่ย่า ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับป้าแมวในเวลาต่อมา

“เมื่อก่อนเขาก็จะอยู่กับพ่อแม่ โตมาพ่อแม่ก็แยกทางกัน ป้าก็ดูแล พ่อเขาเสียไปป้าก็เป็นคนดูแลน้อง แม่เขาก็ดูบ้าง บางทีก็ไปอยู่กับแม่บ้าง บางทีแม่เขาก็มารับไปอยู่ด้วย ส่วนมากก็จะอยู่ที่นี่กับป้ากับย่า

เมื่อก่อนเขาจะอยู่กับย่า ในชุมชนมันมีคนเยอะแยะ กลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยกับน้อง ก็ให้น้องมาอยู่ด้วย เพราะบางทีย่าแกหลับ บางทีเรียกก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ บางทีเราไปเอาอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แกไม่ตื่น แกหลับลึก ก็เลยให้น้องมานอนด้วยดีกว่า ปลอดภัยกว่า”

คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่น้องปอยอายุยังน้อย ตั้งแต่ 7 ขวบ ยอมรับว่าคิดถึงพ่อกับแม่มาก แต่ก็ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา พร้อมสู้กับชีวิตในทุกๆ ด้านเสมอ

“ก่อนหน้านี้ อยู่กับพ่อแม่ ก็มีความสุขค่ะ ดีใจที่ได้อยู่กับพ่อแม่ ตอนที่พ่อเสียก็อยู่ด้วย พ่อเสียด้วยโรคปอด พ่อเสียที่บ้านตอนหนูอายุ 7 ขวบค่ะ ก็เข้าไปกอดแล้วบอกพ่อว่า ทำไมพ่อไปเร็วจัง”


ชีวิตที่ต้องขาดพ่อ ไร้แม่คอยดูแลใกล้ชิด แต่หัวใจดวงน้อยของน้องปอย ยังคิดถึงผู้เป็นแม่เสมอ เมื่อไหร่ที่คิดถึงพ่อก็ดูรูปต่างหน้า เมื่อไหร่ที่คิดถึงแม่ก็โทร.หาให้คลายความคิดถึงได้บ้าง

“แม่เขามีครอบครัวแล้วค่ะ ไม่น้อยใจค่ะ เพราะว่าแม่ก็ต้องอยู่กับแฟนเขาค่ะ คิดถึงก็ดูรูปค่ะ ก็เคยโทร.คุยกับแม่ค่ะ บอกว่า ว่างๆ แม่มาหาหนูหน่อยนะ คิดถึงแม่ค่ะ”

ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน เด็กหญิงวัย 12 ปีผู้นี้ ไม่เคยย้อมแพ้ และมีความสุขที่ได้อยู่กับป้าและดูแลคุณปู่คุณย่าผู้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก

“ช่วยป้าขายของกับช่วยย่าดูแลคุณปู่ นี่คือ ความสุขของหนู รักป้าที่สุดค่ะ ไม่รู้เพราะอะไร มันพูดไม่ถูก”

ไม่เพียงเท่านี้ ป้าแมวบุคคลที่เลี้ยงดูหลานต่อจากพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว เล่าพร้อมน้ำตาว่า รักหลานเหมือนลูกแท้ๆ และรู้สึกสงสารหลานมากที่เลี้ยงได้ไม่ดีเท่าตอนที่พ่อน้องยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ถือว่าทำเต็มที่ที่สุดแล้ว

“บางทีแม่เขาเอาไปนอนด้วย เวลามาส่งเขาก็จะร้องไห้ ก็มีหยิบโทรศัพท์มานั่งดูรูปแม่ ดูรูปพ่อ ป้าก็รักหลานเหมือนลูก เลี้ยงเหมือนลูกป้าเหมือนกัน ไม่ทิ้งเขา อยากให้เขาตั้งใจเรียนสูงๆ จะได้มาเลี้ยงตัวเองได้ในวันที่ป้าไม่อยู่ค่ะ

ป้าสงสารน้อง น้องไม่มีพ่อ เมื่อก่อนตอนน้องมีพ่อ น้องได้อยู่ดี กินดี ไม่มีพ่อแล้วป้าก็ไม่มีปัญหาที่จะเลี้ยงน้องได้ดีเท่าพ่อเขา (ร้องไห้)

เมื่อก่อนพ่อเขาอยู่ เขาอยากได้อะไรเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เขาอยากได้อะไร เขาก็ไม่ได้ค่ะ เขาก็น่าสงสาร อยากจะไปอยู่กับแม่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าแม่เขาเช่าห้องอยู่ จะเอาน้องไปอยู่ด้วยก็ลำบาก เขาก็เป็นห่วงลูกว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกค่ะ เป็นเด็กผู้หญิงด้วย ถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็คงเอาไปอยู่ได้”


ยอดกตัญญู ตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงมา

หนูน้อยยอดกตัญญู พยายามใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ที่สุด หลังเลิกเรียนก็ต้องรีบกลับไปดูแลปู่ที่ป่วยพิการติดเตียง ด้วยความรักความผูกพันที่ปู่และย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ทำให้มีความเคารพนับถือทั้งคู่เหมือนพ่อแม่ที่แท้จริง น้องปอยเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมน้ำตาคบอเบ้าอยู่ตลอดเวลา

นี่อาจจะเป็นหนึ่งแรงผลักดันในการอยากจะเรียนหมอ เพราะเห็นคุณปู่ป่วยแล้วจึงอยากช่วยให้เต็มที่ที่สุด

“คุณปู่ป่วย นานได้ปีกว่าๆ แล้วค่ะ โดนรถเฉี่ยว ตอนนั้นตกใจ ห่วงปู่ค่ะ ทำอะไรไม่ถูก ก็ไปเยี่ยมปู่ที่โรงพยาบาล พอปู่กลับมาบ้านก็ต้องช่วยดูแล เพราะว่าย่าเขาทำไม่ไหว คุณย่าอายุ 70 กว่าแล้ว ช่วยแบ่งเบาภาระย่า สงสารย่าด้วยค่ะ

อยากให้ปู่หาย เคยพูดกับปู่ว่าเมื่อไหร่ปู่จะหาย เคยถามย่าว่ามีโอกาสไหมที่ปู่จะหาย (ร้องไห้) ย่าก็ไม่ได้ตอบค่ะ ก็ห่วงปู่มาก รักปู่มาก”

[หลังเลิกเรียน รีบกลับมาดูแลปู่ที่ป่วยพิการติดเตียง]
ด้านคุณย่า อย่าง ประชุม เย็นกลม ที่หนูน้อยวัย 12 ปี เคารพเหมือนพ่อแม่ ก็เล่าถึงความลำบากของการเจ็บป่วยที่ได้หลานสาวสุดที่รักไปช่วยดูแลอีกแรง

“คุณปู่เขาจะปวดขา เขาจะร้องครวญคราง บางทีกลางคืนก็นอนดิ้น สมองไม่ค่อยจะดี 80 ปีแล้ว ขาก็เหยียดไม่ออก เขาก็ให้เอาน้ำร้อนประคบ ป้าก็ทำไม่ค่อยจะไหว ป้าเองก็โรคความดัน ไขมัน อยู่ๆ ขาก็บวม ก็ไม่รู้สาเหตุอะไร เหนื่อยหอบ ไม่ค่อยจะไหว”

ทั้งช่วยป้าขายของหมูปิ้งตอนเช้า และต้องดูแลคุณปู่ที่พิการติดเตียง ก็ไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง นั่นคือ การเรียนหนังสือ มีหน้าที่ต้องทำเยอะแค่ไหนก็ไม่เคยไปโรงเรียนสาย และยังอาสาช่วยงานโรงเรียนอยู่เป็นประจำอีกด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งความกตัญญูและความรับผิดชอบ

นอกจากกิจกรรมเด่น การเรียนเป็นเลิศแล้ว ด้านกิริยามารยาทก็งดงาม หนูน้อยยอดกตัญญูเธอเคยไปประกวดมารยาทไทย จนได้รับรางวัลในระดับจังหวัดอีกด้วย

หลังเลิกเรียน น้องปอยกับเพื่อนๆ มักจะรวมตัวกันซ้อมรำ รับงานแสดง เพื่อเป็นรายได้เสริมมาใช้จ่าย เป็นค่าขนมไปโรงเรียนในบางวัน

ได้แต่หวังว่าความกตัญญู และความใฝ่ดีของหนูน้อยสู้ชีวิตคนนี้จะนำพาเธอไปสู่ความฝัน ที่วาดฝันไว้ได้อย่างสำเร็จ




สัมภาษณ์ : รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ
เรียบเรียง : MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น