เด็กไทยไม่เก่งภาษา!? ปัญหาการสื่อสารภาษาอังกฤษ ที่หลายคนกลัวจะพูดไม่ถูก สำเนียงไม่ดี “สอนเหมือนเพื่อน เข้าใจง่ายกว่า” แรงบันดาลใจจากข้าราชการสาวสุดแซ่บ จากอดีตเคยถูกต่างชาติมองเหยียดเรื่องสำเนียงไม่ถูกต้อง ล่าสุด ทำคลิปสอนภาษาฟรี เข้าใจง่าย หวังให้ความรู้คนในวงกว้าง
“สอนอังกฤษให้คนจำ” สื่อสารเหมือนคุยกับเพื่อน
“ปัญหาการเรียนภาษาอังกฤษของเด็กไทยตอนนี้คือ จะไม่กล้าแสดงออกค่ะ อย่างเช่น ต้องพูดต่อหน้าฝรั่ง แทนที่เราจะรู้สึกดีที่มีคนมาให้เราลองสนาม ว่าเราสามารถสื่อสารได้จริงหรือเปล่า แต่เขากลับกลายเป็นเหมือนอาย ไม่กล้า แต่บางคนอาจจะรู้สึกอายกว่า ถ้าต้องพูดกับคนไทย เพราะคนไทยชอบล้อเลียนกัน ว่าสำเนียงไทยสำเนียงไม่ดี”
ครูป้อน-ชญาณิศ กิจคุณธรรม ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ทำคลิปสอนภาษาอังกฤษ เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังมีการแชร์ภาพคุณครูสาวสวยสุดแซ่บ ยินดีให้ความรู้ภาษาอังกฤษในหัวข้อต่างๆ แบบไม่คิดเงิน เพราะอยากให้ความรู้คนในวงกว้าง จึงเริ่มเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ครูป้อนสอนอิงริช” ที่มีคนติดตามเกือบ 10,000 คน เพื่อเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ภาษาให้เข้าใจได้อย่างสนุกสนานและไม่น่าเบื่อ
ทั้งนี้ ครูป้อนจบการศึกษาระดับมัธยมจาก Bangor High School ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อจากนั้นสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี การจัดการธุรกิจ และภาษาอังกฤษ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร เกียรตินิยมอันดับ 2 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จาก Bournemouth University สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ประเทศอังกฤษ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2
สำหรับรูปแบบการสอนของครูป้อน เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า จะสอนในลักษณะที่เหมือนการคุยกันกับเพื่อนมากกว่า และใส่อารมณ์ขันลงไปในการสอน เพื่อเพิ่มความสนุกในการเรียน ซึ่งจะมีการสรุปเป็นเนื้อหาหลักๆ เน้นๆ ที่สามารถเอาไปใช้ในการสอบได้ อย่างเช่น TOIEC, IELTS
“ที่ผ่านมา เราก็เรียนกับครูมาหลายรูปแบบ ครูบางคนทำให้เรารู้สึกไม่ชอบวิชานั้นไปเลยด้วยซ้ำ อย่างเช่น ป้อนไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะเจอครูที่ดุ แล้วก็สอนเป็นแบบเดิมๆ ที่น่าเบื่อ ไม่ดึงดูดความสนใจจากเราค่ะ
หลังจากนั้น ป้อนก็ไปเจอครูคนหนึ่งที่สอนภาษาอังกฤษเรา เขาสอนเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า เรารู้สึกว่าชอบวิธีการสอนแบบนี้ มันทำให้เราจำ แล้วทำให้เราเปลี่ยนทัศนคติจากคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย มาเป็นคนชอบภาษาอังกฤษได้ เราก็เลยอยากทำให้คนอื่นๆ ที่มาดูเราสอน เขารู้สึกแบบเดียวกันกับที่เรารู้สึกตอนที่ครูคนนี้เคยสอนเรา
สมมติช่วงสอบข้าราชการ ก.พ. จะสอบเป็นรอบๆ ป้อนก็จะดูเนื้อหาของการสอบ ก.พ. เพราะมีคนที่จะมุ่งมั่นรับราชการเยอะ ป้อนก็จะดูว่าเนื้อหาข้อสอบภาษาอังกฤษมีอะไรบ้าง สมมติเรื่อง tense ป้อนก็จะมาสรุปให้ง่ายๆ ดูเนื้อหาในตอนนั้นที่คนต้องการใช้มากที่สุดคืออะไรค่ะ”
แน่นอนว่าเรื่องการออกเสียงให้ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารให้เข้าใจ และคนไทยส่วนใหญ่มักจะมีการออกเสียงที่ผิด ครูป้อนจึงมีการสอนเรื่องการออกเสียงคำศัพท์ที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน
“ป้อนก็ดูว่าคนไทยส่วนใหญ่มักจะออกเสียงอะไรที่ผิด อย่างเช่น stop ที่เติม ed เป็น stopped เขาจะอ่าน สต๊อปเป็ด ซึ่งเป็นการออกเสียงที่ผิด เพราะว่าแม้แต่ครูไทยเองที่สอนเราที่เคยเรียนมา เขาก็ออกเสียงคำนี้ผิดเช่นกัน จริงๆ ต้องอ่านว่า สต๊อปทึ ป้อนก็เลยเอาสิ่งที่คนไทยมักจะออกเสียงผิดเนี่ยมาสอนด้วย
คนที่เข้ามาดูคลิปอย่างน้อยป้อนคิดว่า เขาน่าจะมองภาษาอังกฤษในมุมที่ต่างกันไป จากที่อาจจะรู้สึกมันน่าเบื่อ ฉันไม่ได้มีพื้นฐานในภาษาอังกฤษเลย แต่พอดูคลิปป้อนอาจจะรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะ”
“กล้าพูด-กล้าสื่อสาร” ทลายกำแพงภาษา
“ช่วงที่ป้อนได้รับทุนไปเรียนที่อเมริกาช่วง ม.5 ค่ะ ด้วยความที่ฝรั่งเขาเห็นเราเป็นคนหัวดำ แล้วเราไปอยู่ในเมืองที่มีแต่ฝรั่ง ไม่มีคนเอเชียเลย เวลาที่เราพูดก็จะเหมือนตัวตลกสำหรับเขา ป้อนก็อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ ป้อนก็ไปลง public speakingg เป็นคลาสที่ต้องพูดต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วป้อนพูดสำเนียงไทย แล้วฝรั่งก็ทำหน้าแบบเหยียดเรามากเลย”
ครูป้อน ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยประสบปัญหาการโดนดูถูกเรื่องภาษาให้ฟัง และเรื่องราวในวันนั้นก็กลายเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องพัฒนาและฝึกฝนภาษา เพื่อที่จะสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและไม่ถูกมองด้วยสายตาที่ดูเหยียดอีกต่อไป
นอกจากนี้ ครูป้อนใช้เวลาแค่ประมาณสัก 2 อาทิตย์ ในการที่จะลองฝึก ลองพูด จากปกติที่เราคิดว่าตัวเองคุยกับใครไม่ได้ ก็ไม่กล้าคุยกับใคร จึงต้องทำตัวให้เหมือนกับคนที่นั่น กระทั่งกลายเป็นว่า กล้าคุย กล้าสนทนากับเพื่อน ออกเสียงผิด ก็ให้เพื่อนแก้ให้ ซึ่งไม่ได้เลวร้ายแบบที่ครูป้อนเคยคิด
“สำหรับป้อน ป้อนมองว่าการที่เราพูดแล้วสำเนียงไม่ดี ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ตัวป้อนเองป้อนก็ไม่มีสำเนียงแบบเป๊ะ เพราะป้อนก็ไม่ใช่ฝรั่งหรือลูกครึ่งเนอะ แต่ว่ามันอยู่ที่การฝึกฝนมากกว่า ทำยังไงให้มันออกเสียงแล้วเป็นตัวเรา โดยที่เราไม่ต้องอายหรือเขินค่ะ
สำหรับการเริ่มต้น อย่างแรกป้อนอยากให้เปิดใจก่อน แล้วก็ให้คิดว่าไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ เพราะว่าถ้าเรามีทัศนคติที่ดี ที่เราคิดว่าเราต้องทำได้ ตัวเราเองจะเหมือนเป็นแรงผลักดันที่บวกให้เราเดินไปข้างหน้าเอง แต่ถ้าตัวเราเองคิดว่าไม่กล้าพูดหรอก เราสำเนียงไม่ดี มันจะไม่มีวันที่เราจะพัฒนาตัวเองได้เลย เพราะตัวเราเองยังไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
ด้วยความที่บางทีเราจะใช้คำว่า เราโทษครูก็ได้เนอะ เพราะว่าตัวครูเองไปจับจุดด้อย จุดอ่อนของเด็กๆ คือป้อนคิดว่าปกติในโลกปัจจุบันนี้ เราไม่ควรเอาปมด้อย หรือเอาสิ่งที่เด็กทำไม่ได้มาล้อเลียน หรือมาพูดถึงกันและกัน สมมติถ้าเขาทำได้ไม่ดี เราอาจจะพูดว่าต้องไปเพิ่มตรงนี้อีกนะ คือป้อนว่าวิธีการพูด หรือวิธีการสื่อสารระหว่างครูกับเด็กก็สำคัญ หรือแม้กระทั่งตัวผู้ปกครองเองก็ควรใช้คำพูดที่แตกต่าง”
เมื่อทีมข่าวถามถึงการสอนในอนาคตของครูป้อนจะเปิดสอนแบบจริงจังและคิดค่าใช้จ่ายหรือไม่ ครูป้อนตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า คิดจะเปิดสอนเป็น basic english ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่คนมักจะกลัวกัน ว่าไม่มีพื้นฐานเลยทำให้พูดไม่ได้ ไม่มีพื้นฐานเลยสอบไม่ได้ จึงคิดที่จะทำคอร์สนี้ขึ้นมา แต่อยู่ในราคาที่ไม่แพง ทุกคนเข้าถึงได้
“อย่างในเฟซบุ๊กก็คือสอนฟรี จะมีพวกน้องๆ ส่งข้อความเข้ามาถามการบ้านที่เป็นแบบฝึกหัด ครูป้อนคะหนูทำถูกไหมคะ ไวยากรณ์แบบนี้ถูกไหมคะ เราก็รู้สึกดีว่าเขาขวนขวาย ถ้าใครเข้ามาถามก็แนะนำทุกคนเลยค่ะ
จำเป็นไหมว่าต้องไปเรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง จริงๆ มันไม่จำเป็นนะ เพราะตัวป้อนเอง พูดกับหน้ากระจกบ่อยมากทุกวันนี้ก็ยังคุยกับตัวเองหน้ากระจกเลย คือคุยเป็นภาษาอังกฤษเนี่ยแหละค่ะ คือป้อนมองว่าไม่จำเป็นต้องไปฝึกฝนกับฝรั่ง แต่ว่าต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนจากในยูทูบ ในเพจต่างๆ คือฝึกกับตัวเอง อ่านด้วยตัวเองค่ะ”
ข่าวโดย MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **