ตะลึง! “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์คนดัง ไลฟ์ 1 ชั่วโมง ขายได้ 16,000 ออเดอร์ หลังผ่านเหตุการณ์ดรามา ควัก 5 แสนติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้เด็กบนดอย ย้ำ “จะขอตั้งใจทำความดีต่อไป”
ยิ่งดรามา ยิ่งรวย?!
เชื่อได้เลยว่า นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์และยูทูปเบอร์ชื่อดัง กับกรณีล่าสุด ที่เธอและทีมงานเดินทางไปยัง หมู่บ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยการควักเงินส่วนตัวกว่า 550,000 บาท เปลี่ยนเป็นค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้า สร้างแปลงผัก และซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมอบแก่เด็กๆ หลายสิบชีวิตที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดให้สังคมได้เห็นผ่านคลิปวิดีโอ "สุขสันต์วันเด็ก พิมรี่พายจัดใหญ่ให้น้องบนดอยสูง" จนสร้างความประทับใจไปทั่วทั้งโซเชียล โดยปัจจุบันมีผู้เข้าชมคลิปนี้ไปแล้วบนยูทูปกว่า 4.9 ล้านครั้ง
ทว่า… หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่มุม จนสร้างแรงกระเพื่อมกระทบไปถึงหลายภาคส่วนด้วยกัน งานนี้ทำให้คนต้นเรื่องต้องออกมาไลฟ์ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีใจความยืนยันถึงเจตนาของตนที่อยากช่วยเหลือเด็กบนดอย และต้องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทย เนื่องจากเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณคน และขอกราบขอโทษที่ไม่ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก่อน
ส่วนตัวไม่รู้สึกท้อถอยหรือเศร้าเสียใจแต่อย่างใด จะขอตั้งใจทำความดีต่อไปเพราะเชื่อว่าทำก็ยังดีกว่าไม่ทำ พร้อมซัดพวกจับโยงดรามาอย่าใช้ตนเองเป็นเครื่องมือมาทะเลาะกัน ยืนยันอีกครั้งไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนมารังแกทั้งนั้น ไม่ต้องเซฟตนเอง
“ไม่พูดไม่ได้เรื่องนี้ พวก-งดรามาเหี้_อะไรกัน ดรามาอะไรกันก่อน เอา-ไปโยงทำไม เอา-ไปเป็นเครื่องมือความสนุกของพวก-งให้พวก-งทะเลาะกันทำไม มึงโยงเหี้_อะไรนักหนา แล้วอย่างนี้คนทำความดีจะทำต่อได้ไหม เงิน-หาเอง เดี๋ยวแจกเอง ไม่ต้องสอน สาระแน เดี๋ยวตบติดข้างฝา จบแล้วจะขายของ” แม่ค้าออนไลน์สุดแซ่บกล่าว
หลังจากที่ชี้แจงในประเด็นร้อนเป็นที่เรียบร้อย เธอก็ทำหน้าที่การเป็นแม่ค้าตามปกติ เป็นอีกครั้งที่เธอสร้างความตกตะลึงให้แก่คนบนโลกโซเชียลด้วยการมีผู้เข้าชมระหว่างไลฟ์สูงถึง 500,000 คน และในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง สามารถปิดการขายไปได้กว่า 16,000 ออเดอร์!!!
ทีมข่าว MGR Live จะพามาาย้อนชมกระแสความปัง ที่มาควบคู่กับดรามาร้อนๆ ของผู้หญิงเก่งรอบด้านนามว่า “พิมรี่พาย” ได้ตามบรรทัดต่อจากนี้
“พิมรี่พาย” หรือชื่อจริงคือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ วัย 30 ปี จากจุดเริ่มต้นในเส้นทางสายอาชีพนี้ที่มาจากการเป็นแม่ค้าตลาดนัด สู่การเป็นแม่ค้าไลฟ์สดผ่านทางแฟนเพจ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง” โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ก่อตั้งเพจมา ปัจจุบันมีผู้กดถูกใจในเพจสูงถึง 1.7 ล้านคน
ด้วยลีลาการขายที่เป็นเอกลักษณ์ กับประโยคเรียกลูกค้า “คุณลูกค้าขาๆ” ที่แสนจะติดหู อีกทั้งฝีปากอันจัดจ้าน ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ในเวลาไม่นาน
สำหรับสินค้าที่เธอขายนั้นก็มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม เครื่องสำอาง เครื่องรางของขลัง ไปจนถึงอาหารการกิน อย่างพริกทอด น้ำพริกกากหมู น้ำปลาร้า และอื่นๆ อีกมากมาย อาจเรียกได้ว่า สากกะเบือยันเรือรบ สมกับชื่อที่ว่าพิมรี่พายขายทุกอย่างจริงๆ
เตือนใจสายบริจาค “ต้องชัดเจนและโปร่งใส”
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังเผยว่า เธอคือผู้ถือหุ้นใหญ่ในกิจการด้านความสวยความงามอยู่ 2 บริษัท ทั้ง บริษัท พิมรี่พาย คอสเมติก จำกัด ขายส่งเครื่องสำอาง นำเข้าและจำหน่ายเวชสำอาง อาหารเสริม และอื่นๆ โดยมีการจัดทะเบียนมาตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
และ บริษัท พิมรี่พาย สกินแคร์ จำกัด กิจกรรมคลินิกโรคเฉพาะทาง ประกอบกิจการคลินิกเวชกรรมศัลยกรรม ดูแลรักษาผิว และศัลยกรรมทุกชนิด โดยมีการจัดทะเบียนมาตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์ ในชื่อช่อง “พิมรี่พาย” ที่มีผู้กด Subscribe ไปแล้วกว่า 2.86 ล้านคน ผลิตคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์ให้บรรดาแฟนคลับได้รับชม และล่าสุดกับบทบาทการเป็นนักร้อง ที่ปล่อยซิงเกิ้ลแรกในชีวิต “อย่านะคะ” โดยมีเนื้อหาสุดแซ่บตามสไตล์ของเจ้าตัว แถมโปรดักชันของ MV ก็สุดปัง
ทำให้ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่เพลงถูกปล่อย มีผู้เข้าชมไปแล้วถึง 2 ล้านครั้ง และจนปัจจุบันก็มียอดผู้เข้าชมสูงถึง 26 ล้านครั้งด้วยกัน
และในช่วงหลัง ชื่อของพิมรี่พาย พบเห็นบ่อยขึ้น ในฐานะสาวใจบุญตระเวนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และทำความดีตอบแทนสังคม อีกทั้งยังเคยมอบเงินกว่า 300,000 บาท เพื่อเป็นค่าเทอมแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเจ้ามูลทั้งโรงเรียนมาแล้ว จนกระทั่งมาถึงคลิปวิดีโอที่เป็นประเด็นล่าสุด
สุดท้ายนี้ ทางด้านของ เกิดผล แก้วเกิดทนายความชื่อดัง ได้กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องของการบริจาคในเหตุการณ์ไว้ว่า แม้ทางด้านของพิมรี่พายจะใช้เงินส่วนตัวในการช่วยเหลือ แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มที่เรี่ยไรเงินบริจาคในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และการนำเงินไปใช้ของครูในพื้นที่ จนเกิดเป็นประเด็นขึ้นมา จึงอยากให้ใครก็ตามที่ทำในส่วนของการบริจาคมีความชัดเจนและโปร่งใส ไม่เช่นนั้นอาจมีความผิดทางกฎหมายได้
[ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ]
“คุณพิมรี่พาย รวมถึงทุกคนที่ไปบริจาค ก็ไม่อยากให้หมดกำลังใจ ทำในสิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ทำให้มันดีต่อไป ส่วนตัวผมก็ยังเห็นว่าการบริจาค ยังมีความจำเป็นอยู่เพราะว่าเรารอหน่วยงานรัฐไม่ได้ บางครั้งหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นเอง งบประมาณก็ไม่เพียงพอหรือล่าช้า เราเอกชนที่มีกำลังพอก็มาร่วมกัน ช่วยกันบริจาค
แต่กฎหมายก็มีช่องโหว่มากเพราะไม่ครอบคลุมถึงเรื่องของการบริจาคผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ครอบคลุมถึงเรื่องของการบริจาคเฉพาะที่สาธารณะ เพื่อสาธารณประโยชน์เท่านั้น แต่ถ้าบริจาคเพื่อการสาธารณประโยชน์และที่สาธารณะ ต้องขออนุญาต ซึ่งมันทำให้เห็นว่ามีมิจฉาชีพแอบแฝงหรือรับบริจาคแล้วตรวจสอบยาก กฎหมายก็ลงโทษน้อย ปรับไม่เกิน 200 บาทเอง ตัวเองเรี่ยไรได้เป็นหมื่นเป็นแสนก็มี มิจฉาชีพบางคนก็แอบอ้างได้
เพียงแต่การรับบริจาค การตรวจสอบ การรับเงิน การส่งมอบ การดำเนินการต่างๆ มันต้องตรวจสอบได้ โปร่งใส ไม่ใช่บริจาคเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รับไปเท่าไหร่ไม่รู้ ส่วนคนที่รับก็ไม่เปิดเผย อันนี้ผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง อยากให้มีหน่วยงานที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อความโปร่งใสและสุจริตครับ”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **