xs
xsm
sm
md
lg

เสียงตอบรับเกินคาด!! TK Park จัดเต็ม เทศกาลหนังสือสนุกไฟลุกพรึ่บ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับเป็นปีที่ 2 สำหรับงาน LIT fest เทศกาลหนังสือสนุกไฟลุกพรึ่บ ในปีนี้ TK Park ประเมินผลงานกิจกรรมทั้ง 3 วัน ได้เสียงตอบรับจากผู้ปกครองและผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโซนนิทานสำหรับเด็ก ที่มีผู้เข้าร่วมอย่างล้นหลาม เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนให้ความสนใจอย่างมาก

เสริมสร้างจินตนาการ กับกิจกรรมที่หลากหลาย

เรียกได้ว่ากระแสตอบรับของงานในปีนี้ล้นหลามกันทีเดียว กับเทศกาลหนังสือที่หลายคนรอคอย LIT fest2 ที่จัดขึ้นในวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ ที่มิวเซียมสยาม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปีนี้ทางงาน มาในธีม “เดบิวต์” ก็คือ “การเปิดตัว” หรือ “แจ้งเกิด” สู่สายตาสาธารณชน เป็นการเปิดตัวนักอ่าน นักเขียนหน้าใหม่ รวมไปถึงคนรักหนังสือ รุ่นใหม่รุ่นเก่า การเปิดตัวว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เปิดตัวว่าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ รวมถึงเปิดตัวว่าเป็นแฟนคลับของนักเขียนที่ชื่นชอบ
นอกจากงานนี้จะมีบูธเกี่ยวกับหนังสือมากมายแล้ว ทาง LIT fest2 ยังได้จับมือกับ TK Park สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ที่ชวนครอบครัวนักอ่านมาสนุกกับโซน Kids&Family ซึ่งเป็นปีแรกที่ทางงานได้เพิ่มโซนสำหรับเด็กๆ เข้ามา
ภายในงาน เด็กๆ จะได้เรียนรู้และวิ่งเล่นบนสนามหญ้าในบรรยากาศสุดสนุก ที่กิจกรรมแต่ละอย่าง นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแก่เด็กๆ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะและความรู้ด้านต่างๆ ของน้องๆ อีกด้วย



กิจกกรมในโซน “Kids&Family” มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ให้เด็กๆ ได้สนุก ตั้งแต่ “เล่นกับกระดาษ" โดยนักศึกษาสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กิจกรรม ชวน “เด็กเด็ก” อ่านนิทาน แล้วอ่านโลก โดยครูใบปอ อ้อมขวัญ เวชยชัย ผู้ก่อตั้ง CREAM Bangkok
กิจกรรม นิทานครอบครัว “ยักษ์ใหญ่ผู้ใจดี” โดยครอบครัวหุ่น Mommy Puppet และกิจกรรม “การแสดงหุ่นเงาใบไม้” เรื่องของขวัญจากทะเล โดยกลุ่มนิทานใบไม้ นอกจากกิจกรรมเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กและผู้ปกครองได้เล่นกันยาวๆ จนถึงเวลา 20.00 น.เลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหุ่นเงา การแสดงสำหรับเด็ก วาด แปะ ระบายสี สร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมกัน พร้อมด้วยมุมนิทานที่คัดสรรจากทั่วโลก



แม้เป็นปีแรกที่งานนี้ ได้จัดโซนสำหรับเด็กๆ ขึ้นมา แต่ก็มีผู้ปกครองหลายคนให้ความสนใจ และพาลูกหลานมาเที่ยวงานไม่น้อย เด็กๆ ชื่นชอบและสนุกไปกับกิจกรรมภายในงาน รวมไปถึงเสียงเรียกร้องให้จัดงานอีกในปีหน้า ถือเป็นกระแสตอบรับในทางที่ดีสำหรับผู้จัดงาน
อีกหนึ่งโซนที่น่าสนใจไม่น้อย นั้นคือโซนของหนังสือนิทานจาก นานาชาติ ที่ทางทีมงานได้รวบรวมหนังสือนิทานจากหลากหลายประเทศมาให้เด็กๆ ได้ลองอ่าน เพื่อการอ่านนิทานที่ไม่น่าเบื่อเหมาะกับเด็กเล็กๆ ที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ และนั้นก็ทำให้ผู้ปกครองหลายๆ คนอยากพาลูกหลานมางานนี้อีกครั้ง

เรียนรู้เรื่องราวผ่านโลกนิทาน

“อุษา ศรีนวล” นักจัดการความรู้อาวุโสฝ่ายกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้ที่รวบรวมหนังสือนิทานจากทั่วมุมโลก บอกถึงความสำคัญในการหาหนังสือนิทานแต่ละเล่มที่ใช้ในงาน จะต้องเน้นที่ให้ความรู้หลากหลาย สอนถึงทักษะการเรียนรู้ของเด็กให้เขาได้คิดต่อยอดจากการอ่าน
“เราอยากให้เด็กอ่านหนังสือ อยากเผยแพร่หนังสือนิทานดีๆ หนังสือที่เราใช้ในโครงการจะเป็นหนังสือวรรณกรรมที่ใช้พัฒนาเด็ก เป้าหมายเราคืออยากให้เด็กสนใจหนังสือ ฉะนั้นถ้าอยากให้เด็กสนใจหนังสือ ก็ต้องเป็นหนังสือนิทาน
นิทานของเรา จะเป็นนิทานจากทั่วโลกเลย ถ้าเป็นเอเชียเราจะเน้นของญี่ปุ่นมากหน่อย แล้วก็จะมีจากไตหวัน จากจีน ของทางยุโรปก็มี อเมริกา ฝรั่งเศส ของสวิตเซอร์แลนด์ก็มี
นิทานญี่ปุ่นบางเรื่องก็เป็นนิทานแปลมาอีกที เพียงแต่ว่าเราหาต้นฉบับจริงๆ ไม่ได้ เลยได้ของญี่ปุ่นมาแทน ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือนิทานระดับโลก อย่างหนังสือบางเรื่องก็เป็นคนพิการแต่ง ภาพประกอบในหนังสือนิทานที่เราเอามาก็เคยถูกเชิญไปแสดงที่เมืองโบโรนา ประเทศอิตาลี”



เพื่อการฝึกทักษะเรียนรู้ของเด็กให้ดี จึงให้ความสำคัญกับการหาหนังสือนิทาน เพื่อให้เด็กๆ และผู้ปกครองที่มางาน จะได้อ่านหนังสือนิทานที่หลากหลายและมีคุณภาพ มากกว่านิทานธรรมดา
“นิทานที่เราเอามาก็กวาดรางวัลระดับโลกมามากมาย งานนี้จึงเป็นงานแสดงหนังสือนิทานระดับโลกเลย อย่างของญี่ปุ่นเนี้ย ก็จะเป็นนิทานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ถูกแปลไปหลายภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย เรารู้สึกอยากให้เด็กได้อ่านนิทานดีๆ เขาจะได้รู้ว่ามันมีหนังสือที่น่าสนใจมากมาย
หนังสือนิทานที่ดีๆ ภาพประกอบจะเป็นสิ่งสำคัญ เด็กเล็กๆ จะสามารถเสพความงามเหล่านี้ได้ ผ่านภาพต่างๆ โดยมากหนังสือที่ได้รางวัลอาจจะเป็นเรื่องที่หนักนิดนึง อย่างเรื่องของภัยพิบัติ เรื่องชีวภาพ หนังสือจะมีหลายแนวมาก อย่างที่เอามาก็มีหนังสือแนวไอเดียที่มีความคิดหลุดกรอบ จริงๆ ของไทยก็มีแต่จะมีน้อยหน่อย”
การสร้างเสริมความรู้ใหม่ๆ เพื่อฝึกทักษะเด็กๆ ด้วยนิทานจากหลากหลายประเทศ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอหลายๆ รูปแบบ ความหลากหลายจะช่วยพัฒนาเด็กมากขึ้น
“จริงๆ โครงการเรา อยากเน้นของต่างประเทศ เพราะเด็กไทยเรียนเกี่ยวกับหนังสือไทยมาเยอะแล้ว เราอยากให้เด็กได้อ่านหนังสือที่หลากหลายออกไป อยากให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องราวของโลกผ่านนิทานซึ่งจะเข้ากับเด็กได้ง่ายกว่า
อย่างหนังสือญี่ปุ่น ที่ชื่อเรื่องว่า กล้วย จะเป็นหนังสือภาพ ทุกอย่างจะเป็นคำว่ากล้วยหมดเลย เด็กจะเห็นกล้วยได้หลากหลายรูปแบบ ภาษาวรรณกรรมเขาจะเรียกว่าการใช้ภาพสื่อสารกับเด็ก จะเป็นหนังสือนิทานภาพ เหมาะกับเด็กเล็กๆ ที่ยังอ่านไม่ออก



รวมไปถึงนิทานแบบภาพถ่าย จุดเด่นของหนังสือนิทานที่เราเอามาคือ เป็นหนังสือนิทานระดับโลก เราจะคัดสรรมาอย่างดี มีการนำเสนอที่ จูงใจ เร้าให้สมองสนใจ จึงมีการมีการนำเสนอหลากหลายรูปแบบ เรียกว่าเป็นพลังก็นิทานที่ทำให้เด็กสนใจ และต่อยอดได้ เราใช้หนังสือนิทานในในการพัฒนาเด็กตั้งแต่เรื่องครีเอทีฟ การเชื่อมโยง การคิดแก้ปัญหา หนังสือนิทานเหล่านี้จะช่วยเด็กได้”
แม้งานจะจบลงไปแล้ว แต่ใครที่พลาดงานนี้ไปก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะกิจกรรมดีๆ อย่างนี้จะจัดขึ้นอีกปีแน่นอน ผู้ปกครองที่อยากให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ก็ต้องห้ามพลาด

ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “LIT fest”, “TKpark อุทยานการเรียนรู้”




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น