xs
xsm
sm
md
lg

“สาวนวมเหล็กชาติอินเตอร์” หัวใจเพื่อเด็กไทย พร้อมสอนฟรี แม้เหลือเพียงคนเดียว!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจาะเรื่องราวชีวิตของสาวฝรั่งหัวใจเพื่อเด็กไทย เปิดค่ายมวยสอนฟรีมาหลายปี แบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เพียงแค่อยากให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้จุนเจือครอบครัว ห่างไกลยาเสพติด แม้เพื่อนบางคนจะมองว่า เธอเอาชีวิตมาทิ้งที่เมืองไทย ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีหลักประกันใดๆ แต่เธอก็เลือกแล้วที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า ไม่เลิกสอนมวย แม้เหลือเด็กแค่คนเดียว

ฝรั่งหัวใจเพื่อเด็กไทย

“ไม่หวังว่าเด็กที่เราดูแลจะกลับมาดูแลเราในวันหน้า อยากให้เขาใช้ชีวิตอิสระ อยากให้เขามีตังค์ อยากให้เขาสบาย อยากให้เขายืนอยู่ระยะยาวได้ เราไม่คิดแบบนี้เพราะเราดูแลตัวเองได้ อยากบอกเด็กทุกคน พรุ่งนี้ก็สายแล้ว อยากทำอะไรก็ทำวันนี้ แล้วก็ต้องทำเต็มที่ เพราะว่าชีวิตทุกวันนี้ มีแต่จริงจังอย่างเดียว ถ้าไม่จริงจังก็ไม่รอด ทำอะไรก็ทำเต็มที่ พรุ่งนี้ก็สายแล้ว”

มะลิ หรือฟรานเซส วัฒนะยา สาวแคนาดา วัย 33 ปี ผู้หลงเสน่ห์มวยไทย ลงทุนทำงานเก็บเงิน ก่อนบินลัดฟ้ามาเมืองไทยเพื่อเรียนรู้และหาประสบการณ์เกี่ยวกับมวยไทยอย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 19

ชีวิตเหมือนดั่งพรหมลิขิต ทำให้เธอโคจรมาพบกับ “บุ๋ม-ธนิต วัฒนะยา” ที่ซ้อมมวยอยู่ค่ายเดียวกันในขณะนั้นที่กรุงเทพฯ แม้จะพูดคนละภาษา แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความรัก ในที่สุด ทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน

หลังแต่งงาน ทั้งคู่กลับไปใช้ชีวิตครอบครัวที่ จ.บุรีรัมย์ แต่ต่อมาสาวฝรั่งหัวใจไทยรู้สึกอยากกลับไปเรียนหนังสือต่อที่แคนาดา เพราะคิดว่าในวัย 20 ปี ถ้าไปเรียนต่อ ชีวิตน่าจะดีกว่าการชกมวยที่ได้ค่าตัวครั้งละ 1,000-2,000 บาท จึงตัดสินใจชวนสามีไปแคนาดาด้วยกัน

ชีวิตต้องหวนกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้ให้กำเนิดทายาทลูกสาวตัวน้อย หลังเธอเรียนจบมหาวิทยาลัย ยังไม่ทันมีงานทำ สามีเป็นห่วงพ่อที่อยู่เมืองไทย จึงตัดสินใจกันกลับมาเยี่ยมพ่อ และอยู่เมืองไทยยาวจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปีแล้ว

หลังกลับมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย เธอทำงานเป็นครูอยู่ระยะหนึ่ง ส่วนสามีไปสอนมวยที่ต่างประเทศบ้าง ด้วยความเป็นนักมวย เธอจึงชอบซ้อมมวยอยู่หน้าบ้านยายอ่อง แม่ของเทรนเนอร์ที่เคยสอนมวยไทยให้เธอเมื่อเด็กๆ ในหมู่บ้านเห็นเข้า จึงชอบใจ ต่างพากันมาขอเข้ามาซ้อมด้วยหลายคน

ก่อนตัดสินใจเปิดค่ายมวย เพื่อสอนมวยไทยให้เด็กๆ ที่สนใจและขาดโอกาสโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะต้องการให้เด็กๆ ห่างไกลจากยาเสพติด


