xs
xsm
sm
md
lg

[คลิป] ยิ่งใกล้ยิ่งโง่!? “มือถือตัวร้าย” กับ “สมองที่หายไป”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คุณเช็กมือถือกันบ่อยแค่ไหน? ถ้าคำตอบคือคำว่า “บ่อย” อ่านงานวิจัยเรื่อง “โทรศัพท์มือถือ ส่งผลเสียต่อระบบความคิด” ตัวนี้แล้ว อาจจะทำให้คุณต้องบังคับให้ตัวเองต้องเปลี่ยนพฤติกรรมไปเลยก็ได้




สมงสมองไปหมดแล้ว!! เพราะเจ้าหน้าจออัจฉริยะ

ในงานวิจัยชิ้นนึงที่ตีพิมพ์ในวารสารงานประชุม “งานวิจัยเพื่อผู้บริโภค” นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ขอให้นักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 448 คน ทำแบบทดสอบวัดระดับการคิดวิเคราะห์

โดยแบบทดสอบชุดนั้นประกอบไปด้วย แบบฝึกหัดตอบคำถามความน่าจะเป็น และโจทย์คณิตศาสตร์ ในขณะเดียวกัน ผู้รับการทดสอบจะต้องกรอกตัวอักษรภาษาอังกฤษให้ถูกตามลำดับด้วย

กลุ่มตัวอย่างถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะต้องวางโทรศัพท์มือถือไว้ในบริเวณที่ต่างกัน เช่น วางมือถือคว่ำหน้าไว้บนโต๊ะ, เก็บมือถือเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าสะพาย (ที่ไหนก็แล้วแต่ ที่พวกเขามักจะเก็บไว้) ไปจนถึงวางโทรศัพท์แยกไว้อีกห้องนึง

ผลที่ได้ก็คือ “กลุ่มที่นักวิจัยให้วางโทรศัพท์มือถือแยกไว้อีกห้อง” ทำแบบทดสอบได้ดีกว่า “กลุ่มที่วางมือถือเอาไว้บนโต๊ะ” อย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเทียบกับ “กลุ่มที่ให้เก็บมือถือไว้ในห้องเดียวกัน” พวกเขาก็ยังสามารถทำผลการทดสอบออกมาได้ดีกว่าเล็กน้อย



พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งโทรศัพท์มือถืออยู่ไกลตัวออกไปเท่าไหร่ สมองของกลุ่มตัวอย่างก็ทำงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากเท่านั้น

การทดลองครั้งที่ 2 ยิ่งเข้มข้นขึ้น เมื่อกลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่ม ต้องแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 2 กลุ่ม โดยให้ผู้รับการทดสอบแต่ละกลุ่ม วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ที่ที่เคยไว้ในการทดลองครั้งแรก แต่สมาชิกครึ่งนึงของแต่ละกลุ่ม จะต้องปิดมือถือ ในขณะที่ยังให้อีกครึ่งนึง เปิดโทรศัพท์ไว้เหมือนเดิม

ที่น่าตกใจคือ ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดมือถือเอาไว้ ผลการทดสอบที่ออกมาก็ไม่ต่างกันเลย นั่่นแปลว่า แค่มีมือถืออยู่ในห้อง ก็สามารถทำให้ “สมองทำงานได้ไม่เต็มที่” แล้ว



วิธีปลด “โซ่ตรวนโลกดิจิตอล”

โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของเราไปอย่างมากมาย มันทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้น นำทางเราไปได้ทั่วโลก และทำให้ความทรงจำของเราคงอยู่ตลอดไป แต่ประโยชน์มหาศาลของมันก็มีด้านมืด เพราะมันทำให้เราต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่มนุษย์เราต่างก็คิดเองเออเองว่า เรานั้นช่างมีความสามารถเสียเต็มประดา ทั้งที่มีงานวิจัยหลายชิ้นค้นพบว่า คนเราใช้มือถือโดยเฉลี่ย 85 ครั้งต่อวัน โดยวารสารงานทดลองด้านจิตวิทยาระบุว่า ส่วนใหญ่ผู้คนจะใช้มันเข้าเว็บ Search Engine แล้วคิดไปว่าตัวเองมีความรู้ มากกว่าความรู้ที่เรามีอยู่จริงๆ

ถ้าอย่างนั้น เราจะแก้นิสัยการติดมือถือกันยังไงดี? คำตอบนี้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Detox (การละเว้นสื่อดิจิตอล) ฝากแนะวิธีมาไว้ให้ 3 ข้อด้วยกัน ตามนี้

1.ให้วางขอบเขตการใช้โทรศัพท์เอาไว้ โดยตั้งกติกา หรือกำหนดพื้นที่เลยว่า จะไม่เช็กโทรศัพท์ตอนอยู่บนเตียง หรือจะไม่พกโทรศัพท์ไปที่โต๊ะอาหาร

2.ให้ปิดเสียงการแจ้งเตือนทั้งหมด วิธีนี้จะทำให้เราเช็กโทรศัพท์ เฉพาะตอนที่อยากเช็คจริงๆ ไม่ใช่ทุกครั้งที่่มันแจ้งเด้งเตือนขึ้นมา



และ 3.ให้ลองทดสอบตัวเองว่า สามารถอยู่ได้โดยไม่มีโทรศัพท์ได้นานแค่ไหน เช่น ดูรายการทีวีตลอด 1 ชั่วโมงโดยไม่เช็กโทรศัพท์ได้ไหม, เดินไปร้านสะดวกซื้อโดยไม่เช็กโทรศัพท์ได้หรือเปล่า

หรือแม้แต่การทิ้งเวลาทั้งวันโดยไม่เช็กมือถือเลย เพราะยิ่งเราสามารถอยู่ได้นานมากขึ้นเท่าไหร่ โดยไม่ต้องพึ่งเจ้าหน้าจออัจฉริยะ เราอาจจะค้นพบว่ามันไม่ได้รู้สึกเคว้งคว้าง เวลาไม่ได้ใช้งานมันอย่างที่เคยคิดไว้ก็ได้








แปลและเรียบเรียง: ทีมข่าว MGR Live
ตัดต่อคลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ข้อมูล: curiosity.com
 



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น