xs
xsm
sm
md
lg

เสียทั้งร้าน เสียเป็นล้าน เพราะโควิด!! เปิดใจ “ชาบูอู๊ดเป็นต่อพัทยา” ในวันที่เมืองท่องเที่ยวกลายเป็นเมืองร้าง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เซ่นพิษโควิด-19 อีกราย! “ชาบูอู๊ดเป็นต่อสาขาพัทยา” ประกาศปิดตัวหลังวิกฤตโรคระบาดกระทบจนไปต่อไม่ไหว ด้านผู้ดูแลเผยเสียหาย 7 หลัก รอบนี้หนักกว่าครั้งแรก ขณะที่เพจดังเผยชุดภาพ “ในวันที่พัทยาติดโควิด-19” เงียบเหงาจนไม่ต่างอะไรจากเมืองร้าง!!!

ยอมถอยเพื่อตั้งหลัก

“update เปิดอีกแค่ 10 วันสุดท้ายค่ะ จะปิดอย่างเป็นทางการทางการวันที่ 24 มกราคมนี้ค่ะ แจ้งให้ลูกค้าทราบ ถึงเวลาต้องบอกลากัน ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นไป #ร้านชาบูอู๊ดเป็นต่อพัทยากลางสาย 3 บริหารโดย M.A.P Interfood จะปิดกิจการลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

ทางเราขอขอบพระคุณ คุณลูกค้าทุกท่านที่เคยมาอุดหนุน ขอบคุณที่อยู่กับเรามาถึง 3 ปี ถ้าลูกค้าต้องการสนับสนุนเราต่อ สามารถแวะมาทานได้ที่ร้านอาหารบ้านย้อมคราม ศรีราชา นะคะ การันตีอาหาร รสชาติความอร่อย ใส่ใจเหมือนเดิมค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เป็นอีกหนึ่งกิจการที่เป็นอันต้องปิดตัวลง เหตุเพราะพิษโควิด-19 สำหรับร้าน “ชาบูอู๊ดเป็นต่อสาขาพัทยา” ธุรกิจแฟรนไชส์ของ ธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อู๊ดเป็นต่อ” นักแสดงตลกชื่อดัง ซึ่งสาขานี้ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงที่พบการระบาดของโควิด-19 เป็นจำนวนมาก

โดยการปิดตัวลงของชาบูชื่อดังสาขานี้ สร้างความเสียดายของลูกค้าที่เคยแวะเวียนมารับประทาน ทำให้ทางร้านขยายเวลาตามคำเรียกร้อง เปิดให้บริการต่อไปจนถึงวันที่ 23 มกราคม 2564

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ชุติมา” ผู้ดูแล “ชาบูอู๊ดเป็นต่อสาขาพัทยา” ได้เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอกล่าวว่า การกลับมาระบาดอีกระลอกของโควิด-19 ในครั้งนี้หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าครั้งแรก ส่งผลให้ที่ร้านเสียหายหลักล้าน!


“ยิ่งกว่าครั้งแรกค่ะ เพราะว่าพื้นที่เราอยู่ในพื้นที่บางละมุง ทำให้จากเดิมคนที่อยู่กรุงเทพฯ เรามีลูกค้ากรุงเทพฯ อยู่ เพราะเวลามาเขาจะแวะมาทาน ลูกค้ากรุงเทพฯ มาไม่ได้ ลูกค้าต่างอำเภอก็ไม่อยากมา เพราะพื้นที่สีแดง

เปิดมาปีนี้จะเข้าปีที่ 3 แล้วค่ะ ถ้าปิดร้านก็ 7 หลักเหมือนกัน พวกทุนตกแต่งร้านก็ 3 ล้านกว่าแล้ว แล้วของในสต๊อก ค่าเครื่องครัว ค่าของอีก ซึ่งถ้าเราเซ้งตอนนี้ก็ไม่มีใครมีกำลังที่จะลงทุนอยู่แล้ว เพราะตลาดมันไม่มีดีมานด์

พนักงานตอนนี้เหลือ 5-6 คน ตั้งแต่โควิด-19 มาเราก็ resize ลง พื้นที่แต่ก่อนมันจุได้เยอะ ก็เหลือแค่รอบหนึ่งรับประมาณไม่เกิน 30 ท่าน ก็จำกัดลงหลายอย่าง มีลูกค้าประจำอยู่ บางคนกินตั้งแต่ท้องจนคลอดลูก ก็ให้ลูกค้าตั้งตัว เปิด 10 วันสุดท้าย”

พร้อมกันนี้ เธอยังช่วยสะท้อนสถานการณ์ในเมืองพัทยา จากเดิมที่เคยเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลก แต่ขณะนี้แทบไม่ต่างอะไรจากเมืองร้าง

กลางวันแทบไม่มีรถผ่านเลยค่ะ ไม่มีเลย ไม่รู้จะออกมาทำไมไม่มีร้านให้นั่งกิน ต้องบอกว่าแต่ก่อนด้วยที่ร้านเรา ก่อนโควิด-19 ก็ยังมีทัวร์ พอทัวร์ไม่มี แล้วพอโควิด-19 รอบแรกมันก็หนัก แต่พอมารอบนี้ การประกาศว่าบางละมุงเป็นพื้นที่สีแดง ทำให้คนที่อยู่ในละแวกชลบุรี เช่น ศรีราชา แหลมฉบัง เขาก็ไม่มา เขาบอกเป็นพื้นที่เสี่ยง

ลูกค้าเราก็รายได้น้อยลงเยอะ เนื่องจากว่าพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว โรงแรมเอย พนักงานโรงแรมตั้งกี่หมื่นกี่พันชีวิตในพัทยา มีทั้งโดยจ้างหยุดไม่ได้จ่ายเงินเดือน ไม่ได้รับค่าจ้าง โดนออก บางส่วนก็กลับต่างจังหวัด ทำให้เศรษฐกิจในพัทยากำลังจับจ่ายมันน้อยลง”

วอนภาครัฐดูแลผู้ประกอบการ

ไม่เพียงแค่ร้านอาหารเท่านั้น ทางด้านของ เพจ “Trip กะ Dolls” ยังช่วยสะท้อนภาพของเมืองพัทยาที่เงียบเหงาในเวลานี้ ผ่านชุดภาพ “ในวันที่พัทยาติดโควิด-19” โดยการพาตุ๊กตาแอนนาเบลล์ และตุ๊กตาชักกี้ อันเป็นคาแร็กเตอร์ตัวละครจากหนังสยองขวัญ ไปแชะภาพตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง ทั้งชายหาดพัทยา ท่ารถขนส่ง ไปจนถึง Walking Street อันเลื่องชื่อ ซึ่งภาพที่ได้ออกมานั้นดูน่าขนลุกและเศร้าในเวลาเดียวกัน เรียกเสียงฮือฮาจากชาวโซเชียลฯ ไปเป็นจำนวนมาก





[ ภาพจากเพจ “Trip กะ Dolls” เผยให้เห็นบรรยากาศสุดเงียบเหงาของเมืองพัทยาขณะนี้ ]

ผู้ดูแลร้านบุพเฟต์กล่าวต่อถึงแผนการรับมือโควิด-19 ที่ผ่านมา นอกจากกระทบถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ต้องสั่งมาก่อนแล้ว ยังต้องปรับแผนเป็นการส่งเดลิเวอรีแทนการนั่งรับประทานที่ร้าน แต่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ยอดขายลดลงเหลือแค่หลักพันต่อวัน

“นั่งทานได้แต่มันก็เข้มงวด ยิ่งประกาศว่าอำเภอตรงนี้เป็นพื้นที่สีแดง หนักเลย แล้วมาเจอระลอกสอง ประกาศเป็นพื้นที่สีแดง ห้ามนั่งกินข้าว มันลำบากจริงๆ ก็มีอยู่วันที่เขาประกาศวันนั้นช่วงเช้า เราก็ยังเปิด แล้วลูกค้าพอรู้ว่าห้างปิด ทุกคนก็หาที่กินข้าว เราก็รับไม่ได้ เนื่องจากสายตรวจขี่มอเตอร์ไซค์ดูทั้งวันเลยว่าร้านไหนให้คนนั่งบ้าง ถามว่าประชาชนผิดอะไรแค่นั่งกินข้าว ในขณะที่ที่บ่อน ปัญหาต้นตอของบางละมุง ทำไมเขาไม่รัดกุมแบบนี้บ้าง

จากภาวะลูกแรกเราก็ยอมขาดทุน 3 เดือนที่เปิดมา ของที่สั่งมาสต๊อกแล้วเขาก็สั่งปิดทันที ของสต๊อกมันใช้ไม่ได้อยู่แล้วเพราะเราใช้ของสดทุกวัน รวมถึงน้ำจิ้ม หัวน้ำซุปที่สั่งมาสต๊อกเอาไว้ อันนั้นก็เป็นแสน ไหนจะพนักงานอีก ค่าเช่าร้าน ค่าไฟ



ถามว่ารับมือยังไงเราก็ปรับตัวในการทำเดลิเวอรี ยอดในการเดลิเวอรีต้องบอกว่าวันหนึ่งประมาน 2-3 พันเองค่ะ ไม่ได้เยอะเลย มันไม่คุ้มค่ะ แต่ด้วยความที่มันเป็นชาบู และเป็นบุฟเฟต์มาตั้งแต่แรก ลูกค้าก็มีความรู้สึกอยากมานั่งทานที่ร้านมากกว่า มีช่วงที่เขาให้ปิดไปชั่วคราว เราก็ปรับมาเป็นดีลิเวอรี พอให้เปิดเต็มตัวเราก็เปิดไม่ได้หยุดเลย

ขณะที่เจ้าของธุรกิจอย่าง “อู๊ดเป็นต่อ” ก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อถึงกิจการของตนเอง แน่นอนว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่เขายืนยันว่าต้องสู้ต่อไป

“มีผลกระทบรุนแรงอยู่ อย่างวัตถุดิบที่สต๊อกไว้ มันก็ไม่มีการหมุนเวียน ต้องมีค่าใช้จ่ายไปก่อน ตรงนี้การทำธุรกิจถ้าเงินมันหมุนตามที่ตั้งไว้ มันก็จะไปเรื่อยๆ ไปตามแผน แต่พอเจออย่างนี้มันสะดุดเลย น่าจะพอๆ กัน หรืออาจจะหนักกว่า เพราะว่าคราวที่แล้วบางสาขาหรือบางเจ้าก็ยังผ่อนชำระยังไม่หมด



คราวนี้ครั้งที่ 2 มาแล้ว แต่เราสู้อยู่แล้ว เครียดนะ แต่ต้องยิ้มสู้ เครียดมาก เครียดจริงๆ แต่เราพยายามสร้างกุศโลบายให้ตัวเอง อย่าไปเครียด มองบวกเข้าไว้ มันจะเป็นอะไรก็ต้องเป็น เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ แต่เตรียมรับมือไว้ให้ดีก่อนหน้าที่มันจะมา หรือหลังที่จะไปแล้วมันจะเป็นยังไงอีก”

สุดท้าย ตัวแทนร้านชาบูเจ้าดังได้ฝากไปถึงหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่เมืองพัทยา ถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรม ท่ามกลางกิจการมากมายที่เตรียมปิดตัวตามกันไปอีกหลายเจ้า

“ตอนนี้ทุกคนก็มองดูว่าทางรัฐกำลังจะทำอะไรอยู่มั้ยกับต้นตอปัญหา เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามาจากบ่อนในพื้นที่ แต่กลับเป็นเราได้รับผลกระทบเต็มๆ และไม่ได้มีการเยียวยา ไม่ได้มีการช่วยเหลือเท่าที่ควร



อยากจะฝากทางราชการเขาดูแลบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นทางเมืองพัทยาเอง หรือว่าทางหน่วยงานรัฐเอง ก็ยังไม่มีมาตรการอะไรที่ดูแลประชาชนจริงๆ

ด้วยความที่เราเป็น SME ยังมีลูกจ้างที่ต้องดูแล ถ้าล้มมันก็ไม่ใช่แค่เรา ก็อดทน แล้วพัทยาหลายร้านก็แพลนที่จะปิดเหมือนกันเพราะเขาไม่ไหว ก็คิดว่าจริงๆ แล้วปิดไปตั้งหลักดีกว่า ถอยเพื่อตั้งหลัก กำลังใจก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ อดทนค่ะ บอกได้แค่คำเดียว



ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : แฟนเพจ “ชาบูอู๊ดเป็นต่อพัทยา” และ “Trip กะ Dolls





** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น