ต้องมีความสุขกับการเรียน!! เปิดแนวคิดผู้อำนวยการ ผุดไอเดียท่องสูตรคูณสไตล์แร็ปเปอร์ เด็กสนุก-ลดการเบื่อหน่ายในการเรียน แก้ปัญหาเด็กท่องแบบเดิมๆ ชี้ยุคสมัยเปลี่ยน ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งครู และเด็กนักเรียน
ท่องสูตรคูณธรรมดา...โลกไม่จำ!!
“ผมสนุกกับเรียนเพิ่มขึ้น” นี่คือคำพูดของ ด.ช.ปฏิคม นรชาญ นักเรียนชั้น ป.6 ที่บอกเล่าให้ฟังว่า รู้สึกเป็นเรื่องที่ดีมาก ที่ครูได้นำดนตรีจังหวะแร็ปมาประยุกต์ใช้กับการท่องสูตรคูณ ทำให้ตนและเพื่อนๆ ในห้องสนุกกับการเรียนเพิ่มขึ้น ตอนนี้ได้ท่องสูตรคูณได้ถึงแม่ 12 แล้ว ผลการเรียนก็ดีขึ้นอีกด้วย
หลังมีคลิปนักเรียนออกมาร้องแร็ป เต้นหน้าชั้นเรียน ผลัดเปลี่ยนกันท่องสูตรคูณอย่างสนุกสนาน ได้ถูกแชร์ไปทั่วสังคมออนไลน์จนกลายเป็นปรากฏการณ์ “สูตรคูณแร็ปเปอร์” ทางทีมข่าว MGR Live จึงได้ไปสืบหาคนต้นไอเดียที่ทำให้หลักสูตรนี้เกิดขึ้น คือ วีระชาติ ดวงคำน้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนกระนวน จ.ขอนแก่น
“ผมเห็นเบื้องต้นเด็กมีเจตคติดีขึ้น คือถ้าไม่ชอบเขาจะเรียนไม่ได้ มันเปิดเจตคติ เปิดสมองเขาโดยแท้ เอาแร็ปเปอร์เข้ามาใช้ ให้เปิดสมองก่อน ก็เหมือนกับ BBL (Brain-Based Learning) นี่แหละครับ ถ้าเราคิด จัดการเรียนการสอนเหมือน BBL ให้เด็กหลั่งสารแห่งความสุขออกมาก่อน”
โดยในแต่ละวันจะเริ่มร้องจากสูตรคูณแม่ 2 จาก 2x2=4 ไปจนถึง 2x12=24 จากนั้นก็ให้นักเรียนแต่ละคนผลัดเปลี่ยนกันท่องแม่สูตรคูณแม่อื่นๆ จนถึงแม่ 12 ส่วนคนที่ยังไม่ถึงคิวของตน ก็นั่งปรบมือตามจังหวะการร้องแร็ปของเพื่อนที่โชว์อยู่หน้าชั้น ซึ่งจะใช้การท่องจำแบบนี้กับนักเรียนประถมศักษาปีที่ 4-6 เท่านั้น
สำหรับแรงบันดาลใจในการทำสื่อสอนนักเรียนรูปแบบนี้นั้น ผู้อำนวยการให้คำตอบถึงเรื่องนี้ว่า แร็ปเปอร์เป็นสื่อหนึ่งที่โรงเรียนสนใจ วิชาคณิตศาสตร์สำหรับบางคนเป็นวิชาที่น่าเบื่อ นักเรียนบางคนไม่มีความสุขในการเรียน
ครูผู้สอน จึงได้หาแนวทางว่าถ้าเรานำแนวทาง แร็ปเปอร์ มาใช้ในการเรียนการสอนจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทางฝ่ายบริหารนั้นก็ให้อิสระในการจัดการเรียนการสอนของคุณครูและนักเรียน พอนำแร็ปเปอร์มาใช้เด็กมีความสุขกับการเรียนมากยิ่งขึ้น
[ผู้อำนวยการโรงเรียน]
“สำหรับแนวคิด ยุคมันเปลี่ยนไป ครูต้องการให้นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรมในการเรียน โดยเชื่อมโยงกันกับสื่อ หรือโลกที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันนี้ จึงได้ให้อิสระแก่ครูออกแบบการจัดกิจกรรม จะทำอย่างไรนักเรียนของเรามีความสนใจในวิชาคณิตศาสตร์
เพราะว่าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ต้องมีการบวก ลบ คูณ หาร จะมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งซึ่งอาจจะจะเรียนไม่ทันเพื่อน อาจจะเรียนช้า และไม่ค่อยสนใจ เวลากลับบ้านบ้านก็เล่นแต่โทรศัพท์มือถือ เล่นเกมซึ่งผู้ปกครองก็ไม่มีเวลาที่จะสอน ให้เด็กกลุ่มนี้ ทำให้เด็กกลุ่มนี้ถูกปล่อยปละละเลยไปบ้าง
พอมาเรียนก็ไม่ได้สนใจเรียน พอหันหน้าเข้าแบบฝึก เขาก็ทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ซึ่งพื้นฐานมันก็มาจากการที่เขาไม่ได้สนใจ ไม่มีแรงกระตุ้น
ครูที่สอนได้มาขอว่า จะใช้ดนตรีเข้ามาสอนด้วยได้มั้ย ผมก็บอกเขาว่าเอาเลย ให้เด็กมันเกิดการรับรู้ ให้เปลี่ยนแปลงเจตคติ ทำอย่างไรให้เปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อคณิตศาสตร์ได้ครูเขาก็หาดนตรีว่าเด็กเขาชอบอะไร แล้วนำมาใส่ท่วงทำนอง ใส่เนื้อหาลงไป ก็เลยเกิดเป็นภาพที่ออกมาครับ”
ยุคสมัยเปลี่ยน การเรียนต้องเปลี่ยนแปลง!!
“เมื่อก่อนวิชาคณิตศาสตร์ก็ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันนี้หลักสูตรมันเปลี่ยนไป คณิตศาสตร์กับการเชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นเก่า กับคนรุ่นใหม่ เดี๋ยวนี้พ่อและแม่สอนการบ้านไม่ค่อยได้ เพราะวิธีการ วิธีคิดเขาเปลี่ยนไป”
ผู้อำนวยการรายนี้ได้สะท้อนปัญหา การเรียน การสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่เกิดขึ้นผ่านประสบการณ์ที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นว่าวิชานี้ปัจจุบันมีความยากขึ้นจริงๆ ซึ่งโรงเรียนมักจะมีปัญหาแตกต่างออกไป โรงเรียนของตนก็มีปัญหาในแต่ละวิชาเหมือนกัน หากมีวิธีจัดการ ทุกอย่างมันก็ง่าย
“เมื่อก่อนเราตั้ง บวก ลบ คูณ หาร หลักหน่วย หลักสิบ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมาแตกก่อน นี่แหละคือการเชื่อมโยงของคนรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ แต่สูตรคูณถ้านักเรียนเข้าใจแล้ว จะใช้แบบรุ่นเก่าก็ได้ ก็ตั้งคูณกันเลย ขอให้ได้แม่สูตรคูณก็เป็นอีกวิธีหนึ่งนะครับ
ส่วนอื่นๆ ของคณิตศาสตร์จะต้องเชื่อมกันกับภาษาไทยด้วย เพราะมันเป็นส่วนปัญหา เราต้องทำเป็นประโยคสัญลักษณ์ก่อน นักเรียนก็จะมีการเชื่อมโยงกันหลายๆ อย่าง ปัญหาอื่นเกี่ยวกับการสอนก็จะเป็นปัญหาในเรื่องของบุคคลเข้ามาด้วย เพราะแต่ละโรงเรียนนั้น ปัญหาไม่เหมือนกัน”
เห็นได้ชัดว่าเมื่อได้นำนวัตกรรมตรงนี้มาใส่ดนตรีแร็ปเปอร์เข้าไป ปรากฏว่านักเรียนมีเจตนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และยังส่งผลต่อการ เพิ่มความสัมพันธ์ต่อครูผู้สอน และเด็กนักเรียนให้ห้องเรียนอีกด้วย
“คลิปต่างๆ มันเป็นอิสระทางวิชาการ ซึ่งผลตอบรับคือมีคนสนใจ เนื้อหาก็ไม่ได้เปลี่ยน เมื่อเขาเริ่มมีความสุขที่จะเรียน เวลาเรานำมาใช้ เขาก็นึกถึงความสุขที่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะได้รับการชื่นชม มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำดนตรีแร็ปมาใช้ แต่มีหลายเสียงมองว่าควรเอาดนตรีไทยมาใช้มากกว่า
“ถ้าครูมีวิธีจัดการ เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย ในส่วนที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ก็มีเหมือนกันว่า มันอาจจะเกินวัยของเด็กมั้ย จังหวะมันก็ไม่เหมือนจังหวะเพลงไทย เอาดนตรีหมอลำใส่ได้มั้ย มันก็เป็นข้อคิดให้เราเพิ่มเติม ให้นำไปปรับกับครูเขา”
นอกจากนี้ เขาได้กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับเรื่องการเรียนการสอนไว้ด้วยว่า การร้องเพลงแร็ปที่เป็นที่ฮือฮาอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เด็กสนใจการเรียนมากขึ้น เขาก็เพิ่งนำมาปรับใช้ได้ไม่นานนัก โดยไม่ใช่แค่วิชาคณิตศาสตร์เพียงวิชาเดียว เขาอยากให้นำไปประยุกต์ และนำไปพัฒนาใช้กับวิชาอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
“อยากให้ต่อยอดครับ อยากจะให้พัฒนา และต่อยอดไปสาระใดบ้าง สามารถที่จะนำวิธีการไปใช้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้ตัวนี้เป็นบ้า เป็นหลัง ไม่เข้าเนื้อหาก็ไม่ได้”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **