ยูทูบเบอร์ “ชาวเกาหลี” ชื่อดัง “คิวเท โอ็ปป้า” ลุยเดี่ยวแจกของ-บริจาคเงิน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี สังคมชื่นชมแม้เป็นชาวต่างชาติแต่หัวใจไทย เจ้าตัว เปิดใจ “ประเทศไทยเหมือนบ้าน” แถมยังตั้งเป้าบริจาคช่วยสังคม ด้วยเงินส่วนตัว “5 แสนบาท” ต่อปี!
ครั้งแรก! ประสบการณ์ช่วยน้ำท่วม #Saveubon
“วันก่อนผมนอนดูทีวีก็คิดว่าตอนที่เราอยู่บ้านสบายๆ ยังมีคนที่ลำบาก มีน้องคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับส่งรูปมาว่านั่งอยู่บนหลังคา ผมก็เลยตัดสินใจลองไปที่นั่นดูดีกว่า”
หนุ่มเกาหลีหัวใจไทย “ซิม คิวเท” หรือที่รู้จักในฐานะ “ยูทูบเบอร์” ชื่อดังจากเชนแนล “Kyutae Oppa” ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 3 ล้านคน เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ทั้งยังเล่าประสบการณ์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของตน จนมีผู้คนเข้ามาชื่นชมและแชร์ไปแล้วมากถึง 2 หมื่นครั้ง
“ผมได้ไปบริจาคที่อุบลราชธานีครับ เกือบไม่ได้กลับกรุงเทพฯ เพราะทางท่วม แต่ขับอ้อมครับ ส้มตำอร่อยมากครับ ไก่ย่างด้วย ช่วยกันบริจาคนะครับที่รักทุกคน ผมได้ซื้อยากันยุง ปลากระป๋อง น้ำยาล้างจานซันไลต์ ได้รู้ว่าเงินก้อนเล็กๆ ของผมทำให้ทั้งหมู่บ้านนี้ได้กินปลากระป๋องและไม่โดนยุงกัดครับ
ความสนใจสำคัญที่สุดครับ ผมได้เห็นว่าข่าวกับของจริงไม่เหมือนกันเลย ต้องดูเองครับ ไม่ใช่อยู่ในห้องแอร์ และคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง แต่มาดูครับ เพราะหลายอย่างแตกต่างมาก”
ซิม คิวเท เล่าว่าที่ตัดสินใจลงพื้นที่ส่วนหนึ่งเพราะมีแฟนคลับคอนเมนต์ว่าอยากให้ไปช่วย ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปด้วยตัวคนเดียว เมื่อไปถึงได้สำรวจพื้นที่แล้วจึงจัดการซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับการบริจาค แน่นอนว่าทั้งเด็กและคนชราต่างมีรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าหนุ่มเกาหลีคนนี้เดินทางไปช่วยเหลือ
“ตอนแรกผมไปตัวคนเดียวเลย ขับรถไป พอไปถึงก็ดูสภาพก่อนว่าที่นั่นเป็นยังไง หลังจากนั้นก็ถามผู้เชี่ยวชาญแถวนั้นที่ช่วยบริจาคอยู่ทุกวัน เขาแนะนำว่าซื้อปลากระป๋องก็ดี หรือยากันยุง ผมก็เลยไปที่แม็คโครอุบลแล้วซื้อของตามนั้น ซื้อเสร็จผมก็ไปกับป้าคนหนึ่งที่เขาบริจาคที่นั่นทุกวันอยู่แล้ว
จุดที่ผมไปไม่ค่อยมีคนเข้าถึงเท่าไหร่ ป้าบอกว่าในเมืองมีคนช่วยเยอะ ที่เราไปก็จะไกลกว่านิดหน่อย ค่อนข้างไกลครับ ต้องนั่งเรือเข้าไปด้วยครับ ตอนไปเขาก็ตกใจกันนะครับ แต่ทุกคนดูมีความสุข ตอนแรกผมคิดว่าจะเศร้าแต่ไม่เลยครับ ทุกคนมีรอยยิ้ม ผมได้เรียนรู้ว่าปัญหาที่เราเจอ มันดูธรรมดาไปเลย
ถ้าถามว่าตอนที่ผมไปที่นั่นขาดแคลนอะไรมากที่สุด ผมว่าก็มีของเข้ามาเรื่อยๆ แต่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือการให้ความสนใจครับ สิ่งของมันมา แต่ถ้าคนไม่มา อย่างที่ผมเข้าไปข้างในก็รู้สึกว่าคนดีใจ เด็กๆ ก็ยิ้ม ผมเล่นกับเด็กๆ ส่วนคนอายุเยอะก็ชอบเหมือนกันนะครับ เหมือนเป็นต่างชาติเข้าไป”
ด้วยความที่เป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังจึงมีบางกระแสมองว่าเขากำลังสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองอยู่หรือไม่ เรื่องนี้เจ้าตัวบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าตั้งใจมาช่วยด้วยใจจริง เพราะถ้าอยากโด่งดังคงทำดังได้ด้วยวิธีอื่นไปแล้ว
“เมื่อวานผมบริจาคให้คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ไป 1 หมื่นบาท ถ้าสถานการณ์หนักขึ้นอาจจะไปอีก แต่ผมต้องดูเวลาอีกที เพราะไป-กลับก็ใช้เวลา 3 วัน ส่วนกระแสที่มองว่าผมอยากให้ตัวเองดังหรือเปล่า
จริงๆ ถ้าอยากสร้างกระแส ผมทำอย่างอื่นก็ได้ถ้าอยากสร้างกระแส เอาเงินก้อนนั้นไปทำอย่างอื่น เพราะ 5 แสนบาทมันน่าจะทำอะไรได้หลายอย่างเลยที่สนุกๆ หรือถ้าคนคิดแบบนั้นก็ลองทำดูก็ได้ว่าดังจริงหรือเปล่า เพราะมันไม่ใช่ว่าทำอย่างนั้นแล้วจะดัง ถ้าทำแบบนั้นแล้วดัง ทุกคนก็น่าจะทำไปแล้ว”
ใช้ “ยูทูบ” เป็นสื่อ สอนให้คนรู้จัก “ให้”
“จริงๆ ถ้าไปเกาหลีผมรู้สึกว่าไปต่างประเทศนะครับ อยู่นี่รู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่า ผมเกิดที่นี่ อยู่ตลอดเลย เหมือนคนไทยเลยครับ ชอบกินอาหารไทยด้วยครับ”
แม้ภายนอกดูเป็นหนุ่มเกาหลีเต็มตัว แต่ในใจเป็นไทยเต็มร้อย นั่นเพราะเกิดและเติบโตที่นี่ จนผูกพันกับความเป็นไทย รวมถึงความมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น
ซึ่งเขาเปิดใจให้ฟังว่า ซึมซับมาจากคุณพ่อที่เป็นศาสนาจารย์ที่มักจะเดินทางไปสอนหนังสือและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ จากตรงนี้จึงเป็นไอเดียที่ทำให้เขาตั้งเป้าบริจาคเงินที่สูงถึง 5 แสนบาทต่อปี!
“เรื่องตั้งเป้า เริ่มทำปีนี้ปีแรกเลยครับ มาจากที่ผมชอบบริจาคอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก พ่อเป็นศาสนาจารย์ เป็นคริสต์มีเป้าหมายมาช่วยคนไทย ผมดูพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ไปหลายๆ ที่ หลายๆ เมือง ก็ได้ช่วย ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่มีรายได้ พอตอนนี้มีรายได้ก็ช่วยคนได้มากขึ้น
น้ำท่วมนี่คือครั้งแรกที่ช่วยครับ แต่ที่ผ่านมา ผมไปบริจาคที่โบสถ์บ้าง ไปช่วยเด็กบนดอยที่พูดไทยไม่ได้ มีโรงเรียนอยู่ก็เลยไปช่วยบริจาคขนม ส่วนใหญ่จะบริจาคขนม เพราะที่นั่นมีเด็กๆ ประถม ผมก็เลยเหมาขนมทั้งหมดในร้านสะดวกซื้อไปบริจาค ทั้งหมดใช้เงินส่วนตัวหมดเลยครับ
มีคนบอกว่าอยากให้รับบริจาค แต่ผมตัดสินใจจะไม่รับ เพราะว่าบางครั้งผมอยากบริจาคตรงนี้บ้าง หรืออยากบริจาคหลายๆ ที่ แต่ถ้ารับบริจาคอาจจะต้องระบุว่าบริจาคที่นี่อย่างเดียวนะ และเพราะเป็นเงินคนอื่น ผมรู้สึกว่าถ้าเขาอยากบริจาค เขาบริจาคกันเองได้ ไม่ต้องมาโอนให้ผม ผมเลยไม่เอาดีกว่า”
ที่น่าสนใจคือ การตั้งเป้าบริจาคของเขาเกิดขึ้นมาจากเงินส่วนตัวทั้งนั้น แม้จะเป็นการเริ่มต้นในปีแรกแต่ก็สูงถึง 5 แสนบาท แถมเขายังบอกอีกว่าปีหน้ามีแพลนจะตั้งเป้าที่ 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในสังคมไทย
“มันก็สูงนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้พยายามทำให้ตัวเองลำบาก ทำไปเพราะมีความสุข ช่วยคนที่ไม่มี อย่างน้ำท่วมเขาไม่มีของกิน ผมก็บริจาคของกิน ช่วยคนที่ไม่มี ถ้าผมทำได้จริงๆ ปีหน้าอยากตั้งเป้า 1 ล้านบาท แต่ผมยังต้องดูก่อนครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากตั้งไว้ 1 ล้าน
ผมมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าจะช่วยเท่าไหร่ต่อปี จะบริจาคให้ครบ 5 แสน ช่วยทุกเคส ผมพยายามบริจาคไปด้วยและมีคอนเทนต์ไปด้วย ให้คนได้เห็นผมบริจาคว่าถ้าผมทำแบบนี้ คนดูก็จะมีความคิดอยากจะช่วยคนอื่นด้วย ผมใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดเลย ไม่ได้รับบริจาคจากใครเลย
บางคนก็ชอบนะครับ บางคนก็บอกน่าเบื่อ เพราะคลิปช่วยคนบางทีมันไม่สนุก ซึ่งปกติคลิปของผมเน้นสนุก ผมก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็ลงคลิปอื่นไปด้วย คลิปช่วยคนผมว่าคนไม่ต้องดูเยอะก็โอเค ถึงคนดูน้อยแต่ถ้าคนหนึ่งที่ดูเขาได้ความคิดว่าอยากช่วยคนอื่น ผมก็โอเคแล้วครับ
อีกอย่างถ้าผมทำคลิป คนดูส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น อยากให้เป็นเหมือนวัฒนธรรมใหม่ในการบริจาคมากกว่า ก็ดีเหมือนกัน ผมให้พวกเขา พวกเขาก็มีความสุข ถ้าผมตั้งใจ มีรายได้เยอะกว่านี้ มีกำลังก็อาจจะทำให้หลายคนมีความสุขกว่านี้ได้”
ข่าวโดย MGR Live
ขอบคุณภาพ FB : Kyutae Oppa - คิวเท โอ็ปป้า
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **