“พวกเราไม่ทอดทิ้งกันอยู่แล้ว” เปิดใจ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พระเอกจิตอาสา ลงพื้นที่ - ลงแรง - ลงขัน ออกเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท และเป็นสะพานบุญ เปิดบัญชีช่วยเหลือ #น้ำท่วมอุบล เพียง 2 วันธารน้ำใจคนไทยทะลุร้อยกว่าล้าน พร้อมสะท้อนความช่วยเหลือของรัฐบาล “ถ้าให้ไปชอปปิ้ง 1,000 บาท ก็น่าจะเอามาให้ทางอุบลฯ ด้วย”!!
ควัก 1 ล้าน พาอุบลฯ พ้นบาดาล
“พอไปเห็นมันจุกอกครับ ไม่รู้จะพูดยังไง ตอนนั้นผมไปก็ให้ชาวบ้านคนละ 1,000 บาท ใครผ่านมาผมรู้สึกสงสารผมก็ให้ คนป่วย คนพิการก็ให้ 5,000 บาท ให้ไปตอนนั้นรวมแล้วประมาณ 50,000 บาท รู้สึกว่าแค่นี้มันไม่ได้แล้ว
เลยตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ไปเบิกเงินของเราเอง 1 ล้านเพื่อจะมาแจกเขา แล้วก็เชิญชวนเพื่อนๆ ในหน้าแฟนเพจผมให้มาช่วยกัน แต่ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ กลายเป็นช่วยกันเต็มไปหมดเลย ตอนนี้ก็ร้อยกว่าล้านแล้วครับ ภายใน 2 วัน”
ท่ามกลางอุทกภัยที่หนักสุดในรอบ 17 ปีของ จ.อุบลราชธานี ต้องจมอยู่ในบาดาล ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่เปรียบได้ดั่งน้ำทิพย์มาชโลมจิตใจ เมื่อ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงรุ่นใหญ่ และอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ไม่เพียงแค่ลงแรง ลงพื้นที่ไปพร้อมทีมงานมูลนิธิฯ เท่านั้น แต่เขายังลงขันด้วยเงินตัวเองถึง 7 หลัก เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือถึงมือพี่น้องชาวอุบลฯ โดยตรง
พระเอกหัวใจจิตอาสาได้เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากในพื้นที่ประสบภัยว่า หลังจากได้ลงมาอยู่ในพื้นที่นานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้เขารับรู้ถึงความเดือดร้อนและความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้อาหารหรือที่อยู่อาศัย ก็คือ “เงิน”
เขาจึงตัดสินใจทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ เปิดบัญชีขอรับบริจาคเพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้โดยเฉพาะ ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ธารน้ำใจจากพี่น้องชาวไทยทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้ขณะนี้มียอดทะลุร้อยกว่าล้านบาทไปแล้ว!!
“วันนี้ผมเบิกเงินไป 7 ล้านบาท ตอนนี้ผมอยู่บ้านบุ่งหวาย ก็ต้องขับรถถึงพื้นที่แล้วก็ต้องนั่งเรือเข้าไปต่อ มีจำนวน 154 ครอบครัว แล้วก็จะไปอีก 500 กว่าครอบครัว ตั้งใจเอาเงินไปแจกรอบแรก ครอบครัวละ 5,000 บาท ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับปัจจัยคือเรื่องเงินครับ
ตอนแรก 1 ล้านของผมกะให้ 1,000 บาทต่อ 1 ครอบครัว แต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่ 1,000 ครอบครัวแล้ว ผู้ประสบภัยมีประมาณ 12,500 กว่าครอบครัว พอมีคนบริจาคเข้ามาขนาดนี้ เราให้เลยครอบครัวละ 5,000 บาท ให้เขาสามารถเอาเงินนี้เก็บไว้เพื่อทำในสิ่งที่อยากทำ ซื้อในสิ่งที่อยากจะซื้อ ก็ให้มันเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับพวกเขาครับ
ก่อนหน้านี้ ผมลงพื้นที่ไปประมาณ 6 วันแล้วครับ ชาวบ้านไม่มีเงินที่จะจับจ่ายใช้สอย เพราะว่าเรื่องการเกษตร ปศุสัตว์อะไรทั้งหมด ส่วนมากชาวบ้านจะหาเช้ากินค่ำ ได้รับเป็นรายวัน เมื่อน้ำท่วมเป็น 10 วัน ก็ไม่มีการรับจ้างหรือไม่มีเงินเข้ามาที่ไหนเลย
