“อาจจะเป็นการโยนหินถามทาง…ไม่ฟันธงว่าทำชุดจริง” เปิดใจแอร์โฮสเตส หลังสายการบินหนึ่งเปิดตัวยูนิฟอร์มป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้ลูกเรือใส่ ยืนยันมองเป็นการช่วยป้องกันโรค เพื่อเตรียมกลับมาเปิดเที่ยวบิน ซ้ำทางด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ เป็นเรื่องใหญ่ สนามบินเป็นพื้นที่ความเสี่ยง ต้องดูแลให้ดี!!
เปิดตัวชุดต้านไวรัส = ปลอดภัย - สร้างความมั่นใจ!!
“ถามว่ากลัวไหม ยอมรับว่าไม่กลัวนะคะ เพราะว่าค่อนข้างเชื่อมั่นในระบบมาตรการความปลอดภัย safety ที่บริษัทเขาให้เรา ก็เลยรู้สึกว่า เอาจริงๆ อยู่บ้านใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าออกไปซื้ออาหาร ไปสัมผัส ตุนนู่นจับนี่ รับของจากมือพนักงานส่งอาหารอย่างนี้ ยังรู้สึกว่าเสี่ยงมากกว่าเราไปใช้ชีวิตบนเครื่อง”
พริสซี่ แพรไพลิน พนักงานต้อนรับสายการบินแห่งหนึ่ง วัย 35 ปี ที่ทำอาชีพนี้มายาวนานถึง 11 ปี เปิดใจกับ ทีมข่าว MGR Live หลังจากที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจ กับการเปิดตัว “ยูนิฟอร์ม PPE” สีแดงสด เพื่อต้านไวรัสโควิด-19 ลูกเรือ หรือแอร์ของสายการบินแอร์เอเชีย เพื่อเตรียมความพร้อมกลับมาบินอีกครั้ง
แน่นอนว่ากลับกลายเป็นกระแสฮือฮาอย่างหนัก เพราะชุดที่ว่านี้ทำให้คนไทยคาดหวังว่า การกลับมาบินครั้งนี้น่าจะเอามาใช้ช่วยต้านไวรัสร้ายนี้ได้ ซึ่งชุดที่ว่าเป็นของประเทศฟิลิปปินส์
ทว่า พนักงานต้อนรับรายนี้ได้วิเคราะห์ให้ฟังว่า ถ้าหากได้นำมาใช้จริง มองว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งตัวผู้ใช้ และผู้โดยสาร
“ถ้าเขาออกมาให้ลูกเรือใช้จริงๆ มันก็เหมือนเป็นยูนิฟอร์มในที่เราอยากลอง เราก็รู้สึกว่ามันก็สร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งเรา และผู้โดยสารด้วย
อาจจะร้อนนิดหนึ่ง เพราะว่าแอร์ฯ มันไม่ได้เปิดปิดได้ดั่งใจใช่ไหมคะ แต่ก็รู้สึกว่ามันสร้างความเชื่อมั่น ทั้งกับตัวเรา และผู้มาใช้บริการ ก็น่าลองนะคะ ไม่ได้รู้สึกว่าเฮ้ย!! มันเกินไปไหม เอาจริงๆ เราพยายามค่อนข้างเชื่อมั่นในบริษัท ว่าเขาพยายามเหมือนทำเกิน เพื่อให้เรารู้สึกดี เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกดี”
โดยการปรับโฉมชุดลูกเรือนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนของสายการบิน ที่กำลังเตรียมการกลับมาโลดแล่นบนท้องฟ้าอีกครั้งหลังจากต้องยุติไปจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งชุดดังกล่าว เบื้องต้นทางสายการบินจะเริ่มใช้เฉพาะที่ประเทศฟิลิปปินส์ก่อน
“คิดว่าชุดช่วยเซฟมากขึ้น แต่ด้วยเครื่องบิน เวลาที่เราทำงาน จริงๆ แล้วมันค่อนข้างเซฟอยู่แล้ว เพราะว่าลูกเรือทุกคนมักจะพกสเปรย์แอลกอฮอล์ส่วนตัว
แล้วบริษัทก็เตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้สำหรับพนักงานบนเครื่อง ใช้ให้กดทุกครั้งก่อนและหลังการเซอร์วิส และด้วยความที่ห้องครัวหน้า ครัวหลังมันแคบ
เราก็สามารถเข้าถึงทรัพยากรความสะอาดได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเดินไปไกล หยิบจับนู่นปุ๊บ ฉีดปั๊บ เข้าห้องน้ำล้างมือ คือทุกอย่างมันง่ายไปหมด มันใกล้กันหมด ก็เลยรู้สึกว่าถ้ามีชุดอย่างนี้ ก็ยิ่งดีนะ
จริงๆ เป็นของต่างประเทศ เขาเริ่มใช้ มันมีพนักงานภาคพื้นเขาไปรับ แล้วเขาเปิดถ่ายรูปมาลง ว่าเฮ้ย!!ของฮัปชาตินี้ เขาทำอย่างนี้ ยูนิฟอร์มใหม่เขาเจ๋งไหม อะไรประมาณนี้ แล้วเราก็รู้ว่าฟิลิปปินส์เริ่มทำแล้ว
และมันก็มีแนวคิดว่าจะหรือไม่จะดี ก็คุยมากับพี่ที่แผนกเองโดยตรง เขาบอกว่าเขากำลังฟิตหานโยบาย หาทางอยู่ว่าลูกเรือไปบิน ให้ใส่ชุดแบบไหนดี เพื่อเป็นการป้องกัน และสร้างความเชื่อมั่น แต่เขาก็มาคิดว่าชุด PPE แบบที่แพทย์ใช้ มันจะเกะกะ รุงรังไปไหม หรือมันจะเกินจริงไปไหม
เพราะ Fight เราก็สั้น ก็อาจจะเบาลงมาหน่อย หรืออาจจะเป็นการป้องกันแบบเดิมก็คือถุงมือ แมสก์ และ Face Shield ค่ะ ก็กำลังคิดหาทางกันอยู่ว่ายังไง แต่อันนั้นมันเหมือนเป็นการถามว่าทำดีไหมนะ ไม่แน่ใจว่าเป็นการแบบโยนหินถามทางรึเปล่า”
สำหรับสายการบินแอร์เอเชียไทยนั้น มีกำหนดจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งใน 1 พ.ย.นี้ โดยเน้นการให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นหลัก พร้อมทั้งจัดวางมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเข้มงวด รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสาธารณสุข และหน่วยงานด้านการบินอย่างเคร่งครัด
กลับมาบิน = มีความเสี่ยงไวรัส?
ไม่เพียงประเด็นเรื่องชุดต้านไวรัส สังคมยังคงสงสัยและวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น หลังสายการบินจะกลับมาเปิดให้ใช้บริการในเดือนพฤษภาคม
ด้าน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยให้ข้อมูลกับทีมข่าว พร้อมวิเคราะห์เปรียบเทียบชุด PPE ของแพทย์ให้ฟังหากจะมีการทำชุดยูนิฟอร์มไว้สำหรับลูกเรือว่า พนักงานใส่หน้ากาก N 95 และใส่อุปการณ์ป้องกัน Face Shield น่าจะมีความเหมาะสมกว่าใส่ PPE แบบแพทย์
“ชุด PPE ใส่แล้วอึดอัด อย่าง PPE ของที่ใส่โรงบาลใส่เข้าไปปวดแสบเลย ก็มีทั้งชุดกันน้ำ ใส่เข้าไปหายใจก็อึดอัด คือมันเป็นอะไรที่ใครอยากใส่
ทุกอย่างมันจำเป็นต้องใส่ เพราะไม่ฉะนั้นเราเอง คนที่เข้าไปดูแลผู้ป่วยอาจจะติดเชื้อ และอาจจะไปแพร่คนที่บ้าน แต่ว่ามันจำเป็นใส่หมดทุกอย่างเลย หรือว่าใส่เข้าไปเหงื่อออกเลย เพราะฉะนั้นมันไม่ได้เป็นอะไรที่สนุกสนาน ไม่มีใครอยากจะใส่ หน้าก็เจ็บ ที่คล้องหูก็เจ็บ หน้าก็รัดอึดอัดจะตาย ไม่มีใครอยากใส่
คือผมว่าจริงๆ พนักงานแค่ใส่อย่างมาก แค่ N 95 ใส่ Face Shield แค่นั้น อย่างอื่นก็จะต้องล้างมือบ่อยๆ แค่นั้นแหละ ผมว่ามันไม่ติดกันง่ายขนาดนั้น ถ้าเป็นคนป่วยสิ ต้องใส่”
นอกจากนี้ เกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยง หลังสายการบินกำลังเปิดให้บริการคุณหมอได้ให้ข้อมูลว่า มันเรื่องใหญ่มาก สำหรับในเรื่องการบินยังมีความเสี่ยงอยู่ หากเป็นเส้นทางในต่างประเทศไม่ควรเปิด
“มีความเสี่ยง คือสายการบินในประเทศคงได้แล้ว แต่ต่างประเทศคงลำบาก เพราะไม่นั้นคนเดินทางไปต่างประเทศ
มันขึ้นอยู่กับประเทศต่างๆ ถ้าในประเทศไม่เป็นไรเท่าไหร่ แต่ถ้าไปต่างประเทศ ประเทศที่เขามี อย่างยุโรปนี้ โอ้โหมันอันตราย
ประเทศจีนอย่างนี้อีกหน่อยคงจะมาได้ เพราะประเทศเขาคุมได้ แล้วต้องดูประเทศเป็นประเทศ บางประเทศไม่ได้ก็ไม่ได้
บางสถานที่ควรจะเปิดได้ อย่างที่หมอเขียนสนามกอล์ฟ กีฬากลางแจ้ง อะไรบางอย่างมันน่าจะอนุญาตได้แล้ว มันไม่จำเป็นต้องถึงขั้นปิดทุกอย่างหมด แต่บางอย่างต้องอนุญาต ผ่อนผันได้แล้ว ออกไปชอปปิ้งห้างสรรพสินค้าน่าจะได้แล้ว แต่สนานบินเรื่องใหญ่ ใหญ่เกิน”
ข่าว: ทีมข่าว MGR Liveคลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **