โศกนาฏกรรมปีใหม่!! “ประตูทางออกต้องมีเยอะกว่านี้ ต้องเขียนชัดเจนกว่านี้” เปิดใจพิธีกรดังในคืนไฟไหม้ใหญ่ซานติก้า โชคดียังมีสติ รีบหนีออกมาจากตัวอาคาร แต่ต้องพบเรื่องเศร้าภายหลังเพราะหลายคนไม่รอด เนื่องจากรู้ทางออกเพียงทางเดียว
ซานติก้าผับ!! รอดได้หากมีสติ
“ตอนอยู่บนเวทีไม่มีสัญญาณเตือนเลยครับ ไม่มีเลย คืออยู่บนเวที ทำหน้าที่ของเราเสร็จ เคานต์ดาวน์ แฮปปี้นิวเยียร์ เอาล่ะครับทุกคน เดี๋ยวสนุกกันต่อ ประมาณตีหนึ่งเจอกันครับ ดีเจก็เปิดเพลงกันต่อไป พวกผมก็เดินกลับไปอ่านสคริปต์อะไรกันในห้องรับรองแขก”
ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า พีธีกรบนเวทีในคืนเกิดเหตุ เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ผ่านปลายสาย ย้อนเรื่องราวไฟไหม้สถานบันเทิงไฮโซครั้งใหญ่ “ซานติก้า ผับ” เมื่อวันที่ 1 ม.ค.52 ซึ่งเป็นคืนเคานต์ดาวน์ฉลองวันปีใหม่ มีคนจำนวนมากที่เดินทางมายังผับแห่งนี้ แต่ความสุขในคืนนั้นกลับคร่าชีวิตอีกหลายคนไม่มีวันกลับ
โดยดีเจภูมิ เล่าว่า จะใช้คำว่าโชคดีก็ได้ เพราะตนเองไม่เห็นเหตุการณ์อะไรเลยว่าข้างหน้าผับเป็นอย่างไร เมื่อลงข้างหลังเวทีจะไปอยู่ในห้องเก็บตัวข้างหลังผับ ซึ่งมีการเดินขึ้นเดินลง สุดท้ายหลังจากเคานต์ดาวน์เสร็จ ก็มีการจุดเปเปอร์ชู้ต พลุกระดาษ จึงลงเวทีกัน เพื่อรออีกคิวหนึ่งของ “อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต” หรือ “โจอี้ บอย” มาขึ้นเวทีประมาณช่วงตีหนึ่ง
“ผมกับดีเจเพชรจ้าแล้วก็แฟนของผมก็ไปอยู่ในห้องเก็บตัวกันข้างหลัง ก็นั่งคุยกัน แล้วได้ยินเหมือนทีมครัวเขาพูดกันว่า ไฟไหม้ๆ ผมก็คิดว่ามันคงมีไฟไหม้อยู่ในครัว ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงทำอาหารกันแล้วน้ำมันหกอะไรอย่างนี้ สักพักหนึ่งเห็นเขาลากถังแก๊สออกมาจากห้องครัวกัน ซึ่งถังแก๊สค่อนข้างใหญ่เลยครับ
แล้วเราก็ตายล่ะ สงสัยจะเป็นไฟไหม้ใกล้ๆ ถังแก๊ส เราหลบออกไปข้างนอกไหม เผื่อไฟมันลามเข้ามาแล้วถังแก๊สมันระเบิด คิดอย่างนั้น ก็เลยพากันออกมาที่ลานจอดรถครับ
พอเดินออกมาสักพักหนึ่งก็เห็นควัน ค่อนข้างที่จะเยอะ เห็นห้องรับรองที่เราอยู่มันก็เริ่มมีควันเข้ามาเยอะแล้ว ผมก็ยังคิดว่าไฟไหม้ไปโดนผ้าม่าน หรืออะไรในห้องครัว คิดอยู่แค่นี้ แล้วควันก็เริ่มเยอะ”
หลังจากนั้น ทุกคนที่อยู่ในห้องรับรองก็ยังไม่ได้วิตกกังวลเพราะคิดว่าเป็นเพียงเหตุการณ์ไฟไหม้เล็กๆ และซานติก้าผับจะมีลานจอดรถขนาดใหญ่ หากวนรถมาข้างหลังก็จะเจอกับลานจอดรถขนาดใหญ่เช่นกัน ดีเจเพชรจ้าจึงตัดสินใจชวนดีเจภูมิวนรถไปลานจอดข้างหน้า เนื่องจากที่จอดเดิมควันค่อนข้างเยอะ
“เราวนออกไปข้างหน้า เห็นควันออกมาจากหน้าต่าง เห็นไฟลุกออกมาจากหลังคา จังหวะนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดอะไรอยู่ดี ก็ยังคิดแบบไฟไหม้หลังคาเหรอวะ เดี๋ยวเขาก็ดับ
โอเคเดี๋ยวเราวนรถออกไปร้านกาแฟข้างหน้าดีกว่า เพราะว่าต้องมีอีกชั่วโมง สองชั่วโมงกว่าจะดับไฟได้ แล้วเดี๋ยวเขาพร้อม พี่โจอี้มา เดี๋ยวเขาก็โทร.เรียกเราขึ้นมา คิดกันอย่างเนี่ย คิดว่ายังไม่เห็นอะไรไงครับ
ผ่านไปสักพักพอระหว่างขับรถมาก็เห็นคนสำลักควันกันอยู่ บางคนน้ำตาไหล แต่เห็นไม่เยอะนะครับ ประมาณ 6-7 คน เราก็เอ๊ะมันยังไง มันแปลกๆ แล้วระหว่างที่ขับรถออกไป มันค่อยๆ คิด มันค่อยๆ ซึมเข้ามาในหัวเรา โอ้โหมันน่าจะเป็นไฟไหม้ใหญ่ แบบนี้น่ากลัวแล้วครับ”
“ย่างสด-สุดสลด” ซานติก้าคืนมรณะ!!
สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในคืนนั้น ทำให้ดีเจภูมิและดีเจเพชรจ้า ได้ตัดสินใจขับรถไปที่วัดหัวลำโพง เพื่อไปทำบุญโลงศพ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต โดยเดินทางไปทำบุญในคืนนั้นทันที
“ระหว่างที่ออกมา มันมีรถไซเรนขับผ่านเราไป แล้วเราก็เปิดข่าววิทยุฟัง ก็ได้ยินว่าซานติก้าไฟไหม้ครั้งใหญ่ครับ มันเลยรู้สึกว่าตอนนั้นภาพมันเข้ามาในหัวเราแล้ว
เพราะว่าก่อนหน้านั้นพวกผมไม่เคยมีภาพของไฟไหม้ มันจินตนาการไม่ถูกจริงๆ ว่าไฟไหม้เป็นยังไงบ้าง ส่วนสาเหตุไฟไหม้ผมไม่รู้จริงๆ ครับ”
ไม่เพียงแค่นี้ สถานที่อโคจรที่หลายคนเดินทางเข้าไปภายในอาคาร น้อยคนนักที่จะรู้ทางหนีทีไล่ เนื่องจากพื้นที่แออัดเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น หลายชีวิตจึงขาดสติจนหาทางออกไม่เจอ รวมทั้งป้ายหรือสัญญาณเตือนที่ไม่มีความชัดเจนก็เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้
“ผมว่า มันก็เรื่องของความรู้ด้วยนะครับ ถ้าเกิดมีผับอะไร อาจจะเป็นเรื่องของประตูทางออกต้องมีเยอะกว่านี้ ต้องเขียนชัดเจนกว่านี้ ในกรณีไฟไหม้ อาจจะต้องมี ถ้าเปรียบกับเป็นเครื่องบินเนี่ย หากฉุกเฉินมันจะมีไฟนำทาง ไปสู่ทางออกเลย ทางออกทุกที่มันจะมีไฟนำทาง แต่ว่าในผับ ด้วยคนเราไม่มีสติ เราเข้ามาทางไหน เราก็จะออกทางนั้น คือเรารู้อยู่แค่ทางเดียวมันมีทางออก
วันนั้น ถ้าเกิดว่าคนที่มีสติเขาปีนขึ้นมาบนเวที แล้วก็เดินออกข้างหลัง ประตูหลังเวที เขารอดทุกคนเลยนะครับ เพราะได้ข่าวว่าโต๊ะข้างหน้าเวที เสียชีวิตกันหมดเลย ซึ่งโต๊ะข้างหน้าเวที แค่ปีนขึ้นมาบนเวที แล้วมันเป็นเวทีเตี้ยๆ ไม่ได้สูงครับ ปีนขึ้นมาแล้วก็เดินออกข้างหลัง คือรอดกันทุกคนเลย ต้องมีสติครับ
คือถ้าเกิดผมอยู่เวที แล้วไฟไหม้ มันง่ายมากสำหรับผม เพราะผมเดินออกทางข้างหลังเวทีได้เลย หนึ่งคือผมมีสติอยู่แล้วผมรู้ว่ามันมีทางออกทางอื่น ถ้าผมไปเที่ยวผับโดยที่ผมไม่รู้ว่าวิ่งเข้าไปข้างหลังแล้วจะเจออะไร ผมก็ต้องพยายามออกทางที่ผมเข้ามา ผมเข้าใจคนที่อยู่ในนั้น”
นอกจากนี้ อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เคยเผยผ่านสื่อว่า มีประตูทางเข้า-ออก ซานติก้าผับอยู่ 4 ประตู แบ่งเป็นประตูหลักด้านหน้าที่นักเที่ยวใช้ ประตูสำหรับออกไปสูบบุหรี่ และอีก 2 ประตูสำหรับแขกวีไอพี แต่บริเวณประตูหลักด้านหน้ากลับเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ทั้งที่มีประตูอื่นๆ สามารถออกไปได้
"สิ่งที่น่าเสียใจคือ ห่างจากประตูเข้า-ออกเพียง 3 เมตรไม่ได้เป็นจุดที่ถูกไฟไหม้ แต่คนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจหรือสำลักควันเพียงอย่างเดียว คนราว 20 คนนี้น่าจะรอดชีวิตได้ หากรู้ว่าตรงไหนคือประตูทางออก"
ทั้งนี้ เหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับผ่านมา 10 ปีแล้ว โดยผู้เสียหายได้ต่อสู้กันมา 3 ศาล ฎีกาเสร็จเมื่อปี 2559 หนึ่งในจำเลย จาก 33 ราย คือ “เสี่ยขาว-วิสุข เสร็จสวัสดิ์" ติดคุก หลังจากนั้นเสี่ยข่าวออกมามีการพิสูจน์ทรัพย์ สุดท้ายถูกให้เป็นบุคคลล้มละลาย ทว่าผู้เสียหายประมาณ 46 รายก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่บาทเดียว
โดยเหยื่อจากเหตุการณ์ไฟไหม้นั้น ได้เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส อย่าง จิ๊บ-รัตนา แซ่ลิ้ม กับร่างที่ไม่เหลือเค้าโครงความสวยเดิม ด้วยสภาพร่างกายที่ถูกเพลิงเผา จนเข้ารับการผ่าตัดอีกหลายครั้ง และต้องสูญเสียมือขวาไปตลอดชีวิต
“เราคิดว่าเราไม่ตาย เรารอด เดือนแรกที่ไป รพ.ก็ไม่รู้สึก เพราะเขาให้มอร์ฟีนตลอด แต่เดือนที่สองก็เริ่มรู้ เพราะจิ๊บเป็นเยอะ เขาพันไว้เป็นมัมมี่ ช่วงสงกรานต์ถึงเห็นตัวเอง พี่พยาบาลพาไปห้องอาบน้ำสำหรับคนไข้โดยเฉพาะ ไปอาบน้ำปุ๊บจะเป็นอ่างสเตนเลสที่เงามาก เขาก็บอกว่าลุกได้มั้ย เขาจะถูหลัง จิ๊บลุกไปนั่งแล้วเห็นตัวเอง 4 เดือนไม่เคยเห็นตัวเองเลย
พอเห็นตัวเองปุ๊บไม่อยากรักษาเลย บอกแม่ว่ากลับบ้านเถอะ อย่างน้อยติดเชื้อก็ให้อยู่ที่บ้าน ถ้ามันเข้ากระแสเลือดเดี๋ยวหนูก็ตาย ช่วงแรกๆ คิดตลอดว่าอยากฆ่าตัวตาย แต่เราเจ็บมากจนเราไม่กล้า จนเรารู้สึกว่าไม่กล้าฆ่าตัวตายนะ ถ้าทำไปแล้วไม่ตาย มันทรมานมาก เพราะสิ่งที่เราเป็นอยู่ ร้องจนเลือดมันพุ่ง พยาบาลเอาไม่อยู่”
ภายหลังเหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับ ในปี 2555 กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงว่าด้วยสถานบริการที่กำหนดให้ต้องมีระบบความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น ทางออก ประตูทางออก ทางหนีไฟ บันไดหนีไฟ ประตูหนีไฟ ระบบการระบายอากาศ และยังกำหนดให้สถานบริการต้องมีผู้ดูแลความปลอดภัยและป้องกันอันตรายอย่างน้อย 1 คน
ข่าวโดย MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
