xs
xsm
sm
md
lg

“น้องผมต้องไม่ตายฟรี” เปิดใจ พี่ชาย “น้องนิว” 100 วันที่จากไป กับค่าเยียวยา 3,500 บาท!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
พลังโซเชียลฯ ช่วยทวงความยุติธรรม! หลัง บัณฑิตสาว ป้ายแดงถูกรถชนจนเสียชีวิต เมื่อ 3 เดือนก่อน ไร้ความรับผิดชอบจากผู้ก่อเหตุ-คดีความนิ่งเงียบ ด้านญาติผู้เสียชีวิต เปิดใจ คู่กรณีไม่เคยมางานศพ แม้แต่วันเผา ตั้งแต่น้องจากไปได้ค่าเยียวยาเพียง 3,500 บาท อ้างไม่มีเงินและยังไม่ถูกดำเนินคดี!!

100 วันที่สูญเสีย คดียังไม่ไปไหน!!

“คำเดียวเลยครับ ผมไม่อยากให้น้องผมตายฟรี ผมต้องการความยุติธรรม ต้องการให้ดำเนินคดี แค่นั้นเลย ไม่ต้องการอะไรมากมาย ผมอยากให้เรื่องนี้จบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

“กันตภณ ขันติคุณอนันต์” หรือ “เฟิร์ส” พี่ชายของน้องนิว บัณฑิตป้ายแดงที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถกระบะชนเข้าอย่างเต็มแรง ขณะซ้อนท้ายจักรยานยนต์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนทำให้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังเรื่องราวสะเทือนใจได้ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งในโลกออนไลน์

พร้อมทั้งมีการกล่าวถึงชะตากรรมของครอบครัวที่ไม่ได้รับการเยียวยาและเหลียวแลจากฝ่ายผู้ก่อเหตุ รวมไปถึงเรื่องคดีความก็ยังไม่คืบหน้า เป็นเวลามาแล้วกว่า 100 วันที่น้องสาวจากไป

“วันที่เกิดเรื่องคือวันที่ 12 มิถุนายน น้องสาวผมไปทำงานที่ จ.ประจวบฯ แต่วันนั้นโชคไม่ดีคือมีรถกระบะพยายามแซงรถบรรทุกจากด้านซ้าย น้องผมที่ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ สวมหมวกนิรภัย ซึ่งขับชิดซ้ายตามไหล่ทางปกติ รถกระบะก็ไปชนกับรถน้องผมพอดี

 
คนแถวนั้นบอกว่าหลังจากรถชนเสร็จก็จอดดูแล้วขับหนีไป พอดีว่ามีพี่ๆ จากมูลนิธิฯ สกัดจับเอาไว้ได้ สภาพน้องสาวผมตอนนั้นคือหนักมากเลย กะโหลกศีรษะยุบ แผลตั้งแต่ช่วงอวัยวะเพศถึงทวารฉีกขาด และกระดูกหักหลายที่

ทั้งตัวเป็นแผลหมดเลย กระทั่งลิ้นก็ยังเป็นแผล น้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 7 วันครับ แต่จริงๆ น้องผมสมองตายตั้งแต่วันที่ 5 อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจต่อมาจนถึงวันที่ 7 ก็เสียชีวิต

เมื่อลองถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความ ด้านพี่ชายของน้องนิวเล่าว่าตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องก็ยังไม่ได้รับการดูแลจากฝ่ายผู้เสียหาย แม้แต่การโทรศัพท์มาถามไถ่หรือรับผิดชอบใดๆ มีเพียงคำพูดที่อ้างว่าไม่มีเงินในการชดใช้ และรอขึ้นศาลเพียงอย่างเดียว

“ตอนแรกเขาฝากขังแล้วปล่อยออกมา คือมีการยึดของกลางไว้นั่นคือรถที่ใช้ชนน้องผม ตอนนี้คดียังไม่คืบหน้า คนที่เขาทำผิด เขาก็ยอมรับผิด แต่การไปไกล่เกลี่ยก็ยังไม่ได้รับผิดชอบ เรียกว่าไม่ได้สนใจเรื่องน้องผมสักเท่าไหร่ ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบถามไถ่หรืออะไรเลย

เวลานัดไกล่เกลี่ยก็จะมีฝ่ายผมที่ถามว่าจะยังไงดีครับ เขาก็ตอบมาว่าไม่มี หรือรอขึ้นศาลแค่นี้ มีแค่วันแรกที่น้องผมโดนชน หลังจากนั้นไม่มา จะมาต่อเมื่อครอบครัวโทรไป มีวันที่ 5 ที่น้องผมไม่ไหวแล้ว สมองน้องจะตายแล้ว ครอบครัวผมก็โทรไปบอกมาดูใจน้องหน่อย มาขอขมาน้องผมหน่อย เขาถึงมา

 
แต่ก็มาพร้อมกับตำรวจอีก 2 คน เขาไม่กล้ามาเอง เพราะกลัวว่าครอบครัวผมจะทำร้ายเขา แต่เรื่องนี้ผมเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แค่อยากให้เขารับผิดชอบให้มาดูแลน้องผมหน่อย ไม่ใช่เป็นฝ่ายผมที่ต้องโทรทุกครั้ง งานศพก็เหมือนกัน ไม่เคยมาเลย มีแค่ฝากพวงหรีดมาให้

ตัวเขาเองไม่เคยมาสักวันเลย วันเผาก็ไม่มา ไม่โทรด้วย ส่วนค่าเยียวยารักษาให้มา 3,500 บาท นั่นคือวันแรกให้ 500 บาท เพราะมีพี่เจ้าของบริษัทที่น้องทำงานด้วยบอกให้ช่วยครอบครัวน้องหน่อย ส่วนวันที่นำศพออกจากโรงพยาบาลช่วยอีก 3,000 บาท

จริงๆ ถ้าคนที่มีจิตสำนึก เขาต้องมีการถามทุกข์ ถามไถ่บ้าง นี่ตั้งแต่ไกล่เกลี่ยรอบที่สามก็ไม่มีการติดต่ออะไรเลย ไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย จะบอกว่าทางเขาก็มีครอบครัว มีลูกนะ ไม่ค่อยได้สนใจทางครอบครัวผมเท่าไหร่”
 

“คนที่อยู่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป”

“น้องผมเป็นหน้าตาของที่บ้าน เป็นเด็กดี เด็กเก่ง ฉลาด เพิ่งเรียนจบมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 เป็นที่ภูมิใจของบ้าน และเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย ที่ผ่านมาน้องจะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยตลอดตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เขาเป็นเด็กดีมาก เป็นที่รักของเพื่อนๆ หลายคน”

“เฟิร์ส” เปิดใจเล่าถึงน้องสาวตอนยังมีชีวิตว่าเป็นเด็กขยัน เรียนดี และช่วยเหลือครอบครัวมาโดยตลอด แถมยังมีความฝันว่าหลังเรียนจบแล้ว เธอจะทำงานหารายได้ เพื่อพาแม่และน้องชายกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน เนื่องจากว่าทั้งพ่อและแม่ได้แยกกันอยู่

“ผมเองออกมาสร้างครอบครัวต่างหาก แต่น้องสาวจะจะอยู่กับพ่อ ส่วนน้องชายคนเล็กจะอยู่กับแม่ ความฝันน้องสาวผม คือต้องการรับแม่กับน้องคนเล็กมาอยู่ด้วยกัน แต่เขาขอเวลาสัก 2 ปีนะ จะพาแม่กับน้องมาอยู่ด้วย เขามีความฝันที่จะเลี้ยงน้องกับแม่ ซึ่งพ่อแม่ผมก็หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้มีธุรกิจส่วนตัวอะไร

ที่ผ่านมาผมใช้โซเชียลมีเดียในการต่อสู้ อย่างการแชร์เรื่องราวออกไปก็มีเพื่อนๆ ที่ช่วยกันแชร์ เพื่อนๆ ของน้องช่วยเยอะมากครับ ส่วนใหญ่จะช่วยเรื่องโซเชียลฯ และตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพื่อนๆ ของน้องก็มาเยี่ยม มาช่วยงานศพ ช่วยทุกอย่าง
น้องนิวและพี่ชาย

 
แม้จะใช้สื่อโซเชียล แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ตอนนั้นเป็นช่วงรอใบชันสูตรศพ ถึงจะยื่นฟ้องได้ แต่ใบชันสูตรศพใช้เวลานานมาก เพิ่งจะได้เมื่อเดือนที่แล้วเอง หลังจากที่ได้มาก็รอส่งสำนวนยื่นฟ้อง ก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าเรื่องส่งสำนวน

เพราะตำรวจคนเก่าไม่ดำเนินเรื่องให้ ผมได้ยินข่าวมาว่าคนใหม่ที่มารับคดีต่อเรื่องน้องสาวผม แจ้งว่าคนเก่าไม่ได้เขียนสำนวนให้ จึงต้องรอเรียกกลับมาเขียนสำนวนใหม่ ตอนนี้คือต้องส่งภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ถ้าส่งไม่ทันวันที่ 25 ก็จะส่งคดีฟ้องศาลไม่ได้ คดีก็จะสิ้นสุด ผมเลยกลัว”

แม้เวลานี้จะยังไม่ได้ข้อสรุปทางกฎหมายสำหรับเรื่องราวดังกล่าว ทว่า ด้านครอบครัวกล่าวว่าหลังจากนี้ก็จะยังสู้เพื่อน้องต่อไป โดยอยากให้คดีนี้เสร็จสิ้นตามกระบวนการ รวมถึงฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยว่า “สติ” สำคัญที่สุด

“อย่างว่านะครับ คนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ทำเท่าที่ทำได้ แต่ตอนนี้ผมอยากทำคดีน้องให้จบ จะได้สบายใจทั้งครอบครัว หมดห่วงสักที ผมอยากให้ทาง สน. ที่รับคดีน้องผมก็อยากให้คดีมันเสร็จในเวลา ผมก็กลัวว่าจะนิ่งเงียบไป ผมฝากแค่เรื่องเดียว เรื่องนี้แหละครับ

อีกอย่างผมอยากพูดถึงคนที่ใช้รถบนถนน คนเราถ้าขับรถ ผมฝากเรื่องสติ เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ใช่เราคนเดียว แต่เป็นคนรอบข้างที่ต้องมาเดือดร้อนด้วย

อย่างเราไปชนเขา เขาอาจจะมีความสำคัญกับครอบครัว อาจต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ถ้าเสาหลักล้ม ครอบครัวก็ล้ม ผมอยากฝากคนที่ขับรถก็ให้ระวังเพื่อนร่วมทางด้วย จะได้ไม่เกิดการสูญเสียแบบครอบครัวผม”

ข่าวโดย MGR Live




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น