แล้วอีกอย่างคือไม่สามารถกลับไปพักอาศัยที่บ้านได้ เพราะว่าน้ำท่วมเต็มบริเวณพื้นที่หมด ต้องอาศัยอยู่ตามเต็นท์ ตามศูนย์อพยพ ส่วนสัตว์ก็มีพวกไก่ พวกสุนัข ที่ต้องเลี้ยงบนหลังคา พวกสัตว์ใหญ่ วัว ควายก็เอาออกมาหมดแล้ว ก็เดือดร้อนทั้งคนทั้งสัตว์ เพราะฉะนั้น เงินที่จะใช้สอยมันไม่มี ได้แต่ของแจก ข้าวสารอาหารแห้ง เขาไม่รู้จะทำยังไงเพราะมันไม่มีตรงนี้”
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือหลังจากนี้นั้น ทางพระเอกใจบุญและทีมงานของมูลนิธิร่วมกตัญญู จะพยายามลุยเข้าไปยังพื้นที่ที่ยังรอการช่วยเหลือให้ทั่วทุกหลังคาเรือนทั้งระหว่างน้ำท่วมและหลังน้ำลด พร้อมยืนยัน ยังไงก็จะไม่ทอดทิ้งกันอยู่แล้ว
เดี๋ยวระหว่างหลังน้ำลดเข้าไปในบ้านแล้ว เราก็ไปฟื้นฟูสภาพจิตใจเขาด้วย เขาจะได้ชื่นใจว่ามีคนซื้อสิ่งพวกนี้ให้เขา
ตอนนี้ก็ให้กำลังใจทั้งหมดครับ ทางร่วมกตัญญูเกือบ 2 อาทิตย์ เพราะฉะนั้นไม่มีการทอดทิ้ง เราดูแลตลอด ต้องการอะไรบอกเรา เรื่องของยา เสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภคนี่เรามีพร้อมให้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากให้ชาวบ้านทุกคนมีกำลังใจที่จะต้องดูแลตัวเองกับครอบครัวด้วย พวกเราไม่ทอดทิ้งกันอยู่แล้วครับ”
ส่วนใครก็ตามที่เป็นห่วงในการจัดสรรเงินบริจาค ทางเพจ “มูลนิธิร่วมกตัญญู” ก็ได้มีการชี้แจงว่า บัญชีที่เปิดรับบริจาคเพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นบัญชีที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เปิดแยกต่างหากกับบัญชีส่วนตัว ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูให้แก่ชาวอุบลราชธานี ภายหลังจากส่งมอบจนถึงขั้นตอนการบูรณะฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว บัญชีนี้จะถูกปิดลง
ช่วยประชาชนน้อยไป?! รัฐปฏิเสธ “ไม่เคยทอดทิ้งใคร”
“ส่วนการพูดถึงรัฐบาล ผมไม่ได้ตัดพ้อ แค่อยากเป็นเสียงสะท้อนมากกว่า ผมเห็นนายกฯ ท่านมอบเงินให้ชาวบ้านไปชอปปิ้งกันเพื่อให้เศรษฐกิจประเทศไทยดี ผมก็บอก ถ้าให้ไปชอปปิ้ง 1,000 บาท ก็น่าจะเอามาให้ทางอุบลฯ ด้วย แจกคนละ 1,000 น่าจะดี เท่านั้นเอง ไม่ได้ว่าอะไร อยากจะให้มาดูแลพี่น้องที่อุบลฯ ด้วย ประมาณนั้นครับ”
นอกจากพระเอกหัวใจจิตอาสาจะมาเล่าถึงการลงพื้นที่ช่วยเหลือแล้ว เขายังอธิบายถึงประเด็นที่กลายเป็นที่พูดบนโลกโซเชียลฯ หลังจากที่ได้ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” สะท้อนถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐในน้ำท่วมครั้งนี้ ที่เขามองว่า ยังไม่มากเท่าที่ควร
“เท่าที่ลงพื้นที่ ผมได้เห็นความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิร่วมกตัญญู มีมูลนิธิอื่นๆ แล้วก็มีทั้งพระสงฆ์ หน่วยงานเอกชนเขาก็เข้ามากันนะครับ เข้ามากันเยอะมาก ทางเราก็เออ...รู้สึกว่าไม่ทิ้งกันจริงๆ มาให้กำลังใจกันจริงๆ
แต่พูดถึงรัฐบาลเขาก็มีนะครับ ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ก็อยู่ช่วยเหลือ แต่อาจจะน้อยไปนิดนึง เพราะว่าพื้นที่น้ำท่วมมันเยอะมาก เป็นแสนๆ ไร่ เพราะฉะนั้นต้องเอาหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานรัฐบาลมาช่วยกันอีกสักเท่านึง ผมว่ามันจะได้ทันทั่วถึง”
ด้านความเคลื่อนไหวจากฝั่งรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @DrNarumonP ยืนยัน “บิ๊กตู่” ไม่ทอดทิ้งใคร
เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะเร่งสำรวจและฟื้นฟูความเสียหายให้ทุกอย่างกลับสู่ปกติ ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพกายและใจของผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุดด้วย ส่วนเงินเยียวยาจะจ่ายตามระเบียบทางราชการ เช่น การดำรงชีพเบื้องต้น ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพที่เสียหาย ชดเชยพื้นที่เกษตร ประมง ปศุสัตว์เสียหาย
หากมีผู้เสียชีวิตครอบครัวจะได้รับเงินรายละ 50,000 บาท บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 200,000 บาทต่อหลัง เสียหายบางส่วนช่วยเหลือตามจริง 15,000-70,000 บาท รวมทั้งยังมีการช่วยเหลือจากสถาบันเฉพาะกิจต่างๆ เช่น ธ.ก.ส. ธอส. ขอให้พี่น้องผู้ประสบภัยมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน
การบริหารจัดการเงินและสิ่งของที่ได้รับบริจาค จะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยทุกจังหวัดจะมีคณะกรรมการดูแล เพื่อให้เงินบริจาคและการจัดส่งสิ่งของถึงมือผู้ประสบภัยอย่างถูกต้องทั่วถึง โดยนายกฯ สั่งการให้ทุกหน่วยทำงานอย่างรอบคอบรัดกุม และต้องไม่มีการร้องเรียนเรื่องทุจริตเด็ดขาด”
สุดท้าย ก่อนที่ทางพระเอกใจบุญจะลุยน้ำท่วมไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัย เขาได้ฝากคำขอบคุณไปยังทุกๆ คนที่ร่วมบริจาคในครั้งนี้ อีกทั้งยังฝากเตือนถึงเรื่องการโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือ เพราะขณะนี้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหากินกับความเดือดร้อนของชาวอุบลฯ แล้ว
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเหนื่อยใจครับ เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่แต่เหนื่อยใจที่เขาอาศัยช่องว่าง อาศัยความยากลำบากของพี่น้องประชาชนแล้วมาทำแบบนี้ ผมจะไม่ให้อภัยเลย เพราะอย่างน้อยมันเป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนแล้วมาทำอย่างนี้ มันทำให้รู้สึกว่าคุณไม่มีความคิด ไม่มีสมอง พวกที่ทำถือว่าเลวมาก อย่าทำ ตอนนี้ผมกำลังให้ตรวจสอบอยู่ เป็นบัญชีออมสินนะครับ ผมไม่มีบัญชีออมสิน อย่าไปโอนนะครับ เป็นบัญชีชื่อ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ของธนาคารกสิกร
ส่วนพี่น้องที่รอความช่วยเหลือ ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้มูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยพี่น้องที่ประสบอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี ตอนนี้กำลังเข้าพื้นที่นำความช่วยเหลือไปให้นะครับ ก็ใจเย็นๆ นิดนึง รับรองว่าผมจะกระจายความช่วยเหลือไปครบทุกครอบครัวที่เดือดร้อน ก็เป็นกำลังใจให้ครับผม
เงินผมแค่ 1 ล้านบาทแต่พี่น้องทุกภาคส่วนของประเทศไทยร้อยกว่าล้าน ผมรู้สึกปลาบปลื้ม ผมขอกราบขอบคุณแทนพี่น้องชาวอุบลฯ ที่ทุกท่านมีน้ำใจให้แก่พวกเขา ผมซาบซึ้งมากๆ ผมรู้ว่าเกิดวิกฤตของประเทศไทยทีไร พี่น้องชาวไทยทุกคนจะไม่ทอดทิ้งกัน โดยเฉพาะการไว้วางใจที่ผ่านบัญชีของผม ผมขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านมากๆ เลยนะครับ ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข ความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป นะครับ ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้ประสบความสำเร็จครับ”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เพจเฟซบุ๊ก "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" "มูลนิธิร่วมกตัญญู" และ "อุบลวันนี้"
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **