เปิดอุทาหรณ์จากเครื่องดื่มยอดฮิต “ชานมไข่มุก” ภัยเงียบที่แฝงมากับความอร่อย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดหัวใจอุดตัน นักโภชนาการเตือนเมนูนี้หวานเกิน มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่าที่จะได้รับถึง 2 เท่า พร้อมแนะทริกการกินอย่างไรไม่ให้เป็นโรค
ดีต่อใจ อันตรายต่อร่างกาย
“ชานมไข่มุกวันละแก้ว ทำให้เกิดอะไรบ้าง น้ำตาลเธอขึ้นจาก 105 เป็น 359 น้ำตาลสะสมพุ่งไปที่ 12.6 (ค่าปกติไม่เกิน 5.7) ไตรกรีเซอร์ไรด์ เพิ่มจาก 222 เป็น 801 สรุปได้ว่าชานมไข่มุกวันละแก้วนี่ล่ะ ทำให้เธอเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด คือเป็นอาการของเบาหวานที่มีน้ำตาลสูงมากนั่นเอง”
หนึ่งในข้อความที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Somroong Sam Chotin” โพสต์เตือนภัยจากที่ได้ตรวจสุขภาพคนไข้รายหนึ่ง เจอค่าน้ำตาลในเลือด และไตรกรีเซอร์ไรด์พุ่งสูงมาก ซึ่งสาเหตุมาจากการกินชานมไข่มุกทุกวัน
“วันนี้มีหญิงอายุ 46 ปี มาปรึกษาเรื่องเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เธอตั้งใจมาตรวจสุขภาพและขอให้ผมเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจให้ ผมจึงเลือกให้เธอไปก่อนตามประสงค์ หลังจากได้ผลเลือด และตรวจ echocardiogram แล้ว พบว่าผลตรวจหัวใจปกติหมด แต่ผลเลือดนี่สิเจ็บจริง
ผมถามประวัติเพิ่มเติมจึงทราบว่า ในช่วง 1-2 เดือนนี้ เธอน้ำหนักลด ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย บางวันเพลียมากไปทำงานไม่ไหว ผลเลือดพบว่า น้ำตาลและไตรกลีเซอไรด์สูงมาก ต่างจากเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วอย่างหน้ามือเป็นหลังเท้า ถามเธอว่าช่วงนี้ทานอะไรหวานๆ มากไหม เธอเล่าว่า เธอทานชานมไข่มุกวัน วันละแก้ว จากร้านในซอยแถวบ้าน นี่ล่ะเจอสาเหตุแล้ว”
[ผลตรวจสุขภาพหญิงวัย 46ปี]
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในตอนนี้ ชานมไข่มุก กำลังเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ต้องมีสักร้าน สองร้าน เพื่อรองรับความต้องการของตลาด และความต้องการของผู้บริโภค แต่ต้องยอมรับว่า ในความอร่อย ก็แฝงไปด้วยอันตรายซ่อนอยู่ หากกินบ่อยๆ หรือกินแบบหวานมากๆ จึงต้องระวังอย่างมากในการดื่ม
แววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพ เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างชานมไข่มุก ที่ถือว่าตอนนี้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคจำนวนมาก ให้ช่วยวิเคราะห์ถึงเคสของหญิงวัย 46 พร้อมช่วยสะท้อนถึงความอันตรายของชานมไข่มุก
[นักกำหนดอาหารวิชาชีพ]
“การกินชานมไข่มุกเป็นประจำ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ แต่หลักๆ จะทำให้เราอ้วนก่อน ทำให้ไขมันช่องท้องของเรามากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น กินสะสมไปเรื่อยๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้ไขมันในเลือดสูง มีความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวาน แต่ก็ไม่ใช่ว่ากินน้ำตาลแล้วทำให้ทุกคนเป็นเบาหวาน แต่ก็ถือว่ามีแนวโน้มสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีกรรมพันธุ์ หรือประวัติครอบครัวเป็นโรคไขมันในเลือดสูง และก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดไขมันคอเรสเตอรอลได้ หากเกิดคอเรสเตอรอลที่ไม่ดีเพิ่มขึ้น ทำให้ความเสี่ยงปัจจัยในเลือดของเราแข็ง ทำให้หลอดเลือดอุดตันได้ สิ่งที่เรากลัวกันมากๆ คือ หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจอุดตัน
อีกอย่างข้อดีของน้องผู้หญิงท่านนี้คือ ตรวจสุขภาพ แล้วรู้ว่าสาเหตุน่าจะมาจากชานมไข่มุก อันนี้เป็นสาเหตุตรงไปตรงมาในการที่ดูแลสุขภาพต่อไป เรารู้ว่าสาเหตุเกิดจากชานมไข่มุก เพราะปกติน้ำตาลสะสมของคนเราไม่ควรเกิน 5.7 หรือถ้าค่าเกิน 7 เข้าไปก็ถือว่าเยอะแล้ว ยิ่งรายนี้อยู่ที่ 12.6 ถ้ายังไม่มาตรวจสุขภาพอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่านี้ได้”
โดยเฉลี่ยแล้วพลังงานของชานมไข่มุกมีตั้งแต่ 300-700 กิโลแคลอรี่ พลังงานของวัยทำงานเฉลี่ยคต่อคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ถ้าเป็นผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 1,600 กิโลแคลอรี่ ผู้ชาย 1,800-2,000 กิโลแคลอรี่ การกินชานมไข่มุกหนึ่งแก้วเท่ากับพลังงานที่ควรจะได้รับหายไปแล้วประมาณ 1 ส่วน 4
“ชานมไข่มุกมีหลายขนาด วิธีสังเกตสำหรับผู้บริโภค แก้วที่เราไปสั่งในแต่ละร้านนั้นกี่แคล อย่าเพิ่งไปสนใจราคาเป็นอันดับแรก ให้สนใจแคลแล้วลองคำนวณคร่าวๆ ถ้าแก้วนั้น 250 ซีซี คำนวณไปเลยว่าแก้วนั้น 250 กิโลแคลอรี่ ยิ่งใหญ่แคลยิ่งเยอะ ชานมไข่มุกเท่าที่ทราบมีถึง 600 ซีซี นั่นหมายความว่าคนที่กินหนึ่งแก้วหมด รับไปถึงทั้งหมด 600 กิโลแคลอรี่
นอกจากชานมไข่มุกยังมีไข่มุกที่ทำมาจากแป้งมันหรือสาคู ตัวไข่มุกถ้าหนัก 30 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานถึง 100 แคลอรี่โดยเฉลี่ย
สิ่งที่ผู้บริโภคทั่วโลกต้องรู้ โดยเฉลี่ยชานมไข่มุกมีปริมาณน้ำตาล 12 ช้อนชาต่อแก้ว แต่เรากินน้ำตาลได้ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา เพื่อสุขภาพที่ดี กินชานมไข่มุก 1 แก้ว โควตาก็หมดไปแล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับคือน้ำตาลที่มากเกินไป พอน้ำตาลอยู่ในร่างกายของเรามากเกินไป ก็จะไปสะสมอยู่ในรูปของไขมัน แป้ง กลายเป็นไขมัน ไขมันกลายเป็นไขมันในเลือดที่เรียกว่าไตรกรีเซอร์ไรด์
ไขมันของชาไข่มุก บางเจ้าก็ต่ำ คนก็ดีใจว่า กินชาไข่มุกแก้วนี้ไม่มีไขมัน เขาใช้นมมัน fat ใช้นมที่ไม่มีไขมัน แต่ก็ให้พลังงาน พลังงานส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำตาล น้ำตาลเยอะจริงๆ สูงสุดอยู่ประมาณ 20 ช้อนชาต่อหนึ่งแก้ว
คืออย่างที่บอกเราไม่ควรกินเกิน 6 ช้อนชาต่อ 1 แก้ว แต่ทำไมทำให้คนรู้ว่าไม่หวานมาก ก็เพราะว่าชาที่เขาใส่ลงไป เขาใส่ชาแบบเข้มข้น พอชาเข้มชนชาจึงมีรสขม พอรสขมและรสหวานมาอยู่ด้วยกัน ก็จะมันๆ หวานๆ รสหวานก็จะไม่เด่นขึ้นมา”
เปิดทริกกิน “ชานมไข่มุก” ยังไง ไม่ให้เป็นโรค
“เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง คนที่เป็น 2 อย่างนี้ควรจะงดไปเลย เพราะจะทำให้ร่างกายของคุณทำงานหนักมาก ฉะนั้น คนที่มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน ห้ามทานจะดีกว่า หากอยากจะทานจริงๆ ก็จิบสัก 1-2 จิบ ง่ายๆ เลยคือชงเองปลอดภัยที่สุด”
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารย้ำถึงความอันตรายที่คนเป็นโรคไขมันในเลือดสูง หรือคนที่เข้าข่ายเสี่ยงโรคอ้วน หากรู้ว่าสุขภาพของตัวเองไม่ดี มีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและมีไขมันสูง โดยค่อยๆ ลดการกิน
“ถ้าเลือกไม่ได้ เราก็ต้องลดปริมาณชานมไข่มุกที่เราสั่ง ให้สั่งแก้วเล็กที่สุด แล้วก็คอยสังเกตชานมไข่มุกที่ตัวเองกินแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องเข้าข้างตัวเองว่าหวานมากเกินไปไหม ถ้าหวานมากเกินไปถ้าร้านนั้นมีหลายอย่างให้เลือกให้ดูว่า สิ่งไหนพลังงานน้อยกว่า น้ำตาลน้อยกว่า อาจจะต้องไปเลือกที่พลังงานน้อยกว่า แล้วพยายามกินเครื่องดื่มใสๆ แล้วก็ลดปริมาณน้ำตาลลงไป หรือไม่ก็ใช้วิธีแบ่งกันกับเพื่อน 1 แก้ว ที่ซื้อมาลองแบ่งกับเพื่อคนละครึ่ง หรือไม่ผสมน้ำเปล่าสะอาดลงไปนิดหนึ่งให้มันมีปริมาณมากขึ้น
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนรู้อยู่แล้ว สมมติเราตักน้ำตาลใส่ปาก 20 ช้อนชา เรารู้แล้วว่ามันหวานจริง แต่พอไปอยู่ในชาไข่มุก ผสมกันหลายๆ อย่าง มีครีม มีนม มีชา คนก็จะทำเป็นเหมือนไม่รู้ แท้จริงแล้วคนก็รู้อยู่แล้วว่ามีน้ำตาล แต่ไม่อยากจะไปตอกย้ำกับตัวเองว่ามีน้ำตาลเท่าไหร่ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรู้ความจริง ถ้าอยากจะดื่มก็ต้องรู้ว่าน้ำตาลมีเท่าไหร่ รู้แล้วกินจะได้ไปออกกำลังกาย ดีกว่ากินเสร็จแต่ไม่รู้ว่าแคลเท่าไหร่
คนที่น้ำหนักตัวมากๆ เป้าหมายของเราคือการลดน้ำหนัก เราจะไม่เพิ่มน้ำตาล สรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ ยังอยากกินน้ำตาลได้ไม่เกิน 4 ช้อนชา สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง น้ำตาลได้ไม่เกินวันละ 4 ช้อนชา คนไม่เป็นโรคอะไรเลยน้ำตาลได้วันละ 6 ช้อนชา แต่ถ้าเป็นเบาหวานห้ามใช้น้ำตาลเลย ให้ใช้น้ำตาลเทียมได้เท่านั้น
ที่พูดแบบนี้ไม่ได้ใจร้ายนะคะ ทำงานมานานสามารถเห็นได้เลยว่าคนที่ไม่ควบคุมเลย สุดท้ายจะอยู่ตรงไหน ไหนจะค่ายาที่เพิ่มชึ้น ทำงานเท่าไหร่ก็ต้องเอาไปใช้กับยา สู้เราตอนนี้ยังแข็งแรงอยู่ ยังไม่ได้เป็นโรคต่างๆ ก็ต้องรู้จักป้องกัน หรือถ้าเป็นแล้ว ต้องกินอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง แล้วก็ออกกำลังกายให้เยอะๆ”
สำหรับการดื่มชาไข่มุก นับว่าส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง ยิ่งมีผลอย่างมากสำหรับคนนอนหลับยาก ทำให้มีผลต่อการฟื้นฟูระบบร่างกาย ทำให้การฟื้นฟูเซลล์ การป้องกันโรคไม่มีประสิทธิภาพ
ถ้าดื่มชาไข่มุกตอนบ่ายๆ เพลียๆ ดื่มชาไข่มุกที่มีกาเฟอีนเยอะก็ย่อมส่งผลไม่ดี เพราะว่าชาไข่มุกต้องใช้ปริมาณชาเยอะ มันถึงมีความขม จึงทำให้ต้องใส่น้ำตาลในปริมาณมาก มันจึงทำให้คุณนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับการที่ร่างกายจะกลั่นเวลาออกมาให้เหมาะสม การฟื้นฟูเซลล์ การป้องกันโรค การทำให้สดชื่นก็จะน้อยลงไป
การดื่มชาไข่มุกตอนบ่ายทำให้นอนไม่หลับ นอนไม่พอ พอตอนเช้าทำให้ไม่สดชื่น ทำให้เราก็ต้องดื่มชาเข้าไปอีก ต้องมีน้ำตาลถึงจะทำให้สดชื่น ก็จะเป็นวัฏจักรแบบนี้ไม่สิ้นสุด ชาไข่มุกถ้าจะดื่มจริงๆ แนะนำให้ดื่มช่วงเช้า ไม่ดื่มช่วงบ่าย พยายามหาสูตรที่ดูเป็นสุขภาพกับตัวเอง
ต้องมีการสอบถามผู้ขายบ้าง ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าผู้บริโภครวมกลุ่มกัน อยากกินชาไข่มุกที่อร่อย แต่ว่าน้ำตาลน้อย ไขมันน้อย จะทำให้โลกของเรามีอาหารสุขภาพอยู่ตามทุกๆ ถนน ไม่ใช่เอาหวานติดมันเท่านั้น เอาอร่อยสะใจ ไม่เกี่ยวกับสุขภาพ
ไม่เพียงเท่านี้ยังฝากทิ้งทายถึงพฤติกรรมการกินชาไข่มุกของคนในยุคปัจจุบัน ที่มีร้านชาไข่มุกกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทุกคนควรมีความปลอดภัยและภูมิต้านทานที่ดี ที่สำคัญต้องกินผักและผลไม้วันละ 400 กรัม เป็นประจำ
“เราต้องมีจิตใจที่แข็งแรง เพราะเราเดินไปไม่ว่าจะเป็นในห้าง หรือตามถนนต่างๆ ชาไข่มุก มีร้านขายทั่วไปหมด ก่อนที่จะไปกินอะไร ต้องพยายามคิดไว้ล่วงหน้าเสมอในแต่ละวัน ต้องมีการวางแผน ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วเดินไปซื้อ ต้องทำความรู้จักชานมไข่มุกให้ลึกซึ้งว่า มีน้ำตาลกี่ช้อนชา มีไขมันกี่ช้อนชา ถึงจะเป็นการกินอย่างมีสติ
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ความปลอดภัยและภูมิต้านทานที่ดีสำหรับทุกคน คือพื้นฐานในการกินอาหารหลักต้องสำคัญ ต้องกินผักและผลไม้วันละ 400 กรัม เป็นประจำ กินข้าวแป้งที่ไม่ผ่านการคัดสี แล้วให้คิดว่า ถ้าพื้นฐานหลักไม่ดี ถ้ากินข้าวมันไก่ ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายเป็นอาหารหลัก คุณก็ไม่ควรที่จะกินชาไข่มุก
แต่ถ้ากินผักผลไม้หรืออาหารดีๆ แล้วจะกินชานมไข่มุกสักแก้วก็ไม่เป็นไรต้องรู้จักตัวเองว่ามีกรรมพันธุ์อย่างไร รู้จักพฤติกรรมการบริโภคของตัวเอง แล้วค่อยตัดสินใจเลือกชาไข่มุกเข้ามาในชีวิต”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **