ปลดล็อกหนี้ ชีวิตแฮปปี้ แม้ไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย แต่กราฟความสุขพุ่ง “แวร์ โซว์” ต้นแบบหญิงสตรอง ลุยเริ่มต้นชีวิตใหม่จากศูนย์ เผย เหตุโรคซึมเศร้า “กินยาฆ่าตัวตายทุกวัน” เพราะแบกภาระหนี้หลักแสนต่อเดือน ผ่อนบ้าน คอนโด รถ ปลดแอก! ตัดปัญหาจ่ายจบ 13 ล้าน ไร้หนี้ ชี้ ชีวิตนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว ยอมเป็นคนเร่ร่อน ดีกว่าเป็นบุคคลล้มละลาย!
กว่าจะถึงวันนี้ “ฆ่าตัวตายทุกวัน”!!
แม้ชีวิตจะถูกมรสุมถาโถมซัดกระหน่ำหลายต่อหลายครั้ง แต่ แวร์ โซว นักแสดงสาว อดีตนางแบบคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวใจเด็ด ก็ลุยสู้ ฝ่าวิกฤตโรคซึมเศร้า เผยคิดฆ่าตัวตายทุกวัน ล่าสุด ปลดหนี้ก้อนโต ขายบ้าน คอนโด รถ ชีวิตลุ้นวันต่อวัน! เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่สองคนแม่ลูกแบบพอเพียง
“ตอนเครียด คือ ตอนที่แบกภาระค่าบ้าน ค่าคอนโด ค่ารถ ตอนนี้เริ่มนับหนึ่งใหม่ ไม่เครียด ไม่มีหนี้แล้วไง ตอนเราเป็นหนี้แบงก์ ถ้าไม่มีจ่ายก็ล้มละลาย โดนเขายึด ปัญหามากมาย เครียดมาสิบกว่าปี ถึงได้ป่วย ตอนนี้หายป่วย หายเครียดแล้ว
ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ผ่านมาคือ ปัญหาใหญ่ในชีวิต ตอนนี้ไม่มีหนี้อะไรแล้ว ไม่มีทรัพย์สินก็จริง แต่ไม่มีหนี้ แล้วคุณจะเครียดเรื่องอะไร “เธอ เปิดใจอย่างตรงไปตรงมาผ่านทีม MGR Live” ชี้ที่ผ่านมา ประสบภาวะวิกฤตหนัก เหนื่อย เครียดสะสม จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า
เนื่องจากที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยทำงานในวงการบันเทิง เธอได้เก็บเงินซื้อคอนโดมิเนียม เมื่ออายุมากขึ้นมีลูกสาวจึงเริ่มอยากมีบ้าน แต่ทั้งคอนโดมิเนียม และบ้าน กลับมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมาย เมื่อเกิดอะไรเสียหาย หรือชำรุด แต่การเข้ามาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ เธอและลูกสาวรู้สึกว่าเหมือนตัดภาระเรื่องการซ่อมแซมต่างๆ เพราะเมื่อมีอะไรชำรุด ก็แจ้งเจ้าของห้องให้มาซ่อมและดูแลให้แทน
“หนี้ที่มีคือ บ้าน 3.5 ล้าน คอนโด 2 ล้าน และรถ ซื้อมาล้านห้า แล้วบ้าน 3.5 ล้าน ที่เราจ่ายไป คือ เงินต้นไม่รวมดอกเบี้ย แล้วดอกเบี้ย 7 เปอร์เซ็นต์ บ้านไม่ได้โดนยึด แค่มีปัญหาเลยขาย ตอนแรกก็ผ่อนไปเรื่อยๆ คิดว่าสักวันมันจะดีขึ้น แต่มันไม่ดีขึ้น เพราะว่ากู้ซื้อบ้าน 25 ปี กู้ซื้อคอนโด 20 ปี ตอนนี้ผ่านมา 13 ปี เคลียร์ด้วยการขายทิ้ง ตัดปัญหา ไม่อย่างนั้นพี่เสียดอกหัวโต พี่กู้เงินธนาคาร แต่ว่าพี่ไม่ได้มีปัญหากับธนาคาร
ที่มีปัญหาเพราะว่าเราแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียว แล้วดอกเบี้ยมันไม่ใช้น้อยๆ เราทำงานมาก็จ่ายดอก ต้นแทบไม่ลดเลย ถามว่าทำไมเราไม่เอาเงินไปโปะ เราจะเอาเงินที่ไหนไปโปะ เพราะว่าเราต้องเอาเงินไปจ่ายอย่างอื่นด้วย คือ ที่จ่ายไปต้นอย่างเดียว 7 ล้าน แล้วดอกอีกที่เราจ่ายมาเป็น 13 ปี คิดดูว่าเราจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ เอาง่ายๆ ตอนนี้จ่ายไปแล้วเป็น 10 กว่าล้าน ทั้งบ้าน คอนโด รถ”
ย้ำทุกวันนี้หายจากโรคซึมเศร้าแล้ว แต่ยังต้องไปพบแพทย์เพื่อปรับสภาพจิตใจ เผยอดีตเคยฆ่าตัวตายชักตาตั้งทุกวัน แต่ไม่สำเร็จ จึงฮึดสู้! ต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้
“ตอนป่วยซึมเศร้า ก็ฆ่าตัวตายเกือบทุกวัน ทำอยู่เป็นเดือนนะ แต่มันไม่ตาย ลูกพี่นั่งมองดูทุกวัน ฆ่าตัวตายด้วยวิธีการกินยา ที่คนอื่นเขากินกันแล้วต้องไปล้างท้อง พี่กินทุกวันแล้วพี่ก็ไม่ตาย พี่กินจนรู้สึกเปลืองตังค์ เสียดายตังค์ กินแล้วไม่ตาย ไม่ตายก็ไม่ตาย ไม่เอาแล้ว เปลือง เหนื่อยด้วย กินยา ชักตาตั้ง ตาเหลือก ลิ้นจุกปาก ดิ้นกระแเด่วๆ สักพักก็ฟื้น ทุกวัน
ตอนนั้นป่วยหนักด้วยไง แล้วไม่ไหวแล้ว ไม่สู้แล้ว ตายเป็นตาย ไม่สนใจ ไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว พี่ยังชวนลูกพี่ตายเลย ก็อย่างที่เคยให้ข่าว คนดีตายกับแม่เถอะ เดี๋ยวถ้าลูกอยู่ ก็เป็นภาระคนอื่น หนูจะอยู่ยังไง สงสารลูก สงสารคนอื่น ตายๆ กันไปเถอะลูก ลูกบอก หนูไม่อยากตาย ถ้าหนูไม่อยากตาย งั้นแม่ขอตายนะ แต่มันไม่ตาย ทำไงล่ะ ก็มองหน้ากัน เขาไม่ให้แม่ตาย ต้องอยู่ต่อ ทำไงดี
ถ้าอยู่ต่อเราก็ต้องแก้ปัญหา ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เราพยายามจะเคลียร์ปัญหาทางออก เมื่อก่อนค่าใช้จ่ายเดือนละแสน ที่ต้องหาเงินมาส่งบ้าน คอนโด รถ ปากกัดตีนถีบ ประหยัด ดิ้นรนเกือบตาย ทุกวันนี้แก้ปัญหาหมดแล้ว สบายใจแล้ว”
เริ่มต้นใหม่จากศูนย์ …ชีวิตไม่สูญเสีย
“บ้าน คอนโด รถ” เป็นปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนใฝ่ฝัน แต่สำหรับเธอไม่เคย “ยึดติด”
“ด้วยธรรมชาติพี่เป็นคนไม่ยึดติดกับพวกแบรนด์เนมอยู่แล้ว อย่างกระเป๋าพี่ใบละ 20,000 บาท ซื้อตอนเซลส์เหลือ 4,000 บาท อีกใบหนึ่ง 20,000 บาทเหมือนกัน เซลส์จนเหลือ 3,000 บาท อย่างกางเกงยีนส์ก็ตัวละ 4-5 พัน ใส่ขาด ปะแล้วปะอีก ที่ซื้อของมียี่ห้อเพราะใช้ทน ใช้นาน
ตัวพี่เองเป็นคนไม่ยึดติดกับอะไร จึงไม่ทุกข์ เหตุที่ทุกข์มาก่อนหน้านี้ ตอนเราไม่เคยมี พอเรามีแล้วเราไม่ได้ครอบครองเราจึงทุกข์ พอเรารู้ว่าเราทุกข์เพราะอะไรแล้ว ถ้าเราหลุดพ้นมาได้ เราไม่ทุกข์อะไรแล้ว พี่ไม่เข้าวัดนะ บรรลุด้วยตัวเอง พี่นับถือพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน สิ่งที่พี่เจอ คือ บททดสอบของพระพุทธศาสนา
อย่าไปยึดติดกับเงินที่เสียไป ถ้าคุณคิดว่าเงินที่เสียไปเป็นเงินของคุณ คุณก็จะทุกข์ แต่ถ้าคุณคิดว่า ก็เสียไปแล้ว เริ่มต้นใหม่จากศูนย์ เราไม่เคยมีมาก่อน เราเริ่มต้นใหม่ก็ได้ เหมือนคนที่ถูกเลย์ออฟ โรงงานปิดกันเต็ม ไม่ทันได้ตั้งตัว ปิดกะทันหัน มันก็ต้องสู้ พี่ก็ไม่มีอะไรเหลือ ไม่มีงานทำ เดือนหน้าจะเอาอะไรจ่ายค่าอพาร์ทเมนต์ ยังไม่รู้เลย เดือนหน้าจะเอาที่ไหนส่งให้แม่ จะซื้ออาหารแมวยังไม่มีตังค์เลย
งานใหม่ยังไม่มีเข้ามาเลย มีเข้ามาจะถ่ายเมื่อไหร่ ได้เงินเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย ก็ยังอยู่แบบรอความหวัง แต่ก็ไม่รู้จะทุกข์กับมันทำไม เพราเราพยายามเต็มที่แล้ว เราดิ้นรนแล้ว เราพยายามแล้ว”
แม้ค่ารายจ่ายในปัจจุบันจะสูงถึง 25,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งไม่มีเงินเดือน และรายรับที่แน่นอน แต่เธอย้ำว่า มีความสุข สบายใจ เพราะไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ต้องมาคอยหวาดระแวงว่าจะถูกธนาคารยึดบ้าน คอนโด หรือรถ
“พี่ประหยัด พี่ไม่เดือดร้อน พี่สบายๆ ตอนมีหนี้ยิ่งต้องประหยัดกว่านี้อีก เพราะค่าใช้จ่ายเดือนละแสน หาเงินมาต้องจ่ายหนี้หมดเลย ตอนนี้ถึงจะตกงาน แต่ก็ยังสบายใจกว่า อย่างมาก เขาก็ไล่เราออกจากห้องนี้ไป เราก็ไปเร่ร่อน แต่ไม่ต้องถูกธนาคารยึดบ้าน ยึดคอนโด หรือยึดรถ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย เราก็รอดตัวตรงนั้นไป แค่เป็นคนเร่ร่อน น่าสนุกดี อย่าไปกลัวอะไร ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต
ถ้าใครเจอปัญหาหนักๆ อย่างพี่จะไม่กลัวแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว เสียเงินสิบกว่าล้านไม่ได้อะไรเลย แต่ได้ความสบายใจ ไม่ต้องมานั่งกลุ้ม นั่งแบก หาเงิน โทร.ของานผู้ใหญ่ เกรงใจ ทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่หาเงินไปให้คนอื่นเขา อย่างมากเป็นคนเร่ร่อนก็สนุกดี มีรถคันหนึ่ง มีแมวสามตัว อยู่ในรถกับลูก 2 คน ขับรถไปเรื่อยๆ เพลินๆ
สำหรับน้องคนดี เราก็แค่บอกเขาว่าเอาตัวเองให้รอด ไม่ต้องมาเลี้ยงดูแม่ตอนแก่ เพราะแม่จะไปอยู่บ้านพักคนชรา การตอบแทนความกตัญญูที่ลูกจะตอบแทนพ่อแม่ ไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงดูพ่อแม่ตอนแก่ แค่คุณเป็นคนดี คุณดูแลตัวเองได้ คุณไม่สร้างเรื่องเสื่อมเสีย เสียหายต่อสังคม ไม่เป็นภาระพ่อแม่ และสังคม แค่นี้คือการตอบแทนความกตัญญูแล้วในแบบของพี่ และตัวพ่อแม่เองอย่าเอาภาระไปปลูกฝังใส่หัวสมองลูก ว่าแก่ไปต้องเลี้ยงพ่อแม่”
สำหรับปัญหาที่เจอมาสารพัดในชีวิตสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอหลุดพ้นมาได้คือ “ลูกบ้า” และ “วิธีคิด”
“เพราะวิธีคิดพี่ไม่เหมือนคนอื่น พี่ถึงอยู่ได้ ถ้าพี่คิดเหมือนคนอื่น ตั้งแต่ท้องไม่มีคนรับผิดชอบ พี่ตายแล้ว จริงๆ พี่ไม่ใช่หญิงแกร่งอะไรนะ แต่ลูกบ้าพี่เยอะ พี่ความคิดไม่เหมือนใคร มองโลกแบบตรงไปตรงมา ถูกคือถูก ผิดคือผิด ถ้าพี่ผิดก้มลงกราบเท้าเลย ขอโทษ แต่ถ้าพี่ไม่ผิดนะ นิดเดียวพี่ก็ไม่ยอม พี่ไม่ได้แกร่งหรอก ถ้าจ้างงานพี่เงินเป็นแสน ถ้าไม่โอเคพี่ก็ไม่รับ ผิดจรรยาบรรณ ถึงพี่เดือดร้อนต้องใช้เงิน แต่ถ้าผิดจรรยาบรรณพี่ก็ไม่รับ
คนชอบคิดว่าพี่ชอบสร้างข่าว อยากเป็นข่าว จริงๆ พี่เป็นคนไม่ชอบเป็นข่าว ไม่ตามกระแส อย่างที่บอกพี่ไม่ใช่หญิงแกร่ง สถานการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ้าเราต้องการที่จะรับมือกับปัญหา จะแก้ปัญหา เราต้องยึดมั่นในความถูกต้อง เราจะหาหนทางในการดำเนินชีวิตต่อไป”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