สาวแคนาดาผู้เลือกมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย และอุทิศตนสอนมวยไทยให้แก่เด็กๆ ในภาคอีสานฟรี ใน จ.นครราชสีมา ทั้งดูแลเด็กๆ ราวกับลูกหลาน ไม่เพียงช่วยให้เด็กๆ ห่างไกลจากยาเสพติด แต่ยังสร้างอนาคตให้เด็กเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่ยากจน ให้มีอาชีพและเลี้ยงครอบครัวได้อีกด้วย

“ให้เด็กห่างไกลยาเสพติด ให้เด็กจบ ม.6 สำหรับเด็กเราก็เห็นผล ที่เราดีใจก็คือเด็กเขาจะห่วงอนาคตตัวเองมากกว่า เพราะว่าเขาจะเห็นทางออก แฟนเป็นคนในหมู่บ้านนี้เขาก็เห็นแฟนไปสอนมวยอยู่ต่างประเทศ เห็นแฟนมีรถ 2 คันตอนนี้ เขาก็เห็นทางออกเขาก็จะห่วงชีวิตห่วงอนาคตตัวเอง

มีคนหนึ่งเขามาซ้อมมวยด้วย น้ำหนักลดเป็นสิบกิโล จากเด็กที่ไม่แข็งแรง หอบด้วยเขาก็มาชกมวยด้วยแล้ว 3 ครั้ง ไม่เคยแพ้ด้วย มะลิว่าเด็กทุกคนในค่ายดีขึ้น มีมารยาทขึ้น มีระเบียบวินัยมากขึ้น ความแข็งแรงสุขภาพตัวเองดีขึ้นทุกคน”


แม้เพื่อนบางคนที่ต่างประเทศบอกว่า เธอเอาชีวิตมาทิ้งที่เมืองไทย เพราะอยู่เมืองไทยลำบากกว่าอยู่แคนาดา ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีหลักประกันใดๆ แต่เธอเลือกแล้วที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่

ด้วยหัวใจที่งดงามไม่เพียงช่วยให้เด็กสุขภาพดี และมีรายได้จากการชกมวยเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่เธอยังรักและดูแลเด็กๆ ราวกับเป็นลูกของเธอเองจึงยอมทุ่มเทและเสียสละแรงกายแรงใจทุกอย่างเพื่อเด็กๆ เหล่านี้ให้มีอนาคตที่ดีขึ้น

“เขามาอยู่กับเราแล้ว เขาก็ไว้ใจเรา เราก็ต้องดูแลบ้าง ก็ช่วยกัน เด็กก็มาซ้อมมวยให้เราทุกวัน มะลิก็บอกว่าเป็นคนจริงจัง เขาก็มาซ้อมทุกวัน เขาอยู่ในระเบียบของค่าย เราก็ช่วยบ้าง

ไม่ใช่แบบอย่างเราเห็นขยะแล้วเราไม่เก็บ ทำไมเราไม่เก็บ เราก็เก็บได้ เราก็ต้องเก็บ ถ้าเราเห็นขยะแล้วเดินผ่านไม่เก็บ แล้วก็เอาแต่โทษคนที่ทิ้ง ช่วยได้ก็ต้องช่วย

ชีวิตก็ไปทางนี้แล้ว มะลิก็เป็นคนจริงจัง ถ้าทำอะไรก็ทำเต็มที่ กีฬามวย มวยที่ต่อยกับเราเขาเรียกว่ามวยอาชีพ ต้องคุมการกิน การพักผ่อน การฟิตซ้อม มันต้องจริงจัง แล้วทุกค่ายเรื่องมวยอาชีพมันต้องจริงจัง”

นอกจากความทุ่มเทและเสียสละแล้ว แต่ละครั้งที่พาเด็กขึ้นชกก็จะมีค่าตัวในการชกให้ทุกครั้ง แต่เธอในฐานะผู้ฝึกซ้อมและเจ้าของค่ายเองก็ไม่เคยหักค่าตัวแม้แต่บาทเดียวจากการขึ้นชก

“ไม่หักค่ะ แต่เด็กทุกคนที่อยู่กับมะลิก็ต้องเก็บตังค์เป็นระเบียบของค่าย ถ้าไม่เก็บก็ไม่ได้ เราทุ่มเทชีวิตก็ต้องเห็นใจเรา เด็กทุกคนช่วงโควิด-19 มามวยไม่ได้ชก เด็กทุกคนมีเงินในบัญชี มะลิจะเป็นคนเก็บให้ ชกมวยเสร็จก็ต้องเก็บ ก็มีที่ไปซื้อโทรศัพท์ รองเท้าด้วยก็มี เราก็ต้องเห็นใจเด็กด้วยใช่ไหมคะ ก็ดีมากค่ะของเรา”


แบกค่าใช้จ่ายราวแม่ของลูก

ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เธอต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างแทนเด็กๆ เวลาพาเด็กๆ ไปชกมวยแต่ละครั้ง มะลิก็ไม่หักค่าตัวเด็กสักบาท แถมยังสอนให้เด็กๆ เก็บออมเงินที่ได้จากการชกอีกต่างหาก เรียกได้ว่า มะลิช่วยให้เด็กได้ทั้งสุขภาพที่ดี และมีรายได้จุนเจือครอบครัว

ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในความดูแลของค่ายมวย ว.วัฒนะ 15 ชีวิต มีทั้งเด็กที่ไปกลับ และเด็กที่พักอยู่ค่ายมวย หน้าที่เจ้าของค่ายจึงแทบไม่ต่างจากพ่อแม่ของเด็กๆ เหล่านี้

ฝรั่งหัวใจเพื่อเด็กไทยเล่าว่า ในแต่ละวันต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาจัดเตรียมการฝึกซ้อม เตรียมอาหารการกิน ตลอดจนพาเด็กไปส่งที่โรงเรียน

“แต่ละวันก็ตื่นแต่เช้า ตี 5 พานักมวยที่มีรายการไปวิ่ง วิ่งเสร็จก็บริหารร่างกาย จากนั้นก็ให้เด็กเตรียมตัวไปโรงเรียน หาข้าวกินบางวันก็ให้ไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง หลังจากนี้ก็พาเด็กไปโรงเรียน ก็กลับบ้านเปิดคอมพ์ทำงานเลย แล้วแต่วัน บางวันรับจ๊อบ แล้วก็ติดต่อกับผู้สนับสนุน เราก็เป็นผู้จัดการนักมวยด้วย

ช่วงนี้มวยก็เริ่มมากขึ้น คนก็โทร.มาเยอะ เพราะเรานักมวยเยอะ แล้วก็ซักผ้าวันละ 3-5 รอบ เด็กก็เยอะทั้งชุดนักเรียน ชุดซ้อม ผ้าเช็ดตัว ที่นอน แล้วก็นั่งทำงานทั้งวัน บ่ายสามก็จะออกไปตลาดเพื่อที่จะทำกับข้าว หรือบางทีก็ซื้อเป็นกับข้าวแล้ว ไปซื้อผลไม้ ซื้อของกินให้เด็กด้วยที่ค่าย

เพราะสอนเสร็จต้องมีผลไม้ให้เขากิน บ่ายสามครึ่งออกไปรับเด็กที่โรงเรียน อยู่นี่ถึงประมาณทุ่มหนึ่งก็ซ้อมเสร็จ ส่งเด็กกลับบ้านแต่ละบ้าน ส่วนเด็กที่อยู่กับมะลิ พอกลับบ้าน มะลิก็หาข้าวกิน ซักผ้าต่อ งานที่ยังไม่เสร็จก็ต้องทำต่อด้วย”


ภารกิจในแต่ละวันก็เรียกได้ว่าหนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน เพราะตัวเธอเองก็ต้องรับงานนอกอื่นๆ เสริมด้วย เพื่อจุนเจือค่าใช้จ่ายในค่ายให้อยู่รอด เรียกว่าแบกค่าใช้จ่ายให้เด็กราวกับแม่ของลูก

“เทรนเนอร์ที่มาช่วยเรามะลิก็ให้รายเดือน แล้วก็มีค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมันรถ รถวิ่งบ่อยก็ต้องเช็กสภาพบ่อย เด็กกินเยอะ กินข้าวเยอะ นอกจากเด็กที่อยู่กินกับมะลิ เด็กคนอื่นเสาร์อาทิตย์ก็มาเต็มบ้านก็มากินข้าวร่วมกัน

วิตามิน อาหารเสริม อุปกรณ์การเรียน ชุดโรงเรียน ค่าเทอม แล้วเวลาพานักมวยไปชก เราก็ต้องเติมน้ำมันรถ น้ำมันมวยด้วย วาสลีนด้วย ซื้อน้ำแข็ง ซื้อขนม ซื้อกับข้าวให้ บางทีเราไปต่อยต่างจังหวัดเราก็ไปกินข้าวข้างนอกบ้างเด็กไปโรงเรียนคนโตให้วันละ 30 บาท คนเล็กวันละ 10 บาท

เพราะเราก็สอนเด็กใช้ชีวิตเพียงพอ อย่าไปใช้อะไรมากมาย ซื้อหนังสือ ซื้อสี เด็กชอบระบายสี เสื้อผ้ารองเท้าวิ่ง กางเกงมวย ใครมีลูกก็จะเข้าใจ”

ฟังดูแล้วค่าใช้จ่ายก็ถือว่าเยอะมากพอสมควรในแต่ละเดือน นอกจากที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแบกรับค่าใช้จ่ายแล้ว โชคดีที่ในแต่ละเดือนมีผู้สนับสนุนบ้างเรื่องค่าอาหาร

“มะลิก็รับจ๊อบทั่วไปที่พอหาได้ค่ะ รับจ๊อบออนไลน์ทางคอมพิวเตอร์แล้วก็รับทั่วไป แฟนก็ไปสอนมวยอยู่ต่างประเทศ เขาจะใช้เวลาอยู่นี่และต่างประเทศ ปกติเขาจะอยู่ต่างประเทศปีละ 6-8 เดือน แต่ช่วงโควิด-19 ก็มาอยู่บ้านก่อน แฟนก็จะรายได้มากกว่ามะลิ ของมะลิก็พออยู่ได้

นอกจากนี้ เราก็มีผู้สนับสนุนดูแลเด็กๆ บางคนโทร.มาอยากซื้อรองเท้าให้เด็ก เด็กมีกี่คน ก็ 18 คนเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรจะซื้อให้รองเท้าให้เด็ก ทุกวันนี้เขาก็สั่งออนไลน์แล้วก็ส่งให้มะลิก็ได้ เขาอยู่ต่างประเทศเขาก็สั่งออนไลน์แล้วก็ส่งให้เรา

บางคนก็จะช่วยประจำเดือนละ 300-500 บาท อันนี้ก็จะช่วยค่ากับข้าวค่าอะไรให้เด็ก จะมีคนช่วยเราประจำเรื่องค่าใช้จ่ายค่าย แต่ค่าใช้จ่ายครอบครัวมะลิรับผิดชอบตัวเองรับผิดชอบแฟนเรา ที่คนบริจาคมามะลิไม่เอาสักบาทสักสตางค์เลย”


ไม่เลิกสอน แม้เหลือเด็กแค่คนเดียว

อุดมการณ์แรงกล้า ไม่เลิกสอนมวย แม้เหลือเด็กแค่คนเดียวและไม่เคยคิดทำตรงนี้เป็นธุรกิจ เพราะอยากใช้เวลาดูแลเด็กๆ อย่างเต็มที่

“อนาคตของค่ายก็ไปเรื่อยๆ ก็แล้วแต่เด็ก โตขึ้นมาจะทิ้งมะลิไป แต่มะลิจะอยู่จนถ้ามีเด็กคนเดียวมะลิก็อยู่ ก็ทำไป อนาคตค่ายมันอยู่กับเด็กค่ะว่าเขาจะเอาหรือไม่เอา เพราะว่ามะลิก็อยู่นี่เสมอ ก็แล้วแต่เขาค่ะ

มีแต่คนแนะนำให้มะลิทำเรื่องธุรกิจ แฟนอยู่ต่างประเทศเขาก็ชวนมะลิไปอยู่ด้วย เขาจะให้มะลิเป็นคนบริหารค่าย ก็มีคนติดต่อมาเยอะ เพราะเราอยู่วงการมวยมานาน ไปทำทางโน้นทางนี้ไหม

ทำอะไรเราก็ต้องทำเต็มที่ถ้ามะลิจะไปๆ มาๆ มันไม่ได้ค่ะ ถ้าเราทำธุรกิจใครจะดูแลเด็ก มันต้องดูแลเด็กเต็มที่ พาไปโรงเรียนแต่ละวัน”

ฝรั่งหัวใจเพื่อเด็กไทยเธอเล่าอีกว่าชีวิตไม่เคยตั้งเป้าหมายอะไรไว้ แค่อยากเห็นเด็กมีความสุขแม้เพื่อนของเธอบางคนที่ต่างประเทศจะเคยพูดว่า เอาชีวิตมาทิ้งที่เมืองไทย แต่เธอเลือกแล้ว ว่าอยากช่วย
เด็กๆ ที่นี่

“มะลิเป็นคนที่ไม่เคยตั้งเป้า ตั้งเป้าแค่จบ ม.6 และจบมหาวิทยาลัย แล้วภูมิใจตัวเองมากเรื่องนี้ นอกจากนี้ ก็ใช้ชีวิตไปวันๆ มีข้าวกินก็ดีใจแล้ว เราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายจากชีวิต แต่เรื่องค่ายมวยเราเห็นเด็กที่ซ้อมกับเราทุกวัน เห็นเด็กมีความสุข สิ่งที่เราภูมิใจมากก็คือเขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้นทุกคน

ถึงบางคนจะชกมวยอาชีพหรือไม่ อย่างหนุงหนิงเขาไม่ชกมวย แต่ภาษาอังกฤษพูดได้แล้วค่ะ เพราะเขาจะอยู่กับมะลิตั้งแต่อนุบาล มะลิจะพูดภาษาอังกฤษกับลูกสาวกับแฟน เขาฟังได้หมด”

[สามีคู่คิดที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา]
ทางด้าน บุ๋ม-ธนิต วัฒนะยา สามีคู่คิดที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอดก็มีอุดมการณ์อันแรงกล้าเช่นเดียวกับภรรยา ที่อยากเปิดค่ายมวยให้เด็กได้มีโอกาสตรงนี้

“ผมไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เยอะนะครับตอนทำค่ายมวย ผมแค่อยากให้เขาห่างไกลยาเสพติด มีกิจกรรมทำหลังเลิกเรียน ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าพวกเขาจะสามารถชกมืออาชีพได้ มันเกินคาดกว่าที่ผมฝัน เพราะว่าการทำจริงๆ ครั้งแรกถ้าเด็กผมได้ชกออกทีวีครั้งหนึ่งผมจะภูมิใจมากเลยนะ แต่มันมากกว่านั้น ตอนนี้เด็กก็ชกออกทีวีได้เป็นแชมป์ เห็นเขาออกทีวีผมก็ภูมิใจแล้ว

ตอนเป็นเด็กอยากชกมวยมากจนซ้อมเอง ไม่มีเทรนเนอร์ ไม่มีโอกาส ไม่มีคนสนับสนุน ไม่มีค่ายมวยไหนในหมู่บ้าน ใกล้ๆ ก็ไม่มี จนไปเอากระสอบถุงปุ๋ยแล้วก็เอาไปใส่แกลบข้าว ไปแขวนบนต้นไม้ ซ้อมอยู่คนเดียว

พ่อกับแม่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ชกนะ เขาไม่ชอบ มาอยู่จุดนี้ก็รู้สึกโชคดีที่ได้ทำค่ายมวย มีคนสนับสนุน เป็นโอกาสดีของผมก็คืออยากสนับสนุนเด็กในหมู่บ้าน

ผมมองย้อนไปในอดีตผมไม่มีคนสนับสนุน ถ้าผมมีคนสนับสนุนผมอาจจะไปได้ไกลกว่านี้ มีโอกาสมาทำตรงนี้ผมก็อยากจะสนับสนุนเด็ก เขาอาจจะไปได้ไกล”

นอกจากนี้ ยังนับถือหัวใจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาอีกว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกวันนี้เพราะเธอคือส่วนประกอบหลักในชีวิต พร้อมทั้งอยากให้สู้ และดูแลเด็กไปด้วยกันเรื่อยๆ

“สิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในชีวิตเกิดมาจากมะลิเป็นส่วนหลักเลยครับ ต้องยกความดีให้เขาเลยครับ เขาตั้งใจทำมาก สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้เขาตั้งใจเกินร้อย

ภูมิใจ เขาเป็นคนขยัน เขาเป็นคนสู้ เก่ง เขาจากถิ่นฐานมาอยู่กับเรา ยอมลำบากกับเรา ยอมลำบากกับเด็กๆ ยอมรับใจเขาครับ อยากให้มะลิสู้ไปด้วยกัน ช่วยเด็กไปด้วยกัน รักเหมือนเดิม”



สัมภาษณ์ : รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ
เรียบเรียง : MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊กแฟนเพจ “Wor. Watthanaค่ายมวย ว.วัฒนะ”


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **





กำลังโหลดความคิดเห็น